หากกูเฟยเยี่ยนไม่ออกไปด้านนอกก็จะไม่เป็ไร แต่ทันทีที่ออกมาจิตใจก็เกิดความระทมทุกข์มากกว่าเดิม
นางไปทานข้าวที่ร้านอาหารก็ได้ยินกลุ่มคนโต๊ะด้านข้างวิพากษ์วิจารณ์ถึงตนเอง นางไปดื่มชาที่หอน้ำชาก็ได้ยินนักเล่านิทานกำลังเล่าขานถึงนางข้าหลวงที่มีสัญญาหมั้นหมาย วิธีการไปมาหาสู่ระหว่างแม่ทัพกับองค์ชาย และการผสมเื่ราวเล็กๆน้อยๆที่ทำให้เกิดความมหัศจรรย์ เห็นได้ชัดว่าต้นแบบก็คือนาง!
เดิมทีกูเฟยเยี่ยนยังวางแผนที่จะเข้าไปพบศาสตราจารย์แพทย์ในพระราชวังเพื่อทำความเข้าใจสนามประมูลสมุนไพรและตลาดสมุนไพรของดินแดนเสวียนคง พร้อมกับพูดคุยถึงแหล่งที่มาของลิ่วตันซางลู่ทั้งสามต้นและทักษะยาสมุนไพรของจิ้งจอกเฒ่า
แต่เมื่อได้ยินข่าวลือมากมายแล้วนางก็เกิดความลังเล
ถึงแม้ว่าเื่ราวในศาลพิจารณาคดีเมื่อวานนี้จะมีผู้คนมากมายพบเห็น และก่อให้เกิดความเข้าใจผิดกันเล็กน้อย ทว่านางรู้สึกว่าเื่ราวไม่ได้ใหญ่โตถึงเพียงนั้น ไม่มีผู้ใดให้ความสนใจเื่ที่องค์หญิงหวายหนิงกับฉีอวี้โยนความผิดมาให้นาง อีกทั้งไม่มีผู้ใดให้ความสนใจเื่ราวมั่วโลกีย์ระหว่างองค์หญิงหวายหนิงกับฉีอวี้เช่นกัน ข้อวิพากษ์วิจารณ์เหมือนจะถูกคนควบคุมเอาไว้ น้ำสกปรกล้วนถูกสาดลงมาที่นางกับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย
มีความเป็ไปได้สูงถึงเก้าในสิบส่วนว่าเื้ัจะต้องมีคนสร้างกระแสให้ลุกลาม แต่จะเป็ตระกูลฉี? หรือฝ่ายขององค์หญิงหวายหนิงกันนะ?
กล้าแม้กระทั่งลากจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยลงน้ำ คนพวกนี้นี่มันสุนัขจนตรอกจริงๆ !
ด่าทอมาที่นาง นางไม่แยแส
แต่ว่าสถานการณ์เช่นนี้นางก็ยังคงต้องระมัดระวังเพื่อไม่ก่อความวุ่นวายให้กับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย เมื่อดูจากการกระทำของตระกูลฉีกับฝ่ายขององค์หญิงหวายหนิงแล้ว การที่ล้มเหลวครั้งยิ่งใหญ่เช่นนี้คาดว่าคงร้อนรนที่จะแก้แค้นและ้าหาเื่นางกับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยใช่หรือไม่?
อันตรายภายในพระราชวังมากกว่าภายนอกพระราชวังเสียอีก
หากศาสตราจารย์แพทย์คิดอะไรไม่ออกยังไงก็ต้องมาขอความช่วยเหลือจากนางที่จิ้งหวางฝู่ นางคิดไปคิดมา สุดท้ายจึงตัดสินใจที่จะไม่เข้าไปในพระราชวังเพื่อหาปัญหาใส่ตนเอง เพราะถึงอย่างไรองค์หญิงหวายหนิงกับฉีฟู่ฟางก็ยอมรับผิดแล้ว จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยก็รับรู้ถึงการมีตัวตนของจิ้งจอกเฒ่าและมีการระวังตัวแล้ว การที่คดีนี้ถูกตรวจสอบมาถึงขั้นนี้แล้ว ผู้ที่รีบร้อนไม่ใช่นางแต่เป็องค์หญิงหวายหนิงและตระกูลฉีที่ยังไม่ถูกกำหนดบทลงโทษต่างหาก
หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจิตใจของกูเฟยเยี่ยนก็รู้สึกดีขึ้น
นางใช้เงินจำนวนมากในการตามหา “นักสืบ” หลายคนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในเมืองจิ้นหยาง เพื่อให้พวกเขาช่วยสืบถึงเื่ของปิงไห่ และสุดท้ายก็ไปขายสมุนไพรจำนวนมากก่อนจะกลับไปที่จิ้งหวางฝู่ นางเตรียมบำเพ็ญญาณฝึกฝนหวางเป่าติง บำเพ็ญญาณฝึกฝนอัคคีเทพ และขยายทุ่งเพาะปลูกสมุนไพร!
ในวันนี้จวินจิ่วเฉินล้วนอยู่ที่ศาลต้าหลี่เพื่อสอบสวนเฉินซานหยวนกับหลี่เก๋อฉุน โดยมีเฉิงอี้เฟย ใต้เท้ากง และศาสตราจารย์แพทย์คอยอยู่ด้วยทั้งวัน เพียงแต่น่าเสียดายที่สองคนนี้เชื่อฟังคำสั่งจากอู๋กงกงเท่านั้นจึงไม่ทราบว่าเ้านายใหญ่ของตนเองเป็ใคร
ใต้เท้ากงถามด้วยความจริงจัง “เตี้ยนเซี่ย ก่อนหน้านี้องค์หญิงหวายหนิงเคยกล่าวเอาไว้ว่าลิ่วตันซางลู่ที่อาจารย์แพทย์เจี่ยนมอบให้นั้นมาจากสนามประมูลสมุนไพรนอกเมือง ข้าน้อยตรวจสอบแล้วพบว่าั้แ่ก่อตั้งสนามประมูลมาจนถึงปัจจุบันนี้ไม่เคยมีการประมูลลิ่วตันซางลู่เลยพ่ะย่ะค่ะ”
เฉิงอี้เฟยรีบเอ่ยถามออกมา “สถานที่อื่นล่ะ? ทางด้านของหุบเขาเสินหนง? ”
หุบเขาเสินหนงเป็หุบเขาแห่งสมุนไพร มีการตั้งชื่อตามเสินหนงซื่อ ผู้ที่ลิ้มรสสมุนไพรทุกชนิดในตำนาน สถานที่แห่งนี้สรรหาผู้ที่มีพร์ทางด้านทักษะยามามากมาย มีการบุกเบิกทุ่งสมุนไพร เพาะปลูกสมุนไพรแปลกประหลาด สร้างตำรับยามหัศจรรย์ มีชื่อเสียงในโลกของทักษะยาท ว่าถ่อมตนมาโดยตลอด แต่อย่างไรก็ตามเมื่อสิบปีก่อนหลังจากที่เ้าสำนักหุบเขาได้เปิดสนามประมูลสมุนไพรขึ้นมา หุบเขาเสินหนงก็กลายมามีชื่อเสียงเป็อย่างมาก
ระยะเวลาประมาณสิบปีสนามประมูลสมุนไพรเสินหนงได้ครอบงำสนามประมูลสมุนไพรอื่นๆ และตลาดสมุนไพรจนได้กลายมาเป็สถานที่ค้าขายสมุนไพรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มีกำไรมากที่สุดในดินแดนเสวียนคง
ในทุกปีที่มีสมุนไพรแปลกประหลาดปรากฏขึ้นบนดินแดนเสวียนคง อย่างน้อยเจ็ดส่วนล้วนมาจากหุบเขาเสินหนง ลิ่วตันซางลู่ที่เป็ของล้ำค่าเช่นนี้มีความเป็ไปได้ที่จะมาจากหุบเขาเสินหนงมากทีเดียว
ใต้เท้ากงรีบตอบกลับไป “แม่ทัพเฉิง ข้าน้อยส่งคนไปสืบแล้ว ต้องรออีกสองสามวันถึงจะรับรู้ข่าวสาร”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ศาสตราจารย์แพทย์จึงรีบเตือนสติ “ของล้ำค่าเช่นนี้หากว่ามาจากการประมูลในหุบเขาเสินหนงอย่างเปิดเผยมันก็จะง่ายต่อการสืบข่าว กลัวแต่ว่าสมุนไพรตัวนี้จะเป็ของรางวัลที่ไร้ร่องรอยให้ตรวจสอบได้”
การค้าขายที่โปร่งใสของหุบเขาเสินหนงคือการประมูลสมุนไพร แต่การค้าขายที่ทำการอย่างลับๆ คือรางวัลสมุนไพร เพียงแค่สามารถจ่ายได้ ไม่ว่าจะเป็สมุนไพรที่พบเจอได้ยากแค่ไหน อาจารย์แพทย์ในหุบเขาเสินหนงก็ล้วนที่จะรับรางวัลแล้วส่งมอบสมุนไพรตามเวลาที่กำหนดไว้ สมุนไพรเหล่านี้บางทีหุบเขาเสินหนงทำการเพาะปลูกไว้ บางทีจำเป็ต้องออกไปหาจากนอกหุบเขา
การค้าขายรางวัลที่เป็สมุนไพรนั้นไม่ง่ายที่จะสืบหาข่าวนัก สำหรับตัวตนของผู้ที่มอบรางวัล หุบเขาเสินหนงก็ทำการเก็บเป็ความลับระดับสุดยอด มีหลายครั้งเลยที่แม้แต่อาจารย์แพทย์ที่รับรางวัลก็ไม่ทราบตัวตนผู้ที่ให้รางวัล
หุบเขาเสินหนงไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจการกำกับดูแลของราชวงศ์จวิน ดังนั้นแน่นอนว่าจะไม่ให้ความร่วมมือกับศาลต้าหลี่ ศาลต้าหลี่ทำได้เพียงส่งคนไปสืบข่าวเท่านั้น ไม่สามารถทำการสืบสวนได้อย่างแน่นอน
จวินจิ่วเฉินครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมา “หากว่าลิ่วตันซางลู่ไม่ได้มาจากการประมูลแล้วมันจะมาจากที่ใดกัน? ”
คำพูดนี้เรียกได้ว่าปลุกผู้คนให้ตื่นจากความฝัน
หากว่าลิ่วตันซางลู่ไม่ได้มาจากการซื้อขาย เช่นนั้นก็เป็ไปได้ว่าคนร้ายตัวจริงไปเก็บมาหรืออาจจะเพาะปลูกขึ้นมาเอง กล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่าทักษะยาสมุนไพรของคนร้ายตัวจริงนั้นไม่ธรรมดา!
ทั่วทั้งดินแดนเสวียนคงนอกจากเ้าสำนักหุบเขาเสินหนงกับอาจารย์แพทย์เ่าั้แล้ว การที่จะมีความสามารถเช่นนี้ได้มีน้อยมากจนสามารถนับได้เลย
ศาสตราจารย์แพทย์ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ทันใดนั้นก็เอ่ยขึ้นมาด้วยความจริงจัง “เตี้ยนเซี่ย สมุนไพรชนิดเดียวกัน แหล่งที่มาไม่เหมือนกัน รูปลักษณ์ภายนอกและสรรพคุณทางยาของสมุนไพรต่างก็มีความแตกต่างกัน แพทย์หญิงกูมีความคุ้นเคยในลิ่วตันซางลู่ หากนางสามารถวินิจฉัยได้สักนิดมันจะมีประโยชน์ต่อคดีนี้เป็อย่างมาก! ”
เฉิงอี้เฟยกับใต้เท้ากงต่างก็เป็ผู้ที่ไม่ได้ชำนาญในเื่นี้ พวกเขาคิดไม่ถึงว่ายังจะมีความพิถีพิถันเช่นนี้อีก เฉิงอี้เฟยรีบเอ่ยขึ้นมา “ดีมากๆ ไปตามนางมาเดี๋ยวนี้เลย! ”
ทันทีที่เฉิงอี้เฟยเอ่ยคำพูดเหล่านี้ออกมา ใต้เท้ากงกับศาสตราจารย์แพทย์ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาแล้ว พูดให้ถูกต้องก็คือพวกเขาเกิดความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ด้านนอกมีคำเลื่องลือกันอย่างกว้างขวางถึงเื่ราวของกูเฟยเยี่ยนกับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย เฉิงอี้เฟยในฐานะ “คนเก่า” พูดถึงกูเฟยเยี่ยนต่อหน้าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย เขาไม่เกิดความรู้สึกอึดอัดหรือ?
การแสดงออกของเฉิงอี้เฟยสงบนิ่ง เขาไม่อึดอัดจริงๆ
เขาทราบการปฏิบัติตนของกูเฟยเยี่ยนและเชื่อในการปฏิบัติตนของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย ทราบดีว่าข่าวลือด้านนอกไม่เป็ความจริง เขามีเพียงความกังวลและหวาดกลัวว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะสนใจในตัวของแพทย์หญิงตัวน้อยเหมือนกับตัวเขาเอง
เขาครุ่นคิดมาั้แ่เมื่อคืนว่า หากแพทย์หญิงตัวน้อยโง่ลงสักนิดมันจะดีสักเพียงใดกัน! ถ้าหากนางโง่จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยก็จะไม่สนใจนาง!
เฉิงอี้เฟยไม่อึดอัด จวินจิ่วเฉินยิ่งไม่มีทางอึดอัด
เขาเอ่ยว่า “เื่นี้ไม่จำเป็ต้องกังวล ไว้เปิ่นหวางจะไปถามนางเอง”
่ค่ำ จวินจิ่วเฉินกลับมาที่จิ้งหวางฝู่
หมางจ้งรีบมารายงาน “เตี้ยนเซี่ย แพทย์หญิงกูตามหาพระองค์มานานแล้ว นาง้าขอลิ่วตันซางลู่ นางบอกว่าสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของลิ่วตันซางลู่ทั้งสามต้นนั้นได้”
ดูเหมือนว่าจวินจิ่วเฉินจะไม่รีบร้อนกับคดีนี้แล้ว เขาเอ่ยด้วยความเ็า “รีบทำไม? ”
นี่…
หมางจ้งงุนงงคาดเดาไม่ออกว่าเตี้ยนเซี่ยทรงหมายความว่าอย่างไร ทว่าเขาก็ไม่กล้าถามอีก เขาลังเลอยู่นานมากๆ และไม่กล้าไปบอกกูเฟยเยี่ยนว่าเตี้ยนเซี่ยเสด็จกลับมาแล้ว
ผ่านไปไม่นานเซี่ยเสี่ยวหม่านที่ออกไปด้านนอกก็กลับมาถึง เขาไม่สนใจความอ่อนเปลี้ยเพลียแรงและความหิวโหย แต่รีบพุ่งไปที่ห้องบรรทมเพื่อทูลรายงานด้วยความโกรธเคือง “เตี้ยนเซี่ย ข้าน้อยตรวจสอบอย่างชัดเจนแล้วพบว่าข่าวลือด้านนอกนั้นมีคนเจตนาแพร่กระจาย เจตนามุ่งร้าย คนผู้นั้นก็คือองค์ชายใหญ่! ”
สำหรับกูเฟยเยี่ยนแล้วเซี่ยเสี่ยวหม่านเพียงแค่ไม่พอใจ แต่สำหรับองค์ชายใหญ่แล้วเรียกได้ว่าเต็มไปด้วยความจงเกลียดจงชัง
จวินจิ่วเฉินที่กำลังเล่นหมากรุกอยู่คนเดียวได้แหงนมองขึ้นมาพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเ็า “ไป กระจายข่าวบอกว่าใบเซียมซีของวัดต้าฉือเป็ของปลอม เปิ่นหวาง จงใจแย่งคนมาจากหวายหนิง”
เซี่ยเสี่ยวหม่านเกิดความประหลาดใจมากจึงะโออกมาเสียงดังโดยไม่รู้ตัว “เตี้ยนเซี่ย พระองค์ว่าอะไรนะ? ”
จวินจิ่วเฉินจึงแหงนมองขึ้นมา ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
ในตอนนี้เองที่เซี่ยเสี่ยวหม่านตระหนักได้ว่าตนเองเสียมารยาทไป เขาใจนไม่กล้าถามอะไรเพิ่มอีก จากนั้นจึงไปปฏิบัติตามคำสั่ง