“ท่านพ่อ ซู่ซินงดงามเช่นนี้ นางเกิดมาเพื่อเป็ฮูหยินขุนนางชัดๆ อิงจื่อจะเทียบกับซู่ซินได้อย่างไรเ้าคะ เมื่องานแต่งเสร็จสิ้น บ้านซ่งจะเหลือสิ่งใดอีกเ้าคะ” หานซื่ออาศัยความโปรดปรานของลูกสาวยกสถานะของตนเองตามไปด้วย ครอบครัวของนางกดขี่ครอบครัวของน้องสามี ใช้ให้พวกเขาทำงานแทน ทุกวันนี้อยู่อย่างสบายเสียจริง
“บ้านซ่งมีสะใภ้หมอเทวดา มิใช่สิ่งที่ทุกคนจะเทียบได้ พวกเ้าอย่าสร้างปัญหา ส่วนอิงจื่อ พวกเ้าก็รู้จักให้อภัยนางเสียหน่อย” หนนี้โจวหลี่เจิ้งมิเข้าข้างโจวซู่ซิน เขารู้ดีว่าสุนัขจนตรอกล้วนทำได้ทุกสิ่ง
เช่นครอบครัวของซ่งผิง หากเฉียวซื่อมิทำเกินเหตุ ซ่งผิงคงมิเจรจาหย่านาง หากเขาคือซ่งผิง เขาคงหย่าขาดเฉียวซื่อไปตรงๆ มิให้เงินนางเช่นนั้นหรอก
เรือนใหญ่บ้านซ่ง!
บรรยากาศบนโต๊ะของพวกจิ่นเซวียนแปลกไป
โจวซู่อิงรู้สึกทุกข์ใจขึ้นมา เมื่อนึกถึงสถานการณ์ของตนเอง
“อิงจื่อ เ้าเป็อย่างไร มิสบายที่ใดหรือ?” จิ่นเซวียนเห็นว่าโจวซู่อิงมิขยับตะเกียบเลย นางจึงถามอย่างเอาใจใส่
“พี่สะใภ้เล็ก ข้าเกรงว่าเมื่อข้ากลับบ้านไปแล้วจะอยู่ยากเ้าค่ะ”
“เ้ามิได้ทำสิ่งใดผิด เหตุใดถึงอยู่ยากเล่า” จิ่นเซวียนรู้ว่าโจวซู่อิงกังวลสิ่งใด ความจริงแล้วโจวซู่อิงเป็เด็กดี แต่นางตั้งแง่ใส่โจวซู่ซิน เพราะมิได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมในบ้าน
“เซวียนเซวียน เ้าเพิ่งมาถึงหมู่บ้านของพวกเราเลยยังมิรู้สถานการณ์ของบ้าวโจว อิงจื่อถูกซู่ซินกดขี่มาตลอด เมื่อครู่พวกชาวบ้านวิจารณ์ซู่ซินจนหลี่เจิ้งโกรธ เขาต้องคิดบัญชีกับอิงจื่อแน่”
เฉินซื่ออธิบายเหตุผลให้จิ่นเซวียนฟัง จิ่นเซวียนค่อนข้างเห็นใจโจวซู่อิง
“อิงจื่อ หากข้าเดามิผิด ในบ้านโจว เ้าคงมีชีวิตที่ยากลำบากใช่หรือไม่ ข้าเห็นท่านปู่ของเ้าชอบน้องซู่ซินยิ่งนัก นางถึงได้ผิวขาวผุดผ่องมิเหมือนคนทำนาเช่นนี้ และนางก็อายุสิบหกแล้ว ท่านปู่ของเ้ายังมิหาครอบครัวให้นาง เขาคงคิดว่านางโดดเด่นเกินไป มีเพียงขุนนางข้าราชการชั้นสูงเท่านั้นที่คู่ควร” จิ่นเซวียนรู้หลักการ ‘ศัตรูของศัตรูคือมิตร’ จากเหตุการณ์ในวันนี้ โจวหลี่เจิ้งต้องเกลียดนางแน่ เพื่อป้องกันมิให้โจวหลี่เจิ้งก่อเื่ในอนาคต นางต้องดึงโจวซู่อิงมาเป็พวก เมื่อมีโจวซู่อิงเป็พันธมิตร นางจะจัดการโจวหลี่เจิ้งได้ง่ายขึ้น
“ครอบครัวของข้ามิเคยได้รับความเอ็นดูเลย ผู้ที่ท่านปู่รักที่สุดคือท่านลุง เขาเห็นว่าท่านพ่อของข้าซื่อสัตย์รังแกง่ายเลยขูดรีดเขาตลอด ท่านแม่เสนอให้แยกบ้านแต่กลับถูกท่านปู่ตี ท่านปู่มิรู้หรอกว่าบ้านของพวกเราอยู่อย่างลำบากเพียงใด ข้าต้องตื่นั้แ่เช้ามืดเพื่อมาทำงาน เงินที่ได้ก็มิใช่ของตนเอง ท่านปู่แย่งไปหมดทุกอีแปะเลยเ้าค่ะ”
โจวซู่อิงมิโกหก นี่คือชีวิตจริงของครอบครัวของนางในบ้านโจว
“ภรรยา อิงจื่อพูดความจริง เมื่อถึงฤดูหนาว อิงจื่อยังต้องขึ้นเขาไปหาของกิน หากมิทำงานก็จะโดนย่าของนางตี ครอบครัวของพวกเขาและครอบครัวของท่านลุงมีทั้งหมดสิบคน เมื่อรวมโจวหลี่เจิ้งและภรรยาของเขาเข้าไปอีกเท่ากับว่ามีทั้งหมดสิบสองคน ทั้งสิบสองชีวิตเป็ภาระของครอบครัวอิงจื่อ นางบ่นบ้างย่อมเป็เื่ปกติ” หายากที่ซ่งจื่อเฉินจะพูดประโยคยาวๆ เขาช่วยโจวซู่อิงเช่นนี้ โจวซู่อิงซาบซึ้งใจยิ่งนัก
“มิคิดเลยว่าน้องซู่ซินจะเป็คนเช่นนี้” จิ่นเซวียนรู้สึกหดหู่เล็กน้อย โจวซู่อิงค่อนข้างคล้ายกับนาง ตอนที่อยู่บ้านเดิม นางเองก็โดนย่าชั่วร้ายรังแกอยู่บ่อยๆ
“พี่สะใภ้ห้า พี่ซู่ซินมิได้เป็คนเช่นนั้น นางดีกับทุกคนเ้าค่ะ” ปัญหาเก่าๆ ของซ่งเป่าจูกลับมาอีกหน นางอดที่จะแก้ตัวแทนโจวซู่ซินมิได้
“เป่าจู เ้ารู้หรือไม่ลับหลังพี่สาวที่แสนดีของเ้าพูดว่าอย่างไร?เ้านี่โง่เสียจริง ถูกคนหลอกใช้แล้วยังพูดสิ่งดีๆ ให้นางอีก” โจวซู่อิงใช้สายตาเห็นอกเห็นใจมองซ่งเป่าจู ซ่งเป่าจูส่งเสียงร้องในลำคออย่างมิพอใจ “เ้าอย่าเสี้ยม พี่ซู่ซินดีกับข้ายิ่งนัก”
“เป่าจู หากเ้ามองคนรอบข้างมิออก ในวันข้างหน้าเ้าจะโดนเอาเปรียบ ข้ามิเคยชอบโจวซู่ซิน แต่ทุกคนบอกว่าข้าชอบนาง เ้ามิคิดว่าเื่นี้ผิดปกติหรือ?” ซ่งจื่อเฉินทนปล่อยให้ซ่งเป่าจูโง่ต่อไปมิได้แล้ว เขาจึงวิเคราะห์สถานการณ์ให้ซ่งเป่าจูฟังจนนางตกตะลึง
“พี่ห้า ท่านหมายความว่าเื่ราวระหว่างท่านกับพี่ซู่ซินคือแผนการของนางหรือเ้าคะ?”
“เป่าจูเอ๋ย พี่ห้าคือพี่ชายแท้ๆ ของเ้า เขาจะทำร้ายเ้าหรือ?โจวซู่ซินดีกับเ้า เพราะเ้าคือน้องสาวแท้ๆ ของพี่ห้า นางจึงอยากใช้เ้าเป็สะพาน ต่อมาพี่ห้าประสบอุบัติเหตุ นางก็มิมาบ้านพวกเราอีก เหตุผลง่ายๆ เช่นนี้ เ้ายังมิเข้าใจ มิน่าเล่าเ้าถึงถูกนางหลอกใช้”
“เป่าจู รู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใดข้าถึงเกลียดญาติผู้พี่เช่นนี้?เหตุผลเดียวที่ข้าเกลียดนาง คือนางมิเคยมองพวกเราเป็คนในครอบครัว สำหรับนาง พวกเราเป็เพียงคนงานระยะยาว นางใช้ความงดงามของตนเองเพื่อให้ได้สิ่งที่้านั้นมิผิด แต่นางมิควรทำลายความสุขของพวกเรา”
โจวซู่อิงพร้อมรับโทษแล้ว นางมองเห็นอนาคตของนางจากจิ่นเซวียน หากยังกตัญญูอย่างโง่เขลา[1] เช่นนี้ สุดท้ายแล้วคนที่ต้องเ็ปก็คือตัวนางเอง
“เป่าจู ที่พี่ห้าบอกว่าจะมิเตรียมสินสมรสให้เ้าเพราะเขาโกรธ เขาหวังว่าเ้าจะแก้นิสัยแย่ๆ พวกนั้น กลายเป็คนที่น่าเคารพนับถือ” จิ่นเซวียนรู้สึกหนักใจ เมื่อนางต้องมีน้องสามีเช่นนี้ เป่าจูเป็เพียงเด็กนิสัยเสีย หากสั่งสอนให้ดี ก็ยังพอช่วยนางได้
“พี่สะใภ้ห้า ข้ามิปิดบังท่าน เมื่อครู่พี่ซู่ซินยุยงให้ข้าก่อเื่จริงๆ นางบอกว่านางจะแย่งพี่ห้ากลับมาเ้าค่ะ” ในหัวของซ่งเป่าจูนึกถึงคำพูดของจิ่นเซวียน วลีที่บอกว่านางจะกลายเป็คนที่น่าเคารพนับถือนั้นกระตุ้นจิตสำนึกที่ซ่อนอยู่ในใจของนาง ความจริงแล้วนางเองก็อยากเป็แม่นางน้อยที่ได้รับการยอมรับเช่นกัน
“เป่าจู เ้าพูดกับข้าเื่นี้ได้ แสดงว่าเ้ารู้ตัวแล้วว่าเ้าทำผิดอย่างไร ขอเพียงเ้าตั้งใจปรับแก้ ข้าจะให้โอกาสเ้า ในวันข้างหน้าหากเ้าแต่งงาน สินสมรสของเ้าจะมิแพ้ผู้ใดแน่นอน จะหาบุรุษ ต้องหาคนที่รักเ้า มีหรือมิมีเงินมิสำคัญ เช่นท่านอาเขยเล็กของข้า ปีนั้นคนต่างก็คิดว่าท่านอาเขยเล็กมิคู่ควรกับท่านอาเล็กเสียด้วยซ้ำ”
“อาเขยเล็กของเ้าเป็คนคลั่งรักภรรยา คนในหมู่บ้านละแวกนี้รู้กันหมดว่าหูเหยียนซูจากหมู่บ้านสกุลซย่ารักภรรยาของตนเองที่สุด” ท่านอาเล็กของจิ่นเซวียนได้พบบุรุษดีๆ เช่นนี้ เฉินซื่ออิจฉายิ่งนัก
“่แรกท่านอาเขยเล็กมิมีเงิน แต่พวกเขาสามีภรรยาร่วมแรงร่วมใจ ชีวิตเลยดีขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาสร้างเรือนขนาดใหญ่ ซื้อรถม้าและมีเงินเก็บโดยอาศัยความขยันของตนเอง ที่สำคัญคือท่านอาเขยเล็กรักท่านอาเล็กของข้า เมื่อเขากลับมาถึงบ้าน เขายังทำอาหารให้ท่านอาเล็กด้วย”
บุรุษที่ห่วงใยครอบครัวเช่นนี้หายากยิ่งนัก หากซ่งจื่อเฉินดีพอๆ กับท่านอาเขยเล็ก นางก็พอใจแล้ว
“สามีภรรยาการเงินติดขัด ชีวิตคู่ย่อมมิราบรื่น ท่านแม่บอกว่าสตรีควรแต่งให้ผู้ที่มีเงิน” ซ่งเป่าจูได้รับการสั่งสอนให้แต่งกับคนรวยมาั้แ่เล็ก นางรู้สึกว่าท่านอาเล็กของจิ่นเซวียนเป็ข้อยกเว้น มิใช่ทุกคนที่จะโชคดีเช่นนั้น
“เป่าจู เ้าต้องเปลี่ยนความคิดนี้ หาคู่ครองต้องดูที่คุณลักษณะ การแสวงหาความก้าวหน้าของเขา มิใช่หน้าตาน่าเกลียด เ้าก็พิจารณาแล้วว่าจะอยู่กับเขาหรือไม่” จิ่นเซวียนมิเห็นด้วยกับความคิดของซ่งเป่าจู นางอยากหาคนรวย คนรวยอาจจะมิชอบนาง
“ภรรยา ในใจของเ้า บุรุษเช่นไรถึงน่าเกลียดหรือ?” ซ่งจื่อเฉินมองจิ่นเซวียนอย่างลึกซึ้งและถามติดตลก
เชิงอรรถ
[1] กตัญญูอย่างโง่เขลา หมายถึง พฤติกรรมที่มิน่าส่งเสริม ถึงแม้การเคารพและการไม่ขัดคำสั่งเป็สิ่งแสดงความกตัญญู แต่ก็ใช่ว่าจะเป็การให้บุตรแสดงความกตัญญูโดยปราศจากการใช้ปัญญาไตร่ตรอง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้