จวินเหยียนมองอวิ๋นซีที่เมื่อพูดจบก็มีสีหน้าแดงก่ำเขาอดยิ้มแล้วพูดไม่ได้ว่า “ได้สิ เปิ่นหวางจะตอบแทนความดีเ้าด้วยร่างกายก็แล้วกัน”เมื่อพูดจบ เขาก็อุ้มนาง มุ่งหน้าไปยังเตียงหลังใหญ่
ด้วยเื่นี้คงมีแต่ฟ้าเท่านั้นที่รู้ว่าตอนที่เขาได้ยินนางบอกให้ใช้ร่างกายตอบแทนนั้น ลึกๆ ในใจสั่นไหวเพียงใดเช่นนี้ก็หมายความว่า นางอยากจะมอบกายและใจให้ตนแล้ว
เขาวางคนลงบนเตียงจากนั้นก็มองนางด้วยสายตาที่อ่อนโยนยิ่ง “อาซี เ้าจะให้ข้าใช้ร่างกายตอบแทนจริงหรือ? ” ก่อนแต่งงานกัน เขาเคยให้สัญญากับนางไว้แล้วว่าจะไม่บังคับนางเป็เด็ดขาด ดังนั้น ต่อให้เวลาจะล่วงเลยมาถึงตอนนี้แล้วความคิดของเขา คำมั่นสัญญาของเขายังคงเหมือนเดิม และหากนางส่ายหน้าเมื่อไร เขาก็จะหยุดทุกการกระทำอย่างแน่นอน
สิ่งที่เขาตั้งใจอยากจะมอบให้นางก็คือหนึ่งครั้งที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายยากจะลืมเลือน เพราะนี่เป็สิ่งที่เขาเคยติดค้างนาง
อวิ๋นซีอมยิ้มถามกลับ “ท่านถามเช่นนี้ แสดงว่าท่านอยากจะเสียใจภายหลังหรือ? ” หากว่าเมื่อครู่เขาถอดเสื้อผ้านางออกในทันทีไม่แน่อาจเป็นางที่นึกเสียใจในภายหลัง แต่เขาไม่ ทั้งยังยินดีถามความคิดนางอย่างให้เกียรติหากนางไม่ยินยอม เขาก็จะไม่ล่วงเกิน
บุรุษที่รู้จักให้เกียรติตนเช่นนี้นางยังจะเลือกมากได้อย่างไร
“อาซี” เสียงแหบแห้งของเขาร้องเรียกนางคำหนึ่งจากนั้นก็ประทับริมฝีปากตนลงบนริมฝีปากแดงของนาง ความอ่อนโยนบางเบาของเขานั้นราวกับกำลังละเลียดชิมอาหารที่เลิศรสที่สุดในปฐี
อวิ๋นซีรับรู้ได้ถึงการปกป้องที่ละเอียดใส่ใจของอีกฝ่ายนางยื่นมือออกไปกอดลำคอเขา และตอบกลับอย่างลึกซึ้ง เพียงไม่นานเสื้อผ้าของคนทั้งสองก็ถูกทิ้งลงบนพื้นเขาจุมพิตใบหูนางอย่างแ่เบา มือที่อยู่ไม่สุขเริ่มบีบเคล้น
ทว่า ในตอนที่ทั้งสองคิดกันไปว่าจะได้ทำเื่ดีนี้สำเร็จแล้วนั้นด้านนอกกลับมีเสียงร้อนรนของเว่ยหลงดังลอดเข้ามา “ท่านอ๋อง เกิดเื่แล้วพ่ะย่ะค่ะเมื่อครึ่งชั่วยามก่อนที่หมู่บ้านหนึ่งนอกเมือง คนในหมู่บ้านร้อยกว่าคนถูกสังหารสิ้น”
มือของจวินเหยียนที่วางไว้บนตำแหน่งที่อ่อนนุ่มของนางถึงกับชะงักค้างอวิ๋นซีที่กำลังลุ่มหลงอยู่กับการลูบไล้ของเขาก็เป็ต้องรีบดึงสติกลับมา นางมองชายหนุ่มตรงหน้าจากนั้นก็พูดว่า “รีบไปดูเถิด”
จวินเหยียนแอบด่าในใจไปเสียงหนึ่งว่าน่าตายนักจากนั้นจึงลุกขึ้น โดยมีอวิ๋นซีช่วยสวมเสื้อผ้า จัดแต่งให้จนเรียบร้อย เขาหันมองนางอีกครั้งด้วยสายตาที่มีความตัดพ้ออยู่หลายส่วนนี่จะนับว่าเป็เป็ดที่มาถึงปากแล้วบินหนีไปได้หรือไม่?
“จวินเหยียนชาวบ้านร้อยกว่าคนที่อยู่นอกเมืองกำลังรอท่านอยู่” นางประทับริมฝีปากไปเบาๆทีหนึ่งบนริมฝีปากเขา “ข้ากับหวานหว่านจะรอท่านอยู่ที่นี่หาก้าความช่วยเหลือจากข้าก็ให้คนกลับมาแจ้งข้าได้ทุกเมื่อ”
คนทั้งหมู่บ้านร้อยกว่าคนถูกสังหารสิ้น
ด้วยเื่นี้จะเป็ผู้ใดกันที่มีเงินมากเพียงนั้นการกระทำนี้ย่อมชัดเจนว่าพุ่งเป้ามาที่จวินเหยียน ซึ่งในสมองของนางประมวลเป็ภาพใบหน้าของโอวหยางเทียนหัววาบขึ้นมาหรือว่าจะเป็เขา? สิ่งหนึ่งที่ควรต้องรู้ก่อน่นี้จวินเหยียนสังหารคนของเขาไปไม่น้อย
หากจะบอกว่านี่เป็เื่ที่โอวหยางเทียนหัวกระทำอวิ๋นซีก็ไม่มีทางสงสัยเลยสักนิด เพราะตอนนั้นไม่ใช่ว่าเป็เขาหรอกหรือที่ส่งคนตระกูลเฉียวขึ้นแท่นปะาดังนั้น สองปีผ่านไป เพื่อจะได้จัดการกับจวินเหยียน หากเขาจะคิดสังหารคนทั้งหมู่บ้านก็ไม่ได้น่าประหลาดใจสักนิด
คนที่โเี้อำมหิตเช่นนั้นหากมีใครไปขัดขวางเขา อย่าว่าแต่คนทั้งหมู่บ้าน ต่อให้จะต้องสังหารคนทั้งเมือง เขาก็สามารถทำได้
จวินเหยียนโอบกอดนางเบาๆ“รอเปิ่นหวางกลับมา” เมื่อพูดจบ เขาก็เดินก้าวยาวๆ ออกไปด้านนอก
เว่ยหลงที่เฝ้าอยู่หน้าประตูเมื่อได้เห็นผู้เป็นายของตนสวมอาภรณ์สีดำเดินออกมาในใจก็ให้รู้สึกแปลกใจไม่น้อย ท่านอ๋องถึงกับเปลี่ยนจากอาภรณ์สีแดงสดตัวนั้นมาเป็ตัวใหม่ไม่ต้องคิดให้มากมายก็สามารถรู้ได้ว่า เป็พระชายาที่จัดแจงให้อย่างแน่นอน
ยามนี้เกิดเื่ที่คนในหมู่บ้านถูกสังหารแม้ปกติท่านอ๋องจะนิยมใส่อาภรณ์สีแดงสด ทว่าอย่างไรผู้อื่นก็ตายไปแล้วทั้งหมู่บ้านดังนั้น เขาที่ถือเป็าาในแถบนี้ยังจะสวมอาภรณ์แดงอยู่ได้อย่างไร หากมีชาวบ้านเห็นเข้าทุกคนคงคิดไปต่างๆ นานา และแน่นอน ท่านอ๋องสามารถไม่สนใจสายตาประชาชนได้ เพราะเขามักจะกระทำสิ่งใดตามใจตนมาตลอดแต่เื่นี้หากถูกคนในหออาลักษณ์ที่เมืองหลวงทราบเข้า ถึงแม้ผู้เป็นายจะอยู่ห่างไกลถึงหานโจวเขาก็คิดว่าเื่นี้จะต้องเป็ที่เล่าลือไปทั่วเมืองหลวงเป็แน่
อวิ๋นซีมองแผ่นหลังของสามีที่ค่อยๆห่างออกไป จากนั้นจึงรีบผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ และพาคนออกไปจากจวนอ๋องทันทีเช่นกัน สถานที่ที่นางไปในคราวนี้เป็ที่พำนักชั่วคราวของหลิงอีและคนอื่นๆในหอรุ่งอรุณ เพราะการสังหารล้างหมู่บ้านนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจริงๆ
ดูท่า โอวหยางเทียนหัวยังมีคนที่แอบซ่อนไว้ในหานโจวอีกมากคนพวกนี้ หากไม่ถอนรากถอนโคนให้หมด นางก็เกรงว่าจะมีสักวันที่พวกเขาจะแทงเข้าที่หัวใจของจวินเหยียนไม่ก็นาง สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่ใช่สิ่งที่นางอยากเห็น
ถึงกระนั้นคนทั้งสิบเจ็ดแห่งหอรุ่งอรุณก็ได้กลับไปยังที่ที่จากมาได้สิบกว่าคนแล้วอย่างไรเสียพวกเขาต่างก็มีหน้าที่ของตนเอง ไม่อาจรั้งอยู่หานโจวนานมากได้ ตอนนี้จึงเหลือเพียงหลิงอีและหลิงสือชีที่ประจำการอยู่ที่นี่
อวิ๋นซีรีบบอกเล่าเื่ราวที่เกิดขึ้นที่ชานเมืองให้หลิงอีฟังทั้งยังให้เขานำคนไปสืบดูหน่อย เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เราควรต้องสืบให้รู้ชัดว่ายังมีคนของโอวหยางเทียนหัวที่อยู่ที่นี่อีกเท่าไรขอแค่รู้จำนวนที่แน่ชัด รู้ว่าคนเ่าั้เป็ผู้ใด หากคิดอยากจะสังหารก็ถือเป็เื่ง่ายดายยิ่ง
เมื่อหลิงอีได้ทราบข่าวแล้วก็ให้คนเร่งไปสืบทันทีอย่างไรก็ตาม เื่ใดที่เกี่ยวข้องกับโอวหยางเทียนหัว หอรุ่งอรุณเองก็มีข้อมูลอยู่ไม่น้อยขอเพียงนำเื่เหล่านี้ออกมาก็นับว่าเพียงพอแล้ว ถึงกระนั้นกว่าข่าวจะมาถึงที่นี่ก็ยังต้องใช้เวลา
เมื่ออวิ๋นซีละจากที่พำนักชั่วคราวของหลิงอีแล้วกลับไปถึงยังจวนอ๋องใครเล่าจะรู้ นางที่เพิ่งกลับมาถึงจวนอ๋องจะได้รับข่าวที่ถูกส่งมาจากชานเมืองว่า หานอ๋องถูกกลุ่มคนลึกลับชุดดำที่วรยุทธ์สูงส่งกลุ่มหนึ่งพาตัวไป
ตอนที่ได้ยินครั้งแรกอวิ๋นซีก็ถึงกับอึ้งไป เขาถูกคนพาตัวไป? จะเป็ไปได้อย่างไรเพราะวรยุทธ์ของเขาสูงส่งเพียงนั้น ยามนี้นางไม่แม้แต่จะคิดต่อก็ขี่ม้าพาเหล่าองครักษ์ที่วรยุทธ์สูงในจวนอ๋องมุ่งหน้าออกไปนอกเมือง
เมื่อมาถึงนอกประตูเมืองอวิ๋นซีก็เห็นหลิงอีรีบเร่งมาเช่นกัน เื้ัเขามีคนติดตามมาด้วยอีกหลายคน และตอนที่เขาเห็นนางก็รีบพูดเสียงขรึมขึ้นทันที“เื่ของหานอ๋อง ข้าทราบแล้ว ข้าจะไปช่วยท่าน”
เมื่ออวิ๋นซีได้ยินก็รีบส่ายหน้าแล้วพูดว่า“ไม่ เ้าไปไม่ได้ ด้วยสถานะของเ้า ข้าไม่อนุญาตให้ปรากฏกายต่อหน้าผู้คน” ปกติแล้วผู้นำหอรุ่งอรุณจะสวมใส่หน้ากากอยู่เสมอและเป็ผู้ที่ลึกลับยิ่ง หากตอนนี้หลิงอีจะใช้ใบหน้าจริงมาเจอผู้คนนางก็ยังรู้สึกว่าเสี่ยงเกินไป “เื่นี้ ข้าสามารถจัดการเองได้ เ้าไม่ต้องห่วง หากถึงยามที่จำเป็ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากเ้าจริงๆข้าจะให้คนไปหาเ้าแน่”
“เช่นนั้นก็ได้ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ข้าจะให้คนไปสืบหาว่าหานอ๋องถูกจับตัวไปที่ใด หากมีข่าวเมื่อไรข้าจะรีบแจ้งให้ท่านทราบ ถึงกระนั้นก่อนที่ท่านจะไป คนเื้ัข้าเหล่านี้ ท่านก็พาไปด้วยเถอะ”เมื่อหลิงอีพูดจบก็หันมองไปยังชายจำนวนหนึ่งที่ขี่ม้าอยู่ด้านหลัง
คนเหล่านี้ล้วนเป็คนของหอรุ่งอรุณที่มีวรยุทธ์ดียิ่ง
เมื่ออวิ๋นซีเห็นคนเ่าั้ก็พยักหน้ารับ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คนภายนอกรู้กันจวินเหยียนนั้นเป็ท่านอ๋องชุดแดงฉูดฉาดที่ไม่เป็วรยุทธ์ ดังนั้น การที่เขาจะถูกคนลักพาตัวไปสำหรับคนภายนอกแล้ว ไม่ได้เป็เื่ที่น่าใสักนิด
อวิ๋นซีที่คล้ายจะใจเย็นลงแล้วได้แต่คิดว่าน่าจะไม่มีเื่ใดเกิดขึ้นกับจวินเหยียนแน่เพราะเขายังมีเว่ยหลงอีกทั้งคนที่อยู่ข้างกาย ทว่า หากเป็เช่นนี้แล้วจะยังทำให้เขาเกิดเื่ร้ายขึ้นได้อีกหน่วยองครักษ์ัโลหิตก็คงไม่มีความจำเป็ให้ต้องมีอยู่อีกแล้ว
นางสะบัดแส้มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านที่เกิดเื่ขึ้น ซึ่งที่นั่นเป็สถานที่ที่จวินเหยียนถูกลักพาตัวไปไม่แน่ว่าการมาที่นี่อาจจะสืบหาได้อะไรมาบ้างก็เป็ได้ อีกทั้ง หมู่บ้านดีๆหมู่บ้านหนึ่ง จู่ๆ คนทั้งหมู่บ้านก็ถูกฆ่า เื่นี้พูดออกมาแล้วก็น่าประหลาด
“จวินเหยียนอย่าได้เกิดเื่ใดขึ้นกับท่านโดยเด็ดขาด ไม่เช่นนั้น ข้าจะไม่ให้อภัยท่านแน่”ถึงแม้จะรู้ดีว่ายังมีองครักษ์ลับคอยปกป้องอยู่เื้ัเขา แต่นางก็ยังอดเป็กังวลไม่ได้