ปลื้ม? ผู้หญิงที่ปลื้มเขามีไม่น้อยจริงๆ
“ที่แท้ก็เป็แบบนี้นี่เอง” ทันใดนั้นเหยียนจิ่งจื้อก็เข้าใจขึ้นมาทันทีอธิบายแบบนี้ก็สามารถเข้าใจได้แล้วว่าทำไมหลังจากตอนที่เจินเนี้ยนเห็นเนี่ยเซิงเสี่ยวเดินออกมาถึงได้ตื่นตระหนกขนาดนั้น
เหยียนจิ่งจื้อลูบหัวเจินเนี้ยน“วางใจเถอะ นอกจากคุณแล้วผมก็คงไม่มีทางรักผู้หญิงคนอื่นแล้ว”
หลังจากความตื่นตระหนกหายไปแล้ว เจินเนี้ยนก็ถอนหายใจ “คงเหรอคะ?”
เหยียนจิ่งจื้อเผยรอยยิ้มแรกหลังจากกลับมาประเทศ“โอเคครับ ไม่ใช่คงแต่เป็แน่นอน คุณไปอ่านหนังสือก่อนสักพักนะตอนกลางวันเราไปกินข้าวด้วยกัน”
ตอนที่เนี่ยเซิงเสี่ยวเดินลงมาข้างล่างก็กุมหัวใจที่เต้นระส่ำเอาไว้หกปีก่อนพูดเอาไว้แล้วว่าจะไม่ใจเต้น จะไม่เจ็บอีกในวันนี้ที่เขากลับมาทุกอย่างก็พังทลายลง ตอนนั้นเป็ตัวเธอเองที่เลือกจะไปตอนนี้ก็ไม่ควรจะมีความรู้สึกอะไรอีก แต่พอเห็นเจินเนี้ยนมาปรากฏตัวอยู่ข้างกายเหยียนจิ่งจื้อเธอก็รู้สึกไม่ชอบไม่ชอบเอามากๆ
ด้านล่างอาคารเริ่มได้ยินเสียงคนกำลังพูดคุยกัน ในหัวข้อสนทนานั้นรวมถึง“ท่านประธานหล่อมากเลย” “คนที่เพิ่งจะขึ้นไปคือแฟนของท่านประธานหรือ? อ่อนโยนมากเลย” ทั้งยังมี “ทำไมลักษณะของแฟนท่านประธานดูแล้วคล้ายๆกับผู้หญิงที่กางร่มให้กับท่านประธานคนนั้นเลยล่ะ” และอื่นๆ
เซิงเสี่ยวมองไปทางคนที่กำลังพูดคุยกันเจินเนี้ยนจะเหมือนกับเธอได้อย่างไร…แต่สุดท้ายเธอก็อดที่จะยอมรับไม่ได้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของเจินเนี้ยนเปลี่ยนมาใกล้เคียงกับเธอจริงๆ
ไม่ว่าเหยียนจิ่งจื้อจะสูญเสียความทรงจำไปเพราะอะไรแต่ว่าเจินเนี้ยนนั้นได้ใช้แผนร้ายเนี่ยเซิงเสี่ยวมีความรู้สึกที่อยากจะพุ่งเข้าไปบอกเหยียนจิ่งจื้อในตอนนี้ว่าตัวเองเป็ใครแต่ว่าบอกไปแล้วจะได้อะไร?
เธอกลับไปที่แผนกของตัวเองเงียบๆและกำลังคิดว่าจะลาออกจากงานที่ได้มาอย่างยากลำบากนี้ดีหรือไม่ แล้วออกห่างเหยียนจิ่งจื้อให้มันจบๆไปซะ
หวงเทาเห็นท่าทางแปลกๆ ของเธอก็ทักขึ้น “งานทางด้านท่านประธานเสร็จแล้วหรือ?”
เนี่ยเซิงเสี่ยวพยักหน้า “ค่ะ เมื่อครู่…ของท่านประธานมา ฉันก็เลยลงมาค่ะ”
แฟน…ของท่านประธานสินะ ผู้จัดการหวงเดาออกจึงพูดชมไป“วันนี้เสี่ยวเนี่ยทำได้ไม่เลวเลย ท่านประธานไม่ได้พูดอะไรคงจะพอใจมากวันนี้เธอก็เป็ผู้ช่วยท่านประธานชั่วคราวไปก่อนแล้วกันอาหารกลางวันก็เสิร์ฟของหวานด้วย”
ความจริงแล้วเื่การดูแลอาหารของเหยียนจิ่งจื้อไม่ต้องให้ใครมาชี้แนะเนี้ยเซิงเสี่ยวก็รู้ดีอยู่แล้ว เขาชอบกินอะไร ไม่ชอบกินอะไรพวกกระเทียมแผ่น ขิงสับแต่ก่อนตอนที่เธอทำกับข้าวก็ไม่เคยใส่ลงไปเลย
อาหารกลางวันเป็แบบบุฟเฟต์ ตอนที่จิ่งจื้อกับเจินเนี้ยนปรากฏตัวที่โรงอาหารก็ช้าไปเสียหน่อยและในตอนนี้เนี่ยเซิงเสี่ยวก็หิวเสียจนได้เลือกอาหารเผื่อให้กับเหยียนจิ่งจื้อและถึงขั้นเลือกให้เจินเนี้ยนเอาไว้เรียบร้อยแล้วหนึ่งชุด
เจินเนี้ยนที่เพิ่งจะนั่งลงก็หันไปยิ้มให้เหยียนจิ่งจื้ออย่างอ่อนโยน“จิ่งจื้อ คุณเพิ่งจะลงจากเครื่องบินคงจะเหนื่อยแล้ว ฉันจะไปตักอาหารมาให้ทานนะ…”ยังไม่ทันพูดจบบนโต๊ะก็มีจานอาหารเกินมาสองจาน
เนี่ยเซิงเสี่ยวยิ้มเป็ทางการมากๆ“ลำบากท่านประธานกับคุณหนูเจินแล้ว นี่คืออาหารที่ดิฉันได้เลือกมาถ้าหากไม่ถูกปากของพวกคุณ ดิฉันจะไปเปลี่ยนมาให้ค่ะ”
จะไม่ถูกปากได้อย่างไร สีหน้าของเจินเนี้ยนเปลี่ยนเป็เขียวทันทียิ่งเห็นสีหน้าประหลาดใจของเหยียนจิ่งจื้อตอนที่เห็นอาหาร เธอก็ถึงกับกัดฟันกรอด
่เวลาที่เนี่ยเซิงเสี่ยวกับเหยียนจิ่งจื้อคบกันก็เป็่ที่ฝีมือการทำอาหารของเนี่ยเซิงเสี่ยวโดดเด่นที่สุดเธอถึงขั้นสามารถเข้าใจเซลล์รับรสทุกเซลล์ของเหยียนจิ่งจื้อได้เป็อย่างดี เจินเนี้ยนที่นั่งอยู่ข้างโต๊ะอาหารในตอนนี้รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมานิดหน่อยทั้งๆ ที่เนี่ยเซิงเสี่ยวไม่ได้ลงมือทำอาหารจานนี้ด้วยตัวเอง และคนที่นั่งอยู่ข้างเหยียนจิ่งจื้อตอนนี้คือเธอ!
“ขอโทษด้วย ถึงแม้คุณหนูเนี่ยจะใส่ใจมากแต่ว่าอาหารจานนี้ไม่ถูกปากของฉันเท่าไร ฉันไปตักเองดีกว่า”เจินเนี้ยนพูดปากไม่ตรงกับใจแล้วลุกขึ้น
“คุณชอบพวกของจืดๆ อย่างพวกเซเลอรี่กับฟักทองมากที่สุดไม่ใช่หรือ?” เหยียนจิ่งจื้อกลับชี้ไปที่จานของเจินเนี้ยนแล้วเอ่ย “อย่าเื่มากเลย กินเถอะ”
จากที่เขาดู เจินเนี้ยนอาจจะมีปัญหาไม่พอใจกับเนี่ยเซิงเสี่ยวคนนี้โดยเฉพาะเขามองจานอาหารตรงหน้าตนเองก่อนจะหันไปพูดกับเนี่ยเซิงเสี่ยว“คุณไปทำงานของคุณเถอะ ถ้าไม่มีธุระอะไรไม่ต้องมาอีก”
เนี่ยเซิงเสี่ยวหมุนตัวจากไปตามคำสั่งไหล่สั่นน้อยๆ เขาให้เธอไม่ต้องมาอีกหากไม่มีธุระ นั่นคือการปกป้องเจินเนี้ยนคือการคำนึงถึงความรู้สึกของเจินเนี้ยน ต้องยอมรับว่าเหยียนจิ่งจื้อในตอนนี้อ่อนโยนกับเจินเนี้ยนมากอ่อนโยนมากเหลือเกิน
ในตอนนั้นเจินเนี้ยนถึงค่อยเผยรอยยิ้มออกมา แล้วส่งมันไปให้เหยียนจิ่งจื้อ“จิ่งจื้อ พรุ่งนี้มีแพลนอะไรไหมคะ?” เธอรู้ว่าเหยียนจิ่งจื้อชอบมองรอยยิ้มแบบนี้มากที่สุด
“อยู่กับคุณ”
ด้านดีๆ ของเหยียนจิ่งจื้อเคยอยู่ในความฝันของเจินเนี้ยนพอในตอนนี้ได้เปลี่ยนมาเป็ความจริง เธอจึงค่อยๆ ถูกความจริงทำให้จมลงไปและชั่วชีวิตนี้เธอก็ไม่เคยมีความคิดที่จะปล่อยมือออกไปจากมัน
เนี่ยเซิงเสี่ยวนั้นเข้าใจเจินเนี้ยนดังนั้นตอนที่ถูกเจินเนี้ยนมาขวางในห้องพักผ่อนพนักงาน เนี่ยเซิงเสี่ยวจึงพอจะเดาได้ว่าเธอมีอะไรจะพูดกับตน
“เสี่ยวเนี้ยน ทำไมจิ่งจื้อเขาจำฉันไม่ได้?” อะไรก็ได้เนี้ยเซิงเสี่ยวอยากจะรู้คำตอบนี้มาก
“เหอะ เธออวดดีให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ เขาไม่ใช่จำเธอไม่ได้คนเดียวแต่เพราะผลข้างเคียงของยาทำให้เขาสูญเสียความทรงจำไปเจ็ดปีเธอคิดว่าตัวเองเป็ใครกัน เป็แค่ผู้หญิงใจร้ายที่ทิ้งเขาไปในตอนนั้นมีคุณสมบัติอะไรมาถาม!” เจินเนี้ยนในตอนนี้เหมือนเป็ฝ่ายที่ถูกต้อง
และเนี่ยเซิงเสี่ยวที่ถูกต่อว่าก็ก้มหน้าลง “เป็ฉันเองที่ขอเลิกกับเขาก่อนแต่ว่าตอนนี้ฉันไม่อยากจะพูดถึงปัญหานี้กับเธอ”
“ไม่อยากจะพูด!” เจินเนี้ยนเหมือนจะได้ยินเื่ที่ตลกที่สุด“เช่นนั้นเธอมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาทำไม? ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะฉันรักเขาก่อนเธอ รักมากกว่าเธอ ตอนนี้เธอก็ยิ่งเทียบไม่ได้เธออย่าคิดที่จะได้อะไรจากเขาอีก เขาไม่มีทางสนใจเธออีกแล้ว”
“แบบนี้...” เนี่ยเซิงเสี่ยวเหมือนไม่รู้จักเจินเนี้ยนที่แท้เพื่อนรักที่อยู่ข้างกายตนเองตลอดเวลาได้เก็บซ่อนความรู้สึกไว้ในใจลึกขนาดนี้ “ลำบากมากใช่ไหม?” เธอถามออกไป
“หุบปาก เธออย่ามาพูดจาอวดดีกับฉันแบบนี้นะ!”
เนี่ยเซิงเสี่ยวกลับหัวเราะออกมา“ั้แ่เมื่อหกปีก่อนที่เลิกกับเขาไปในตอนนั้นฉันก็ไม่เคยคิดที่จะกลับไปคืนดีกับเขาเหมือนก่อน เสี่ยวเนี้ยนการที่ฉันเข้าเฉินตงในครั้งนี้เป็เพียงแค่ความบังเอิญ ไม่ได้มีแผนการใดๆ ทั้งสิ้นสำหรับเหยียนจิ่งจื้อ เขาก็เป็เพียงเ้านายของฉันเท่านั้น เอง วางใจเถอะ”
เธอพูดจบก็ทิ้งเอาไว้เพียงแผ่นหลัง เจินเนี้ยนอ้าปากแต่กลับไม่มีคำพูดอะไรออกมา จึงปล่อยเธอจากไปทั้งแบบนี้
เนี่ยเซิงเสี่ยวครั้งนี้ฉันจะเชื่อเธอ
*
หลายวันมานี้เหยียนจิ่งจื้อทำอยู่สองเื่คือ ฝันกับปวดหัว ในความฝันปรากฏร่างเงาของหญิงสาวคนหนึ่งแต่กลับมองไม่เห็นรูปลักษณ์ เธอยอมรับข้อดีของเขา ผ่อนปรนกับข้อเสียของเขาเขาอดยอมรับไม่ได้ว่าโลกในความฝันนั้นช่างสวยงามเหลือเกิน จนถึงขนาดที่เขาตื่นมาจะรู้สึกผิดกับเจินเนี้ยนมากๆทุกครั้ง
นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะฝันถึงผู้หญิงคนอื่นเขารู้สึกผิดต่อเจินเนี้ยนแฟนของเขาในตอนนี้นี่คือเหตุผลที่เขาเอามาอธิบายตัวเองว่าทำไมถึงปวดหัว
ดังนั้นเขาจึงเริ่มที่จะทำดีกับเจินเนี้ยนมากขึ้นเรื่อยๆซื้อของที่เธออยากได้ เธออยากเล่นอะไรก็เล่นด้วย แต่ว่าก็ไม่มีประโยชน์เขาก็ยังคงปวดหัว แถมเขายังพบกฎอย่างหนึ่ง ทุกครั้งที่กินข้าวกับกลุ่มพนักงานนั้นอาการปวดหัวก็จะยิ่งรุนแรงขึ้น
ในขณะเดียวกัน
่นี้เฉินตงเริ่มจะมีข่าวลือยอดฮิตหนึ่งนั่นก็คือท่านประธานใกล้จะหมั้นแล้ว คนที่ปล่อยข่าวลือนี้มีหลักฐาน
“เธอรู้ไหม วันนี้ท่านประธานให้ของขวัญกับคุณหนูเจินอีกแล้วเหมือนจะเป็สร้อยเพชรล่ะ ก็คือเส้นที่คุณหนูเจินใส่มาเมื่อวานเส้นนั้นไง”
“ท่านประธานกับคุณหนูเจินก็ตัวติดกันเหมือนกับกาวเกินไปแล้วหนึ่งวันคุณหนูเจินมาถึงสามครั้ง!”
“ใช่ อยู่ในห้องทำงานท่านประธานทั้งวัน ท่านประธานนี่ช่างโชคดีจริงๆ นะ”
********
มีประธานหนุ่มหล่อ กับเจินเนี้ยนที่มีดีทั้งชาติตระกูลและหน้าตา เื่ซุบซิบหลังอาหารของเฉินตงจึงไม่เคยเงียบสงบลงเลยเนี่ยเซิงเสี่ยวคิดว่าตนเองสามารถมองเื่พวกนี้ได้ราวกับคนแปลกหน้าทว่าในใจกลับแอบรู้สึกเ็ป
หัวใจดวงนี้ซื่อสัตย์เสมอเมื่อเผชิญหน้ากับเหยียนจิ่งจื้อ
ในตอนที่กำลังเหม่อลอยอยู่นั้น จู่ๆ เป้ยน่าก็มาเคาะโต๊ะของเธอ “เสี่ยวเนี่ยท่านประธานเรียกเธอแน่ะ”
ชื่อภาษาจีนของเป้ยน่าคือ จินเป้ยน่า เป็ผู้ช่วยของเหยียนจิ่งจื้อตอนที่คุยโทรศัพท์กับเธอในตอนนั้นไม่รู้เลยว่าความจริงแล้วเธอเป็คนอเมริกาที่พูดภาษาจีนได้คล่องกว่าคนจีนบางคนเสียอีกเธอเพิ่งจะกลับมาอยู่ข้างกายเหยียนจิ่งจื้อเมื่อวานหลังจากจัดการเื่ราวที่อเมริกาเสร็จเรียบร้อย
“ขอบคุณผู้ช่วยจินนะคะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” เนี่ยเซิงเสี่ยวลุกขึ้นเตรียมตัวตามเธอขึ้นไป
“เสี่ยวเนี่ยไม่คิดว่าแปลกหรือ? ที่จู่ๆท่านประธานเรียกเธอขึ้นไปพบกะทันหัน”