หยิ่นยวี๋โม่ได้ยินเพียงแต่แสร้งทำเหมือนไม่ได้ยิน และเดินเข้าไปในร้านแบบไม่พูดไม่จา สำหรับเธอเครื่องประดับเหล่านี้เป็เพียงแค่สัญลักษณ์บ่งบอกสถานภาพเท่านั้นดังนั้นเธอจึงไม่อาจปฏิเสธมันได้
มู่อี้หานเดินตามเข้าไปเห็นหยิ่นยวี๋โม่มีท่าทางเก้ๆ กังๆ อยู่ตรงนั้น เขาจึงเดินไปด้านหน้าและโอบเธอไว้ในอ้อมแขน
“คุณชายมู่ คุณมาแล้ว” เมื่อเ้าของร้านเห็นมู่อี้หานก็รีบออกมาต้อนรับทันที
เธอกัดริมฝีปากของตัวเองเธอโตมาขนาดนี้ แต่นี่กลับเป็ครั้งแรกที่เธอย่างกรายเข้ามาในร้านอัญมณีและเธอก็ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะเข้ามาช่วยเธอเลือกเครื่องประดับแต่อย่างใด
มู่อี้หานพาหยิ่นยวี๋โม่เข้ามาในห้องวีไอพี“คุณชายมู่ กรุณารอสักครู่นะคะ ดิฉันจะนำสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดมาให้ท่านเลือกท่านเชิญเลือกได้ตามสบายเลยนะคะ”มู่อี้หานพยักหน้าตอบ เขาเอนหลังไปบนโซฟาด้วยท่าทางสบายๆ ส่วนหยิ่นยวี๋โม่กลับมีอาการตื่นเต้นจนนั่งไม่ติดแม้ว่าเธอจะใส่ชุดราตรีล้ำค่า แต่เธอกลับไม่ค่อยสบายตัวสักเท่าไรนัก
“ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำหน่อย” หยิ่นยวี๋โม่ที่นั่งอยู่ข้างเขา รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องจิตใต้สำนึกของเธอบอกว่าอยากจะไปจากที่นี่
เธอเดินออกไปเข้าห้องน้ำแต่ยังไม่ทันได้เข้าไป เธอก็ได้ยินเสียงคนคุยกันสองคนแว่วมาเสียก่อน “เธอบอกว่า วันนี้คุณชายมู่พาผู้หญิงมาที่ร้าน คนนั้นเป็ใครเหรอ?”
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ? คุณชายมู่เป็คนเก่งที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ผู้หญิงที่อยู่ข้างกายเขามีน้อยซะที่ไหน?”
“นั่นน่ะสิ แต่คนที่มากับเขาบ่อยสุดน่าจะเป็โจวลี่ฉี นิสัยก็ไม่ดีแถมชอบทำท่าทีเ้ายศเ้าอย่างใส่พวกเราอีก ส่วนความสัมพันธ์กับคุณชายมู่ก็คงเป็ได้แค่เบี้ยบ้ายรายทางเท่านั้นแหละ”
“ใช่ ผู้หญิงแบบนั้นนะ คงจะโดนเขี่ยทิ้งเข้าสักวัน”
“แน่นอนสิ ฉันได้ยินมานะว่าคุณชายมู่แต่งงานไปแล้วแต่คนที่แต่งด้วยคือคุณหนูตระกูลหยิ่น แต่ไม่เคยเห็นคุณหนูตระกูลหยิ่นที่ว่าหน้าตาเป็ยังไงบางทีหล่อนอาจจะไม่สวย เลยไม่กล้าพามาด้วยก็ได้นะ”
“ก็ไม่แน่หรอก คุณหนูรองแห่งตระกูลหยิ่นหน้าตาก็สะสวยอยู่นะฉันเคยเห็นตามนิตยสารอยู่บ้าง แถมเธอยังเคยออกงานกับคุณชายมู่ด้วย!”
บทสนทนาอันเผ็ดร้อนของทั้งคู่ในห้องน้ำแม้ได้ยินแล้วจะรู้สึกตงิดๆ ในใจ มันเป็ความรู้สึกดี แต่ก็ไม่ได้ดีไปเสียทั้งหมด หยิ่นยวี๋โม่หันหลังกลับเธอคิดว่าถ้าเข้าไปตอนนี้คงไม่เหมาะสมเท่าไรนัก ที่เธออยากเข้าห้องน้ำ แค่เพื่อจะหลบมู่อี้หานเท่านั้นหยิ่นยวี๋โม่เดินไปตามระเบียง จนกระทั่งถึงจุดที่สามารถมองเห็นชั้นล่างได้จากหน้าต่างชั้นสอง เธอเห็นรถที่กำลังจอดอยู่ด้านล่าง
แต่เดิมคนที่คอยมาที่นี่กับเขาก็คือโจวลี่ฉี แต่วันนี้เขากลับไม่ให้หล่อนเข้าไปเพราะไม่อยากให้หล่อนถูกหัวเราะเยาะจากคนในร้านใช่ไหม? ส่วนเธอก็กลายเป็ตัวตลกของเื่นี้แทนแบบนั้นหรือ?
เธอแต่งงานกับสามีเช่นเขาล้วนเพราะความรักที่มีต่อชายหนุ่มมากว่าสิบปี เธอยังต้องรู้และเข้าใจในตัวเขามากอีกเพียงไหน? เขากับโจวลี่ฉีสนิทสนมแนบชิดกัน ส่วนเขากับยวี๋ซินก็เคยไปออกงานด้วยกันมากมายทั้งยังมีผู้หญิงที่เธอไม่รู้จักอีกมากมายอยู่ข้างกายเขา
“คุณหนูหยิ่น ที่แท้มาอยู่ตรงนี้เอง คุณชายมู่กำลังรอคุณอยู่ค่ะ” เ้าของร้านมาตามเธอ เห็นได้ชัดว่าเป็คำสั่งของมู่อี้หานเธอหลบเขามาสักพักหนึ่งแล้ว ถ้าจะหลบอีกเห็นทีคงไม่ได้
เมื่อกลับไปที่ห้องวีไอพีหยิ่นยวี๋โม่เห็นเครื่องประดับวางอยู่บนโต๊ะ ประกายแสงระยิบระยับทำให้เธอถึงกับต้องหรี่ตาลง
“โม่โม่ คุณชอบชิ้นไหน? คุณเลือกได้เลยนะ”มู่อี้หานให้เธอเลือกชิ้นที่เธออยากใส่ เพราะเขาไม่ชอบเลือกของให้ผู้หญิงก่อนหน้านี้เป็โจวลี่ฉีที่คอยช่วยเขาเลือก แต่ตอนนี้คนที่จะใส่มาอยู่ตรงหน้าเขายิ่งไม่ต้องคิดมาก ทว่าหยิ่นยวี๋โม่กลับได้แต่มอง ไม่ยอมเลือกสักที
เมื่อเ้าของร้านเห็นว่าทั้งคู่ยังไม่ยอมเลือกจึงเอ่ยขึ้น“คุณชายมู่ ดิฉันคิดว่าสร้อยคอชุดนี้เหมาะกับคุณหนูหยิ่นมากเลยค่ะ” หล่อนผายมือไปยังชุดสร้อยคอคริสทัลสีม่วงที่ประดับด้วยพู่ซึ่งเข้ากันกับชุดราตรีของเธอได้ดี
มู่อี้หานพยักหน้า“อย่างนั้นช่วยเธอใส่หน่อย”
หยิ่นยวี๋โม่ไม่ออกความเห็นอะไรเ้าของร้านนำชุดสร้อยคอคริสทัลมาสวมบนคอของเธอ รวมถึงสร้อยข้อมือและตุ้มหูมองดูแล้วมีเสน่ห์เย้ายวนใจไม่หยอก
“คุณหนูหยิ่น ลองดูสิคะ นี่คือคริสทัลแห่งรักคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดในร้านเลยนะคะในโลกนี้มีแค่ชิ้นเดียวเท่านั้น ผลิตออกมาห้าแบบ โดยแต่ล่ะแบบมีสีที่ต่างกันไปทั้งหมดมีสีชมพู ม่วง น้ำเงิน เขียว และแดงค่ะ” เ้าของร้านอธิบาย หยิ่นยวี๋โม่มองสร้อยที่อยู่บนลำคอที่ตรงกลางมีรูปหัวใจเล็กๆเมื่อสร้อยเส้นนี้มาอยู่บนคอของเธอมันช่างเข้ากันได้ดี และสวยมากจริงๆ
มู่อี้หานและหยิ่นยวี๋โม่เดินออกจากร้านอัญมณีเมื่อทั้งคู่อยู่บนรถ โจวลี่ฉีมองสร้อยคอคริสทัลบนคอหยิ่นยวี๋โม่หล่อนเล็งสร้อยคอเซ็ตนี้อยู่นานแล้ว แต่สุดท้ายมันกลายเป็ของหยิ่นยวี๋โม่ั้แ่่ที่คริสทัลแห่งรักเปิดตัว หล่อนก็สนใจมันมาโดยตลอด แต่สุดท้ายเธอก็ช้าไปเพียงก้าวเดียว
งานประมูลการกุศลถูกจัดขึ้นที่โรงแรมสุดหรูอย่างโรงแรมิข่ายหยิ่นยวี๋โม่เดินควงแขนไปกับมู่อี้หานบนพรมแดง ส่วนโจวลี่ฉีเดินตามหลังของพวกเขา
เมื่อเข้าสู่ห้องประมูลมู่อี้หานเอาแผ่นพับในมือให้กับหยิ่นยวี๋โม่ “คุณเอาไปดูเองแล้วกัน ถ้าอยากได้อะไร ก็บอกผม” หยิ่นยวี๋โม่รับแผ่นพับจากมือเขา และเดินเข้าไปยังที่นั่งซึ่งถูกจัดเตรียมไว้มู่อี้หานถูกล้อมรอบไปด้วยผู้คนมากมาย บางคนมาคอยถามสารทุกข์สุกดิบว่าเป็อย่างไร บางคนเขามาประจบประแจงแบบเสียไม่ได้ส่วนโจวลี่ฉีก็คอยอยู่ข้างๆ เขา และคอยทักทายผู้คนรอบข้างเขาด้วยกันโจวลี่ฉีมาถึงทุกวันนี้ได้ เพราะการปฏิสัมพันธ์กับผู้คนของเธอเป็ไปอย่างธรรมชาติรอยยิ้มบนใบหน้า และทุกอย่างที่เธอทำ มันดูไม่ออกเลยว่าเธอจริงใจ หรือเสแสร้ง
“นายน้อยครับ” ลุงเจียงและชายหนุ่มรูปงามเดินเข้ามา
สายตาของชายทั้งคู่จ้องมองไปที่หยิ่นยวี๋โม่ซึ่งกำลังพลิกแผ่นพับไปมา“นายน้อยรู้ได้อย่างไรครับว่าเธอจะมาที่นี่?”
“ผมไม่รู้หรอก”เสียงเขาตอบรับอย่างแ่เบาและราบเรียบ
หยิ่นยวี๋โม่สนใจรูปกำไลข้อมือหยกขาวคู่หนึ่งในแผ่นพับดวงตาของเธอส่องประกายออกมาอย่างยากจะได้เห็น จนเธอไม่ทันสังเกตว่าด้านข้างของเธอ มีชายคนหนึ่งเดินผ่านไปและชายคนนั้นก็ได้มองรูปภาพซึ่งอยู่ในแผ่นพับเช่นเดียวกัน
ชายคนนั้นเดินเข้าไปยังห้องวีไอพีเขาไม่ชอบคบค้าสมาคมกับใครเท่าไรนัก นี่เป็ครั้งแรกที่เขาเข้าร่วมงานประมูลการกุศลแบบนี้เหตุผลที่เขามาก็เพราะ ตัวแทนของหยิ่นซื่อกรุ๊ปคือมู่อี้หาน และเขาคงไม่มาคนเดียว อย่างไรเสียเขาต้องพาภรรยาของเขาหยิ่นยวี๋โม่มาด้วยแน่ แต่มู่อี้หานกลับไม่ได้สนใจ เขาทิ้งให้หยิ่นยวี๋โม่ต้องอยู่ตรงนั้นคนเดียวแต่ตัวเขากลับไปสนุกสนานผู้หญิงคนอื่น ไม่แม้แต่จะแนะนำหยิ่นยวี๋โม่ให้คนอื่นๆ รู้จักเสียด้วยซ้ำ
“นายน้อย คิดจะทำอะไรหรือครับ?” ลุงเจียงที่ยืนอยู่ข้างๆ มองชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟาพลิกหน้าแผ่นพับไปมานายน้อยสนใจของในรูปพวกนี้ั้แ่เมื่อไหร่กัน?