ซูกุ้ยโกรธจนสบถด่าออกมา “อุตส่าห์ให้เ้าวางแผน ตอนนี้เป็อย่างไร แผนย้อนกลับเข้าตัวเองเสียได้ หากเ้ามี....มีอะไรแบบนั้นกับลูกจริงๆ ฟ้าก็คงผ่าลงมาแล้ว”
หลู่ซื่อชะงักไป นางถลึงตาแดงก่ำใส่สามีพร้อมตวาด “เป็เพราะนางนั่นต่างหากล่ะ หากไม่ใช่เพราะนาง เื่จะกลายเป็แบบนี้ได้อย่างไร?”
ซูกุ้ยพูดอย่างหงุดหงิด “จนถึงตอนนี้เ้ายังคิดว่าเป็ความผิดของนางอีกหรือ?”
หลู่ซื่อฉุน “ทำไมจะไม่ใช่? ทั้งๆ ที่ข้าหลอกนางเข้าไปแล้ว แต่นางกลับทุบข้าจนสลบ....เวรเอ๊ย นางเด็กนี่ต้องจงใจแน่ รอก่อนเถอะ ข้าไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ แน่ จะต้องเอานางไปขายที่หอนางโลมให้ได้!”
เมื่อซูิเยว่ขึ้นไปบนูเาทั้งที ตอนขากลับนางก็เอาไกู่เาหนึ่งตัวรวมถึงพวกเห็ดกลับมาด้วย
ตอนนี้อาเหนียนลุกจากเตียงได้แล้ว เด็กหนุ่มกำลังมองหาพี่สาวอยู่พอดี พอเห็นนางเดินมาจากที่ไกลๆ ก็รีบพุ่งไปหา “ท่านพี่ หลู่ซื่อมาหาเื่ท่านใช่หรือไม่?”
ซูิเยว่หัวเราะ “น้องชาย ข้าไม่เป็ไร”
คำพูดง่ายๆ ไม่อาจบอกปัดอาเหนียนไปได้ เขาจึงถามต่อ “ท่านพี่ สตรีชั่วคนนั้นพาท่านไปที่ไหนกันแน่ ท่านบอกข้ามาเถิด”
ซูิเยว่ตบบ่าเขาอย่างปลอบโยน “ข้าไม่เป็อะไรจริงๆ ไม่ต้องกังวลไปหรอก ถึงเมื่อก่อนข้าจะสติไม่ดี แต่ตอนนี้หากคนอื่นคิดอยากรังแกข้าอีกมันก็ไม่ง่ายขนาดนั้นแล้ว”
อาเหนียนหวาดกลัว “ท่านพี่ ข้าเหลือแค่ท่านแล้ว....” น้ำเสียงนั้นหยุดชะงักไปและไม่กล้าพูดต่อ
ซูิเยว่เข้าใจความหมายที่เขาจะสื่อ นางจึงเดินไปกอดเขาที่สูงกว่าตัวเองมาครึ่งหัว
ร่างกายของอาเหนียนแข็งเกร็ง ไม่กล้าขยับตัว
แต่ก่อนตอนที่ครอบครัวยังอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ความสัมพันธ์ระหว่างสองพี่น้องสองไม่ค่อยดีเท่าไรนัก อาเหนียนเป็บุตรที่เกิดจากอนุของบิดา ถึงแม้มารดาของเขาจะมีภาวะคลอดลูกยากจนตายจากไปแล้ว ซูิเยว่ก็ยังไม่ยอมรับเขา
ซูิเยว่พูดเสียงเบา “เ้าวางใจเถิด ข้าไม่มีทางเป็อะไร พวกเราจะต้องมีชีวิตที่ดีขึ้น”
อาเหนียนใ “ท่านพี่....”
“ข้าจะทำให้ได้” คำพูดสั้นๆ เพียงประโยคเดียวแต่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
“แค่กแค่ก....”
เสียงไอแค่กๆ ดังมากจากห้องด้านข้างครู่หนึ่ง ซูิเยว่ปล่อยอาเหนียนออก ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าอีกห้องไป
พอนางเข้าห้องมา บุรุษหน้าตางดงามราวกับภาพวาดที่มองแล้วทำให้รู้สึกชื่นชอบและสบายตากำลังนอนอยู่บนเตียง แต่ซูิเยว่กลับไม่ได้มีความคิดที่จะไปชื่นชมแต่อย่างใด
“เ้าดีขึ้นหรือยัง?” หลายวันก่อนเขาเป็ไข้ตัวร้อนจี๋ ซูิเยว่จึงได้ยื้อแย่งเขากลับมาจากเงื้อมมือของยมทูต
“แม่นาง ข้าไม่เป็อะไรแล้ว ข้าทำให้เ้าเป็ห่วงเสียแล้ว” เขาหัวเราะและยิ้มแห้งอ่อนแรง
“เมื่อไหร่ครอบครัวของเ้าจะหาเ้าพบแล้วพาเ้ากลับไปสักที?” ซูิเยว่ไม่สนใจว่าเขาจะเป็อะไรหรือไม่ หากช่วยได้นางก็ช่วย หากช่วยไม่ได้นางก็ไม่มีวิธีแล้ว
“....” จี๋โม่หานมองนางนิ่งเงียบ
“ของอุปโภคบริโภคมันต้องใช้เงิน เ้าคิดว่าการที่ข้าเลี้ยงบุรุษตัวโตเช่นเ้ามันง่ายนักหรือ?” ซูิเยว่พูดต่อ
ที่แท้นางก็กังวลเื่นี้อยู่นี่เอง
จี๋โม่หานถอนหายใจ “แม่นางโปรดวางใจเถิด หากพวกเขาหาข้าเจอแล้ว ข้าจะมอบสิ่งที่แม่นาง้าให้”
แน่นอนว่าซูิเยว่เชื่อว่าเขาจะให้สิ่งที่ตน้าได้ อย่างไรฐานะของเขาก็บ่งบอกอยู่แล้ว ดังนั้นนางจึงพยักหน้า “อืม หวังว่าวันนั้นจะไม่นานเกินไปนัก”
แต่ว่ามันก็ไวเกินไปแล้ว!
วันต่อมาหลิงชวนก็มาหาถึงเรือนจริงๆ
เพื่อไม่ให้เสียเวลารักษาอาการป่วยของจี๋โม่หาน เขาจะต้องรีบกลับเมืองหลวงทันที เื่นี้ทำให้ซูิเยว่โกรธเล็กน้อย นี่เขาไม่เชื่อฝีมือการรักษาของนางหรือ? แต่นางก็ไม่แปลกใจ เพราะไม่มีใครรู้ว่านางเป็ลูกศิษย์อย่างเป็ทางการของอู๋ิ
..............
ณ เมืองหลวง หลังจากองค์ชายสาม จี๋โม่หานกลับมาถึงแล้ว พ่อบ้านกับหมอหลวงก็มายืนรอจี๋โม่หานอยู่ที่หน้าประตูก่อนแล้ว
จากการตรวจสอบอย่างละเอียด หมอหลวงก็พูดด้วยความใ “คิดไม่ถึงว่าชาตินี้ข้าจะได้เห็นหมออู๋ิลงมือรักษาอีกครั้ง! ข้าตายไปก็ไม่รู้สึกเสียดายแล้ว”
พวกหลิงชวนกับจิ่งฉือไม่เข้าใจที่หมอหลวงพูด พวกเขาเข้าใจแค่ว่าเป็หมออู๋ิที่ลงมือรักษาาแขององค์ชายสาม?
พวกเขามองไปยังองค์ชายสามเพื่อขอคำยืนยัน
ใครจะไปคิดว่าจี๋โม่หานจะพูดขึ้นว่า “ที่แท้หมออู๋ิเป็สตรีนางหนึ่งเองหรือ? แถมยังเป็สตรีอายุยังน้อยอีกด้วย”
หมอหลวงพูด “องค์ชายสาม คำล้อเล่นนี้ไม่ตลกเลยสักนิดพ่ะย่ะค่ะ แม้แต่เด็กสามขวบก็รู้ว่าอู๋ิเป็บุรุษอายุมากแล้วคนหนึ่ง จะเป็สตรีไปได้อย่างไร”
“เป็สตรีนางหนึ่งที่รักษาอาการป่วยของข้า ข้าเห็นมาเองกับตา” จี๋โม่หานพูดออกมา
พวกเขาต่างใก่อนจะพูดรับประกันออกมา “เช่นนั้นจะต้องเป็ลูกศิษย์ของหมออู๋ิแน่นอน ไม่เช่นนั้นจะรับการสืบทอดจากเขาได้อย่างไร”
จี๋โม่หานจำได้ว่าซูเหนียนเคยบอกไว้ว่าหลู่ซื่อคนนั้นไม่ใช่คนดี ทั้งยังวางแผนทำมิดีมิร้ายกับพี่สาวของเขาอยู่บ่อยครั้ง หาก์ช่วยพวกเขาจัดการพวกนั้นก็คงจะดีมาก
จี๋โม่หานจึงให้จิ่งฉือไปจัดการเื่นี้ ครอบครัวหลู่ซื่อจึงได้รับการลงโทษและไม่กล้าก่อเื่อีก และในภายหลังซูิเยว่ก็ได้กลับคืนสู่ฐานะคุณหนูใหญ่สกุลซูอย่างงดงาม
.....
เื่ราวดำเนินต่อในเส้นทางใครเส้นทางมัน แต่จี๋โม่หานไม่คิดเลยว่าเขาจะได้พบกับซูิเยว่อีกครั้งที่จวนขององค์หญิงใหญ่
ไม่รู้ว่าทำไมซูิเยว่ถึงโผล่มาที่จวนขององค์หญิงใหญ่ได้ และกลายเป็ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตนางเอาไว้ กล่าวกันว่ายามที่องค์หญิงใหญ่กำลังจะคลอดลูกแล้วตกเืมาก แม้แต่พวกหมอหลวงก็ไม่อาจทำอะไรได้ ทว่าหมอหลวงที่รักษาองค์ชายสามครั้งที่แล้วกลับเอ่ยออกมาว่า “นางจะต้องช่วยองค์หญิงใหญ่ได้แน่”
“ใคร?”
“ลูกศิษย์ของหมออู๋ิ”
หลิงชวนกับจิ่งฉือเองก็พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเขา ว่ากันว่าั้แ่นั้นมาซูิเยว่ก็กลายเป็ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตองค์หญิงใหญ่เอาไว้ จากนั้นชื่อเสียงของนางก็ยิ่งโด่งดังขึ้น
ในยามนั้นเององค์หญิงใหญ่ที่เพิ่งจะรอดพ้นจากความตายก็คิดไม่ถึงว่าจี๋โม่หานที่ปกติไม่ค่อยชอบพบปะผู้คนก็มาเข้าร่วมงานเลี้ยงของนางที่จวนด้วย
การมาของเขาทำให้ทุกคนใ พ่อบ้านที่รู้งานจึงรีบนำทางเขาไปพร้อมกับจัดที่ที่ดีที่สุดให้เขา แต่จี๋โม่หานกลับนิ่งไม่ขยับ วินาทีที่เขามองไปทางซูิเยว่ เขาก็เห็นบางอย่างที่เหมือนเงาสะท้อนของตัวเองจากตัวนาง
ทว่าเพียงครู่เดียวจี๋โม่หานก็หันกลับมา “ไม่ต้องหรอก ข้านั่งตรงนี้ได้ ค่อนข้างเงียบดี”
ทุกคนในที่นั้นต่างตะลึงรวมถึงซูิเยว่เองด้วย หลังจากองค์หญิงใหญ่ได้สติกลับมาจากอาการตกตะลึงก็ไม่ได้ว่าอะไร “เช่นนั้นก็ได้ ใครก็ได้เอาถ้วยตะเกียบทางนี้ไปเปลี่ยนด้วย”
เพียงครู่เดียวก็มีคนรับใช้เข้ามา บังเอิญว่าที่นั่งข้างซูิเยว่ว่างอยู่พอดี คนรับใช้คนนั้นจึงเอาถ้วยตะเกียบบนที่ว่างนั้นมาเปลี่ยนเป็เครื่องหยกก่อนจะยกเก้าอี้เลื่อนไปด้านข้าง “เชิญองค์ชายเ้าค่ะ”
จี๋โม่หานพยักหน้าน้อยๆ ให้องค์หญิงใหญ่ จากนั้นก็เป็หลิงชวนที่เข็นรถเข็นเข้ามา
ซูิเยว่ดึงเก้าอี้ให้ไกลออกไปเล็กน้อยแล้วนั่งลง ในตอนนั้นคุณหนูจากครอบครัวขุนนางคนอื่นๆ บนโต๊ะไม่กล้าแม้แต่จะพูดออกมา การมาขององค์ชายสามที่มีเกียรติคนนี้ทำให้บรรยากาศในตอนนี้ตึงเครียดขึ้นมาเล็กน้อย
มีเพียงจี๋โม่หานเองเท่านั้นที่ยังไม่รู้ตัว เขานั่งลงอย่างเปิดเผยด้วยท่าทางนิ่งสงบ
องครักษ์ของเขายืนเยื้องอยู่ทางด้านหลังทั้งซ้ายและขวาของเขา บุรุษที่สวมชุดดำทางซ้ายมือทำหน้าเหมือนคนอื่นไปติดเงินเขาเอาไว้ แน่นอนว่าซูิเยว่จำองค์ชายสามได้ ทว่านางรู้สึกเหมือนว่าจะมีบางอย่างแปลกไปเท่านั้น
ในตอนที่ซูิเยว่กำลังพิจารณาอย่างจริงจังนั้น บุรุษที่สวมชุดสีชมพูคนนั้นก็หันขวับมามองก่อนที่ทั้งสองคนจะสบตากัน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้