ผู้คนรอบข้างล้วนใกันหมดแล้ว พวกเขาไม่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงบนข้อมือราชันกระบี่ เฝิงอู๋เซวี่ยและก็ไม่ได้ยินคำอุทานด้วยความใของเฝิงอู๋เซวี่ยเช่นกัน เห็นแต่ราชันกระบี่ เฝิงอู๋เซวี่ยใช้กระบี่ตัดข้อมือตนเองทิ้งท่ามกลางความงุนงง ไม่ทราบว่าราชันกระบี่ เฝิงอู๋เซวี่ยเกิดบ้าคลั่งอะไรขึ้นมา กลับปฏิบัติต่อตนเองอย่างโหดร้ายเช่นนี้
ลูกศิษย์สำนักกระบี่ิญญาตกตะลึงยิ่งนัก พวกเขาไม่ทราบว่าไฉนเฝิงอู๋เซวี่ยถึงเป็เช่นนี้ ขณะคิดจะะโขึ้น ก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนน่าสังเวชของเฝิงอู๋เซวี่ย รูหลายรูทั้งบนเสื้อผ้าและหน้าอกกลับมีผงสีขาวจำนวนนับไม่ถ้วนไหลออกมา คนที่อยู่ระยะไกลมองไม่ชัดเจน รู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่ง จ้านอู๋มิ่งกลับมองเห็นอย่างชัดเจน เ่าั้ล้วนเป็หนอนสีขาวขนาดเล็กเท่าปลายเข็ม จ้านอู๋มิ่งมองจนขนหัวลุกหนังศีรษะชา
คิดไม่ถึงว่าพิษมีชีวิตจะแพร่พันธุ์รวดเร็วถึงเพียงนี้ เขาเคยััหมื่นหนอนกลืนกินร่างมาก่อนจึงสามารถเข้าใจความรู้สึกนี้เป็อย่างดี โชคดีที่สุดท้ายเขาก็สามารถรอดชีวิตมาได้
“ไฉนจึงเป็เช่นนี้ จ้านอู๋มิ่ง เ้าทำสิ่งใดกับศิษย์พี่ข้า?” ศิษย์สำนักกระบี่ิญญาก็เห็นความผิดปกติแล้วเช่นกัน อุทานเสียงโกรธเคือง
“รีบดูแขนข้างนั้น!” มีคนอุทานเสียงต่ำ มือข้างที่ถูกเฝิงอู๋เซวี่ยตัดขาด เพียงครู่เดียวกลับกลายเป็ผงสีขาวกองหนึ่งไปแล้ว ผงสีขาวเ่าั้ยังคงดิ้นอยู่
“เป็ตัวหนอน!” มีคนอุทานใ ในที่สุดก็มีคนค้นพบแล้วว่าผงสีขาวคือสิ่งใด และแล้วทุกคนจึงถอยห่างด้วยความใ คล้ายกับว่ายิ่งห่างไกลยิ่งปลอดภัย ในที่สุดผู้คนก็ทราบแล้วว่าราชันกระบี่ เฝิงอู๋เซวี่ยผิดปกติที่ไหน เนื่องจากร่างเขาถูกปกคลุมด้วยหนอนสีขาวชั้นหนึ่งอย่างรวดเร็ว เขากลิ้งอยู่บนพื้นและร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนา เสียงร้องเสียดแทงให้ะเืใจ ทำให้แผ่นหลังของทุกคนเย็นเฉียบ ราชันกระบี่ เฝิงอู๋เซวี่ยก่อนหน้าที่ยังอารมณ์ดีและเย่อหยิ่ง ถือว่าตนเองเก่งที่สุด ราชันแห่งอัจฉริยะคนนั้น เวลานี้กลับเหมือนก้อนเนื้อที่ถูกโรยเกลือจนเต็มก้อนหนึ่ง
“ศิษย์พี่!” คนของสำนักกระบี่ิญญาอุทานใพุ่งมาทางเฝิงอู๋เซวี่ยคล้ายดั่ง้าช่วยเหลือเฝิงอู๋เซวี่ย
“อย่าได้เข้ามา…” เฝิงอู๋เซวี่ยคำรามเสียงต่ำ สายตามองจ้านอู๋มิ่งด้วยความแค้นเคืองเกลียดชัง เขารู้สึกได้ถึงอาการคันจากอวัยวะภายในของเขา เขาทราบดีว่าตนเองจบสิ้นแล้ว ใต้หล้าไม่มีผู้ใดสามารถช่วยเขาได้อีกแล้ว เขาเข้าใจความน่าสะพรึงกลัวของพิษมีชีวิตของราชันพิษดีอย่างยิ่ง ขอเพียงถูกหนอนนี้เข้าสู่กระแสเื ชั่วระยะเวลาไม่กี่ลมหายใจ หนอนพวกนั้นก็จะเพิ่มจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน ชอนไชเข้าไปในร่างกาย ตามกระแสเืและจะไม่หยุดจนกว่าร่างของคนทั้งคนจะกลายเป็ตัวอ่อนนับหลายร้อยล้าน
เมื่อเจอร่างใหม่ ตัวหนอนจะขยายลุกลามออกไป ก็จะเปลี่ยนร่างใหม่ให้เป็หนอนอย่างไร้สิ้นสุด
“เ้ามี…พิษมีชีวิต…ได้อย่างไร?” เฝิงอู๋เซวี่ยไอสองสามครั้ง สิ่งที่ไอออกมากลับเป็ตัวหนอนสีขาวกองใหญ่ ทุกคนล้วนสีหน้าแปรเปลี่ยนเป็ซีดขาว พวกเขาไม่เคยเห็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้มาก่อน สายตาที่มองไปทางจ้านอู๋มิ่งล้วนแปรเปลี่ยนไปแล้ว
“ข้าไม่ทราบว่าเ้ากำลังพูดถึงสิ่งใด” จ้านอู๋มิ่งแบมือออก โยนด้ามกระบี่ในมือเข้าไปในกองหนอน จากนั้นแสร้งทำเป็แปลกใจพูดเสียงดัง “โอ้์ หรือว่ากระบี่ของศิษย์ตระกูลหนานกงฉาบพิษเอาไว้จริงๆ? ถ้าเช่นนั้นข้าไยมิใช่เกือบถูกพวกเขาทำร้ายจนกลายเป็เช่นเดียวกับพี่ใหญ่เฝิงหรอกหรือ? น่าสะพรึงกลัวเกินไปแล้ว!”
คนรอบข้างแทบเป็ลมล้มลง จ้านอู๋มิ่งผู้นี้ไร้ยางอายเกินไปแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่มีปัญญาระบุว่าจ้านอู๋มิ่งเป็คนแพร่พิษ เนื่องจากทุกคนล้วนเห็นแล้วว่า จ้านอู๋มิ่งหยิบกระบี่เล่มนั้นขึ้นมาจากพื้นอย่างไม่ตั้งใจ เดิมนี่คือกระบี่ของลูกศิษย์ตระกูลหนานกง ไม่มีผู้ใดเห็นจ้านอู๋มิ่งทำสิ่งใดกับกระบี่ อย่างมากที่สุดก็คือใช้กระบี่วาดวงกลมวงใหญ่บนพื้นวงหนึ่ง ภายใต้สายตาทุกคนที่มองดูอยู่ เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกัน
จะว่าไปแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าจ้านอู๋มิ่งรู้จักการใช้พิษ และเป็พิษที่น่าสะพรึงกลัวมากขนาดนี้ ในใจทุกคนล้วนทราบดีว่า เื่นี้ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับจ้านอู๋มิ่งอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าแม้แต่ด้ามกระบี่ จ้านอู๋มิ่งก็โยนเข้าไปในกองหนอนแล้ว ผู้ใดกล้าไปหยิบขึ้นมาเล่า หลักฐานก็ถูกทำลายไปแล้ว
“จ้านอู๋มิ่ง เ้าต่ำช้า ถึงกับใช้วิธีการอันน่ารังเกียจเช่นนี้ รีบเอายาแก้พิษออกมา!” บรรดาศิษย์สำนักกระบี่ิญญาโกรธเคือง เห็นศิษย์พี่ใหญ่ทนทุกข์ทรมานเช่นนี้ ทั้งหมดล้วนพุ่งเป้าไปที่จ้านอู๋มิ่ง
“นี่คือพิษมีชีวิต นี่คือพิษลับที่สุดของราชันพิษแห่งสำนักเบญจพิษ!” ทันใดนั้นก็มีคนอุทานขึ้นมา จำแหล่งที่มาของพิษชนิดนี้ได้แล้ว
“เป็ไปได้อย่างไร? จ้านอู๋มิ่งไม่ใช่ศิษย์ของสำนักเบญจพิษนะ!” บางคนเริ่มคาดเดา
“มิผิด นี่จะต้องเป็พิษมีชีวิตแน่นอน ข้าเคยเห็นพิษนี้มาก่อน เฝิงอู๋เซวี่ยหมดหนทางรักษาแล้ว พิษชนิดนี้ ถ้าไม่สามารถฆ่าไข่ให้หมดสิ้นั้แ่เริ่มแรก ตัวหนอนก็จะเปลี่ยนเืเนื้อทั้งหมดของมนุษย์ให้เป็สารอาหาร กลายเป็หนอนจำนวนมาก…พวกเ้าห้ามเข้าไปอย่างเด็ดขาด ขอเพียงแตะถูกตัวหนอนนั้นเข้า พวกเ้าก็จะเป็เหมือนเช่นเดียวกับเฝิงอู๋เซวี่ย กลายเป็ร่างสถิตใหม่ของพวกมัน จวบจนกระทั่งเสียชีวิต…” ชายผู้นั้นก้าวถอยหลังถี่ยิบด้วยใบหน้าที่หวาดหวั่นพรั่นพรึง ดูเหมือนพิษมีชีวิตนี้จะทิ้งเงามืดไว้ในความทรงจำของเขา ทำให้เขาเต็มไปด้วยความครั่นคร้าม
พอได้ฟังคนคนนั้นพูด ผู้คนโดยรอบก็รีบหลบออกไปยิ่งไกลกว่าเดิมแล้ว ศิษย์สำนักกระบี่ิญญาที่เดิมเตรียมมุ่งหน้าเข้าไปช่วยเฝิงอู๋เซวี่ย ต่างล้วนใจนถอยกลับไป จ้องมองจ้านอู๋มิ่งตาเขม็ง
“ที่นี่มีสหายจากสำนักเบญจพิษหรือไม่?” ศิษย์สำนักกระบี่ิญญาตวาดเสียงดัง
เดิมศิษย์สำนักเบญจพิษหลายคนคิดจะปลีกตัวจากไป เพราะเื่ราวแปลกประหลาดเกินไปแล้ว พิษมีชีวิตนี้มีเพียงธิดาเทพของสำนักเบญจพิษเท่านั้นที่สามารถใช้ได้ ถึงแม้พวกเขาก็สงสัยว่าเื่นี้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับจ้านอู๋มิ่ง แต่กลับไม่เชื่อว่าจ้านอู๋มิ่งจะมีพิษมีชีวิต เล่าขานกันว่า ภายในสำนักนิกาย แม้แต่ครูฝึกใหญ่ก็ยังควบคุมพิษมีชีวิตไม่ได้ หากกล่าวว่าจ้านอู๋มิ่งสามารถใช้พิษมีชีวิต เป็เื่น่าขบขันที่สุดในโลกหล้าจริงๆ
พวกเขาก็เพียงแค่เคยได้ยินพิษมีชีวิตเท่านั้น ตอนที่ข้อมือของเฝิงอู๋เซวี่ยกลายเป็หนอนขาว พวกเขาก็ดูออกแล้วว่านี่คือพิษมีชีวิต
แต่ว่า...นี่คือเคล็ดวิชาลับของสำนักเบญจพิษ พวกเขาสามารถเผยแพร่ได้หรือไร? ถ้าพูดเื่นี้ออกมา ย่อมต้องสร้างปัญหาให้กับสำนักเบญจพิษ
ราชันกระบี่ตายด้วยพิษเฉพาะตัวของราชันพิษ ถึงสำนักกระบี่ิญญาจะรู้สึกขุ่นข้องใจ ก็ต้องให้สำนักเบญจพิษพูดจาให้ชัดเจน
พวกเขาคิดไปคิดมา รู้สึกว่าอาจเป็การลอบลงมือของธิดาเทพก็ได้ ได้ยินมาเนิ่นนานแล้วว่าระหว่างสิบราชันพั่วเหยียนด้วยกัน มีการแข่งขันกันทั้งในทางลับและเปิดเผย ถ้าธิดาเทพจะลงมือกันราชันกระบี่ ก็มิใช่จะเป็เื่ที่เป็ไปไม่ได้ ด้วยฝีมือน่าสะพรึงกลัวของธิดาเทพ อาจจะแพร่พิษไว้ล่วงหน้าก่อนแล้วก็ได้ พวกเขาไม่คิดสร้างปัญหาให้ธิดาเทพ ดังนั้นเตรียมตัวจะหลบลี้ไปเงียบๆ
คิดไม่ถึงว่าจะถูกคนข้างๆ พูดเปิดโปงแล้ว คราวนี้คิดจะล้างมลทินให้สำนักเบญจพิษก็เป็ไปไม่ได้แล้ว ศิษย์สำนักเบญจพิษที่อยู่ในเหตุการณ์อยากตบหน้าตัวเองจริงๆ ไม่มีเื่ก็หาเื่ใส่ตัวจนได้ รั้งอยู่ดูเื่ครึกครื้นของผู้อื่นไปไย? จะดูก็ดูไปสิ เป็คนก็ต้องมีความอยากรู้อยากเห็น แต่ว่าพอเห็นพิษมีชีวิตแล้วยังไม่รีบถอนตัวล่าถอย เป็เื่โง่เขลาจริงๆ!
ขณะตัวโง่งมกลุ่มนี้กำลังสำนึกเสียใจ ก็มีคนะโขึ้นมา “พวกเขาก็คือคนของสำนักเบญจพิษ!”
เมื่อมีคนเห็นร่องรอยศิษย์สำนักเบญจพิษแล้ว ทุกคนก็พากันแตกฮือ รีบหนีออกห่างราวพบผีสางก็ปาน เพียงครู่เดียว บริเวณโดยรอบบรรดาศิษย์สำนักเบญจพิษก็กลายเป็พื้นที่ว่างไปทันที คล้ายกับว่าหนอนพิษน่าสะพรึงกลัวเมื่อครู่นี้วิ่งออกมาจากร่างกายของหลายคนนี้ก็มิปาน สายตาที่มองดูศิษย์สำนักเบญจพิษล้วนไม่เหมือนเดิมแล้ว
“รีบเอายาแก้พิษมา!” เหล่าลูกศิษย์สำนักกระบี่ิญญาเฮโลพากันล้อมรอบไว้ทันที
ศิษย์สำนักเบญจพิษกว่าสิบคนรู้สึกตนถูกใส่ความและไม่ยุติธรรม เื่นี้พวกเขาไปเกี่ยวอะไรด้วยเล่า และก็มิใช่พวกเขาแพร่พิษสักหน่อย ท่าทีเช่นนี้ของสำนักกระบี่ิญญา เหมือนว่าถ้าไม่นำยาแก้พิษออกมาก็จะได้เจอดีอย่างไรอย่างนั้น
ศิษย์สำนักกระบี่ิญญาก็โกรธแค้นมากเช่นกัน ศิษย์สำนักเบญจพิษกว่าสิบคนนี้ท่าทางเหมือนกำลังจะถอนตัวอย่างเงียบๆ ถ้ามิใช่เพราะกินปูนร้อนท้อง ไฉนต้องปลีกตัวไปเงียบๆ ด้วยเล่า? ดูเหมือนว่า บางทีพิษนั้นอาจจะถูกวางโดยศิษย์ของสำนักเบญจพิษจริงๆ ก็ได้
พวกเขาโกรธจัด ศิษย์พี่ใหญ่พวกเรากับจ้านอู๋มิ่งต่อสู้แลกชีวิตกัน เกี่ยวข้องกับสำนักเบญจพิษพวกเ้าตรงไหนกันเล่า? การเดิมพันของผู้อื่นเพิ่งจะเริ่มต้น พวกเ้าก็ลอบวางยาพิษอันโหดร้ายอำมหิตเช่นนี้ ทำให้ศิษย์พี่ใหญ่พวกเรากลายสภาพเป็เช่นนี้ เวลานี้คิดจะลอบหนีไป ไม่มีทาง!
“พวกเราไม่มียาแก้พิษ” ศิษย์สำนักเบญจพิษผู้หนึ่งตอบอย่างตรงไปตรงมาตามความจริง เขารู้สึกคับข้องใจยิ่งนัก พิษก็มิใช่ตนเป็คนวางสักหน่อย พวกเ้าจ้องพวกเราเหมือนกับกำลังมองศัตรูเพื่อสิ่งใดกันเล่า?
“ดูแล้วพวกเ้าคงมีเจตนา!” ศิษย์สำนักกระบี่ิญญาโกรธแล้ว คนกลุ่มนี้วางยาพิษแล้วยังกล้าพูดตรงไปตรงมาว่าไม่มียาแก้พิษ
“หากวันนี้พวกเ้าเอายาแก้พิษออกมาไม่ได้ เช่นนั้นพวกเ้าก็ตายเป็เพื่อนกับศิษย์พี่ใหญ่ข้าก็แล้วกัน!” ศิษย์สำนักกระบี่ิญญาคำรามอย่างโกรธเคือง
เมื่อเห็นเฝิงอู๋เซวี่ยกำลังจะถูกห่อหุ้มด้วยหนอนทั้งตัวแล้ว แม้แต่ศีรษะและใบหน้าก็มองไม่เห็นแล้ว ศิษย์สำนักเบญจพิษกลับยังปากแข็งเหมือนเดิม
“พิษชนิดนี้ เฉพาะธิดาเทพของพวกเราเท่านั้นจึงจะมี คนอื่นๆ ไม่มีผู้ใดมียาแก้พิษ”
จ้านอู๋มิ่งพูดไม่ออกจริงๆ ศิษย์สำนักเบญจพิษพวกนี้เป็ตัวโง่เขลาจากต่างแดนกลุ่มหนึ่งเลยเชียว วาจานี้พูดได้จริงแท้แน่นอนยิ่งนัก ปัญหาก็คือคำพูดเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่สำนักกระบี่ิญญา้าได้ยิน และคำพูดเหล่านี้ก็เท่ากับยอมรับว่าพิษมีชีวิตนี้เป็ของสำนักเบญจพิษ และมีเพียงธิดาเทพเท่านั้นที่มี เวลานี้ จ้านอู๋มิ่งยิ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว
จ้านอู๋มิ่งยิ้มจนปากแทบจะฉีกถึงใบหูแล้ว ตาหยีจนแทบจะมิด เขาไม่ทราบด้วยซ้ำว่าจะต้องขอบคุณเด็กโง่เง่ากลุ่มนี้ หรือว่าต้องสงสารสินค้ามือสองของแท้[1]พวกนี้แล้ว
“เหยียนชิงชิง ออกมาหาข้า!” ราชันกระบี่ เฝิงอู๋เซวี่ยก็คิดถึงจุดนี้ด้วยเช่นกัน
พิษมีชีวิตนี้ ในใต้หล้ามีเพียงราชันพิษ เหยียนชิงชิงเท่านั้นที่สามารถใช้ได้ จ้านอู๋มิ่งไม่สามารถควบคุมพิษมีชีวิตได้อย่างเด็ดขาด นึกถึงเื่ราวระหว่างสิบราชัน ถึงแม้ว่าจะมีคำสาบานลับ แต่ก็ชิงดีชิงเด่น หลอกลวงซึ่งกันและกัน ต่างมีความคิดเป็ของตัวเอง เขาไม่เชื่อว่าระหว่างสิบราชันจะไม่มีความคิดกลืนกินกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากพวกเขาทราบว่าโชคชะตาสามารถ่ชิงมาด้วยการกลืนกิน ในหมู่สิบราชันทุกคนล้วนเป็ความภาคภูมิใจของบุตรแห่ง์ ทุกคนล้วนมีโชคชะตาที่แตกต่างกัน หากราชันพิษสังหารเขาแล้ว ก็สามารถโชคชะตาของเขา
จ้านอู๋มิ่งยักๆ ไหล่ แบมือกับเหล่าบรรดาฝูงชนโดยรอบ แสดงให้ทราบว่าเื่นี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา
ทุกคนล้วนรู้สึกโล่งใจแล้ว แม้แต่ราชันกระบี่ เฝิงอู๋เซวี่ยเองก็ยังเห็นว่าเป็การลอบลงมือของราชันพิษในหมู่สิบราชัน เกรงว่าจะเป็ราชันพิษที่แอบแพร่พิษมีชีวิตจริงๆ ด้วยการยืมมือจ้านอู๋มิ่ง เพื่อกำจัดคู่แข่งที่เก่งกาจแล้ว
ศิษย์สำนักเบญจพิษก็พูดเช่นกันว่า พิษนี้มีเพียงเหยียนชิงชิง ธิดาเทพของพวกเขาเท่านั้นจึงมี ธิดาเทพก็คือราชันพิษนั่นเองมิใช่หรือ? วัตถุพิษที่แม้แต่ศิษย์ที่เด่นล้ำของสำนักเบญจพิษก็ยังไม่มี จ้านอู๋มิ่งเป็ศิษย์ของสำนักบริบาลเดรัจฉาน จะเป็พรรคพวกสำนักเบญจพิษด้วยกันไม่ได้ ย่อมเป็ไปไม่ได้ที่จะมีวัตถุพิษน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้แล้ว
ในที่สุด ทุกคนล้วนได้ข้อสรุปออกมาแล้วว่า ทั้งหมดนี้เป็ความแค้นส่วนตัวระหว่างราชันพิษ เหยียนชิงชิงและราชันกระบี่ เหมือนเช่นข่าวลือในยุทธภพว่ามีการต่อสู้ทั้งในทางลับและเปิดเผยระหว่างสิบราชันด้วยกัน ไม่เหมือนการแสดงออกต่อหน้าผู้คนที่ว่าไม่มีความขัดแย้งใดๆ ต่อกัน
บางคนถึงกับเริ่มเดาว่า การจัดอันดับตำแหน่งของสิบราชันครั้งที่แล้ว อันดับของเฝิงอู๋เซวี่ยอยู่หน้าเหยียนชิงชิง เป็ไปได้อย่างยิ่งว่าได้ล่วงเกินราชันพิษ เหยียนชิงชิงแล้วั้แ่ในตอนนั้น ราชันพิษไม่ยอมรับอย่างยิ่ง จึงลอบแพร่ยาพิษไว้ จวบจนกระทั่งจ้านอู๋มิ่งทำให้ิัเขาถลอกเมื่อครู่นี้ ทั้งยังเืตกยางออก พิษจึงได้กำเริบขึ้นมา
ทุกคนยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเื่ราวต้องเป็เช่นนี้แน่ บรรยากาศระหว่างสำนักกระบี่ิญญาและศิษย์สำนักเบญจพิษเริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ
ทุกคนล้วนพากันแยกตัวไปอยู่ไกลๆ ไม่มีผู้ใด้าเข้าใกล้บริเวณการต่อสู้ระหว่างสำนักกระบี่ิญญาและศิษย์สำนักเบญจพิษ การต่อสู้ของศิษย์สำนักเบญจพิษน่ากลัวที่สุดแล้ว ไม่ระวังเพียงนิดเดียวก็จะกลายเป็ปลาในบ่อที่ได้รับเคราะห์ หากต้องถูกแพร่พิษเสียชีวิตอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่ นั่นย่อมไม่คุ้มค่าอย่างยิ่ง
[1] คนโง่เขลาเบาปัญญา