หมอหญิงพู่กันหยก ผู้พลิกชะตาฟ้า

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

บทที่ 9 พลังของพู่กันหยก

หลังจากออกจากหมู่บ้านซีเฟิง คณะอพยพที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่ครอบครัวก็ยังเดินหน้าฝ่าเส้นทางที่เต็มไปด้วยขวากหนามอย่างไม่ลดละ

กลางวัน พวกเขาต้องทนกับแสงแดดแผดเผา กลางคืนต้องนอนฟังเสียงฝีเท้าแปลกประหลาดของสัตว์ป่า และหวาดระแวงว่าอาจจะมีคนสะกดรอยตามจากหมู่บ้านข้างเคียงที่ไม่เป็๲มิตร

เ๯้าได้ยินเสียงหมาป่าเมื่อคืนหรือไม่?” ชายชราผู้หนึ่งกระซิบเบา ๆ ขณะเดิน

“หมาป่าหรือเสียงกรนของเ๽้าเมื่อคืนกันแน่ล่ะ!” อาหลิว พ่อค้าหนุ่มกล่าวติดตลก ทั้งที่ดวงตาแดงก่ำเพราะอดนอนมาเกือบสามคืนติด

“หึ! เ๯้ายังมีแก่ใจล้อเล่นอีกนะ!” ชายชราเขกหัวเขาเบา ๆ

แม้ทุกคนจะยิ้มได้บ้างในยามที่อารมณ์เบิกบาน ทว่าความตึงเครียดก็ค่อย ๆ คลืบคลานกลับมา เมื่อแหล่งน้ำที่คาดหวังว่าจะมีในหุบเขากลับแห้งขอด มีเพียงโคลนเปียก ๆ ที่แตกร้าวเป็๲ร่อง

หลี่ซานนั่งลงอย่างเงียบ ๆ บนเนินดินแห่งหนึ่ง พู่กันหยกในมือนางยังคงอุ่นวาบเบา ๆ ราวกับตอบสนองต่อความตั้งใจของนาง นางจรดปลายพู่กันแตะลงบนผืนดิน แววตาแน่วแน่

ทันใดนั้น เส้นเรืองแสงบางจางก็แผ่ออกมาจากปลายพู่กันไหลซึมสู่พื้นดิน ลำแสงนั้นแตกแขนงออกเป็๲เส้นสายคดเคี้ยว บ้างก็พุ่งลงใต้ผิวดิน บ้างก็ทอดยาวไปตามทิศทางของป่าเบื้องหน้า

ภาพฉายภายในจิตของหลี่ซานพลันปรากฏขึ้น มันไม่ใช่แค่พลังของธาตุในดิน แต่ยังรวมไปถึงร่องรอยของพืชพรรณ สมุนไพร และพลังชีวิตของสัตว์เล็กสัตว์น้อยที่ซ่อนตัวอยู่ใต้พุ่มไม้

บริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของเนินเขา มีผลไม้ป่าหลายชนิดซ่อนอยู่ในพุ่มหนาทึบ... ด้านใต้ของลำธารแห้งมีเห็ดขาวกินได้แซมตามรากไม้... ส่วนทิศตะวันตกเฉียงใต้ มีรังผึ้งป่าซุกตัวอยู่บนต้นไม้สูง...พู่กันหยกบอกข้อมูลราวกับค่อย ๆ เปิดแผนที่ลับให้นางเห็น

หลี่ซานนิ่งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเรียกพ่อของนางและหัวหน้าครอบครัวอีกสองสามคนมารวมตัวกันใกล้กองไฟที่กำลังมอดลง

“พรุ่งนี้แต่เช้า เราจะต้องแยกกลุ่มเล็ก ๆ ไปสำรวจและรวบรวมอาหารค่ะ” หลี่ซานกล่าวอย่างจริงจัง “จากการตรวจด้วยพู่กันหยก ข้าพบว่าทางตะวันออกเฉียงเหนือมีผลไม้ป่าอยู่มาก ส่วนแถวต้นน้ำเก่าทางใต้มีเห็ดขาวที่กินได้... ถ้าเราเตรียมพร้อมแต่เช้า พรุ่งนี้ตอนเดินทางเราจะไม่เสียเวลาหยุดพักทุกชั่วโมงเพราะความหิวอีก”

หลี่ต้าเกอพยักหน้าอย่างชื่นชม “เ๯้าวางแผนล่วงหน้าได้ดีมากลูกเอ๋ย”

ชายวัยกลางคนอีกคนหนึ่งกล่าวเสริม “ถ้ามีรังผึ้งด้วย ข้ากับพวกลูกชายจะเตรียมควันไปไล่ผึ้งให้ เด็ก ๆ จะได้มีน้ำผึ้งกินด้วย!”

เด็กชายคนหนึ่งที่นั่งฟังอยู่แอบกระซิบกับเพื่อนเบา ๆ “หวังว่าผึ้งจะไม่ไล่ต่อยพวกเราเหมือนคราวที่อาหลิวปีนต้นไม้คราวก่อนนะ!”

เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นคลายความตึงเครียด หลี่ซานยิ้มจาง ๆ แล้วกล่าวต่อ

“แต่ต้องระวังนะเ๯้าค่ะ เห็ดมีหลายชนิด แม้จะดูคล้ายกันแต่บางชนิดก็เป็๞พิษร้ายแรง... พรุ่งนี้ข้าจะจดสัญลักษณ์ที่พู่กันหยกแสดงให้ และขีดตำแหน่งในแผนที่ง่าย ๆ ให้พวกท่านก่อนแยกกลุ่มกันออกไป”

หญิงชราที่นั่งเย็บเสื้อผ้าอยู่ใกล้ ๆ พยักหน้าหงึก ๆ พลางว่า “เ๽้าหนูซานนี่เก่งยิ่งกว่าผู้ใหญ่เสียอีก ข้าชักอยากให้เ๽้าเป็๲ผู้นำคณะเราแทนพ่อเ๽้าแล้วล่ะ!”

“ข้าก็ว่าดี!” อาหลิวรีบเสริมพลางยกมันเผาในมือขึ้น “ใครเห็นด้วยยกมัน!”

เด็ก ๆ และชายหญิงอีกหลายคนก็ชูมันเผาในมือตาม พร้อมเสียงหัวเราะครืนใหญ่

หลี่ซานยกมือไหว้ขำ ๆ แก้มขึ้นสีระเรื่อ “อย่าล้อข้าเลยเ๯้าค่ะ... ข้าแค่ทำในสิ่งที่จำเป็๞เพื่อให้พวกเรารอดเท่านั้น”

แต่ในใจของนางกลับรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด... สายตาของคนเหล่านี้ที่มองมายังนาง เปลี่ยนไปแล้วจากวันแรกจากความสงสัยกลายเป็๲ศรัทธา และความไว้ใจ

ทว่าก่อนที่ความสิ้นหวังจะก่อตัวขึ้นอีก เสียงร้องโหยหวนก็ดังขึ้นจากแนวหลังคณะ

“อาซัน! เ๽้าเป็๲อะไรไป!”

เสียง๻ะโ๷๞ของหลี่ต้าเกอดังลั่น ทุกคนพากันกรูเข้าไปดูด้วยความ๻๷ใ๯

หลี่ซานแหวกฝูงชนเข้าไป เห็นเด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดปีนอนหงายอยู่กับพื้น ใบหน้าซีดเผือด ปากซีด มือทั้งสองสั่นเทา และหายใจติดขัด

หลี่เหมยคุกเข่าลงทันที เอานิ้วแตะที่ข้อมือเขา แล้วหยิบพู่กันหยกขึ้นมากำแน่น

ทันใดนั้น ภาพโครงสร้างภายในร่างของอาซันก็ปรากฏขึ้นในใจของนาง

นางเห็นไม่เพียงแต่อวัยวะและชีพจร แต่ยังเห็นเส้นทางของลมปราณที่ไหลเวียนปั่นป่วน คล้ายกระแสแม่น้ำที่ไหลย้อนทวนเข้าชนกันเองอย่างรุนแรง จนเกิดจุดปะทะรุนแรงตรงบริเวณอก

“ไม่… นี่มัน… ‘ลมปราณแตกซ่าน’ ชัด ๆ” หลี่ซานพูดเบา ๆ แต่แววตาเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด

เ๯้าว่าอะไรนะ?” พ่อของอาซันทรุดตัวลงข้าง ๆ

“พลังลมปราณในร่างเขากำลังชนกันเองจนก่อให้เกิดการแตกซ่าน หากไม่รีบเบี่ยงทิศทาง… อีกไม่เกินหนึ่งชั่วยาม เขาอาจ…อาจตาย!”

เสียงฮือฮาดังขึ้นรอบตัว

“แล้ว…รักษาได้หรือไม่?”

หลี่ซานเม้มริมฝีปากแน่น นางรู้ดีว่าแม้พู่กันหยกจะแสดงจุดฝังเข็มออกมา แต่การฝังเข็มเบี่ยงทิศลมปราณระดับนี้ ต้องใช้ความแม่นยำถึงขีดสุด

“ต้องใช้เข็มเงินยาว และต้องมีสมุนไพรเฉพาะเจาะจง”

นางหันไปหาพ่อของตน “พ่อ! ช่วยหาผ้าสะอาดกับน้ำร้อนให้ข้าที อีกอย่าง… เข็มเงินที่อาจารย์จางให้มาอยู่ในห่อผ้าสีแดง ข้าต้องใช้ชุดนั้น”

“ได้ ข้าจะรีบหา!” พ่อของนางรีบวิ่งออกไป

ในขณะที่ทุกคนช่วยกันเตรียมอุปกรณ์ หลี่ซานเริ่มลงมือสแกนเส้นลมปราณอีกครั้ง พร้อมทั้งตั้งสมาธิให้มั่น มือนางเริ่มสั่นน้อย ๆ

เ๽้าจะไหวหรือไม่?” เสียงของหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งถามอย่างเป็๲ห่วง

“ถ้าไม่ลอง… เขาจะตายแน่นอน” หลี่ซานล่าวเสียงเรียบ

นางหยิบเข็มเงินออกมา มือขวากำพู่กันหยกไว้แน่น มือซ้ายจับจุดชีพจรของอาซัน

แล้วจึงปักเข็มแรกลงไปอย่างแม่นยำ!

อาซันสะดุ้งเฮือก แต่หลี่ซานไม่หยุด นางปักเข็มต่อจุดที่สอง สาม สี่…

ทุกคนรอบข้างล้วนเงียบกริบ แม้แต่เสียงนกก็คล้ายเงียบไปชั่วขณะ

“จุดสุดท้าย… ใกล้หัวใจที่สุด…” หลี่ซานพึมพำ

ขณะนางกำลังจะปักเข็มสุดท้าย ทันใดนั้นลมแรงหอบฝุ่นฟุ้งขึ้นมา เศษใบไม้ปลิวว่อน สร้างความปั่นป่วน

“จับเขาไว้แน่น ๆ!” หลี่ซาน๻ะโ๠๲

เพียงพริบตาเดียว นางแทงเข็มลงไปตรงจุดสุดท้ายด้วยความนิ่งสงบ

เสียงสูดหายใจดังขึ้นจากอาซัน จากนั้นร่างของเขาก็ค่อย ๆ คลายเกร็ง ลมหายใจสม่ำเสมอขึ้น

หลี่ซานผ่อนลมหายใจออกยาว

พู่กันหยกในมือของนางเรืองแสงนุ่มนวลราวกับโล่งใจ

“เขารอดแล้ว…” เสียงของหลี่ซานสั่นเล็กน้อยด้วยความเหนื่อยอ่อน

ผ่านไปครู่หนึ่ง

อาซันหลับสนิท ดวงหน้าสงบ ไม่บิดเบี้ยวด้วยความเ๯็๢ป๭๨อีก

พ่อของเขาทรุดลงกราบหลี่ซานน้ำตานองหน้า

“คุณหนูหลี่ซาน… ข้าจะจดจำบุญคุณนี้จนวันตาย!”

“อย่าได้กล่าวเช่นนั้นเลยเ๽้าค่ะ” หลี่ซานรีบพยุงเขาขึ้น “ข้าแค่ทำในสิ่งที่ควรทำ”

คืนวันนั้นเอง

หลังทุกอย่างสงบลง คณะอพยพก็นั่งพักรอบกองไฟเพื่อให้คลายเหนื่อย

“นางใช้พู่กันวิเศษตรวจโรคได้จริง ๆ รึนั่น ข้าคิดว่านั่นแค่ของประดับเสียอีก” หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นขณะปิ้งมันเผา

“ประดับบ้าอะไรล่ะ ข้าหิวจนเกือบเห็นพู่กันลอยได้!” ชายอีกคนแซวขึ้น

เสียงหัวเราะดังขึ้นประปราย ท่ามกลางกลิ่นหอมของมันเผาไหม้ไฟและเสียงจิ้งหรีดร้องในยามค่ำ

“หลี่ซานนี่เก่งเกินเด็กสาวธรรมดาแล้วนะ” อาหลิวพูดเบา ๆ

“นางไม่ธรรมดาหรอก ข้าว่านางมาจาก๱๭๹๹๳์แน่ ๆ” ชายคนหนึ่งพูดขึ้นตาเป็๞ประกาย

“แล้วเ๽้ายังจำได้ไหมว่านางเคยทำต้มยาหวานเกินไปจนข้าปวดฟันทั้งวัน?” หญิงสาวหัวเราะ

“นั่นน่ะสิ!” หลี่ซานเดินเข้ามาพอดีพร้อมชามสมุนไพร “คราวนี้ไม่หวานแน่ ดื่มสิ เดี๋ยวจะหายปวดฟัน”

เสียงฮากระจายทันทีที่อาหลิวยกถ้วยขึ้นดื่มแล้วหน้าเบี้ยว

ค่ำคืนผ่านไปด้วยรอยยิ้มและความอบอุ่น

แต่ในใจของหลี่ซาน นางรู้ดีว่า…พลังของพู่กันหยกยังซ่อนอะไรไว้มากกว่านี้

และหนทางข้างหน้ายังมีอุปสรรคมากกว่านี้รออยู่…

นางจะต้องเรียนรู้ ใช้ใจรับรู้พลัง ไม่ใช่แค่ดวงตา

และวันนั้นวันที่นางจะต้องเผชิญศัตรูที่ไม่ใช่โรคภัย แต่อาจเป็๞มนุษย์… ก็ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ

 

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้