บอกคนอื่นว่าพวกเรา...ตั้งใจจะมีลูกกันเร็วๆนี้?
พวงแก้มของูเี่อันแดงระเรื่อเธอพยายามเรียกสติตัวเองกลับคืนมาก่อนจะพูดอย่างดุๆ
“ครูอนุบาลโรงเรียนนายไม่เคยสอนหรือไงว่าโกหกคนอื่นมันไม่ดี!แล้วก็ อีกหน่อยอย่าล้อเล่นเื่แบบนี้อีกนะ!”
ได้ยินบ่อยๆเดี๋ยวจะเข้าใจผิด
เข้าใจผิดว่าเธอกับเขาก็มีสิทธิ์ความสุขที่ไม่กล้าแม้แต่จะคิด
หลังหานรั่วซีกลับไปแล้วพวกนักข่าวจึงหันมาจับจ้องลู่เป๋าเหยียนและูเี่อันไม่วางตาเสิ่นเยว่ชวนกับมู่ซือเจวี๋ยและพรรคพวกที่อายุไล่เลี่ยกันเดินเข้ามาหาเห็นได้ชัดว่าพวกเขาสนิทกับลู่เป๋าเหยียน
เสิ่นเยว่ชวนช่วยแนะนำคนกลุ่มนั้นใหู้เี่อันรู้จักทุกคนยิ้มตอบรับและพากันเรียกเธอว่าอาซ้อกันใหญ่ ูเี่อันรู้สึกไม่ชินก็จริงแต่ก็ไม่ได้รังเกียจอะไร
เพราะว่าเธอคือภรรยาของลู่เป๋าเหยียนผู้ชายพวกนี้เลยเรียกเธอว่า อาซ้อ
เธอจึงยิ้มรับอย่างไม่ปฏิเสธ
“เดิมทีพวกเราพนันกันว่าลู่เป๋าเหยียนคงเป็คงสุดท้ายในกลุ่มที่จะแต่งงานไม่นึกเลยว่าเขาจะแต่งงานเป็คนแรกซะงั้น” เริ่มมีคนเผาลู่เป๋าเหยียน“รักกันเงียบๆ ไม่ทันไรก็ได้แต่งงานซะแล้ว”
ทุกคนใช้เื่นี้เป็ข้ออ้างในการมอมเหล้าลู่เป๋าเหยียนซึ่งเขาเองก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังช่วยดื่มแทนูเี่อันตลอด
ก่อนหน้านี้ลู่เป๋าเหยียนก็ดื่มเหล้าไปเยอะพอสมควรตอนนี้ต้องมาดื่มอีกหลายแก้วจนูเี่อันเริ่มเป็ห่วง แต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้เธอจึงดึงชายเสื้อเขาเล็กน้อย
“ไม่เป็ไร”ลู่เป๋าเหยียนมองเธอยิ้มๆ ก่อนจะพูดเสียงเบา “ฉันไม่เมาง่ายขนาดนั้น”
ูเี่อันอาจไม่รู้แต่บรรดาเพื่อนของเขารู้ดีว่าลู่เป๋าเหยียนยอมที่จะดื่มเอง ไม่อย่างนั้นคงกลายเป็พวกเขามากกว่าที่จะถูกลู่เป๋าเหยียนมอมเหล้า
แม้จะไม่รู้ว่าทำไมลู่เป๋าเหยียนถึงยอมดื่มง่ายๆแบบนี้ แต่นี่ถือเป็โอกาสงามที่หาได้ยาก ดังนั้นพวกเพื่อนๆ ของลู่เป๋าเหยียนจึงยิ่งคึกคักจนคนอื่นในงานก็เริ่มเข้ามาร่วมวงขอชนแก้วกับลู่เป๋าเหยียนกันใหญ่
ูเี่อันเห็นดังนั้นก็เริ่มรู้สึกว่าหากปล่อยให้เป็แบบนี้ต่อไปคงไม่ดี เธอจึงฉวยโอกาสลากลู่เป๋าเหยียนออกมา
“พวกเรากลับกันเถอะ”
ลู่เป๋าเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะดูนาฬิกาเขานิ่งไปสักพักก่อนตอบ
“ยังเร็วไป”
ปฏิกิริยาของเขาดูตอบสนองช้าลงนั่นหมายความว่าฤทธิ์ของแอลกอฮอล์เริ่มทำงานแล้วูเี่อันกลัวว่าหากลู่เป๋าเหยียนดื่มมากกว่านี้จะเกิดเื่เธอจึงบังคับให้เขานั่งลง
“นั่งอยู่ตรงนี้เฉยๆ นะฉันจะไปหาเสิ่นเยว่ชวน”
ลู่เป๋าเหยียนนวดขมับเล็กน้อยก่อนจะดึงมือูเี่อันไว้
“เธอจะไปนานไหม”
เขาเริ่มพูดไม่ค่อยรู้เื่แถมยังจับมือเธอไว้แน่น ูเี่อันปลอบใจเขาราวกับปลอบเด็กน้อย
“ห้านาที”
“ได้”ลู่เป๋าเหยียนมองนาฬิกาพลางจับเวลา “ถ้าห้านาทีแล้วเธอยังไม่กลับมาฉันจะไปหาเธอเอง”
ูเี่อันรีบวิ่งออกไปทันทีเสิ่นเยว่ชวนกับมู่ซือเจวี๋ยเป็คนรูปร่างสูงใหญ่ แถมหน้าตาก็โดดเด่นกว่าคนอื่นเธอกวาดตามองแวบเดียวก็เห็นพวกเขา เธอจึงรีบเดินตรงไปหาก่อนจะได้ยินเสียงพวกเขาคุยกันว่าอย่างไรวันนี้ก็ต้องมอมเหล้าลู่เป๋าเหยียนจนเมาให้ได้
นี่มัน...เพื่อนทรยศชัดๆ
เสิ่นเยว่ชวนสังเกตเห็นูเี่อันก่อนจะถามอย่างสงสัย
“บอสลู่ของคุณล่ะ”
“เขาเมาแล้ว”ูเี่อันตอบ “คุณช่วยเรียกอาเฉียนให้ขับรถมาที่หน้าโรงแรมหน่อยสิฉันกับเขาคงต้องกลับก่อน ฝากดูแลทางนี้ด้วยนะ”
พูดจบูเี่อันก็เดินจากไปมู่ซือเจวี๋ยเห็นแล้วอดยิ้มไม่ได้
“ไม่เลวนี่ก่อนไปยังฝากฝังเื่งานกับนายอีก”
“งานปีนี้เธอมีส่วนร่วมในการวางแผนงานด้วย”เสิ่นเยว่ชวนเอ่ย “เห็นตัวเล็กๆ ผอมๆ แบบนี้ เอาเข้าจริงๆ เอาเื่อยู่นะ”
ตอนทีู่เี่อันเดินกลับไปในขณะที่ลู่เป๋าเหยียนยังนั่งจ้องนาฬิกาข้อมืออยู่เหมือนเดิมเมื่อเขาเห็นเธอก็แย้มยิ้มออกมา
“สี่นาทีสิบเจ็ดวิ”
เขาคงเมาแล้วจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำเื่ติงต๊องแบบนี้
ูเี่อันเข้าไปประคองเขา
“ที่เหลือฉันฝากให้เสิ่นเยว่ชวนช่วยดูแลแทนแล้วพวกเรากลับบ้านกันเถอะนะ”
ลู่เป๋าเหยียนหรี่ตามองเธอนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะตอบ
“...ได้สิ”
เขาลุกขึ้นก่อนจะเข้ามาโอบเอวเธออย่างทุกทีและเดินออกจากห้องจัดเลี้ยงไป
อาเฉียนลงมาช่วยเปิดประตูรถให้ลู่เป๋าเหยียนยังคงมีสติอยู่บ้างเขาบอกใหู้เี่อันขึ้นรถก่อนอย่างเป็สุภาพบุรุษ
เมื่อูเี่อันเขยิบตัวนั่งดีแล้วก็รู้สึกถึงน้ำหนักที่หัวไหล่ขวาเธอััได้ถึงกลิ่นหอมของไวน์แดงและลมหายใจอุ่นๆ ของเขาเมื่อหันกลับไปมองก็พบว่า ลู่เป๋าเหยียนกำลังเอนตัวซบลงบนไหล่เธอดวงตาของเขาปิดสนิท ดูท่าจะหลับไปแล้ว
เขาคงเหนื่อยมากสินะเหมือนเมื่อสองครั้งก่อนที่เขาซบไหล่เธอเพราะเหนื่อยจนถึงขีดจำกัด
“กลับบ้านกันเถอะค่ะอาเฉียน”ูเี่อันพูดเสียงเบา
ในรถที่เงียบสนิทเธออดหันไปมองลู่เป๋าเหยียนไม่ได้
ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนใบหน้าของเขาก็หล่อเหลาคมคายจนคนมองอดใจเต้นไม่ไดู้เี่อันนึกไปถึงวันที่เธอเจอลู่เป๋าเหยียนครั้งแรก
วันนั้นแม่ปลุกเธอั้แ่เช้า
“เจี่ยนอันวันนี้แม่จะพาหนูไปเจอคุณน้ากับพี่ชายอีกคนหนึ่งที่บ้านเก่าของคุณยาย”
ซุเจี่ยนอันนั่งสะลึมสะลือไปตลอดทางจนถึงบ้านเก่าเธอยกมือขยี้ตาก่อนจะเห็นภาพของคุณน้ารูปร่างผอมท่านหนึ่งกับเด็กชายวัยรุ่นรูปร่างสูงโปร่งวินาทีนั้นเธอก็ตื่นขึ้นเต็มตา
ก่อนที่จะได้พบลู่เป๋าเหยียนเธอคิดมาโดยตลอดว่าผู้ชายที่หล่อที่สุดในโลกคือพี่ชายของเธอคงไม่มีใครหล่อกว่าเขาอีกแล้ว
แต่แล้วจู่ๆ ลู่เป๋าเหยียนก็ทำให้ความคิดของเธอเปลี่ยนไปเขากับพี่ชายมีอะไรหลายอย่างที่เหมือนกันทั้งคู่แม้จะยังเป็แค่วัยรุ่นแต่ก็มีรูปร่างที่สูงใหญ่ั์ตาของเขาเป็สีดำสนิทราวกับน้ำหมึก ริมฝีปากบางที่ไม่ค่อยเอ่ยคำพูดมากนักรูปหน้าที่ดูเ็าทว่าหล่อเหลาจนบางครั้งเธอก็แอบรู้สึกว่าเขาหล่อกว่าพี่ชายเธอเสียอีก!
เธอรีบปล่อยมือจากแม่และวิ่งตรงเข้าไปหาลู่เป๋าเหยียนก่อนจะเงยหน้ามองเขาพลางเอ่ย
“พี่คะพี่หล่อเหมือนพี่ชายหนูเลย”
เธออุตส่าห์ชมทั้งทีอย่างน้อยเขาก็ควรพูดขอบคุณใช่ไหม? แต่ลู่เป๋าเหยียนกลับมองเธอด้วยสายตาเ็าราวกับไม่ชอบใจที่อยู่ๆ ใครก็ไม่รู้มาทักเขาแบบนี้
เธอในวัยสิบขวบนั้นถูกเลี้ยงมาราวกับเ้าหญิงไม่ว่าใครก็พากันโอ๋อย่างรักใคร่ พวกเด็กผู้ชายต่างพยายามเข้าใกล้เธอ เอาใจเธอซูอี้เฉิงเองยิ่งตามใจเธอเข้าไปใหญ่ แต่แล้วทำไมเมื่ออยู่ต่อหน้าลู่เป๋าเหยียนเขากลับเมินเธอเสียอย่างนั้น
แต่เพราะแม่บอกเธอว่าที่บ้านของเขาเกิดเื่บางอย่างขึ้นทำให้เขาอารมณ์ไม่ค่อยดีแม่บอกให้เธอช่วยเล่นเป็เพื่อนเขาทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้น เธอจึงยอมให้อภัยเขาไม่คิดเล็กคิดน้อยอีกต่อไป
ขนาดเธอเองยังอดชื่นชมในความใจดีของตัวเองไม่ได้แต่ลู่เป๋าเหยียนกลับไม่สนใจไยดีเธอแม้แต่น้อย
ตอนนั้นสภาพจิตใจของเขาคงแย่มากแน่ๆ
พอเธอยิ้มร่าทักทายเขาไปแบบนั้นเขาคงรู้สึกรำคาญใจ
นี่เป็เหตุผลที่เมื่อโตขึ้นไม่ว่าถังอวี้หลันจะชวนเธอไปที่บ้านกี่ครั้งเธอก็ไม่กล้าตอบรับเพื่อไปเจอหน้าลู่เป๋าเหยียนเธอกลัวที่จะต้องเห็นสีหน้าเ็าไม่สนใจไยดีของเขาอีกครั้ง
สี่สิบนาทีให้หลังพวกเธอก็กลับมาถึงบ้าน ูเี่อันหยุดความคิดเื่เก่าๆ ไว้แค่นั้นก่อนจะเขย่าตัวลู่เป๋าเหยียนเบาๆ
“ตื่นเถอะ ถึงบ้านแล้ว”
ผ่านไปสักพักลู่เป๋าเหยียนถึงค่อยๆลืมตาขึ้นมา ูเี่อันกลัวว่าเขาจะหลับไปอีกครั้งจึงรีบเอ่ย
“พวกเราถึงบ้านแล้วลงจากรถกันเถอะนะ”
พูดจบเธอก็ลงไปก่อนอาเฉียนถามเธอว่า
“คุณผู้หญิงจะให้ผมเรียกลุงสวีมาช่วยไหมครับ”
ูเี่อันไม่ทันได้ตอบลู่เป๋าเหยียนก็ลงจากรถและโถมร่างเข้ามาก่อนจะพูดเสียงเบาที่ข้างหูเธอ
“อย่าเรียกคนอื่นฉัน้าแค่เธอ”
น้ำเสียงของเขาปนความขบขันูเี่อันรู้ว่าเขาจงใจแกล้งเธอ ลู่เป๋าเหยียนคงเมาแล้วจริงๆว่าแล้วเธอก็เข้าไปประคองเขา
“โอเคงั้นนายรีบเข้าไปในบ้านกับฉัน”
ลู่เป๋าเหยียดยิ้มอย่างพอใจูเี่อันเห็นแล้วอดบ่นในใจไม่ได้ว่า ทำไมตานี่เมาแล้วถึงทำตัวอย่างกับเด็กน้อยแบบนี้เนี่ย
เธอประคองเขาให้เข้าไปในบ้านลุงสวีกับป้าหลิวเห็นดังนั้นก็ทำท่าจะเข้ามาช่วยแต่ลู่เป๋าเหยียนกลับรัดเอวเธอไว้แน่น เธอจึงรีบเอ่ย
“ลุงสวีไปพักผ่อนเถอะค่ะเขาดื่มมาเยอะมากก็จริง แต่ไม่เมาขนาดนั้น หนูจัดการไหวค่ะ”
ไม่รอให้ลุงสวีได้พูดอะไรลู่เป๋าเหยียนก็ลากเธอขึ้นไปข้างบนซะแล้ว
ตอนที่เดินผ่านห้องนอนเธอเขาไม่แม้แต่จะหยุดฝีเท้าสักนิด เขาลากเธอเดินตรงไปที่ห้องนอนของเขาก่อนจะเปิดประตูด้วยท่าทางที่ไม่เหมือนคนเมาสักนิด
ปัง! เสียงปิดประตุดังขึ้นูเี่อันกำลังจะไล่ให้เขาไปอาบน้ำ แต่เขากลับดันตัวเธอให้ชิดประตูห้องก่อนจะจ้องตาเธออย่างลึกซึ้ง
“ละ ลู่เป๋าเหยียน?” ูเี่อันชักไม่มั่นใจนี่เขาคิดจะทำอะไร?
จู่ๆ ลู่เป๋าเหยียนก็ก้มหน้าลงมาจูบเธอ
ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาลิ้นที่ยังคงมีรสชาติของไวน์แดงหลงเหลืออยู่ เขาเชยคางเธอให้รับััอย่างช้าๆ และดูดดื่มูเี่อันชักจะสงสัยว่าเขาสร่างเมาแล้วหรือเปล่า
ูเี่อันเริ่มดิ้นขัดขืนแต่ลู่เป๋าเหยียนกดไหล่เธอไว้ ก่อนจะจูบใบหูของเธอและพูดกล่อม
“อยู่นิ่งๆ นะเจี่ยนอันอย่าไปไหน”
เขายังเรียกชื่อเธอได้นั่นหมายความว่ายังพอมีสติอยู่บ้าง ูเี่อันผลักเขาให้ออกห่างเล็กน้อย
“ไปอาบน้ำ”
“ไม่เอา”ลู่เป๋าเหยียนเถียงเธออย่างกับเด็กๆ ก่อนจะรวบตัวเธอเข้าสู่อ้อมกอดอย่างเอาแต่ใจเขาจูบเธออีกครั้ง พลางเอ่ยเรียกชื่อเธอไม่หยุด
ูเี่อันอยากจะร้องไห้ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเขาไม่ได้เมามากก็จริงแต่ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่มีก็มากพอที่จะทำให้เขาทำอะไรอย่างขาดสติความสามารถในการควบคุมตัวเองของเขาหายไปกว่าครึ่งเขาถึงได้ทำตัวเอาแต่ใจอย่างกับเด็กน้อยแบบนี้
เธอรู้แล้วว่าจะปลอบเขาอย่างไรดีว่าแล้วเธอก็โอบแขนรอบคอเขาก่อนจะจูบเขาตอบกลับไปเพื่อซึมซับแอลกอฮอล์จากริมฝีปากของเขาเข้ามาแทนจนเธอเริ่มรู้สึกว่าตัวเองก็จะเมาแล้วเหมือนกัน
ลู่เป๋าเหยียนเผลอมือปล่อยเล็กน้อยตามคาดเธอจึงรีบใช้โอกาสนี้พูดขึ้นว่า
“นายไปอาบน้ำก่อนดีไหมฉันไม่หนีไปไหนหรอก”
เขานิ่งคิดอยู่สักพักก่อนจะปล่อยมือจากเธออย่างไม่ค่อยเต็มใจก่อนจะมองสำรวจสีหน้าเธออยู่อย่างนั้น คงเพราะไม่เห็นว่าเธอกำลังโกหกในที่สุดเขาจึงตอบ
“ก็ได้”พูดจบเขาก็เดินเข้าห้องน้ำไป
ตอนที่เธอหยิบชุดนอนของเขาออกมาวางไว้เสียงน้ำไหลก็ดังขึ้นพร้อมกับน้ำเสียงที่ดูเมานิดๆ ของลู่เป๋าเหยียน
“เจี่ยนอัน?”
“ฉันอยู่ข้างนอก”เธอรีบตอบทันที เพราะกลัวเขาจะออกมา
“ดีมากรอฉันก่อนนะเด็กดี เดี๋ยวฉันจะรีบออกไปหา” ลู่เป๋าเหยียนเอ่ย
“อย่าหนีไปไหนนะฉันรู้นะ”
ูเี่อันอดขำไม่ได้นี่ตกลงเขาเมาจริงหรือว่ามีสติดีครบร้อยกันเนี่ย?
ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นเสียงน้ำก็หยุดลงเขาเรียกชื่อเธออีกครั้ง เธอจึงรีบตอบ
“ชุดนอนอยู่ตรงนี้”
เสียงเปิดประตูดังขึ้นูเี่อันสะดุ้งโหยง ดีที่เขาแค่โผล่หัวออกมาก่อนจะมองเธอยิ้มๆ
“เธอถือชุดนอนของฉันไว้ทำไม? จะช่วยใส่ให้ฉันเหรอ?”
“โรคจิต”ูเี่อันยัดชุดนอนใส่มือเขา ก่อนจะปิดประตูดังปัง
ลู่เป๋าเหยียนสวมชุดนอนอย่างรวดเร็วก่อนจะเดินมึนๆ มาหาเธอทั้งๆ ที่ผมยังเปียกอยู่
“ผมนายยังเปียกอยู่เลย”
เขายื่นผ้าเช็ดตัวให้เธอราวกับเสกมันออกมา
“เช็ดให้หน่อย”
ตานี่กลายเป็เด็กน้อยแสนเอาแต่ใจไปแล้วจริงๆด้วย แตู่เี่อันกล้าปฏิเสธเสียที่ไหนเธอรับผ้าเช็ดตัวผืนนั้นก่อนจะกดตัวให้เขานั่งลง
“ลู่เป๋าเหยียนตกลงนายเมาหรือไม่เมาเนี่ย”
“แล้วมันต่างกันยังไง”ลู่เป๋าเหยียนถามย้อน
ูเี่อันนิ่งคิดที่จริงมันก็ไม่ต่างกันเท่าไร ถ้าเขาเมาแล้ว เธอก็ต้องดูแลเขา แต่ถ้าเขาไม่ได้เมานี่ก็คือคำสั่งของเขาที่ต่อให้เธอ้าปฏิเสธเขาก็จะคิดทุกวิถีทางทำให้เธอยอมทำตามจนได้
สรุปคือ เขาจะเมาหรือไม่เมาเธอก็ต้องปรนนิบัติเขาอยู่ดี
เธอถอนหายใจก่อนจะช่วยเป่าผมเขาให้แห้งขณะนั้นเองูเี่อันก็คิดเื่ดีๆ ออก
ปกติเขามักจะทำผมอยู่ทรงเดียวถ้าวันนี้เธอลองจัดทรงใหม่ เสยผมเขาไปข้างหลังให้หมดเขาจะดูน่าเกลียดขึ้นสักนิดไหมนะ?
