นักดนตรีพิธีการของทั้งสองฝั่งไม่มีใครกล้าชักช้า รีบจัดขบวนอย่างรวดเร็วและเริ่มบรรเลง ฆ้อง กลอง แตร บรรเลงกันอย่างมีความสุข พูดว่ามีความสุขมากเท่าไรก็ต้องเฉลิมฉลองให้ได้มากเท่านั้น
หานอวิ๋นซียกมือขึ้น หวังซีผอก็รีบก้าวเข้าไปช่วย หากเ้าสาวลงจากเกี้ยวเ้าสาวแล้วนางไม่เข้าไปช่วย ในสายตาของทุกคน ความผิดทั้งหมดก็จะเป็ของนาง!
ท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงของผู้คนหลายร้อยคน หานอวิ๋นซียืดหลังตรงและเดินขึ้นบันไดทางเข้าจวนฉินอ๋องทีละก้าวอย่างสง่างาม ราวกับว่าความสง่างามของท้องฟ้าทั้งหมดถูกพรากไปโดยนางผู้เดียว ดูสูงศักดิ์และไม่มีใครกล้าล่วงเกินได้
จนทำให้หลายคนลืมไปว่าแต่เดิมนางเป็ผู้หญิงหน้าตาน่าเกลียด
โดยไม่คาดคิด เมื่อหานอวิ๋นซีก้าวขึ้นบันไดขั้นสุดท้ายและยืนอย่างมั่นคง ทันใดนั้นก็มีลูกธนูสีดำพุ่งมาจากด้านข้าง เฉี่ยวผ้าคลุมหน้าเ้าสาวของนางจนร่วงลงบนพื้น
“อ๊าย...มีคนลอบสังหาร! มีคนลอบสังหาร!” หวังซีผอกรีดร้องเสียงดัง ปล่อยมือแล้ววิ่ง ทว่านางที่ไม่ทันระวังจึงกลิ้งตกลงจากบันไดหินสูง
องครักษ์หลายนายรีบออกมาจากทั้งสองด้านของจวนอ๋องทันที ทว่าเมื่อมองไปรอบๆ กลับไม่พบนักฆ่า ผ่านไปนานไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ นอกจากลูกธนูนี้
ทุกคนต่างตื่นตระหนก หานอวิ๋นซีเองก็ใเช่นกัน หัวใจเต้นสั่นระรัว นางรู้วิธีล้างพิษแต่ไม่รู้ศิลปะการต่อสู้ อีกเพียงนิดเดียวเท่านั้นลูกธนูนี้ก็จะพุ่งเข้าใส่ศีรษะของนาง ช่างน่ากลัวเหลือเกิน!
หัวหน้าองครักษ์เดินเข้ามา หยิบผ้าคลุมหน้าเ้าสาวขึ้นมา ตรวจสอบลูกธนูแล้วยื่นให้คนข้างๆ
“คุณหนูหาน นี่ขอรับ” หัวหน้าส่งผ้าคลุมหน้าเ้าสาวให้
หานอวิ๋นซีตบหน้าอกและรวบรวมสติ ก่อนที่จะหันไปหยิบมันมา “ขอบคุณ”
โดยไม่คาดคิด ทันทีที่นางหันกลับมา หัวหน้าองครักษ์ก็เบิกตากว้างทันที แล้วะโออกมา “อ๊าก” และถอยหนีด้วยความตื่นตระหนก
เนื้องอกหายไปแล้ว นางยังน่าเกลียดอยู่อีกหรือ?
หานอวิ๋นซีรู้สึกเศร้าใจกับปฏิกิริยาตื่นตระหนกของหัวหน้าองครักษ์
แต่น่าเกลียดก็คือน่าเกลียดอยู่ดี อย่างไรนางก็ใช้มือกินข้าว ไม่ได้ใช้หน้าเสียหน่อย หานอวิ๋นซีหันหลังให้ทุกคนและเตรียมใจ จากนั้นจึงหันหน้ากลับ แล้วยื่นผ้าคลุมหน้าเ้าสาวออกไป “หวังผอผอ ไม่มีอะไรแล้ว เ้าขึ้นมาเถอะ”
คาดไม่ถึงว่าทันทีที่หันกลับไป ทุกคนที่อยู่ด้านหลังก็อ้าปากค้าง และเสียงกรีดร้องของหวังซีผอก็ดังขึ้นกว่าเดิม “คุณ...คุณ...คุณหนูเป็อะไรไป...”
หานอวิ๋นซีไม่รู้ว่าตัวเองหันกลับมาแล้วกลายเป็คนงามล่มเมืองได้อย่างไร จู่ๆ ก็ได้ยินใครบางคนในฝูงชนะโว่า “สวยมาก! เ้าคือหานอวิ๋นซีจริงๆ หรือ?”
สวย? ทว่ายังไม่ทันที่นางจะได้สติกลับคืนมา ด้านล่างก็เกิดความวุ่นวายขึ้น
“ไหนบอกว่าหานอวิ๋นซีเป็ผู้หญิงน่าเกลียดไง? นี่มันอะไรกัน?”
“ข่าวลือหลอกลวงชัดๆ หานอวิ๋นซี เ้าสวยกว่าสาวงามอันดับหนึ่งของเทียนหนิงเสียอีก!”
“ฉินอ๋องทรงทราบหรือไม่? ข่าวลือนั้นมันเชื่อถือไม่ได้!”
...
ชั่วขณะหนึ่ง มีเสียงต่างๆ มากมายดังขึ้นต่อเนื่องกันเป็ระลอก แม้แต่คนของตระกูลหานก็ไม่อยากจะเชื่อ ครู่หนึ่งพวกเขาสงสัยว่าหานอวิ๋นซีถูกสลับตัว แต่หากปิดใบหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง คนผู้นี้ก็คือหานอวิ๋นซีที่ปลอมตัวมา
อาจกล่าวได้เพียงว่ารูปลักษณ์ที่มีเสน่ห์ของหานอวิ๋นซี ถูกเนื้องอกปิดบังมานานเกินไป วันนี้เลยทำให้เป็ที่ฮือฮาไปทั่วทั้งเมือง
มีเสียงเอะอะโวยวายที่ประตู จนดังไปถึงห้องโถงใหญ่ของจวนอ๋อง อี้ไท่เฟยและมู่หรงหว่านหรูต่างตกตะลึงเมื่อได้ยินรายงานของนางกำนัล ทั้งสองที่นั่งอยู่ด้วยกันในห้องโถงใหญ่ ร้อนรนจนอยากออกไปดูด้วยตัวเอง...
ขณะเดียวกัน หวังซีผอได้สวมผ้าคลุมหน้าเ้าสาวให้หานอวิ๋นซีใหม่อีกครั้ง และช่วยให้นางข้ามธรณีประตูสูง
จนกระทั่งเ้าสาวก้าวข้ามธรณีประตูไป ทุกคนยังคงตกตะลึงในความงามของนางจนลืมไปเลยว่ามีการพนันอยู่
ในฝูงชน มีสาวงามที่แต่งตัวดีนางหนึ่งกำลังดึงบุรุษที่อยู่ข้างๆ แล้วหันไปด้วยความโกรธ
“พี่ใหญ่ ใบหน้าของหานอวิ๋นซีต้องมีอะไรผิดไปแน่ๆ! ข้าไปแอบดูนางมาก่อนหน้านี้ นางหน้าตาน่าเกลียดมาก แค่เห็นก็อยากจะอาเจียนแล้ว!”
หญิงสาวคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากมู่หลิวเยวี่ย คุณหนูสามของจวนแม่ทัพมู่ในเทียนหนิง และคนที่อยู่ข้างๆ นางคือมู่ชิงอู่ซึ่งเป็แม่ทัพใหญ่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเทียนหนิง
เขาเป็ชายรูปงามคนหนึ่งที่มีโครงหน้าเฉียบคมและลุ่มลึก แม้ไม่มีเกราะก็ยังดูสง่างามและหล่อเหลา ดวงตาคมเป็ประกาย ตรงไปตรงมาและสง่าผ่าเผย
ธนูเมื่อครู่เป็ฝีมือของมู่หลิวเยวี่ย นางเป็ผู้จงรักภักดีและซื่อตรงต่อฉินอ๋องแห่งเทียนหนิง และเกลียดหานอวิ๋นซีเช่นเดียวกับคนอื่นๆ เดิมทีนาง้าทำให้หานอวิ๋นซีอับอายในที่สาธารณะ แต่ใครจะไปรู้ว่ากลับเป็การเปิดตัวให้นางเสียอย่างนั้น
มู่ชิงอู่รู้สึกรำคาญกับเสียงดัง เขาคว้าข้อมือของมู่หลิวเยวี่ยและพูดอย่างเกรี้ยวกราดว่า “นี่ใช่สถานที่ที่ให้เ้าสร้างปัญหาหรือไร? ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!”
เดิมทีเขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเื่นี้ แต่กลับถูกดึงดูดโดยความกล้าหาญของเ้าสาว จึงหยุดและดูมันชั่วขณะหนึ่ง แต่ไม่คาดคิดว่าในเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยคนที่ไม่รักศักดิ์ศรีจะมีคนที่กล้าหาญอยู่ ทั้งยังเป็ผู้หญิงอีก
มู่หลิวเยวี่ยคุ้นเคยกับความหยาบคายของพี่ชายตนเองมานานแล้ว ดังนั้นจึงคว้ามือของเขาแล้วพูดออดอ้อนว่า “พี่ชาย! ต้องมีบางอย่างผิดปกติกับสตรีนางนั้นแน่ๆ”
“จะมีอะไรผิดปกติ มันก็ไม่ใช่เื่ของเ้า กลับไปซะ!” มู่ชิงอู่สั่ง
“ข้าไม่พูดกับท่านแล้ว!” มู่หลิวเยวี่ยมุ่ยปากและี้เีเกินกว่าจะคุยกับเขาอีกต่อไป วางแผนในใจว่านางต้องไปหาพวกพี่สาวที่สนิท แล้วให้ทุกคนพยายามหาทางตรวจสอบ บางทีหานอวิ๋นซีผู้นี้อาจจะเป็ตัวปลอมจริงๆ ก็ได้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้