แม้ว่าหลินกู๋หยู่จะบอกฉือหางว่าไม่ต้องไปส่งนาง แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ยังคงยืนยันที่จะส่งนางไปโรงหมอให้ได้
หลินกู๋หยู่ยังคงว่างมาก เดิมทีที่นี่ก็เป็สถานที่ที่ดี แต่มีคนที่มองนางด้วยแววตาที่ฉายแววเกลียดชัง ทำให้หลินกู๋หยู่รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
ไม่ว่าหลินกู๋หยู่จะทำอะไร หมอตู้ก็มักจะพูดแทรกอยู่เนือง ๆ คอยพูดในสิ่งที่ไม่น่าฟัง
"ร่างกายของท่านไม่มีอะไรร้ายแรง" หลินกู๋หยู่มองผู้ป่วยที่อยู่ข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม "หลังจากที่เ้าทานยาและพักผ่อนให้เพียงพอ ร่างกายของเ้าก็จะกลับมาดีเป็ปกติแล้ว"
"เหลวไหล" หมอตู้ที่นั่งตรงข้ามกับหลินกู๋หยู่พูดพึมพำ "ฤดูหนาวนี้อาการป่วยมีแต่จะเลวร้ายลง จะต้องบำรุงรักษาตัวเองให้ดี เ้าจะไม่ดีขึ้นจนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า"
ใบหน้าของผู้ป่วยกระอักกระอ่วนเล็กน้อย เขาหยิบใบสั่งยาไปยังห้องจ่ายยาเงียบๆ
หลินกู๋หยู่มองไปที่หมอตู้ด้วยสีหน้ารังเกียจ หลังจากเห็นว่ารอบๆ ผู้คนเริ่มบางตา นางจึงเดินช้าๆ ไปยังเบื้องหน้าหมอตู้
"หมอตู้ ข้าไม่รู้ว่าข้าไปทำอะไรให้ท่านขุ่นเคืองนัก ทำไมท่านถึงได้ขัดข้าเช่นนี้อยู่เรื่อย?" หลินกู๋หยู่กอดอกมองไปที่หมอตู้ด้วยสายตาเ็า "ถ้าท่านมีอะไรจะพูด ท่านก็พูดออกมาตรงๆ เถอะ"
หมอตู้ก้มหน้าลง ในมือข้างหนึ่ง ถือหนังสือ มืออีกข้างกำลังคัดลอกอย่างจริงจัง
หลินกู๋หยู่เอื้อมมือไปหยิบหนังสือจากมือของหมอตู้ มองไปที่หมอตู้ด้วยแววตาเย็นเยียบ
"เอามาให้ข้า!" หมอตู้เอื้อมมือไปหยิบหนังสือจากมือของหลินกู๋หยู่
"ข้าไม่รู้ว่าทำไมท่านถึงไม่พอใจข้าอยู่เรื่อย ถ้าท่านมีอะไรจะพูด ตอนนี้ข้าจะตั้งใจฟัง" หลินกู๋หยู่มองไปที่หมอตู้ด้วยแววตาเ็า
หมอตู้เป็ชายวัยสี่สิบหรือห้าสิบปี หลินกู๋หยู่ไม่เคยคิดจะโต้เถียงกับเขามาก่อน
แต่เขากำเริบเสิบสานหนักกว่าเดิมแล้ว
หลินกู๋หยู่พิจารณารูปลักษณ์ของหมอตู้ และวางหนังสือในมือไว้ข้างหลัง
หมอตู้ยืนขึ้น สายตากวาดมองหลินกู๋หยู่ั้แ่หัวจรดเท้า
หลินกู๋หยู่มองไปที่หมอตู้อย่างสงบเสงี่ยม ยกริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงเฉยเมย "ท่านไม่พอใจข้าไม่ใช่หรือ?"
"เอาหนังสือมาให้ข้า" หมอตู้ยื่นมือเข้าหาหลินกู๋หยู่
"วันนี้ข้าจะรอการสั่งสอนจากท่าน" ไม่รู้เช่นกันว่าด้วยสาเหตุใดวันนี้นางถึงได้หงุดหงิดมากถึงเพียงนี้ "อย่าพูดพึมพำด้านหลังข้าทั้งวัน ถ้าอยากจะพูด ท่านก็พูดออกมาตรงๆ"
ดวงตาหมอตู้ชำเลืองมองหลินกู๋หยู่ฉายแววขยะแขยง เขากระแอมไอ ชี้ใบหน้าหลินกู๋หยู่ด้วยความโกรธ "เ้ามันก็แค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ เ้าคิดว่าทักษะทางการแพทย์ของเ้าดีมากเท่าใดกัน เ้าไม่แม้แต่จะ..."
“ข้าไม่เคยพูดว่าทักษะทางการแพทย์ของข้าดี” หลินกู๋หยู่กล่าวอย่างเคร่งขรึม “ท่านกำลังจะยอมรับทางอ้อมว่าทักษะทางการแพทย์ของข้าดีงั้นหรือ?”
เมื่อได้ยินสิ่งที่หลินกู๋หยู่พูด หมอตู้ก็จ้องมองที่หลินกู๋หยู่อย่างถมึงทึง ฟาดฝ่ามือบนโต๊ะสุดแรง
เขาอยู่มาสี่สิบปีแล้ว ไม่เคยมีใครอาจหาญพูดกับเขาเช่นนี้
“หมอตู้” หลินกู๋หยู่ขมวดคิ้วมุ่น หรี่ตาเล็กน้อย พินิจมองหมอตู้จากศีรษะจรดปลายเท้าด้วยความไม่เชื่อ “ท่านอายุมากถึงเพียงนี้แล้ว ทำไมท่านถึงได้มีปัญหากับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างข้าหรือ?”
"ไสหัวไป!" หมอตู้ได้ยินดังนั้นก็พูดไม่ออก สีหน้าของเขาน่าเกลียดมาก
หลินกู๋หยู่วางหนังสือในมือลงบนโต๊ะของหมอตู้ แล้วพูดอย่างเนิบๆ ว่า "ท่านเป็ถึงผู้าุโ ถ้าข้าทำอะไรผิด ท่านก็สามารถบอกข้าตรงๆ ได้ ทำไมต้องอ้อมไปอ้อมมาเช่นนี้ด้วย?"
เมื่อได้ฟังสิ่งที่หลินกู๋หยู่พูด ใบหน้าของหมอตู้ก็น่าเกลียดกว่าเดิม "ถ้าไม่ใช่เพราะนายน้อยลู่ชอบเ้า เ้าคิดว่าเ้าจะอยู่ที่นี่ได้หรือ?"
การแสดงออกบนใบหน้าของหลินกู๋หยู่ชะงักชั่วครู่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหมอตู้ ขมวดคิ้วเล็กน้อย "ท่านกำลังพูดพล่ามอะไร?"
ลู่จื่อยู่ชอบนางหรือ?
เป็ไปได้อย่างไร?
ลู่จื่อยู่ไม่เคยทำอะไรเกินเลยกับนาง
หมอตู้มองดูสีหน้าของหลินกู๋หยู่ แล้วพูดด้วยความขบขันว่า "เป็สตรีที่มีสามีแล้ว ไม่ยอมอยู่ในบ้านให้ดี แต่มาอยู่กับพวกเราที่เป็ผู้ชายทั้งวัน เ้าไม่รักษาจรรยาบรรณสตรี เ้าคิดว่าเ้าปฏิบัติตามความรับผิดชอบของเ้าแล้วหรือยัง?”
หลังจากได้ฟังหมอตู้ หลินกู๋หยู่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี
"ความรับผิดชอบของสตรีก็คือการดูแลสามี เลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน แต่เ้าทิ้งลูกและสามีไว้เื้ั ซ้ำยังยั่วยวนนายน้อยลู่ เ้าคิดว่าเ้าไม่ผิดหรือ?"
ทุกคำพูดของหมอตู้เสมือนเข็มเงินที่จี้แทงเข้าไปที่หัวใจของหลินกู๋หยู่
หลินกู๋หยู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นานนางก็พูดว่า "ท่านพูดพล่ามอะไร?"
เสี่ยวซื่อซึ่งเดินมาจากสวนหลังโรงหมอเห็นว่าการแสดงออกทางสีหน้าของหลินกู๋หยู่และหมอตู้ผิดแปลกไป จึงรีบเข้าไป
"ถ้าเ้าไม่ยั่วยวนนายน้อยลู่ เ้าจะมาที่นี่ได้หรือ เฮอะๆ น่าขันดี เ้าอายุเท่าไรกัน เ้าเริ่มเรียนเมื่อไร เ้าเรียนแพทย์กับใคร?" หมอตู้ก้าวเท้าไปยังด้านหน้าหลินกู๋หยู่หนึ่งก้าว เอ่ยอย่างดูถูก "ข้าจำได้ว่าเ้าเคยบอกว่าเ้าเคยอ่านหนังสือ ถ้าเช่นนั้นเ้าบอกข้าที ว่าใครเป็คนสอนให้เ้ารู้จักตัวหนังสือ?"
หลินกู๋หยู่มองไปที่หมอตู้ด้วยความตื่นตระหนก กัดริมฝีปากล่างแน่น
“บอกไม่ได้ใช่หรือไม่?” หมอตู้กอดหน้าอกและมองไปที่หลินกู๋หยู่อย่างมีชัย “ก็เห็นๆ อยู่ว่าเ้าเป็นักต้มตุ๋น แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าเ้าเรียนรู้มาจากใคร เ้าคิดว่าเ้าสามารถหลอกคนอื่นได้ แต่เ้าหลอกข้าไม่ได้"
หลินกู๋หยู่มองไปที่หมอตู้ด้วยความตื่นตระหนก นางกำมือแน่น
"ทำไม ข้าพูดจี้จุดอ่อนของเ้าแล้วใช่หรือไม่?" หมอตู้มองหลินกู๋หยู่จากศีรษะลงจรดหัวปลายเท้า อย่างขบขัน "เ้าก็ทำเงินจากที่นี่ได้มากมายแล้ว เ้าไม่รู้จักสำนึกหรืออย่างไร เลิกต้มตุ๋นได้แล้ว หรือเ้าจะรอให้ถึงวันที่เสียน้ำตาก่อนถึงจะหยุดใช่หรือไม่?”
"หมอตู้" เสี่ยวซื่อกระวีกระวาดเดินไปยังระหว่างคนทั้งสอง "ท่านกำลังพูดอะไร ถ้าคนอื่นมาเห็นท่านในสภาพเช่นนี้ มันจะแย่เพียงใด?"
"คนที่ควรละอายใจควรเป็นักต้มตุ๋นคนนี้" หมอตู้มองไปที่หลินกู๋หยู่ด้วยความขยะแขยง น้ำเสียงของเขาเ็า "ยังไม่รีบไปจากที่นี่อีก ข้าจะบอกเ้าให้ ตราบใดที่เ้ายังอยู่ที่นี่ ข้าจะไม่ยอมให้เ้าอยู่อย่างสงบแน่”
หลินกู๋หยู่หัวเราะเยาะตัวเอง เงยหน้ามองหมอตู้ เอ่ยถามด้วยความไม่เชื่อ "หมอตู้ ท่านบอกว่าข้าเป็นักต้มตุ๋น ทักษะทางการแพทย์ของข้าล้วนเป็เื่โกหก เช่นนั้นท่านสุ่มพูดอาการป่วยมา คอยดูว่าข้าจะสามารถตอบท่านได้หรือไม่?"
หมอตู้มองหลินกู๋หยู่ด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
หลินกู๋หยู่เดินไปที่ตู้ยาด้านข้าง ชี้ไปที่สิ่งของที่อยู่้า "ท่านอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว?"
“ยี่สิบปี” เมื่อหมอตู้กล่าวถึงเื่นี้ เขาดูภูมิใจมากเป็พิเศษ
“ถ้าเช่นนั้นยาในแต่ละชั้นของตู้ยาเหล่านี้ ท่านก็ต้องรู้ชัดเจนสินะ” หลินกู๋หยู่ยืนอยู่ด้านหน้าตู้ยา ชี้ไปที่ตู้ยาที่อยู่ข้างหลังด้วยสีหน้าสงบเสงี่ยม
“ไร้สาระ” หมอตู้เดินนำหน้าหลินกู๋หยู่ด้วยความโกรธฮึดฮัด “ข้าแค่เขียนใบสั่งยา ข้าจะจำยาเหล่านี้ทั้งหมดได้อย่างไร?”
หลินกู๋หยู่ลดสายตาลงช้าๆ "ข้าจำได้ว่าคนที่เรียนแพทย์จะต้องจำยาในตู้ยาเหล่านี้ได้ั้แ่เริ่มเรียน"
เมื่อได้ยินสิ่งที่หลินกู๋หยู่พูด หมอตู้ก็ขมวดคิ้วมุ่น
เมื่อเขายังวัยเยาว์ เขาจำมันได้ทั้งหมดจริงๆ แต่หลังจากเวลาผ่านไปหลายปี เขาก็ไม่ได้แตะต้องตู้ยามากนัก เขาจะจำมันได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตาม ยามนี้เขาจำไม่ได้ และแน่นอนว่าหลินกู๋หยู่ก็จำไม่ได้เช่นกัน นางไม่เคยแตะต้องตู้ยาเลย
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ หมอตู้มองหลินกู๋หยู่อย่างภาคภูมิใจ เหลือบมองตู้ยาข้างๆ เขา "หรือเ้าจำได้?"
หลินกู๋หยู่หันหลังให้ตู้ยา วางมือไว้หน้ากล่องยา "นี่คือเหลียนเฉียว[1]!"
"นี่คืออู่เว่ย์จื่อ[2]!"
"นี่คือโสมคน[3]!"
"นี่คือหนิวหวง[4]!"
"นี่คือพู่ระหง[5]!"
......
หลินกู๋หยู่กล่าวถึงชื่อยามากกว่ายี่สิบรายการติดต่อกัน ค้นหาตำแหน่งที่แน่นอนของยาเ่าั้อย่างถูกต้อง
หมอตู้จ้องมองที่หลินกู๋หยู่อย่างตกตะลึง เสียงของเขาสั่นเครือ “เ้า เ้าจำมันได้ั้แ่เมื่อไร?”
“ปกติไม่ควรจดจำสิ่งเหล่านี้หรือ?” หลินกู๋หยู่เอียงศีรษะเล็กน้อย น้ำเสียงของนางนิ่งสงบ “ข้าเป็บัณฑิตศึกษาแพทย์ ย่อมต้องจดจำสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเพราะข้าเพิ่งเข้ามาใหม่ อยู่ที่นี่ไม่กี่วันข้าก็จำสิ่งเหล่านี้ได้แล้ว"
เมื่อพูดดังนั้น หลินกู๋หยู่ก็เดินช้าๆ เข้ามาหาหมอตู้ด้วยความมั่นใจ "หมอตู้ ท่านบอกว่าข้าเป็นักต้มตุ๋น นั่นเพราะท่านคิดว่าข้าไม่มีความสามารถ ตอนนี้ข้าจะบอกท่านว่า ข้าพึ่งตนเองมาโดยตลอด"
“อย่าใช้ความคิดของท่านมาตัดสินคนอื่น” หลินกู๋หยู่เหลือบมองกลับไปที่ตู้ยา หยิบยาขึ้นมาจากบนโต๊ะอย่างสบายๆ “ยานี้มีน้ำหนักสองเฉียน”
เสี่ยวซื่อมองไปที่หลินกู๋หยู่ด้วยความประหลาดใจ รีบชั่งยาในมือของหลินกู๋หยู่ด้วยตาชั่ง มันหนักสองเฉียนจริงๆ ด้วย
จากนั้นหลินกู๋หยู่คว้ายาตัวถัดไป นางหรี่ตาเล็กน้อย "ยานี้หนักสี่เฉียน"
เสี่ยวซื่อรีบเอาไปชั่งน้ำหนัก พบว่ามันหนักสี่เฉียนจริงๆ
หมอตู้ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความตื่นใ
ไม่น่าแปลกใจเลยที่หลินกู๋หยู่จะสามารถรู้ตำแหน่งของวัสดุยาทั้งหมดได้ แต่เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่านางจะหยิบวัสดุยาได้น้ำหนักที่แม่นยำถึงเพียงนี้
"ต้องหยิบยาจำนวนมากเท่านั้น ถึงจะสามารถประเมินน้ำหนักของมันได้" หลินกู๋หยู่มองไปที่ยาบนโต๊ะ "ยาเหล่านี้มีรูปร่างต่างกัน ดังนั้นจึงใช้ปริมาณในการคำนวณไม่ได้"
ใบหน้าของหมอตู้แดงเล็กน้อย เขาเอียงศีรษะเพื่อมองไปข้างๆ อย่างอับอาย "มีคนมากมายที่รู้เื่นี้ ถ้านายน้อยไม่ชอบเ้า เ้าคิดว่าเ้าจะเข้ามาที่นี่ได้หรือ?"
“ลุงตู้!”
เมื่อหลินกู๋หยู่ได้ยินเสียงนี้ นางหันศีรษะไปมองที่ประตูที่นำไปสู่สวนหลังโรงหมอ ลู่จื่อยู่ก็จ้องมาทางด้านนี้
หลินกู๋หยู่ลดศีรษะลง พยายามลดความรู้สึกของการดำรงอยู่ให้มากที่สุด
"นายน้อยลู่" หมอตู้แสดงสีหน้าไม่สบายใจ เมื่อเห็นลู่จื่อยู่เดินเข้ามา "ท่านมาที่นี่ได้อย่างไร?"
"ข้ามาไม่ได้งั้นหรือ?" ลู่จื่อยู่มองไปที่หมอตู้ด้วยสายตาเย็นเยียบ แววตากวาดมองใบหน้าหลินกู๋หยู่อย่างเ็า "เ้าตามข้ามา!"
หลินกู๋หยู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ชำเลืองมองหมอตู้ที่ออกอาการรู้สึกผิดอยู่ข้างๆ จากนั้นกวาดสายตามองไปที่เสี่ยวซื่อที่ก้มศีรษะ จากนั้นเดินช้าๆ ไปหาลู่จื่อยู่อย่างเอื่อยเฉื่อย
หลังจากไปถึงโกดังในสวนหลังโรงหมอ ลู่จื่อยู่ก็หยุดเดิน
หลินกู๋หยู่เงยหน้าขึ้นมองลู่จื่อยู่ พร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย "เ้าให้ข้ามาที่นี่ทำไม?"
ลู่จื่อยู่คิดไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองหลินกู๋หยู่ แต่แล้วเขาก็กลืนคำพูดที่ออกมาถึงริมฝีปากกลับไปอีกหน
รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยที่ถูกลู่จื่อยู่มองเช่นนี้ หลินกู๋หยู่ก้าวถอยหลังเล็กน้อย ลดศีรษะลงด้วยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
…………………………………………………………..
[1] เหลียนเฉียว คือ ผลแห้งของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Forsythia suspensa (Thunb.) Vahl วงศ์ Oleaceae ฤทธิ์ของยาตามภูมิปัญญาการแพทย์แผนจีน มีรสขม เย็นเล็กน้อย เข้าสู่เส้นลมปราณปอด หัวใจ และลำไส้เล็ก ขจัดความร้อนและสารพิษ ลดบวม ลดการอุดกั้น และกระจายลมร้อน
[2] อู่เว่ย์จื่อ ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Schisandra chinensis ในทางการแพทย์แผนจีน ระบุสรรพคุณของอู่เว่ยจื่อไว้ว่ามีสรรพคุณบำรุงไต ฝาดสมานแก้ท้องเสีย แก้อาการเหงื่อออกมาผิดปกติ บำรุงหัวใจ แก้ร้อนในกระหายน้ำ แสดงฤทธิ์ในการเหนี่ยวนำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีขึ้นรวมถึงบำรุงสายตาอีกด้วย
[3] โสมคน หรือ Ginseng มาจากภาษาจีนว่า เรนเซ็น (Ren Shen) แปลว่า โสมคน เนื่องจากมีรากอ้วนคล้ายลำตัว มีกิ่งรากแตกแขนงคล้ายแขนขาของคน เป็พืชที่โตช้าปลูกยาก แต่ให้คุณค่ามหาศาล ด้วยคุณสมบัติและสรรพคุณมากมายของโสม จึงได้ถูกขนานนามว่าเป็สมุนไพรแห่งราชวงศ์มาอย่างยาวนาน จนถึงปัจจุบันโสมก็ยังคงได้รับความนิยม เนื่องจากมีคุณประโยชน์ ช่วยรักษาและบำรุงทั้งภายใน ภายนอก รวมถึงบรรเทาความเครียดต่างๆ
[4] หนิวหวง หงู่อึ๊งโกยตั๊ก ภาษาแต้จิ่ว หรือ โคโรค ในทางการแพทย์แผนจีน ระบุสรรพคุณของหนิวหวง เป็ยาที่มีรสขมหวาน ฤทธิ์เย็น เข้าสู่เส้นลมปราณหัวใจและตับ มีสรรพคุณในการขับความร้อนของหัวใจ(รวมหมายถึงสมอง) เปิดทวาร (ทำให้ฟื้นสติ) สลายเสมหะ แก้อาการชักเกร็ง มีคุณสมบัติในการระบายความร้อนและล้างพิษ และการอักเสบ Bezoar นอกจากนี้มักใช้รักษาผู้ป่วยที่มีความร้อนภายในแล้วรบกวนสมองทำให้หมดสติ (ภาวะเส้นเืสมองแตกแบบแกร่ง) พูดจาเพ้อ ผู้ป่วยโรคจิตประสาทที่เอะอะโวยวาย เด็กชักกระตุก แผลอักเสบในลำคอ ฟัน แผลในปากและแผลบนลิ้น ฝีหนอง การอักเสบต่างๆ ของร่างกาย ช่วยกระตุ้นการขับน้ำดีปกป้องตับ ยังใช้เพื่อล้างความร้อน บรรเทาความกระสับกระส่าย และปรับปรุงการย่อยอาหาร
[5] พู่ระหง ชื่อวิทยาศาสตร์ Hibiscus schizopetalus เป็ยารักษาอาการไข้ในเด็ก รักษาอาการเจ็บคอ และอาการไอ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้