เหนียนยวี่คุกเข่าลง ทุกคนที่นั่นต่างพากันตกตะลึง
เหนียนยวี่้าทำอะไรกันแน่
“ฮองเฮาเพคะ ร่างกายของท่านพี่อีหลานทนไม่ไหวแล้วจริงๆ เหนียนยวี่เต็มใจที่จะรับโทษโดนเฆี่ยนอีกสิบทีแทนพี่สาวเพคะ” เหนียนยวี่เอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ
นางเองก็เต็มใจที่จะรับโทษแทนเช่นกันหรือ
สายตาและสีหน้าของทุกคนแทบจะเปลี่ยนไป
ดวงตาสงบนิ่งไร้อารมณ์ของหลีอ๋องจ้าวเยี่ยนหันไปมองเหนียนยวี่ ในดวงตาคู่นั้นผุดประกายสายหนึ่งพาดผ่าน
จ้าวอิ้งเสวี่ยอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เหนียนยวี่ผู้นี้...นางวางแผนมาให้เหนียนอีหลานถูกลงโทษเช่นนี้ สิ่งนี้มิใช่สิ่งที่นาง้าเห็นหรือ?
ยามนี้นางยัง้าขอร้องให้เหนียนอีหลานได้อย่างไร ทั้งที่นั่นจะนำโทษมาให้
ไม่เพียงแต่จ้าวอิ้งเสวี่ยเท่านั้น ทว่าในใจของฮองเฮาอวี่เหวินเองก็รู้สึกสงสัย
“ใช่แล้วเพคะฮองเฮา อีหลานและยวี่เอ๋อร์เป็พี่สาวน้องสาวที่รักกันมาก ให้นางมารับโทษที่เหลืออีกสิบทีแทนอีหลานเถิดเพคะ อย่างไรก็เหมือนกัน” หนานกงเยวี่ยเหมือนได้คว้าฟางช่วยชีวิต ตราบใดที่อีหลานของนางไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการลงโทษเช่นนี้ แม้จะตีเหนียนยวี่จนตาย แล้วจะเป็อย่างไรเล่า
ทว่าความฉุกละหุกเช่นนี้ของนาง กลับทำให้ความคิดในใจของจ้าวอิ้งเสวี่ยและฮองเฮาอวี่เหวินกระจ่างแจ้งขึ้นมาทันใด
หนานกงเยวี่ยปกป้องลูกสาวของนางเช่นนี้ ทว่ากลับปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างไม่เหมาะสมนัก เหนียนยวี่เป็คนฉลาด ดังนั้นนางจะยอมใช้ร่างกายตนเองมารับโทษโดนเฆี่ยนอีกสิบครั้งแทนเหนียนอีหลานได้อย่างไร
ฮองเฮาอวี่เหวินเหลือบมองเหนียนยวี่อีกครั้ง กำลังจะตรัสอะไรบางอย่าง ทว่าเสียงขององค์หญิงใหญ่ชิงเหอกลับดังขึ้นก่อน...
“ยวี่เอ๋อร์ เ้าเป็เพียงสตรีผู้หนึ่ง จะทนรับการโทษเฆี่ยนตีถึงสิบทีได้อย่างไร?” องค์หญิงใหญ่ชิงเหอขมวดคิ้ว น้ำเสียงแฝงแววตำหนิ “แม้้าจะรับโทษแทน เช่นนั้นใต้เท้าหนานกงน่าจะเหมาะสมมากกว่าเ้าเสียอีก”
ครั้นเอ่ยจบ แววตาของฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงพลันมืดมนลงทันที ฮองเฮาอวี่เหวินเห็นทุกสิ่งในสายตา นางพลันยกยิ้มบางเบา “ถึงเ้าจะเป็พี่น้องที่ผูกพันรักใคร่กัน ทว่าเ้าลืมเื่วันนั้นที่นางขังเ้าและเปิ่นกงไว้ในสวนร้อยสัตว์แล้วหรืออย่างไร”
ในใจหนานกงเยวี่ยพลันสะอึกไปชั่วขณะ ใช่แล้ว อีหลานขังเหนียนยวี่ไว้ในสวนร้อยสัตว์ ในเมื่อนางเองก็รู้เื่นี้ดี เช่นนั้นการที่นางออกมาอ้อนวอนเมื่อครู่นั้น เป็ไปได้หรือไม่ว่านางแอบวางแผนอะไรบางอย่าง
ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงตระหนักถึงอะไรบางอย่างได้ในทันที “ฮองเฮาเพคะ องค์หญิงใหญ่ชิงเหอตรัสได้ถูกต้องแล้วเพคะ จื้อเอ๋อร์ดูจะเหมาะกว่า ฮองเฮาเพคะ โปรดทรงเห็นแก่ความรักน้องสาวของจื้อเอ๋อร์ และช่วยให้น้ำใจของเขาสมหวังด้วยเพคะ”
ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงไหนเลยจะหวังให้หนานกงจื้อเสนอตัวออกไปรับความเ็ปแทน
ในบรรดาลูกหลานตระกูลหนานกง เรียกได้ว่าหนานกงจื้อประสบความสำเร็จที่สุดในตระกูลที่อยู่ในราชสำนัก เขาและหนานกงฉี่สองพี่น้อง หนึ่งขุนนางหนึ่งพ่อค้า ทั้งคู่ต่างเป็คนสำคัญของนาง หากาเ็เข้าจริงๆ จะดีได้อย่างไร?
แต่นางเองก็รู้ว่า เหนียนอีหลานในยามนี้มิอาจทนได้มากกว่านี้แล้ว ต้องขัดขวางแผนการของเหนียนยวี่ ลองชั่งน้ำหนักดูแล้ว นางคงทำได้เพียงยอมให้จื้อเอ๋อร์เข้าไปรับโทษแทน
ฮองเฮาอวี่เหวินขมวดคิ้ว เหลือบมองเหนียนยวี่ คาดเดาความคิดของคุณหนูรองสกุลเหนียนผู้นี้
หลังจากนั้นไม่นาน ฮองเฮาอวี่เหวินเอ่ยปากขึ้นมาอีกครั้ง “ในเมื่อเป็เช่นนี้ โทษเฆี่ยนตีอีกสิบทีที่เหลือนั้น ก็ให้หนานกงจื้อรับแทนเถิด”
“ขอบพระทัย...ขอบพระทัยฮองเฮาที่เมตตา ขอบพระทัยฮองเฮาที่ฟังคำขอพ่ะย่ะค่ะ” หนานกงจื้อคุกเข่าคำนับ พลางเหลือบมองเหนียนอีหลานที่สลบไสลไม่ได้สติ ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสาร
และความสงสารที่แสดงออกมานี้ เด่นชัดในสายตาของเหนียนยวี่ ในใจนางเข้าใจเื่นี้เป็อย่างดี
ชาติก่อน หนานกงจื้อก็รักเหนียนอีหลานเช่นตอนนี้ แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยปฏิเสธคำขอใดๆ ของนางเลย เมื่อก่อน นางคิดว่านั่นเพราะเป็ความรักผูกพันกันระหว่างพี่ชายน้องสาว ทว่าจากที่เห็นในยามนี้ นี่เป็แค่ความรักฉันพี่น้องจริงหรือ?
เกรงแต่ว่าในใจของหนานกงจื้อจะคิดสิ่งอื่นกับเหนียนอีหลาน
ระหว่างที่เหนียนยวี่ครุ่นคิด หนานกงเยวี่ยกำลังดิ้นรนคิดอยากจะพยุงเหนียนอีหลานลงมาจากตั่ง หนานกงจื้ออยากจะยื่นมือไปช่วย ทว่าดูเหมือนเพราะมีคนอยู่ที่มากเกินไป จึงได้แค่คิด แต่ไม่กล้าทำ
กลับกัน เหนียนยวี่รีบออกไปข้างหน้า ช่วยหนานกงเยวี่ยพยุงเหนียนอีหลานด้วยกัน ใบหน้าของเหนียนอีหลานซีดเผือด ทั้งร่างกายเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ แผ่นหลังถูกเฆี่ยนตีจนเนื้อตัวแตกยับ เือาบโชกปนเหงื่อไคล ไหลซึมทั้งเสื้อผ้า แลดูน่าสังเวชเวทนาเป็อย่างยิ่ง
“ท่านพี่ าเ็ร้ายแรงเช่นนี้ หมอธรรมดาจะรักษาได้หรือไม่?” เหนียนยวี่ขมวดคิ้ว มิอาจปิดบังความกังวลใจ ท่าทีถอนหายใจเหมือนไม่ตั้งใจนั้น ทำให้นึกถึงบางสิ่งบางอย่างในทันใด
จ้าวอิ้งเสวี่ยัับางอย่างได้ ดวงตาของนางเป็ประกาย ที่แท้เมื่อครู่เหนียนยวี่แท้จริงไม่ได้้าอ้อนวอน ทว่าเป้าหมายของนาง...
จ้าวอิ้งเสวี่ยเข้าใจความคิดของเหนียนยวี่ นางอยากร่วมมือกับเหนียนยวี่เพื่อให้เื่นี้บรรลุผล จึงเอ่ยขึ้นอย่างตรงไปตรงมาว่า "ท่านหมอธรรมดารักษาไม่หาย เช่นนั้นหมอหลวงเป็อย่างไรเล่า"
“ใช่...หมอหลวงในวัง” หนานกงเยวี่ยกังวลเื่อาการาเ็ของเหนียนอีหลาน ร่างกายของสตรีคือสิ่งสำคัญที่สุด หากทิ้งรอยแผลเป็ไว้ แม้จะมีเสื้อผ้าคลุมร่างกายไว้ ทว่าหลังจากออกเรือนเมื่อใด ท้ายที่สุดแล้วอย่างไรก็จำต้องถอดเสื้อผ้าออกต่อหน้าสามี
ท่านอ๋องมู่...
หนานกงเยวี่ยนึกถึงมู่อ๋องจ้าวอี้ ประสบเื่เช่นนี้ เกรงว่าฮองเฮาอวี่เหวินคงไม่ยอมให้ท่านอ๋องมู่รับอีหลานเป็พระชายาแน่!
ทว่าถึงแม้จะเป็เช่นนั้น ร่างกายของอีหลานก็ทิ้งรอยแผลเป็ไว้ไม่ได้!
แต่เื่หมอหลวง...ฮองเฮาลงมือทำโทษอีหลานอย่างโหดร้ายเช่นนี้ จะยอมให้หมอหลวงในวังรักษาอีหลานได้อย่างไร?
ในใจหนานกงเยวี่ยราวกับถูกบางอย่างกดดันไว้
“สตรีนางหนึ่ง หากมีรอยแผลทิ้งบนร่างกาย ก็นับว่าเป็เื่น่าเสียดายอย่างแท้จริง” ฮองเฮาอวี่เหวินถอนหายใจ “เช่นนั้นให้หมอหลวงในวังมารักษานางเสียเถิด”
หนานกงเยวี่ยไม่คิดว่าฮองเฮาอวี่เหวินจะปล่อยไป ในใจนางมีความสุข พลันรีบเร่งเอ่ยขอบพระทัยฮองเฮาอย่างกระตือรือร้น “ขอบพระทัยในความเมตตาของฮองเฮาเพคะ หม่อมฉันขอขอบพระทัยฮองเฮาแทนอีหลานด้วยเพคะ”
สีหน้าของหนานกงเยวี่ยมิอาจปิดบังความตื่นเต้นในใจได้ คิดดูแล้ว ถึงอย่างไรฮองเฮาก็ยังเป็กังวลต่อตระกูลหนานกง การลงโทษอีหลานก็แค่้าระบายอารมณ์ ทว่าอย่างไรคงมิกล้าทำร้ายอีหลานจริงๆ
หนานกงเยวี่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก ขอเพียงแค่อีหลานสบายดีก็พอ รอให้เื่ราวในครั้งนี้ค่อยๆ เงียบลงและหายไป นางและท่านแม่จะคิดหาหนทางดีๆ ให้อีหลาน
ย้อนกลับไปตอนนั้น หมอดูทำนายว่าอีหลานเกิดมาสูงส่งโดยเนื้อแท้ โชคชะตาควรเป็เช่นนี้ แม้แต่ฮองเฮา นางก็มิอาจขัดขวาง!
หนานกงเยวี่ยที่กำลังครุ่นคิด ครั้นได้ยินคำพูดต่อมาของฮองเฮาอวี่เหวิน ประหนึ่งโดนน้ำเย็นสาดเข้ามาบนตัว...
“เช่นนั้นฮูหยินเหนียนก็ส่งเหนียนอีหลานเข้าไปในวังด้วยตนเองเถิด ให้นางไปอยู่ในตำหนักชีอู๋ของเปิ่นกง” เสียงของฮองเฮาอวี่เหวินดังขึ้น ในใจเข้าใจความหมายของเหนียนยวี่ หญิงสาวผู้นี้ นางช่างมีความคิดที่ละเอียดเฉียบแหลมเสียจริง นางคิดว่าการเฆี่ยนตียี่สิบครั้งไม่พองั้นหรือ?
ในเมื่อเป็เช่นนี้ นางก็จะทำตามความปรารถนาของเหนียนยวี่เอง
เหนียนยวี่ได้ยิน นางคิดว่าตนต้องโน้มน้าวอะไรบางอย่าง ทว่ากลับนึกไม่ถึงเลยว่าจะไม่ใช่แค่จ้าวอิ้งเสวี่ย ทว่าแม้กระทั่งฮองเฮาอวี่เหวินยังเข้ามาร่วมมือกับนางอย่างรวดเร็ว หึ ดูท่าในใจของฮองเฮาคงไม่ได้คิดจะปล่อยเหนียนอีหลานไปเช่นนี้!
ไม่เพียงแค่นั้น…
เหนียนยวี่ลอบเหลือบมองฉางไทเฮาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ในมือคลำลูกประคำ ทว่าดวงตากลับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
ในเมื่อวันนี้ฉางไทเฮาได้เสด็จมาจวนเหนียน และเห็นเื่พวกนี้ เช่นนั้นฉางไทเฮาคง้าฉวยโอกาสนี้ อาศัยรอยร้าวที่นางเปิดออก งัดแงะให้ปากรอยร้าวกว้างขึ้น
ในใจเหนียนยวี่กำลังครุ่นคิด หลังจากหนานกงเยวี่ยได้ยินคำพูดของฮองเฮาอวี่เหวิน ความหวังที่มีในตอนแรกพลันแตกสลายทันใด
ให้อีหลานไปอยู่ในตำหนักชีอู๋?
รักษาาแให้อีหลาน แค่ส่งหมอหลวงสักคนมาจวนเหนียนก็ได้แล้ว ทว่าฮองเฮาอวี่เหวินกลับให้อีหลานเข้าวัง จะรักษาาแของนางอย่างบริสุทธิ์ใจได้จริงหรือ?!