“เสี่ยวจิ่วต้องอยู่รักษาที่คลินิกไม่” ผ่านไปประมาณสิบนาทีกัวไฮว่ฝังเข็มไปเก้าเล่มบนร่างของเสี่ยวจิ่ว แล้วพูดขึ้นเบา ๆ
“ได้ ๆๆ หมอกัว คุณว่ายังไงก็ตามนั้น ตามคุณเลย” พ่อของเสี่ยวจิ่วรีบพูดขึ้น “ไม่ทราบว่า้าค่ารักษาเท่าไหร่ครับผมจะไปทุบหม้อรวบรวมมาให้คุณจบครบเลย”
“ฮ่า ๆ คลินิกไม่ไม่รักษาคนที่ไม่อยากรักษา และจะรักษาคนที่อยากรักษาในเมื่อคุณเชื่อมั่นในคลินิกไม่ ผมจะช่วยคุณรักษาให้เสี่ยวจิ่วฟรีแต่หลังจากที่เสี่ยวจิ่วหายดีแล้วต้องมาทำงานที่คลินิกผมสิบปี คุณตกลงไหมครับ” กัวไฮว่ถามยิ้ม ๆ
“ขอแค่เสี่ยวจิ่วไม่เป็อะไร อย่าว่าแต่สิบปีเลยให้อยู่ที่คลินิกไม่ไปตลอดยังได้เลย”
“หมอกัว ถ้ารักษาเด็กนี่ไม่ได้ก็บอกมาตรง ๆ เถอะ ยังจะมาต่อรองอีก” คนจากสมาคมแพทย์แผนปัจจุบันคนหนึ่งพูดขึ้น
“ผมรักษาเหล่าเซียวจนหายแล้ว จากที่รองหัวหน้าของพวกคุณบอกต่อไปถ้าสมาคมแพทย์แผนปัจจุบันเจอผม ก็จะยอมอ่อนข้อให้ จะให้เป็อาจารย์ด้วยแต่ผมไม่เป็อาจารย์ให้พวกคุณหรอก แต่ก็อย่าได้คืบจะเอาศอกแล้วกันอาการป่วยที่แพทย์ปัจจุบันของพวกคุณรักษาไม่ได้เนี่ยคลินิกไม่ของพวกเรารักษาได้หมดถ้าพวกคุณอยากจะอยู่ที่คลินิกไม่ต่อก็เชิญหุบปาก ไม่ก็ไสหัวไปผ่านไปสองสามวันเดี๋ยวผมจะไปเยี่ยมเยียนทุกคนที่สมาคมแพทย์แผนปัจจุบันเอง” กัวไฮว่พูดอย่างเคร่งขรึม อุตส่าห์ไว้หน้าแล้วยังไม่เอางั้นฉันก็ตบหน้าล่ะนะ
“แก!” คนจากสมาคมแพทย์แผนปัจจุบันคนนั้นอยากจะพูดบางอย่างอีกทว่าถูกต่งคุนห้ามเอาไว้กัวไฮว่เป็คนจัดการเื่พิษของเซียวเฟยหยางจริง มันเป็เื่จริงแม้กัวไฮว่จะดื้อรั้นแต่ก็ไม่อาจปริปากพูดอะไรออกมาได้
“เช้าวันนี้รักษาไปแล้วห้าคน ตอนบ่ายยังเหลืออีกห้าคนต่อไปทุกวันคลินิกไม่จะรักษาแค่สิบคนแต่ถ้าเจ็บป่วยเล็กน้อยอยากมาเอายาก็มาที่คลินิกไม่ได้เลยนะครับหมอทั้งสิบแปดท่านของคลินิกไม่จะให้บริการพวกคุณเอง” กัวไฮว่พูดเสียงดังนักศึกษาทั้งสิบแปดคนก็ผงกศีรษะกันด้วยความกระตือรือร้น อยู่ที่คลินิกไม่สบายกว่าอยู่ที่คณะตั้งเยอะ
“เสี่ยวไฮว่ เสี่ยวไฮว่” ฉู่หงคนที่มักไปเล่นไพ่นกกระจอกกับอวี้เอ๋อร์ะโเสียงดังกับกัวไฮว่ “เสี่ยวไฮว่ พวกเราพาพี่ ๆ น้อง ๆ ของเรามาด้วยเธอยังมียาที่เธอให้พวกเรากินอีกหรือเปล่า วันนี้ขายให้พวกเราหน่อยได้ไหม”
กัวไฮว่ยกยิ้มเล็ก ๆ ตรงมุมปาก เขาเกือบจะลืมเื่นี้ไปแล้วยาผิวหิมะมีแค่ประมาณร้อยกว่าเม็ดและมียาขับพิษที่ทำมาจากกากที่เหลือจากยาผิวหิมะประมาณสามร้อยกว่า ขายก็ขายวันนี้เปิดกิจการก็ได้ดิบได้ดีั้แ่แรกเลย
“ขอบคุณครับพี่หง ถ้าพี่ไม่บอกผมก็ลืมเื่นี้ไปแล้วนะเนี่ยแต่ยาที่ให้พวกพี่ไปหมดแล้วครับ ตอนนี้มีแค่ยาอื่นขอผมถามทุกท่านที่นั่งอยู่หน่อยว่าถ้าเป็ไปได้เช้าวันนี้วันนี้ประมูลขายสักสิบเม็ดแต่เดี๋ยวจะกินข้าวกันแล้ว จะเสียเวลาทุกคนกินข้าวไม่ได้” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ คนในคลินิกฟังแล้วก็เข้าใจทันที
“หมอกัว ถ้ามีของดีอะไรก็เอาออกมาเลย กินข้าวช้าหน่อยไม่เป็ไรกินข้าวเย็นด้วยกันก็ได้ แบบนี้จะได้ช่วยคุณประหยัดมื้อนึงไง ฮ่า ๆ” ชายวัยกลางคนที่มาเป็เพื่อนภรรยาคนหนึ่งพูดอย่างยิ้มแย้ม
“ไอ้หนู มีของดีอะไรก็เอาออกมา วันนี้เปิดกิจการ จะกินช้าหน่อยพวกเราก็ทนกันได้ไม่ต้องสนพวกเราหรอก” หลี่โต้วเทียนปู่ของหลี่เย่าพูดด้วยเสียงดัง
“ในเมื่อทุกคนตกลงแล้วงั้นคลินิกไม่ของพวกเราจะเอายาสิบเม็ดมาประมูลขายนะครับและเพื่อเป็การพิสูจน์ผลที่ได้จากยานี่ ผมหาสักคนมาลองกินดีกว่าไม่ทราบว่ามีคนไหนยอมลองไหมครับ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ
“เมียผม ให้เมียผมกิน” ชายเมื่อสักครู่พูดเสียงดังหากมองภรรยาเขาผ่าน ๆ ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แต่หากมองโดยละเอียดไม่เหมือนกับมองผ่านๆ รอยกระฝ้าทั้งหน้าถูกกลบอยู่ภายใต้แป้ง เหมือนจะเห็นแต่ก็เหมือนจะมองไม่เห็น
“เหล่าผาง ขายเมียตัวเองเหรอ ใช่ได้นะเนี่ย!” ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ พูดหยอกล้อขึ้น แต่ในภายหลังคนพวกนั้นถึงได้รู้ว่าครั้งนี้เหล่าผางที่ดูเหมือนจะโง่เง่ากลับทำเื่ที่แสนจะฉลาด
กัวไฮว่มองภรรยาของเหล่าผางแล้วผงกศีรษะจากนั้นภรรยาของเหล่าผางก็เดินมาตรงหน้าของกัวไฮว่
“พี่ ไปลบเครื่องสำอางออกก่อนเถอะ ต่อไปไม่ต้องแต่งหน้าหนาแบบนี้แล้วล่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ ภรรยาของเหล่าผางก็รีบไปลบเครื่องสำอางทันทีภายใต้การช่วยเหลือของหลิวเย่าซือและเหลิ่งซวงทั้งสองคนในเวลาไม่ถึงสามนาทีก็ลบแป้งหนา ๆ บนหน้าออกไปจนหมดจด เผยให้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยกระฝ้าให้แก่สาธารณชน
“เหล่าผาง แกหน้าแดงทำไมน่ะ หรือว่าอายที่เมียน่าเกลียด” ภรรยาของเหล่าผางมองเหล่าผางแวบหนึ่งแล้วพูดด้วยเสียงดัง
“ที่รัก ดูคุณพูดเข้า ที่ไหนกันล่ะ ในเมื่อหัวหน้ากัวรักษาโรคยาก ๆแบบนั้นได้ กระฝ้านิดหน่อยบนหน้าคุณไม่ใช่เื่กล้วย ๆ ของเหรอ” เหล่าผางพูดยิ้ม ๆหญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อยแล้วมองกัวไฮว่ด้วยสายตาแห่งความคาดหวัง
“วางใจเถอะครับพี่ ของบนหน้าที่พี่ไม่อยากได้ผมจะจัดการให้หมดภายในครั้งเดียวเอง พี่ได้กำไรแล้วนะคราวนี้คลินิกไม่ลองยาไม่คิดเงิน ฮ่า ๆ” คำพูดของกัวไฮว่ทำเอาทุกคนหัวเราะกันอีกครั้ง
เจี่ยเสี่ยวเสี่ยวนำกล่องหยกที่ทำขึ้นมาได้ไม่เลวกล่องหนึ่งมาวางไว้ตรงหน้าของทุกคนตามคำสั่งของกัวไฮว่กล่องใบนี้กัวไฮว่ตั้งใจให้ช่างทำติดต่อกันอยู่หลายคืนไม่คิดเลยว่าวันนี้จะได้นำมาใช้การจริงๆ
เมื่อเปิดกล่องหยก เม็ดยาสามสีเม็ดหนึ่งก็ทำเอาทุกคนลุกฮือขึ้นมา
“คุณพระ นี่มันยาลูกกลอนสามสี เอามาให้ผู้หญิงรักษากระฝ้าคลินิกไม่นี่มือเติบจริง ๆ” แม้คนอื่นจะมองไม่ออกว่าคืออะไรแต่เซียวเฟยหยางมองออกั้แ่แวบแรกจึงพูดขึ้นด้วยความตกตะลึง
กัวไฮว่ไม่ได้สนใจว่าจะเป็ยาสามสีอะไรนี่มันก็แค่ของที่ทำมาจากกากยาเท่านั้นใช้มือบีบให้แตกจากนั้นก็ละลายผงยาลงไปในน้ำสะอาด แบ่งออกเป็สองส่วนจากนั้นก็เอาผ้าฝ้ายบริสุทธิ์จุ่มลงไปในส่วนหนึ่งแล้วเช็ดไปบนหน้าของภรรยาเหล่าผางถัดมาทุกคนต่างก็อึ้งตะลึงไป กระฝ้าทุกเม็ดที่มีอยู่เดิม หายไปในพริบตาเดียว
“พี่ครับ กินนี่หน่อยสิ เดี๋ยวผมสั่งยาให้ พี่ดื่มยาจีนอีกหน่อยก่อนพี่อายุเจ็ดสิบปีจะไม่มีกระฝ้าพวกนั้นขึ้นมาอีก” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “เหล่าผางใช่ไหมครับ คืนเมียให้คุณนะ ดูเอาเองเถอะ ฮ่าๆ”
“ยายบ้า ยังไม่รีบของคุณหัวหน้ากัวอีก” เหล่าผางพูดพลางกดศีรษะภรรยาตนเองให้โค้งให้กัวไฮว่ส่วนคนอื่น ๆ ยังคงอึ้งกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่ที่กระฝ้าบนหน้าภรรยาเหล่าผางหายไปหายไปจริง ๆ นี่เป็เื่ปาฏิหาริย์โดยสิ้นเชิง
“เหล่าผาง กระฝ้าบนหน้าฉันหายไปแล้วจริงเหรอ” ภรรยาลูบเข้าที่ใบหน้าของตนเองก็รู้สึกเหมือนกับว่าเรียบลื่นกว่าก่อนหน้านี้เยอะจึงถามขึ้นเบาๆ
“หายไปแล้ว หายไปแล้วจริง ๆ ที่รัก ถ้าตอนนั้นคุณเป็แบบนี้นะพวกเราก็ไม่ต้องเดตตอนกลางคืนกันแล้ว ยังไงผมก็ต้องขอคุณแต่งงานแน่ๆ” เหล้าผางพูดพลางยิ้มหน้าบาน เมื่อก่อนเขาถูกคนฝั่งบ้านภรรยาหลอกเข้าให้ชายหนุ่มคนหนึ่งแต่งกับภรรยาที่มีกระฝ้าเต็มใบหน้าผ่านไปนานเขารู้สึกว่าตนเองถูกหลอกเข้าแล้วเพราะทุกครั้งที่เดตกันพวกเขามักจะอยู่ใต้โคมไฟแสงสลัว ตอนนี้ดีขึ้นแล้วภรรยาเขาสวยขึ้นจริง ๆ สวยจนทำเขารับไม่ได้นิดหน่อย
“ผอ. กัว อยากลองยาอีกไหม ฉันเอง ฉันให้เงินด้วยขอร้องล่ะ” ในตอนนั้นเอง ผู้หญิงอายุราวสามสิบต้น ๆก็พูดด้วยเสียงดัง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้