เมื่อกลับมาถึงหอพัก ก็พบจ้าวกันที่เล่นเกมอยู่ในห้องคนเดียวอีกเช่นเคย
แต่เตียงของฉินหลางนั้นได้ปูเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม หมอนและมุ้งกันยุง ล้วนเป็ของใหม่ทั้งสิ้น…มิหนำซ้ำบนนั้นยังมีกลิ่นน้ำหอมที่ฉีดไว้แล้วอีก
ฉินหลางมองที่นอนใหม่ทั้งชุด ก่อนจะส่ายหน้าและถอนหายใจอย่างอดไม่ได้
“ฉินหลาง นายกลับมาแล้วเหรอ?”
จ้าวกันเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าฉินหลางกลับมาถึงหอพักแล้ว เขาวางเม้าส์ลง พูดด้วยความตื่นเต้น “ฉินหลาง ไม่เลวนิ! ได้ยินมาว่ามีสาวน้อยหน้าตาสะสวยมาปูที่นอนให้นาย นายนี่เก่งจริงๆ เลยนะ!”
“เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว นั่นมันลูกพี่ลูกน้องฉัน” ฉินหลางสบถ ทันทีที่เขาเห็นที่นอนนี่ ก็รู้แล้ว ว่าเป็ฝีมือของใคร
สำหรับ ‘ลูกพี่ลูกน้อง’ คนนี้ ฉินหลางเองก็จนปัญญา
“อีกอย่างฉินหลาง นายเพิ่งย้ายมาก็ขาดเรียนไปแล้วไม่น้อย ระวังด้วยล่ะ!” จ้าวกันกล่าวเตือนฉินหลางด้วยความหวังดี “เวลาทบทวนด้วยตัวเองทั้งตอนเช้าและตอนค่ำไม่ไปมันก็ไม่ได้มีปัญหาใหญ่โตอะไรนัก แต่ถ้าขาดเรียนวิชาบังคับแล้วละก็ มีปัญหายุ่งยากแน่นอน ไม่แน่โรงเรียนอาจจะเชือดนายเป็ตัวอย่างก็ได้!”
“ขอบคุณที่เตือน” ฉินหลางรู้ว่าจ้าวกันเตือนด้วยเจตนาที่ดี แต่เขากลับไม่ได้เอาคำพูดนั้นมาใส่ใจเลย
ฉินหลางปีนขึ้นไปบนที่นอน ผ่านไปสักพัก เขาก็เข้าสู่สภาวะของฌาณสมาธิ
จ้าวกันพูดต่ออีกพักหนึ่ง ถึงเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าฉินหลางไม่ได้พูดตอบ คิดว่าเ้าหมอนี่หลับไปแล้ว เมื่อไม่มีเพื่อนคุยจ้าวกันจึงทำได้เพียงกลับไปเล่นเกมคอมพิวเตอร์ต่อ
สองวันต่อมา ฉินหลางก็ไม่ได้ขาดเรียนแล้วจริงๆ ทว่าเวลาส่วนมาก เขาจะอยู่ในสภาวะ ‘ดวงจิตล่องลอย’ เพราะเขาไม่ได้ฟังอาจารย์สอนด้วยซ้ำ จมปลักอยู่กับการทำความเข้าใจในกระบวนยุทธ์ มีเพียงในคาบเรียนวิชาชีววิทยาเท่านั้น ที่เขาจะ ‘กลับคืนสู่สภาพปกติ’
สองสามวันมานี้ฉินหลางไม่ได้ติดต่อฮานซานฉาง เขารู้ว่าการที่ฮานซานฉางเป็มาเฟียใหญ่ของพื้นที่นี้ได้นั้น เขาต้องมีฝีมืออย่างแน่นอน ครั้งนี้ถูกคนลอบทำร้าย เจอตัวคนทรยศแล้ว ต่อไปฮานซานฉางจะต้องยิ่งเพิ่มความระวังตัวมากขึ้นอีก
ส่วนเื่ของอันเต๋อเซิ่ง ฉินหลางรู้ว่าเขาจะรีบร้อนเกินไปไม่ได้
เพราะตาเฒ่าพิษไม่เพียง้าจัดการกับอันเต๋อเซิ่งเท่านั้น เขายัง้าที่จะรับ่กิจการทั้งหมดของอันเต๋อเซิ่งอีกด้วย
ถ้าหากแค่พื้นหลังของอันเต๋อเซิ่งยังไม่ชัดเจน แล้วจะไปรับ่กิจการทั้งหมดของเขาต่อได้อย่างไร?
※※※
วันเสาร์ วิชาสุดท้ายใน่เช้าคือวิชาชีวภาพ
เนื่องจากอาจารย์ประจำวิชาชีววิทยาได้ลาป่วย ดังนั้นเถารั่วเซียงจึงแต่งตั้งฉินหลางให้เป็ตัวแทนของคลาสชีววิทยาชั่วคราว ซึ่งนั่นทำให้ผู้ชายจำนวนไม่น้อยต้องพากันอิจฉา
ตัวแทนคลาสชีววิยา ฟังดูไม่เลว แต่ความจริงแล้วเป็เพียงงานช่วยแจก และเก็บการบ้านที่แสนจะลำบากเท่านั้น หากเป็การช่วยแจก และเก็บการบ้านให้เถารั่วเซียงแล้วละก็ งานแสนลำบากก็กลายเป็งานที่สุดแสนจะสวยงาม ดังนั้นถึงได้มีคนอิจฉาฉินหลางเยอะแยะมากมายขนาดนี้
หลังเลิกเรียน ฉินหลางอุ้มกองสมุดการบ้านไปยังโต๊ะทำงานของเถารั่วเซียงที่อยู่ในห้องพักครู
ที่นี่เป็ห้องพักครูขนาดใหญ่ ที่มีโต๊ะทำงานมากกว่าสิบตัว แต่โต๊ะทำงานของเถารั่วเซียงฮวงจุ้ยค่อนข้างจะดี ตั้งอยู่บริเวณริมหน้าต่าง สามารถชมทิวทัศน์ของโรงเรียนได้ตลอดเวลา
“ฉินหลาง เก็บการบ้านมาครบแล้วเหรอ? วางตรงนี้ละกัน” เถารั่วเซียงตบบริเวณมุมโต๊ะทำงานเบาๆ ให้ฉินหลางวางการบ้านไว้ตรงนี้
“ขาดของโจวหลิงหลิงคนเดียวครับ” เห็นได้ชัดว่าคำพูดนี้เป็แค่ส่วนเกิน เพราะว่าวันนี้เธอนั้นได้ลาป่วย ฉินหลางกำลังสร้างหัวข้อสนทนา
“อืม ฉันรู้แล้ว” ทว่าเถารั่วเซียงไม่ปล่อยให้ฉินหลางได้โอกาส “ขอบคุณมาก เธอรีบไปกินข้าวเถอะ”
“นี่…น้าเถา วันนี้เป็วันหยุดสุดสัปดาห์ คุณวางแผนอะไรไว้รึยัง?” ฉินหลางยังคงพยายามสานต่ออยู่
“จริงสิ วันนี้เป็วันหยุดสุดสัปดาห์ ทำไมนายถึงยังไม่กลับบ้าน?” เถารั่วเซียงถามกลับ ทันทีที่พูดจบประโยค เธอก็รู้สึกตัวเองกำลังตกหลุมพลางของฉินหลางขึ้นมาทันที เพราะมันเท่ากับว่าเธอได้เปิดประเด็นการสนทนากับเขาแล้ว
คิดไว้ไม่ผิดเลย ฉินหลางรีบคว้าโอกาสนั้น เขาถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพูดขึ้น “เวลาหนึ่งวันมันสั้นเกินไป บ้านผมไม่ได้อยู่ในเมืองเซี่ยหยาง หากแต่อยู่ที่เมืองอันหยง อยู่ห่างจากที่นี่เกือบสองร้อยกิโลเมตร การเดินทางไป-กลับในเวลาสั้นแค่นี้เหนื่อยเกินไป! ”
“มันก็จริง” เถารั่วเซียงก่ลาว “ถ้าเป็อย่างนั้น เธอก็แบ่งเวลามาเรียนรู้เยอะๆ เถอะ ฉินหลาง สองวันมานี้ฉันได้ยินอาจารย์ในห้องพักครูคุยกันถึงเื่ของเธอด้วย อยากรู้รึเปล่าว่าพวกเขาพูดอะไรกันบ้าง? ”
“บอกว่าผมฉลาดล้ำเลิศ? อายุยังน้อยแต่มีความสามารถมาก หรือบอกว่าอีกหน่อยจะต้องได้เป็ใหญ่เป็โตแน่นอน?” หลังจากเขาเริ่มสนิทสนมกับเถารั่วเซียงมากขึ้นแล้ว ฉินหลางก็กล้าที่จะล้อเล่นกับเธอมากขึ้น
“จริงจังหน่อย!” เถารั่งเซียงจงใจทำหน้าบูดบึ้ง “อาจารย์คนอื่นบอกว่าคนอย่างเธอคงจะสอนให้เป็คนดีไม่ได้ ปล่อยเวลาให้ผ่านไปวันๆ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จสักอย่าง บอกว่าเธอเป็ปลาตายตัวเดียวเหม็นไปทั้งข้อง! ฉินหลาง นี่มันเป็เพราะอะไร ทั้งที่ชีวะเธอเก่งจะตาย แต่ทำไมวิชาอื่นเธอถึงไม่ได้เื่? ฉันว่าความจริงไม่ใช่ว่าเธอเรียนไม่ได้เื่หรอก แต่เธอไม่คิดจะตั้งใจมากกว่า!”
“น้าเถา เราสนิทกันขนาดนี้แล้ว ผมจะบอกความจริงกับคุณก็ได้…วิชาอื่น ผมไม่ชอบจริงๆ! ไม่มีความสนใจ!”
เถารั่วเซียงหน้าแดงระเรื่อ ในใจพูดตอบ ใครสนิทกับนายมิทราบ แต่เธอนั้นกลับพูดออกไปว่า “อย่าหาข้ออ้างให้กับความี้เีของตัวเอง อีกอย่าง เธอบอกฉันว่า เป้าหมายของเธอคือมหาวิทยาลัยเซาธ์อีสท์ไชน่าไม่ใช่เหรอ? ด้วยเกรดปัจจุบันของเธอเนี่ยนะ ฉันว่าความหวังมันริบหรี่มากๆ!”
“อันที่จริง…” ฉินหลางคิดอยู่พักหนึ่ง พูดขึ้นอย่างไร้ยางอาย “อันที่จริงแล้วผมเป็ม้ามืด แบบประเภทที่ถ่อมตนมากๆ ปกติแล้วผลการเรียนธรรมดามากๆ แต่เมื่อถึงเวลาสำคัญแล้ว ผมก็จะเป็ดั่งคำพูดที่ว่า ไม่พูดเพราะไม่อยากพูด แต่ถ้าพูดเมื่อไร ทุกคนต้องตะลึง ไม่ทำเพราะไม่อยากทำ ทำเมื่อไรจะออกมาดีที่สุดเช่นกัน!”
“เธอคิดว่าฉันจะเชื่อหรือไง?” เถารั่วเซียงสบถ เห็นได้ชัดว่าเธอเริ่มโมโห “ฉันว่าเธอเพื่อที่เธอจะได้สำนึก และปรับปรุงตัวเป็คนใหม่ ตั้งใจศึกษาหาความรู้ คิดไม่ถึงว่าเธอจะยังคงทำตัวสนุกเฮฮา ไร้สาระไปวันๆ น่าผิดหวังมากจริงๆ! ในวัยอย่างเธอ อาจจะยังตระหนักไม่ได้ว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ มันเป็เื่ที่สำคัญมากแค่ไหน!”
“อาจารย์เถา คุณอย่าเพิ่งผิดหวังสิครับ!” ฉินหลางรีบอธิบาย “อาจารย์เถาครับ ผมกำลังตั้งใจเรียนอย่างเอาเป็เอาตายแล้วจริงๆ ครับ ถ้าไม่เชื่อสิ้นเดือนคุณรอดูคะแนนสอบวัดผลประจำเดือนก็ได้ ผมจะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังแน่นอน!”
“ทำให้ฉันผิดหวังได้ไม่เป็ไร แต่อย่าทำให้พ่อแม่ และตัวเองต้องเสียใจก็แล้วกัน” เถารั่วเซียงกล่าว “เอาอย่างนี้แล้วกัน ถ้าสิ้นเดือนผลการสอบของเธอก้าวะโขึ้นมาได้ละก็ ฉันจะชวนเธอไปทานข้าว!”
“จริงเหรอ? คงจะไม่มีซุนปอมาเป็ไม้กันหมาอีกใช่มั้ย?” อีตาฉินหลางนี่นะ ช่างกล้าพูดไปซะทุกอย่างจริงๆ ยังดีที่ครูคนอื่นในห้องพักครูเลิกงานก่อนเวลากันแล้ว ไม่อย่างนั้น คำพูดนี้เข้าหูซุนปอแล้วละก็ ไม่โกรธจนเืขึ้นหน้าสิแปลก
“โอเค รีบไปเรียนเถอะ” ทันทีที่พูดจบ ก็เหมือนเถารั่วเซียงจะนึกอะไรขึ้นมาได้ “ฉินหลาง ผลการเรียนชีวะของนายค่อนข้างดี ไม่รู้ว่าชนิดของสายพันธุ์แมลงเธอมีความรู้หรือคุ้นเคยบ้างหรือเปล่า?”
“ไม่ใช่แค่คุ้นเคย พูดว่าช่ำชองเลยก็ว่าได้” ความภูมิใจในตัวเอง มันเป็สไตล์ของเขามาตลอดอยู่แล้ว
“หวังว่าเธอจะไม่ได้หลอกฉัน” เถารั่วเซียงพูดด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อเธอเชี่ยวชาญจนช่ำชองในทางด้านนี้ งั้นก็ช่วยฉันได้พอดีเลย อืม เย็นนี้หนึ่งทุ่มตรง เจอกันที่ห้องทดลองของคณะชีวะ สะดวกมั้ย?”
“ไม่มีปัญหา!” มีนัดกับคนสวย ฉินหลางย่อมรู้สึกยินดีเป็ธรรมดา
ออกมาจากห้องทำงานของเถารั่วเซียง ฉินหลางพบกับจ้าวกันที่ถือกระเป๋าเตรียมกลับบ้าน
“ฉินหลาง วันนี้นายไม่กลับบ้านเหรอ?” จ้าวกันถามฉินหลาง
“ไม่อยากเหนื่อยกับการเดินทาง” ฉินหลางพูดพลางส่ายหน้า
“อ๋อ เป็อย่างนี้นี่เอง…งั้นคืนนี้จะมาด้วยกันป่าว เดี๋ยวฉันจะแนะนำเพื่อนๆ ให้นายรู้จัก” จ้าวกันกล่าวถามด้วยความกระตือรือร้น
“วันนี้ไม่ได้อ่ะ เดี๋ยวต้องไปช่วยงานอาจารย์เถาที่ห้องทดลอง” ตอนที่พูดประโยคนี้ ฉินหลางแอบรู้สึกภูมิใจ
“อาจารย์เถาชวน…เจ๋งไปเลย ดูไปแล้วตัวแทนวิชาชีวะชั่วคราวของนายนี่ก้าวหน้าเร็วไม่น้อยเลยนะ!” จ้าวกันอิจฉาจากใจ “สู้ๆ ไม่แน่เดี๋ยวนายอาจจะได้เลื่อนตำแหน่งจากตัวแทนชั่วคราวไปเป็ตัวแทนจริงๆ แล้วก็ได้”
“เลิกคิดเถอะ นายจะแช่งโจวหลิงหลิงให้ป่วยไม่หายตลอดไปเลยรึไง!”
“ไม่ใช่แช่ง ฉันได้ข่าววงในมาว่าอันที่จริงแล้วโจวหลิงหลิงไม่ได้ป่วย แต่กำลังเตรียมจะย้ายโรงเรียนต่างหาก ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร ่นี้สาวๆ สวยๆ หลายคนมักจะเลือกพักการเรียนหรือไม่ก็ย้ายโรงเรียน แปลกใจจริงๆ…” จ้าวกันนี่ช่างเกิดมาพร้อมกับการสอดรู้สอดเห็นเื่ชาวบ้านจริงๆ ตอนนี้เหมือนจะกำลังสนุกกับการคุย จนลืมว่าต้องรีบกลับบ้านไปแล้ว “ข่าววงในนี้ค่อนข้างน่าเชื่อถือ นายก็รู้ ถึงยังไงฉันก็ยังเป็เ้าหน้าที่สภานักเรียน”
“เลิกพูดเถอะ ประธานชมรมกวีกลอนอะไรนั่นของนายอ่ะ—”
“จะเล็กหรือใหญ่ก็เป็เ้าหน้าที่สภานักเรียน!” จ้าวกันสบถ “ฉันจะบอกนาย อย่าดูถูกชมรมกวีกลอนนะ ฉันจะบอกความจริงกับนาย ความจริงแล้วชมรมกวีกลอนของเรานอกจากจะเขียนกาพย์กลอนแล้ว ยังมีอีกหนึ่งภารกิจที่พวกเราแบกไว้บนบ่าเป็ภารกิจที่ทั้งมีศักดิ์สิทธ์และยิ่งใหญ่อีกด้วย—”
พูดถึงตรงนี้ จู่ๆ จ้าวกันก็หยุดลง เห็นได้ชัดว่าฉินหลางเริ่มจะหมดความอดทนแล้ว “อย่าลีลา รีบพูดมาได้แล้ว!”
“ภารกิจที่มีทั้งศักดิ์สิทธิ์และยิ่งใหญ่ ก็คือการรวบรวมข้อมูลข่าวสารของสาวสวยในโรงเรียนชีจง ในทุกๆ รูปแบบจากวงใน!” จ้าวกันสบถ
“เป็ ‘ปาปารัสซี่’ น่ะเหรอ? นี่ไม่ใช่หน้าที่ของบรรณาธิการหนังสือพิมพ์โรงเรียนเหรอ?”
“พวกเขา…” จ้าวกันพูดด้วยความไม่สบอารมณ์ “บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ของโรงเรียน พวกนี้จะรวบรวมข่าวเกี่ยวกับผลการคัดเลือกอาจารย์ใหญ่ เกียรตินิยมโรงเรียนและนักเรียนที่ได้รับรางวัลดีเด่น มีแต่ข่าววิชาการไม่มีความน่าสนใจ! มีแต่ชมรมกวีกลอนของพวกเราเท่านั้นแหละ ที่เป็ศูนย์รวมข่าวสารของหนุ่มสาวโรงเรียนชีจง แบกรับหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้ไว้บนบ่า บอกความจริงกับนายก็ได้ ภายใต้การนำของประธานที่ฉลากหลักแหลม ชมรมกวีกลอนของเราเตรียมออกหนังสือที่รวบรวมข่าวสารทั้งหมดของสาวสวยในโรงเรียนชีจงเอาไว้ แล้วยังเขียนกลอนมอบให้กับสาวงามทุกๆ คน หนึ่งบทกวีคู่กับหนึ่งสาวงาม ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมงานที่กำลังเป็ที่จับตามองอยู่ เป็ไง สนใจบ้างรึเปล่า?”
พูดมาตั้งนาน จ้าวกันกำลังให้ฉินหลางมาช่วยอุดหนุนธุรกิจตัวเองซะงั้น
“สองเล่ม! แบบปกแข็ง!” ฉินหลางตอบอย่างตรงไปตรงมา
“สหาย นายนี่ได้ใจฉันเลยจริงๆ!” จ้าวกันดีใจ
“แต่ว่า ฉันมีข้อแม้เล็กๆ อยู่หนึ่งข้อ” ฉินหลางกล่าว
“เชิญพูดมา”
“หนังสือสองเล่มของฉัน ไม่ต้องมีบทกวีหรือกลอนใดๆ!”
จ้าวกันพูดไม่ออก