เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

      เซี่ยเสี่ยวหลานถูกเหลียงฮวนดึงไปด้วยความเสน่หา เมื่อเดินมาถึงหัวมุมถนน คาดว่าเป็๲ที่ที่มารดาของเธอมองไม่เห็น เธอจึงกระชากมือออกทันทีทันใด

        “พูดสิ เธอกำลังวางแผนอะไรกันแน่?”

        เหลียงฮวนมองเซี่ยเสี่ยวหลาน อยากกล่าวด้วยความสัตย์ซื่อ หน้าตาสะสวยเสียจริง ไม่แปลกใจที่ฝานเจิ้นชวนจะถูกใจ อีกทั้งให้ความสำคัญถึงขนาดนั้น หากเป็๲เมื่อก่อน พี่สาวจากบ้านนอกพูดจาไม่เกรงใจเช่นนี้ เหลียงฮวนจะตอบกลับอย่างเจ็บแสบไร้ปรานีเป็๲แน่ ตอนนี้สถานการณ์ไม่เหมือนเดิมนี่นา พี่สาวใกล้จะเป็๲ภรรยาของฝานเจิ้นชวนแล้ว... เหลียงฮวนอยากจะฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองพี่น้องสักหน่อย

        หลิวฟางไม่ได้รักใคร่เอ็นดูบุตรสาวคนนี้เสียเปล่าเลย เหลียงฮวนเรียนรู้ที่จะเลือกปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยสองโฉมหน้า

        คนที่เหนือกว่าเธอ เธอก็จะสอพลอฉอเลาะ มิเช่นนั้นมารดาฝานเจิ้นชวนคงไม่โปรดปรานเหลียงฮวนมากเหลือเกิน

        “พี่ ฉันมีข่าวดีจะบอกพี่ คิกคิกคิก... ช่างมันดีกว่า ถ้าบอกพี่ก็ไม่ประหลาดใจน่ะสิ มีคนอยากเจอพี่ พี่จะรู้ทุกอย่างเมื่อพบเธอนั่นแหละ”

        มีแม่บ้านตระกูลฝานตั้งใจประจบประแจง เหลียงฮวนไม่เคยได้รับการปรนนิบัติแบบนี้มาก่อนเลย เธอคิดว่าเป็๲เ๱ื่๵๹ดีจริงๆ สีหน้าจึงมีความมั่นใจไม่เจือปนเจตนาร้ายด้วย ทว่ากลับทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานดูไม่ออก เธอระแวงระวังหลิวฟางและลูกสาวเป็๲อย่างมาก ใครใช้ให้หลิวฟางแสดงความ ‘หัวสูง’ เสียชัดเจนแจ่มแจ้งกันเล่า แถมมีคำเตือนของย่าอวี๋อีก เซี่ยเสี่ยวหลานถึงขั้นสงสัยว่าเหลียงฮวนมาเพื่อหลอกเธอไปยังสถานที่ลับตาคน

        เหลียงฮวนไม่ได้โกหก ตรงปากซอยมีคนกำลังรอเธออยู่

        เป็๲หญิงสาวอายุราวยี่สิบกว่า แต่งกายธรรมดา พอเห็นเหลียงฮวนพาเซี่ยเสี่ยวหลานมาหา สายตาก็จับจ้องอยู่ที่เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ละจากไปไหนเลย

        “นี่ ฉันพาพี่มาแล้ว คุณถามเธอเองเถอะ”

        เหลียงฮวนอยากอยู่ต่อเพื่อฟังเหมือนกัน แต่เกรงว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะเขินอาย เธอจึงเอาใจเขามาใส่ใจเราปล่อยให้แม่บ้านสาวไถ่ถามเป็๲การส่วนตัว

        ถ้าไม่เห็นว่าตรงนี้คือปากซอยที่ผู้คนสัญจรไปมา และเหลียงฮวนให้เธอมาพบกับผู้หญิง เซี่ยเสี่ยวหลานคงใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าจี้เหลียงฮวนสลบไปตั้งนานแล้ว

        พฤติกรรมของเหลียงฮวนช่างเหมือนพวกแม่เล้าล่อลวงหญิงสาวยิ่งนัก!

        “คุณสวยมากจริงๆ ไม่แปลกใจที่เขาชอบ”

        เสียวอวี่น้ำเสียงนุ่มนิ่ม สีหน้าค่อนข้างล่องลอย ความงามของเซี่ยเสี่ยวหลานก็คือกริชคมกริบ เปิดใจชายใดออกได้ทั้งนั้นสินะ? กระทั่งฝานเจิ้นชวนผู้ร่าเริงเบิกบานตลอดมาหลังภรรยาเสียชีวิตยังอยากแต่งงานอีกครั้งเมื่อได้พบเซี่ยเสี่ยวหลาน

        น้ำเสียงแฝงไปด้วยความขมขื่นปนเคียดแค้นนี้ทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานอารมณ์เสียยิ่งนัก “นี่คุณเป็๞อะไร มีธุระก็พูดมา ถ้าไม่มีก็ขออภัยที่ฉันต้องขอตัวก่อน”

        เสียวอวี่แทบสำลักอากาศ

        อารมณ์ที่เตรียมพร้อมพรั่งพรูเมื่อครู่ถูกเซี่ยเสี่ยวหลานขัดจังหวะอย่างรุนแรง

        เธอเปลี่ยนท่าทางการพูดของตัวเองโดยพลัน

        “ที่วันนี้ฉันมาพบคุณ เพราะอย่างไรเสียอีกหน่อยเราทุกคนต่างก็ต้องคบค้าสมาคมกัน คุณได้สถานะ และฉันไม่ใช่คนอ่อนแอที่จะยอมโดนรังแกง่ายๆ เป็๞เพราะฉันกับฝานเจิ้นชวนแต่งงานกันไม่ได้เท่านั้น ไม่เช่นนั้นเขาก็ไม่แต่งงานกับคุณหรอก... ฉันอายุมากกว่าคุณนิดหน่อย แต่จะไม่ข่มเหงคุณ ต่อไปพวกเราจะอยู่กันอย่างปรองดอง ต่างคนต่างไม่ต้องสนใจการมีอยู่ของอีกฝ่าย ร่วมกันปรนนิบัติเจิ้นชวน แน่นอนว่าฉันทำได้ แล้วเธอล่ะ ทำได้ไหม?”

        ผู้หญิงคนนี้ไม่บ้าก็โง่

        เซี่ยเสี่ยวหลานไม่เข้าใจแม้แต่น้อยว่าอีกฝ่ายกำลังพูดเ๹ื่๪๫อะไร ในความเพ้อเจ้อของเสียวอวี่ได้หลุดเผยปริมาณข้อมูลจำนวนมากออกมา ใครจะแต่งงานกับเธอกัน?

        โจวเฉิงเคยเกริ่นเ๱ื่๵๹นี้กับเธอ แต่โจวเฉิงคือคนรักที่เธอคบหาจริงจัง ไม่ว่าเธอจะคิดเกี่ยวกับการแต่งงานอย่างไร การที่โจวเฉิงเสนอความคิดนี้ถือว่าสมเหตุสมผลอย่างสมบูรณ์ ทว่าหญิงแปลกหน้าคนหนึ่งโผล่มาพูดจาไร้สาระเช่นนี้ เป็๲ไปได้ว่าจิตวิปลาสใช่หรือไม่? ร่วมกันปรนนิบัติใคร ใช่ ‘ปรนนิบัติ’ แบบที่เธอคิดไหม?!

        “หยุดหยุดหยุด คุณพูดให้มันรู้เ๹ื่๪๫เป็๞ไหม? จะเล่าเ๹ื่๪๫ทั้งทีก็เริ่มจากจุดเริ่มต้นสิ! เจิ้นชวนคือใคร แล้วคุณคือใคร? น่าขำจริง ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะแต่งงาน คุณก็โผล่มาเตือนฉันแล้วว่าหลังแต่งงานจะต้องซื่อสัตย์เสียอย่างนั้น... ฉันจำเป็๞ต้องแก้ไขให้คุณหนึ่งอย่างนะ คุณดูอายุยี่สิบกว่าๆ แล้ว ไม่ได้โตกว่าฉันนิดหน่อย”

        เสียวอวี่หน้าซีด

        แน่นอนว่าท่าทางน่าเอ็นดูอันแสนอ่อนหวานมีไว้สำหรับทำให้บุรุษดูเท่านั้น หากเธอยังทำท่าทางแบบนั้นอีก ถือเป็๞การอวดความสามารถต่อหน้าเซี่ยเสี่ยวหลานโดยไร้ประโยชน์

        เพียงแต่เซี่ยเสี่ยวหลานดูจิ้มลิ้มนุ่มนวล นึกไม่ถึงว่านิสัยดันไม่สอดคล้องกับรูปลักษณ์แม้แต่น้อย

        ไม่เดินตามแผนการของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำเอาเสียวอวี่พูดไม่ออกเลย!

        เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้พูดผิด เสียวอวี่ผู้มีอายุ ‘ยี่สิบกว่าๆ’ กัดฟัน “เธอเสแสร้งเพื่ออะไร เธอไม่รู้ว่าตัวเองจะแต่งงานกับเจิ้นชวนอย่างนั้นหรือ?”

        เซี่ยเสี่ยวหลานส่ายหน้าอย่างตรงไปตรงมา “คือใครกัน?”

        “ฝานเจิ้นชวนแห่งเขตเหอตง!”

        บอกชื่อเสียงเรียงนามเต็มยศแล้วก็ยังไม่รู้ ช่างเป็๞เด็กบ้านนอกผู้โง่เขลาจริงๆ ! น่าโมโหที่เด็กบ้านนอกคนนี้กลับมีหน้าตาของปีศาจจิ้งจอกสาว ดูมีเสน่ห์ดึงดูดเหลือเกิน

        ขนาดเขตอันชิ่งมีบุคคลสำคัญคนไหนบ้างเซี่ยเสี่ยวหลานยังรับข้อมูลได้ไม่ครบเลย นับประสาอะไรกับเขตเหอตงที่อยู่ใกล้เคียงกัน และเธอเองก็ไม่คิดว่าตนเองจำเป็๲จะต้องไปจดจำบุคคลเหล่านี้ มนุษย์ย่อมเดินขึ้นที่สูง เวทีแสดงความสามารถของเซี่ยเสี่ยวหลานมิได้อยู่แค่ในเขตเล็กๆ นั่นเสียหน่อย อันชิ่งยังเรียกได้ว่าเป็๲บ้านเกิด ส่วนเขตเหอตงนั้นไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ต่อกัน ทว่าเห็นได้ชัดว่าผู้หญิงตรงหน้าไม่คิดแบบนี้ บ้านเหลียงอยู่เขตเหอตง คนที่น้าหลิวฟางพยายามแนะนำให้เธอสุดชีวิตน่าจะเป็๲ ‘ฝานเจิ้นชวน’ ตามคำบอกเล่าของผู้หญิงคนนี้นั่นเอง—เซี่ยเสี่ยวหลานคิดแค่ว่าไร้สาระและน่าขบขัน ทางเธอไม่เคยรับปากอะไรด้วยซ้ำ อะไรทำให้ฝ่ายชายเข้าใจผิดคิดว่าเธอตกลงแต่งงานด้วยแล้วกันแน่?

        ไม่นึกไม่ฝันว่าจะมีผู้หญิงตามมาถึงที่

        คิดต่อรองกับเธอ พูดว่าในอนาคตทั้งสองต้องไม่ยุ่งวุ่นวายซึ่งกันและกัน

        “คุณคือผู้หญิงของฝานเจิ้นชวนสินะ? ฉันไม่ใส่ใจเ๹ื่๪๫ของพวกคุณหรอก ฉันเพิ่งเคยได้ยินชื่อคนคนนี้เป็๞ครั้งแรก เป็๞ไปไม่ได้ที่จะแต่งงานกับเขา คุณวางใจเถอะ ไม่มีคนแย่งผู้ชายกับคุณแน่นอน”

        ต้องเป็๲น้าหลิวฟางที่กำลังลวงหลอกทั้งสองฝ่ายแน่นอน

        ๰่๭๫นี้เซี่ยเสี่ยวหลานใกล้กลายเป็๞ ‘คนบ้าแบบฝึกหัด’ แล้ว ทั้งหัวสมองล้วนคือทำแบบฝึกหัดและทำแบบฝึกหัด แต่หลิวฟางก็ยังจะโยนเ๹ื่๪๫ราวน้ำเน่าประเภทนี้ใส่ตัวเธออีก เซี่ยเสี่ยวหลานโกรธจนอยากตีคน

        เสียวอวี่เห็นว่าเธอไม่เหมือนกำลังโกหก

        หรือจะไม่รู้จริงๆ ?

        ใช่แล้ว หากรู้อยู่แล้วว่าจะได้แต่งงานกับฝานเจิ้นชวน ไม่มีหญิงคนไหนจะเฉยเมยต่อการยั่วยุเช่นนี้ของเธอ

        ทว่ารู้หรือไม่รู้นั้นเกี่ยวข้องอะไร ผู้หญิงของฝานเจิ้นชวนมีอยู่ถมเถไป รวมถึงเสียวอวี่ด้วย มีตั้งหลายคนที่ไม่ได้ยินยอมติดตามเขา ตัวผู้หญิงเองเห็นชอบหรือไม่ก็ไม่กระทบต่อผลลัพธ์

        “เขาอยากแต่งงานกับคุณ ไม่ช้าก็เร็วคุณจะต้องแต่งเข้าบ้านมา ถ้าคุณไม่อยากแต่ง เช่นนั้นก็รีบหนีไปเสีย... หนีไปไกลเท่าไรยิ่งดี”

        เสียวอวี่ไม่มีอะไรจะเอาชนะความมั่นใจของเซี่ยเสี่ยวหลานเลยจริงๆ พอพบเซี่ยเสี่ยวหลานแล้ว เธอรู้ดีว่าการที่เธอสูญเสียความโปรดปรานเป็๞จุดจบอันเลี่ยงไม่ได้ นอกเสียจากไม่มีเซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ เสียวอวี่จึงยุแหย่ให้เซี่ยเสี่ยวหลานหนีไป

        เซี่ยเสี่ยวหลานจะหนีไหมนะ?

        จวบจนตอนนี้เธอยังไม่รับรู้ว่าฝานเจิ้นชวนเตรียมจัดงานมงคลสมรสในเดือนพฤษภาคม คงเป็๞เพราะตัวหญิงสาวคนนี้ไม่ยินยอมหรือครอบครัวแอบจัดแจงให้แน่นอน

        เสียวอวี่พูดจบแล้วจากไปทันที ถ้าเซี่ยเสี่ยวหลานฉลาดพอ ก็ควรลองสืบเสาะกิตติศัพท์ของฝานเจิ้นชวน หากเซี่ยเสี่ยวหลานเลือก ‘หนีงานแต่ง’ จริง เสียวอวี่จะยินดีมากที่มันเกิดขึ้น

        ไม่แน่ เธออาจช่วยเงินค่าเดินทางด้วยอีกสักหน่อย

        เซี่ยเสี่ยวหลานมองเธอเดินจากไป เธอได้รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างนี้ไม่พ้นเป็๲ความวุ่นวายที่หลิวฟางก่อ เธอกลับไปยังร้าน พบว่าเหลียงฮวนกำลังยิ้มแย้มแจ่มใสออดอ้อนหลิวเฟิน เธอข่มไฟโทสะในใจไม่อยู่อีกแล้ว ก้าวเข้าไปกระชากแขนของเหลียงฮวน ดึงอีกฝ่ายจนโซเซในชั่วอึดใจ

        “ช่างเป็๞น้องสาวแสนดีของฉันเสียจริงนะ เธอพูดมา แม่เธอขายฉันได้ราคาดีสักเท่าไร? ฉันจะแต่งงานแล้ว แต่ฉันเองกลับไม่รู้งั้นสินะ?”

        จะสงบจิตใจอะไรได้ จะไม่รู้ร้อนหนาวอะไรได้

        ด้วยเ๹ื่๪๫ราวเหลวไหลที่เซี่ยเสี่ยวหลานประสบนี้ เธอคิดเพียงแต่จะตอบโต้ให้สาสม เธอไม่คิดสงบจิตใจปล่อยหลิวฟางรอดไปอย่างง่ายดายหรอก!


 


 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้