เซี่ยเสี่ยวหลานถูกเหลียงฮวนดึงไปด้วยความเสน่หา เมื่อเดินมาถึงหัวมุมถนน คาดว่าเป็ที่ที่มารดาของเธอมองไม่เห็น เธอจึงกระชากมือออกทันทีทันใด
“พูดสิ เธอกำลังวางแผนอะไรกันแน่?”
เหลียงฮวนมองเซี่ยเสี่ยวหลาน อยากกล่าวด้วยความสัตย์ซื่อ หน้าตาสะสวยเสียจริง ไม่แปลกใจที่ฝานเจิ้นชวนจะถูกใจ อีกทั้งให้ความสำคัญถึงขนาดนั้น หากเป็เมื่อก่อน พี่สาวจากบ้านนอกพูดจาไม่เกรงใจเช่นนี้ เหลียงฮวนจะตอบกลับอย่างเจ็บแสบไร้ปรานีเป็แน่ ตอนนี้สถานการณ์ไม่เหมือนเดิมนี่นา พี่สาวใกล้จะเป็ภรรยาของฝานเจิ้นชวนแล้ว... เหลียงฮวนอยากจะฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองพี่น้องสักหน่อย
หลิวฟางไม่ได้รักใคร่เอ็นดูบุตรสาวคนนี้เสียเปล่าเลย เหลียงฮวนเรียนรู้ที่จะเลือกปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยสองโฉมหน้า
คนที่เหนือกว่าเธอ เธอก็จะสอพลอฉอเลาะ มิเช่นนั้นมารดาฝานเจิ้นชวนคงไม่โปรดปรานเหลียงฮวนมากเหลือเกิน
“พี่ ฉันมีข่าวดีจะบอกพี่ คิกคิกคิก... ช่างมันดีกว่า ถ้าบอกพี่ก็ไม่ประหลาดใจน่ะสิ มีคนอยากเจอพี่ พี่จะรู้ทุกอย่างเมื่อพบเธอนั่นแหละ”
มีแม่บ้านตระกูลฝานตั้งใจประจบประแจง เหลียงฮวนไม่เคยได้รับการปรนนิบัติแบบนี้มาก่อนเลย เธอคิดว่าเป็เื่ดีจริงๆ สีหน้าจึงมีความมั่นใจไม่เจือปนเจตนาร้ายด้วย ทว่ากลับทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานดูไม่ออก เธอระแวงระวังหลิวฟางและลูกสาวเป็อย่างมาก ใครใช้ให้หลิวฟางแสดงความ ‘หัวสูง’ เสียชัดเจนแจ่มแจ้งกันเล่า แถมมีคำเตือนของย่าอวี๋อีก เซี่ยเสี่ยวหลานถึงขั้นสงสัยว่าเหลียงฮวนมาเพื่อหลอกเธอไปยังสถานที่ลับตาคน
เหลียงฮวนไม่ได้โกหก ตรงปากซอยมีคนกำลังรอเธออยู่
เป็หญิงสาวอายุราวยี่สิบกว่า แต่งกายธรรมดา พอเห็นเหลียงฮวนพาเซี่ยเสี่ยวหลานมาหา สายตาก็จับจ้องอยู่ที่เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ละจากไปไหนเลย
“นี่ ฉันพาพี่มาแล้ว คุณถามเธอเองเถอะ”
เหลียงฮวนอยากอยู่ต่อเพื่อฟังเหมือนกัน แต่เกรงว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะเขินอาย เธอจึงเอาใจเขามาใส่ใจเราปล่อยให้แม่บ้านสาวไถ่ถามเป็การส่วนตัว
ถ้าไม่เห็นว่าตรงนี้คือปากซอยที่ผู้คนสัญจรไปมา และเหลียงฮวนให้เธอมาพบกับผู้หญิง เซี่ยเสี่ยวหลานคงใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าจี้เหลียงฮวนสลบไปตั้งนานแล้ว
พฤติกรรมของเหลียงฮวนช่างเหมือนพวกแม่เล้าล่อลวงหญิงสาวยิ่งนัก!
“คุณสวยมากจริงๆ ไม่แปลกใจที่เขาชอบ”
เสียวอวี่น้ำเสียงนุ่มนิ่ม สีหน้าค่อนข้างล่องลอย ความงามของเซี่ยเสี่ยวหลานก็คือกริชคมกริบ เปิดใจชายใดออกได้ทั้งนั้นสินะ? กระทั่งฝานเจิ้นชวนผู้ร่าเริงเบิกบานตลอดมาหลังภรรยาเสียชีวิตยังอยากแต่งงานอีกครั้งเมื่อได้พบเซี่ยเสี่ยวหลาน
น้ำเสียงแฝงไปด้วยความขมขื่นปนเคียดแค้นนี้ทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานอารมณ์เสียยิ่งนัก “นี่คุณเป็อะไร มีธุระก็พูดมา ถ้าไม่มีก็ขออภัยที่ฉันต้องขอตัวก่อน”
เสียวอวี่แทบสำลักอากาศ
อารมณ์ที่เตรียมพร้อมพรั่งพรูเมื่อครู่ถูกเซี่ยเสี่ยวหลานขัดจังหวะอย่างรุนแรง
เธอเปลี่ยนท่าทางการพูดของตัวเองโดยพลัน
“ที่วันนี้ฉันมาพบคุณ เพราะอย่างไรเสียอีกหน่อยเราทุกคนต่างก็ต้องคบค้าสมาคมกัน คุณได้สถานะ และฉันไม่ใช่คนอ่อนแอที่จะยอมโดนรังแกง่ายๆ เป็เพราะฉันกับฝานเจิ้นชวนแต่งงานกันไม่ได้เท่านั้น ไม่เช่นนั้นเขาก็ไม่แต่งงานกับคุณหรอก... ฉันอายุมากกว่าคุณนิดหน่อย แต่จะไม่ข่มเหงคุณ ต่อไปพวกเราจะอยู่กันอย่างปรองดอง ต่างคนต่างไม่ต้องสนใจการมีอยู่ของอีกฝ่าย ร่วมกันปรนนิบัติเจิ้นชวน แน่นอนว่าฉันทำได้ แล้วเธอล่ะ ทำได้ไหม?”
ผู้หญิงคนนี้ไม่บ้าก็โง่
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่เข้าใจแม้แต่น้อยว่าอีกฝ่ายกำลังพูดเื่อะไร ในความเพ้อเจ้อของเสียวอวี่ได้หลุดเผยปริมาณข้อมูลจำนวนมากออกมา ใครจะแต่งงานกับเธอกัน?
โจวเฉิงเคยเกริ่นเื่นี้กับเธอ แต่โจวเฉิงคือคนรักที่เธอคบหาจริงจัง ไม่ว่าเธอจะคิดเกี่ยวกับการแต่งงานอย่างไร การที่โจวเฉิงเสนอความคิดนี้ถือว่าสมเหตุสมผลอย่างสมบูรณ์ ทว่าหญิงแปลกหน้าคนหนึ่งโผล่มาพูดจาไร้สาระเช่นนี้ เป็ไปได้ว่าจิตวิปลาสใช่หรือไม่? ร่วมกันปรนนิบัติใคร ใช่ ‘ปรนนิบัติ’ แบบที่เธอคิดไหม?!
“หยุดหยุดหยุด คุณพูดให้มันรู้เื่เป็ไหม? จะเล่าเื่ทั้งทีก็เริ่มจากจุดเริ่มต้นสิ! เจิ้นชวนคือใคร แล้วคุณคือใคร? น่าขำจริง ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะแต่งงาน คุณก็โผล่มาเตือนฉันแล้วว่าหลังแต่งงานจะต้องซื่อสัตย์เสียอย่างนั้น... ฉันจำเป็ต้องแก้ไขให้คุณหนึ่งอย่างนะ คุณดูอายุยี่สิบกว่าๆ แล้ว ไม่ได้โตกว่าฉันนิดหน่อย”
เสียวอวี่หน้าซีด
แน่นอนว่าท่าทางน่าเอ็นดูอันแสนอ่อนหวานมีไว้สำหรับทำให้บุรุษดูเท่านั้น หากเธอยังทำท่าทางแบบนั้นอีก ถือเป็การอวดความสามารถต่อหน้าเซี่ยเสี่ยวหลานโดยไร้ประโยชน์
เพียงแต่เซี่ยเสี่ยวหลานดูจิ้มลิ้มนุ่มนวล นึกไม่ถึงว่านิสัยดันไม่สอดคล้องกับรูปลักษณ์แม้แต่น้อย
ไม่เดินตามแผนการของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำเอาเสียวอวี่พูดไม่ออกเลย!
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้พูดผิด เสียวอวี่ผู้มีอายุ ‘ยี่สิบกว่าๆ’ กัดฟัน “เธอเสแสร้งเพื่ออะไร เธอไม่รู้ว่าตัวเองจะแต่งงานกับเจิ้นชวนอย่างนั้นหรือ?”
เซี่ยเสี่ยวหลานส่ายหน้าอย่างตรงไปตรงมา “คือใครกัน?”
“ฝานเจิ้นชวนแห่งเขตเหอตง!”
บอกชื่อเสียงเรียงนามเต็มยศแล้วก็ยังไม่รู้ ช่างเป็เด็กบ้านนอกผู้โง่เขลาจริงๆ ! น่าโมโหที่เด็กบ้านนอกคนนี้กลับมีหน้าตาของปีศาจจิ้งจอกสาว ดูมีเสน่ห์ดึงดูดเหลือเกิน
ขนาดเขตอันชิ่งมีบุคคลสำคัญคนไหนบ้างเซี่ยเสี่ยวหลานยังรับข้อมูลได้ไม่ครบเลย นับประสาอะไรกับเขตเหอตงที่อยู่ใกล้เคียงกัน และเธอเองก็ไม่คิดว่าตนเองจำเป็จะต้องไปจดจำบุคคลเหล่านี้ มนุษย์ย่อมเดินขึ้นที่สูง เวทีแสดงความสามารถของเซี่ยเสี่ยวหลานมิได้อยู่แค่ในเขตเล็กๆ นั่นเสียหน่อย อันชิ่งยังเรียกได้ว่าเป็บ้านเกิด ส่วนเขตเหอตงนั้นไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ต่อกัน ทว่าเห็นได้ชัดว่าผู้หญิงตรงหน้าไม่คิดแบบนี้ บ้านเหลียงอยู่เขตเหอตง คนที่น้าหลิวฟางพยายามแนะนำให้เธอสุดชีวิตน่าจะเป็ ‘ฝานเจิ้นชวน’ ตามคำบอกเล่าของผู้หญิงคนนี้นั่นเอง—เซี่ยเสี่ยวหลานคิดแค่ว่าไร้สาระและน่าขบขัน ทางเธอไม่เคยรับปากอะไรด้วยซ้ำ อะไรทำให้ฝ่ายชายเข้าใจผิดคิดว่าเธอตกลงแต่งงานด้วยแล้วกันแน่?
ไม่นึกไม่ฝันว่าจะมีผู้หญิงตามมาถึงที่
คิดต่อรองกับเธอ พูดว่าในอนาคตทั้งสองต้องไม่ยุ่งวุ่นวายซึ่งกันและกัน
“คุณคือผู้หญิงของฝานเจิ้นชวนสินะ? ฉันไม่ใส่ใจเื่ของพวกคุณหรอก ฉันเพิ่งเคยได้ยินชื่อคนคนนี้เป็ครั้งแรก เป็ไปไม่ได้ที่จะแต่งงานกับเขา คุณวางใจเถอะ ไม่มีคนแย่งผู้ชายกับคุณแน่นอน”
ต้องเป็น้าหลิวฟางที่กำลังลวงหลอกทั้งสองฝ่ายแน่นอน
่นี้เซี่ยเสี่ยวหลานใกล้กลายเป็ ‘คนบ้าแบบฝึกหัด’ แล้ว ทั้งหัวสมองล้วนคือทำแบบฝึกหัดและทำแบบฝึกหัด แต่หลิวฟางก็ยังจะโยนเื่ราวน้ำเน่าประเภทนี้ใส่ตัวเธออีก เซี่ยเสี่ยวหลานโกรธจนอยากตีคน
เสียวอวี่เห็นว่าเธอไม่เหมือนกำลังโกหก
หรือจะไม่รู้จริงๆ ?
ใช่แล้ว หากรู้อยู่แล้วว่าจะได้แต่งงานกับฝานเจิ้นชวน ไม่มีหญิงคนไหนจะเฉยเมยต่อการยั่วยุเช่นนี้ของเธอ
ทว่ารู้หรือไม่รู้นั้นเกี่ยวข้องอะไร ผู้หญิงของฝานเจิ้นชวนมีอยู่ถมเถไป รวมถึงเสียวอวี่ด้วย มีตั้งหลายคนที่ไม่ได้ยินยอมติดตามเขา ตัวผู้หญิงเองเห็นชอบหรือไม่ก็ไม่กระทบต่อผลลัพธ์
“เขาอยากแต่งงานกับคุณ ไม่ช้าก็เร็วคุณจะต้องแต่งเข้าบ้านมา ถ้าคุณไม่อยากแต่ง เช่นนั้นก็รีบหนีไปเสีย... หนีไปไกลเท่าไรยิ่งดี”
เสียวอวี่ไม่มีอะไรจะเอาชนะความมั่นใจของเซี่ยเสี่ยวหลานเลยจริงๆ พอพบเซี่ยเสี่ยวหลานแล้ว เธอรู้ดีว่าการที่เธอสูญเสียความโปรดปรานเป็จุดจบอันเลี่ยงไม่ได้ นอกเสียจากไม่มีเซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ เสียวอวี่จึงยุแหย่ให้เซี่ยเสี่ยวหลานหนีไป
เซี่ยเสี่ยวหลานจะหนีไหมนะ?
จวบจนตอนนี้เธอยังไม่รับรู้ว่าฝานเจิ้นชวนเตรียมจัดงานมงคลสมรสในเดือนพฤษภาคม คงเป็เพราะตัวหญิงสาวคนนี้ไม่ยินยอมหรือครอบครัวแอบจัดแจงให้แน่นอน
เสียวอวี่พูดจบแล้วจากไปทันที ถ้าเซี่ยเสี่ยวหลานฉลาดพอ ก็ควรลองสืบเสาะกิตติศัพท์ของฝานเจิ้นชวน หากเซี่ยเสี่ยวหลานเลือก ‘หนีงานแต่ง’ จริง เสียวอวี่จะยินดีมากที่มันเกิดขึ้น
ไม่แน่ เธออาจช่วยเงินค่าเดินทางด้วยอีกสักหน่อย
เซี่ยเสี่ยวหลานมองเธอเดินจากไป เธอได้รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างนี้ไม่พ้นเป็ความวุ่นวายที่หลิวฟางก่อ เธอกลับไปยังร้าน พบว่าเหลียงฮวนกำลังยิ้มแย้มแจ่มใสออดอ้อนหลิวเฟิน เธอข่มไฟโทสะในใจไม่อยู่อีกแล้ว ก้าวเข้าไปกระชากแขนของเหลียงฮวน ดึงอีกฝ่ายจนโซเซในชั่วอึดใจ
“ช่างเป็น้องสาวแสนดีของฉันเสียจริงนะ เธอพูดมา แม่เธอขายฉันได้ราคาดีสักเท่าไร? ฉันจะแต่งงานแล้ว แต่ฉันเองกลับไม่รู้งั้นสินะ?”
จะสงบจิตใจอะไรได้ จะไม่รู้ร้อนหนาวอะไรได้
ด้วยเื่ราวเหลวไหลที่เซี่ยเสี่ยวหลานประสบนี้ เธอคิดเพียงแต่จะตอบโต้ให้สาสม เธอไม่คิดสงบจิตใจปล่อยหลิวฟางรอดไปอย่างง่ายดายหรอก!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้