เยี่ยจื่ออวิ๋นล้วงม้วนยันต์ออกมาจากแหวนมิติสองม้วน
ผู้เยี่ยมยุทธ์มักเขียนเคล็ดวิชาบางอย่างของตนเก็บเอาไว้ จารึกเป็ยันต์ลงกลางม้วนกระดาษ ยามต่อสู้สามารถกระตุ้นม้วนยันต์ให้ปลดปล่อยพลังออกมาตามเคล็ดวิชาได้ วิธีนี้รวดเร็วกว่าการใช้เคล็ดวิชาโดยตรง ทว่าม้วนยันต์ปกติราคาแพงยิ่งนัก ม้วนยันต์เปล่าๆ ม้วนหนึ่งมีราคานับร้อยเหรียญจิตอสูร ม้วนยันต์คุณภาพระดับทองแดงจะขายในราคานับพันเหรียญจิตอสูร ระดับเงินอาจมีราคาหลักหมื่นเหรียญ ส่วนระดับทองนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ของสิ่งนี้มิใช่คนทั่วไปจะสามารถมีได้ ราคาของมันนั้นแพงลิบลิ่ว
“ยันต์สองม้วนนี้ล้วนเป็ยันต์วายุเหมันต์” นิ้วขาวผ่องราวหยกของเยี่ยจื่ออวิ๋นค่อยๆ คลี่ยันต์ระดับทองแดงม้วนหนึ่งออกมา “ยันต์สองม้วนนี้ดูเหมือนมีปัญหาบางอย่างขณะถูกจารึก จึงไม่เสถียรขณะใช้งาน แต่ข้าหาสาเหตุไม่พบ”
เนี่ยหลีกวาดตามองยันต์ทั้งสองม้วนบนม้วนกระดาษ เขามองคราเดียวก็ดูออกแล้วว่ายันต์สองชุดนี้มีปัญหาที่ตรงไหน
ชาติที่แล้วอาศัยอยู่ในบันทึกจิตอสูรแห่งกาลเวลาเพื่อฝึกตนเป็เวลานาน เนี่ยหลีเข้าใจยันต์หลากหลายรูปแบบ นับว่าอยู่ในระดับสุดยอด ไม่ว่าจะเป็ด้านคุณลักษณะหรือรูปแบบ สำหรับเนี่ยหลีแล้วล้วนเข้าใจได้อย่างแตกฉาน การแก้ไขยันต์ระดับทองแดงสำหรับเขาจึงมิใช่เื่ยากเย็นอันใด
“กระทั่งผู้เชี่ยวชาญก็ยังไม่อาจบอกได้ว่าปัญหาของยันต์ระดับทองแดงสองชุดนี้อยู่ที่ใด? ด้วยฐานะทางบ้านของเ้า บิดาเ้าก็หาคำตอบมิได้หรือ?” เนี่ยหลีมองเยี่ยจื่ออวิ๋น
ภายในดวงตาสีม่วงอ่อนของเยี่ยจื่ออวิ๋นแฝงแววเศร้าสร้อย
เนี่ยหลีพลันเข้าใจ เยี่ยจื่ออวิ๋นกำพร้ามารดามาั้แ่เล็ก บิดาของนางเป็เ้าเมือง ปู่ของนางเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับตำนาน เขามักต้องพาคนไปสำรวจเทือกเขาเซิ่งจู่และคอยกำจัดภัยคุกคามของเมืองกวงฮุยอยู่เสมอ ย่อมมิได้มีผู้ใดคอยช่วยตอบปัญหาของเยี่ยจื่ออวิ๋น
คิดมาถึงตรงนี้แล้ว เนี่ยหลีจึงเต็มไปด้วยความรู้สึกสงสารเห็นใจเยี่ยจื่ออวิ๋น เนี่ยหลีพูดกับเยี่ยจืออวิ๋นว่า “ต่อไปหากเ้ามีปัญหาอะไรก็มาหาข้าได้ที่นี่ ทุกวันในเวลานี้!”
ครั้นกล่าวจบ สองตาเนี่ยหลีจรดลงบนม้วนยันต์ทั้งสอง ชี้ไปที่ยันต์ชุดหนึ่งและพูดว่า “ยันต์ระดับทองแดงชุดนี้คือยันต์รูปแบบวายุเหมันต์ ยันต์ดุจใบมีดวายุเหมันต์ โครงสร้างยันต์ไม่ได้มีปัญหาอะไร นี่เป็ม้วนยันต์คุณภาพต่ำ”
“ยันต์คุณภาพต่ำอย่างนั้นรึ?” เยี่ยจื่ออวิ๋นเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
“ใช่แล้วแม่นาง ผู้ที่เขียนยันต์ปลอมม้วนนี้ฉลาดนัก หากสายตาไม่ดีพอก็อาจจะถูกหลอกให้ซื้อได้ง่าย” เนี่ยหลียิ้มแย้มพูดว่า “ยันต์ดุจใบมีดวายุเหมันต์ชุดนี้เขียนด้วยเืจากตัวอ่อนของหนอนิญญาวายุเหมันต์ เืจากตัวอ่อนของหนอนิญญาวายุเหมันต์ยังไม่แรงพอ ดังนั้นจึงทำให้ยันต์ดุจใบมีดวายุเหมันต์ไม่อาจถูกกระตุ้นได้”
หนอนิญญาวายุวายุเหมันต์ตัวเต็มวัยจะมีเืสีเทาเงิน ส่วนเืตัวอ่อนมีสีแดงเทา เยี่ยจื่ออวิ๋นคิดไม่ถึงว่าปัญหาจะอยู่ที่ตรงนี้ นางเคยนำม้วนยันต์ที่ไม่อาจถูกกระตุ้นได้ผืนนี้ออกมาให้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนในโรงเรียนช่วยตรวจสอบ กระทั่งผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่ แต่ไม่มีผู้ใดตรวจพบได้ว่าปัญหาอยู่ที่ตรงไหน เพราะนี่คือยันต์ระดับทองแดงที่สมบูรณ์ชุดหนึ่ง!
ความสงสัยนี้ซุกซ่อนอยู่ในใจของเยี่ยจื่ออวิ๋นมาเป็เวลานานแล้ว กระทั่งวันนี้ ความสงสัยทั้งมวลจึงถูกคลายออก
ที่แท้ความคิดของนางนั้นไม่ถูกต้อง ร่างยันต์ไม่ได้มีปัญหา ดังนั้นเมื่อนางคิดอยากจะหาปัญหาของยันต์นี้ นั่นจึงเป็เื่ที่เป็ไปไม่ได้เลย
ปัญหาเช่นนี้เนี่ยหลีก็ยังมองออกได้ในคราวเดียว จะต้องเรียนรู้ถึงระดับไหนถึงจะเชี่ยวชาญเพียงนี้? กระทั่งความรู้ของพวกอาจารย์และรองอาจารย์ใหญ่ก็ยังเทียบเนี่ยหลีไม่ได้
เยี่ยจื่ออวิ๋นยอมรับเนี่ยหลีอย่างใจจริง และยังค่อยๆ ลดกำแพงในใจของนางลง คนผู้หนึ่งมีความรู้ลึกซึ้งปานนี้ เดาว่านิสัยก็คงมิได้เลวร้ายนักใช่หรือไม่
“แล้วยันต์ม้วนนี้เล่า?” เยี่ยจื่ออวิ๋นชี้ไปที่ยันต์อีกม้วนหนึ่ง ทางหนึ่งใช้นิ้วชี้ อีกทางหนึ่งมองหน้าเนี่ยหลี เนี่ยหลีรูปร่างสูงกว่านางเล็กน้อย โครงหน้าได้ส่วน สองคิ้วคมชัด ค่อนข้างหล่อเหลาไม่น้อย
ที่ผ่านมา ความคงอยู่ของเนี่ยหลีในชั้นมิได้โดดเด่นเลยแม้แต่น้อย กระทั่งถึงวันนี้ หลังจากที่เยี่ยจื่ออวิ๋นเริ่มรู้จักเนี่ยหลีมากขึ้น ในใจจึงบังเกิดความยอมรับอย่างแท้จริง
“ยันต์ม้วนนี้คือยันต์รูปแบบวายุเหมันต์ เรียกว่ายันต์ลมหิมะสลาตัน ยันต์ลมหิมะสลาตันนี้เดิมเป็ยันต์ระดับเงิน ทว่าตกทอดมาจากยุคมืด จึงกลายเป็ยันต์ที่ไม่สมบูรณ์ หลังจากนั้นชนรุ่นหลังพยายามจะแก้ไขให้สมบูรณ์ ยันต์จึงมีคุณภาพตกลงมาระดับหนึ่ง กลายเป็ยันต์ระดับทองแดง” เนี่ยหลีพูด
เยี่ยจื่ออวิ๋นสงสัย นางคิดไม่ถึงว่าจะมีเื้ัที่มาที่ไปอยู่ หนังสือเล่มใดกันที่บันทึกเื่นี้เอาไว้ เหตุใดนางจึงไม่เคยอ่านพบมาก่อน?
จึงฟังเนี่ยหลีพูดต่อไป “สาเหตุอีกอย่างหนึ่งที่เลื่อนยันต์ชุดนี้ลงไปเป็ระดับทองแดงเพราะหลังจากที่แก้ไขยันต์ลมหิมะสลาตันจนสมบูรณ์ ยังมีปัญหาบางอย่างกับโครงสร้างของมัน บ่อยครั้งเกิดปัญหาขึ้นในระหว่างกระตุ้นการใช้งาน จำเป็ต้องเปลี่ยนโครงสร้างของมันเล็กน้อย”
“เปลี่ยนโครงสร้างอย่างนั้นรึ? จะเปลี่ยนได้อย่างไร?” ดวงตาของเยี่ยจื่ออวิ๋นเต็มไปด้วยความสงสัย แม้แต่ปู่ของนาง เขาก็ไม่กล้ายุ่งกับโครงสร้างของยันต์ เพราะยันต์ที่ถูกถ่ายทอดมาแต่ครั้งโบราณล้วนมีความสมบูรณ์อยู่แล้ว แม้ท่านปู่จะเป็ถึงผู้ควบคุมจิตอสูรระดับตำนานผู้หนึ่งและสามารถประดิษฐ์ยันต์ด้วยตนเองได้ นั่นยังเป็เื่ยากที่จะแก้ไขโครงสร้างยันต์ม้วนๆ หนึ่ง
“มีพู่กันหรือไม่?” เนี่ยหลีเอ่ยถาม จ้องมองเยี่ยจื่ออวิ๋น
เยี่ยจื่ออวิ๋นขยับมือขวาและหยิบพู่กันสีเงินออกมาจากแหวนมิติซึ่งทำจากส่วนแหลมของเขาแกะเขาโค้ง
เนี่ยหลีรับพู่กันเขาเงินมาจากมือของเยี่ยจื่ออวิ๋น ปลายนิ้วบังเอิญแตะถูกฝ่ามือของเยี่ยจื่ออวิ๋น ผิวนุ่มนิ่มของนางทำให้หัวใจเขาสั่นระรัว
นางพลันถอนมือกลับและรีบเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาจ้องมองเนี่ยหลี นางคิดว่าเนี่ยหลีจงใจฉวยโอกาสกับนาง ทว่าเวลานั้น เนี่ยหลีกำลังถือพู่กันเขาเงินอยู่ด้วยสีหน้าจริงจัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความสง่าภูมิฐานตั้งใจ
บางทีนางคงคิดมากไปเอง ััเมื่อครู่สร้างความรู้สึกประหลาดในหัวใจของแม่นางน้อยผู้นี้
เนี่ยหลีตวัดพู่กันลงบนกระดาษขาว โครงสร้างยันต์ที่ดูซับซ้อนยิ่งกว่ายันต์ลมหิมะสลาตันปรากฏขึ้นบนกระดาษ แต่ละลายเส้นได้สัดส่วนดูไม่เลว ราวกับถูกพิมพ์ออกมา
ยันต์รูปแบบซับซ้อนปานนี้ เนี่ยหลีเพียงตวัดเขียนไม่กี่ที ความสามารถน่าอัศจรรย์ใจเช่นนี้ทำให้นางปากอ้าตาค้างไปชั่วครู่ ยันต์ลมหิมะสลาตันชุดใหม่ดูซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม ทั้งยังมีหลายส่วนที่เยี่ยจื่ออวิ๋นดูไม่เข้าใจ
“นี่คือยันต์ลมหิมะสลาตันที่เสร็จสมบูรณ์” เนี่ยหลีพูดกับเยี่ยจื่ออวิ๋น “เป็ยันต์ระดับเงิน”
สายตาของเยี่ยจื่ออวิ๋นจรดอยู่ที่ยันต์ลมหิมะสลาตัน สองคิ้วขมวดมุ่น ความเปลี่ยนแปลงหลังแก้ไขโครงสร้างมีความซับซ้อนขึ้นกว่าเดิมถึงสองเท่า มันมีอานุภาพเช่นไร? ในเวลานี้นางไม่อาจตรวจสอบได้ เว้นแต่จะเป็คนที่จารึกมันลงบนม้วนยันต์ด้วยตนเอง
นางไม่เคยเห็นยันต์รูปแบบนี้มาก่อนเลย!
“ยันต์ชุดนี้สร้างจากรูปแบบพื้นฐานสามสิบหกอย่าง” เนี่ยหลีอธิบาย “นี่จึงเป็ยันต์ที่มีความเสถียรที่สุด ยันต์ชุดก่อนไม่มีความเสถียร!”
เยี่ยจื่ออวิ๋นเต็มไปด้วยความสงสัย ส่งเสียงตอบกลับไปเบาๆ “อืม” แต่มิได้เอ่ยถามอันใด และเก็บยันต์ที่เนี่ยหลีเพิ่งแก้ไขให้เข้าไปในแหวนมิติ และเตรียมหาคนเขียนยันต์มาทดสอบยันต์ม้วนนี้ จะเป็จริงตามที่เนี่ยหลีพูดหรือไม่ว่านี่คือยันต์ระดับเงินม้วนหนึ่ง
เยี่ยจื่ออวิ๋นยังขอคำแนะนำเกี่ยวกับยันต์รูปแบบวายุเหมันต์อีกหลายอย่างกับปัญหาในการฝึกยุทธ์ คำตอบของเนี่ยหลีทั้งสุขุมทั้งลื่นไหล ภายใต้การชี้แนะของเนี่ยหลี เยี่ยจื่ออวิ๋นจึงคลายความสงสัยในตัวเนี่ยหลีลงไป ยิ่งยอมรับเขามากขึ้น คนผู้หนึ่งต้องใช้เวลานานเพียงใดจึงจะมีความรู้ลึกซึ้งกว้างขวางเท่าเนี่ยหลีได้?
“เพื่อนนักเรียนเนี่ยหลี ขอบใจเ้าที่ช่วยตอบคำถามข้า อย่าลืมนัดของพวกเรา พรุ่งนี้ที่นี่ ไม่พบไม่กลับ” ก่อนจากไป เยี่ยจื่ออวิ๋นยิ้มให้เนี่ยหลีเล็กน้อย ดูราวกับไข่มุกทอแสง น่ารักและงดงามยิ่งนัก
รอยยิ้มเจิดจ้าทำให้เนี่ยหลีเหม่อลอยกะทันหัน พอเห็นอีกที เยี่ยจื่ออวิ๋นก็โบกมือจากไปแล้ว แผ่นหลังเยาว์วัยงดงามนั้นชวนมองนัก
เนี่ยหลีอารมณ์ดีขึ้นมาทันที เป็ครั้งแรกที่ได้คุยกับเยี่ยจื่ออวิ๋น เขาจึงพอใจยิ่งนัก
ในขณะที่เนี่ยหลีกำลังจะไป มือข้างหนึ่งยื่นออกมาจากด้านข้าง คว้าปกเสื้อของเนี่ยหลีเอาไว้
“เ้านั่นเอง” สายตาของเนี่ยหลีตกอยู่ที่ผู้มาใหม่ และสีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้น คนผู้นี้ก็คือเสิ่นเยวี่ย
มือขวาของเสิ่นเยวี่ยคว้าปกเสื้อของเนี่ยหลีขณะจ้องเนี่ยหลีเขม็ง “เยี่ยจื่ออวิ๋นพูดสิ่งใดกับเ้า?”
“ปล่อยมือของเ้าเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่เกรงใจแล้ว” เนี่ยหลีตอบเสิ่นเยวี่ยเสียงเ็า
“หึหึ ไม่เกรงใจข้างั้นรึ เนี่ยหลี เ้าประเมินตัวเองสูงเกินไปแล้ว เ้าคิดว่าตนเองเป็ใคร? แค่รู้จักยันต์ไม่กี่อย่างก็คิดว่าตนเก่งแล้วหรือ? เ้ายังห่างไกลยิ่งนัก! ต่อไปนี้เ้าจงอยู่ให้ห่างจากเยี่ยจื่ออวิ๋นเอาไว้ ไม่เช่นนั้น เ้ากับข้าได้เห็นดีกันแน่!” เสิ่นเยวี่ยพูดอย่างเคร่งขรึม
ตู้เจ๋อ ลู่เพียวและพวกทั้งสามเห็นเหตุการณ์อยู่ไกลๆ จึงรีบกรูกันเข้าไป ทว่าเวลานั้นข้างกายเสิ่นเยวี่ยก็มีผู้ติดตามอยู่หกเจ็ดคน พวกมันจ้องมองมาที่ตู้เจ๋อ ลู่เพียวและพวก าระหว่างทั้งสองฝ่ายกำลังจะปะทุขึ้นมาแล้ว
นักเรียนคนอื่นๆ ในห้องสมุดเมื่อเห็นภาพนี้ต่างก็เริ่มถอยห่างออกไป กลัวว่าจะโดนลูกหลงเข้าจากการต่อสู้
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ข้าได้ยินมาว่าเสิ่นเยวี่ยกับเนี่ยหลีกำลังทะเลาะวิวาทกันเพราะเทพธิดาเยี่ย”
“ใครคือเนี่ยหลีรึ? ใครกันที่กล้ามีเื่กับเสิ่นเยวี่ย เสิ่นเยวี่ยเป็คนของตระกูลเสินเซิ่งเชียวนะ!”
“เนี่ยหลีมันบ้าไปแล้ว ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเอาเสียเลย! อีกไม่นานเสิ่นเยวี่ยก็จะเลื่อนขึ้นสู่ระดับทองแดงแล้ว เนี่ยหลีจะเป็คู่ต่อสู้ของเขาได้อย่างไร”
ในสายตาของเสิ่นเยวี่ย ด้วยกำลังของเขา คิดจะจัดการกับเนี่ยหลีนั้นง่ายมาก ใช้กำลังสักหนึ่งในสิบส่วนก็เพียงพอที่จะขยี้เนี่ยหลีไปให้พ้นทางได้แล้ว!
เนี่ยหลีจ้องมองเสิ่นเยวี่ยผู้เย่อหยิ่งด้วยความดูแคลน ในความคิดของเขา เสิ่นเยวี่ยก็เพียงเด็กคนหนึ่ง เขาไม่เห็นเสิ่นเยวี่ยเป็คู่ต่อสู้มาั้แ่แรกอยู่แล้ว! ต่อให้มาจากตระกูลเสินเซิ่ง ก็เป็แค่ของเล่นให้ข้าได้ฝึกกำลังเพียงเท่านั้น เ้าคิดว่าเ้าเป็ใคร เสิ่นเยวี่ย?
ไม่ว่าจะเป็พละกำลังหรือพลังิญญา เนี่ยหลีในเวลานี้ด้อยกว่าเสิ่นเยวี่ยนัก เนี่ยหลีเพิ่งเริ่มฝึกเคล็ดวิชาเทียนเต้ามาได้แค่สองวัน แต่ในสายตาของเนี่ยหลี ความสามารถในการใช้กำลังและพลังิญญาของเสิ่นเยวี่ยนั้นไม่ต่างจากคนทั่วไป
แม้พละกำลังของข้าในขณะนี้มีเพียงสามสิบแปดจุด พลังิญญาแค่สามสิบสองจุดก็เพียงพอแล้ว จะเล่นกับเ้าถึงตายก็ยังได้
“คิดว่าเพียงอาศัยเื้ัที่เ้าเป็คนในตระกูลเสินเซิ่งก็จะสามารถระรานได้แล้วหรือ? มีอาณาเขติญญาสีเขียวก็เป็อัจฉริยะแล้วหรือ? เ้ายังห่างชั้นอีกไกลนัก!” เนี่ยหลีคว้าหมัดของเสิ่นเยวี่ย กดนิ้วกลางลงไปที่ข้อมือของเสิ่นเยวี่ยและถ่ายทอดพลังไปที่นิ้วกลาง ค่อยๆ แกะหมัดของเสิ่นเยวี่ยออกไป
เสิ่นเยวี่ยประหลาดใจที่เห็นมือของเนี่ยหลีอยู่บนหมัดของเขา แขนทั้งท่อนอ่อนยวบหมดเรี่ยวแรงราวกับสูบกัญชา ไม่ว่าจะพยายามขัดขืนอย่างไร หมัดของตนก็ได้แต่คลายออกมา
เพียงพริบตาเดียว มือของเนี่ยหลีก็ดุจดังคีมเหล็ก คีบใส่มือของเสิ่นเยวี่ย ความรู้สึกเ็ปแล่นขึ้นมาจนทำให้ใบหน้าของเสิ่นเยวี่ยบิดเบี้ยว
เนี่ยหลีเ้าทำได้อย่างไร? พลังของข้าแข็งแกร่งกว่าเ้า แต่ข้ากลับต้านทานไม่ได้?
ในใจของเสิ่นเยวี่ย เนี่ยหลีเป็แค่พวกปลายแถว อาณาเขติญญาต้อยต่ำไร้พร์ และร่างกายก็อ่อนแอ ในใจเขา ตนเป็อัจฉริยะในชั้น มีอาณาเขติญญาสีเขียวที่์ประทานให้ และยังมียาวิเศษมากมายให้กินมาั้แ่เด็ก ทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งกว่าเพื่อนในรุ่นเดียวกัน
ทว่าในการต่อสู้ด้วยกำลังกายระยะสั้นๆ วันนี้ เขาไม่อาจเอาชนะเนี่ยหลีได้!
เนี่ยหลีใช้เวทมนตร์อันใด?!
เนี่ยหลีร้องหึเบาๆ แม้พลังของเขายังไม่ก้าวหน้า ทว่าความสามารถในการควบคุมพลังของเนี่ยหลีมิใช่สิ่งที่เสิ่นเยวี่ยจะเทียบได้ เนี่ยหลีใช้พลังที่ปลายนิ้วแทรกซึมเข้าไปในจุดประสาทบนข้อมือของเสิ่นเยวี่ย เป็เหตุให้แขนทั้งท่อนของเสิ่นเยวี่ยหมดเรี่ยวแรง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้