“น้าจิ่นเยว่ ท่านไปขอเตาเล็กๆ มาจากเถ้าแก่ถงมาให้ข้าทีชาในถ้วยเย็นหมดแล้ว แม้แต่กลิ่นหอมสักนิดก็ไม่มี”
อยู่ๆ หลินเมิ้งหยาก็หันไปพูดกับจิ่นเยว่จิ่นเยว่รีบเข้าไปจัดการตามคำสั่งอย่างคล่องแคล่วหลินเมิ้งหยาหันหน้ากลับมาอีกครั้งพลางจ้องมองถังหวังสื่อ
“ครอบครัวของเ้ามีใครบ้าง?” หลินเมิ้งหยายกแก้วชาด้านหน้าขึ้นจิบเล็กน้อยสีหน้าของนางยังคงเป็ปกติ
“ตอบนายหญิงครอบครัวของข้าน้อยยังมีลูกชายที่ไม่ได้ความอีกคนหนึ่งเ้าค่ะ”ถังหวังสื่อยังคงตอบคำถามด้วยความระมัดระวังทว่าสมองเริ่มปรากฏให้เห็นถึงความยินดี
“โอ้?แต่งงานมีเมียแล้วหรือ?” จิ่นเยว่มองหลินเมิ้งหยาอย่างไม่ค่อยเข้าใจนักเหตุใดพระชายาจึงเอ่ยถามถึงครอบครัวของทาสผู้นี้?
“ตอบนายหญิง ครอบครัวของข้าน้อยยากจนดังนั้นลูกชายจึงยังไม่ได้แต่งงานเ้าค่ะ”
ลูกตาของหลินเมิ้งหยากลอกไปอีกทาง นางไม่หันไปมองถังหวังสื่ออีก
“เอาล่ะ เ้าออกไปได้” ก้มหน้ามองน้ำในถ้วยชาราวกับว่าหลินเมิ้งหยาไม่คิดจะเอ่ยอันใดออกมาอีก
ถังหวังสื่อโขกศีรษะลงบนพื้นเพื่อถวายคำนับอีกครั้ง ขณะที่หยาผอกำลังจะหมุนตัวออกไปเรียกสาวรับใช้คนต่อไปนางกลับได้ยินเสียงแก้วชาร่วงหล่นลงพื้น
“แกร๊ง” เสียงดังขึ้น ประตูภายในห้องถูกปิดลงทหารองครักษ์สิบกว่าคนพุ่งตัวเข้ามาอย่างรวดเร็วดาบในมือถูกยกขึ้นขณะปิดล้อมพื้นที่
“ห้ามขยับเขยื้อน!” เสียงเ็าดังขึ้นผู้หญิงภายในห้องที่ได้เห็นสถานการณ์น่าหวั่นเกรงลืมแม้กระทั่งเสียงร้องไห้โวยวาย พวกนางพากันหลบซ่อนทั้งที่ตัวสั่นงันงก
หลังจากควบคุมสถานการณ์เอาไว้แล้ว ร่างของหลินขุยปรากฏขึ้นในห้อง
ห้องที่เคยกว้างขวางกลับเต็มไปด้วยองครักษ์ที่สวมใส่ชุดเกราะพร้อมทั้งอาวุธครบมือหลินเมิ้งหยาถูกกลุ่มคนปกป้องไว้ทางด้านหลังเพื่อไม่ให้เกิดการาเ็
สาวใช้นามถังหวังสื่อผู้นั้นขดตัวอยู่บนพื้นมิรู้ว่าเป็ตายร้ายดีเช่นไร
“เข้ามา หักคางของเขาซะ เอาน้ำเย็นมาสาดให้เขาตื่น!”หลินเมิ้งหยาผลักองครักษ์ออกขณะจ้องมองคนที่กำลังสลบอยู่บนพื้น
พ่อบ้านเติ้งเงียบขรึมลงไป บังอาจนักคิดจะลอบปลงพระชนม์พระชายาต่อหน้าเขา ไม่รักตัวกลัวตายหรืออย่างไร
เมื่อครู่หลังจากที่ถังหวังสื่อโขกหัวลงกับพื้นขณะที่ทุกคนไม่ทันระวัง อยู่ๆ เขาก็สร้างปัญหา
ไม่รู้ว่าคนผู้นั้นหยิบมีดเล่มหนึ่งขึ้นมาั้แ่ตอนไหนสายตาของเขาพลันเห็นคนคนนั้นพุ่งมีดเข้าไปทางตำแหน่งหน้าอกของพระชายา
แต่ราวกับว่าพระชายาระมัดระวังตัวเอาไว้อยู่ก่อนหน้านั้นแล้วเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้น พระนางรีบเอี้ยวตัวเพื่อหลบการโจมตี
เหล่าองครักษ์ที่เตรียมพร้อมอยู่ด้านนอกจึงรีบพุ่งตัวเข้ามาก่อนจะเข้าไปทำร้ายเพื่อหยุดการกระทำของนักฆ่าผู้นั้นทันที หลังจากถูกกระทืบ คนคนนั้นจึงสลบไป
พ่อบ้านเติ้งรีบนำเชือกเข้าไปมัดตัวเขาเอาไว้ ขณะเดียวกันเขายกกาชาขึ้นแล้วราดน้ำชาร้อนๆ ที่เพิ่งออกจากเตาลงบนแผ่นหลังของนักฆ่าผู้นั้น
หลังจากได้ยินเสียงร้องโหยหวนด้วยความทรมานแล้วดวงตาของถังหวังสื่อลืมขึ้น ใบหน้าบิดเบี้ยว ทว่าปลายคางกลับมีน้ำลายฟูมปากปากไม่อาจยกขึ้นประกบกันได้
“ฟื้นแล้วหรือ? ข้าเดาว่าเ้ามิใช่ถังหวังสื่ออะไรนั่นหรอกใช่หรือไม่?” หลินเมิ้งหยาลุกขึ้นจากที่นั่งของตนเองก่อนจะใช้หางตามองนักฆ่าที่กำลังเ็ปทรมานอยู่บนพื้น
“อีกทั้งเ้ายังไม่ใช่ผู้หญิงแต่เ้าเป็นักฆ่าที่ปลอมกายเป็หญิงใช่หรือไม่?” หลินเมิ้งหยาหยุดยืนข้างกายของนักฆ่าก่อนจะนำผ้าเช็ดหน้าออกมาแล้วก้มลงไปหยิบมีดที่ตกลงบนพื้น
ตอนที่คนผู้นี้เข้ามา สมองของนางพลันปรากฏรายชื่อยาพิษหลายชนิด
อย่าว่าแต่นำมาใช้เลยครอบครัวปกติธรรมดาทั่วไปมิอาจหาซื้อได้ด้วยซ้ำ
ข้อสันนิษฐานเดียวที่สามารถเป็ไปได้คือ คนคนนี้เป็นักฆ่าที่้าลอบสังหารตนเอง!
โชคดีที่ได้กลิ่นยาพิษก่อนไม่เช่นนั้นตอนนี้ไม่รู้นางจะเป็ตายร้ายดีเช่นไร
“มีดเล่มนี้ หากข้าถูกแทงเข้าแม้เพียงเล็กน้อยลมหายใจของข้าก็คงหมดลงใช่หรือไม่? ขอบคุณที่เ้าให้ความสำคัญกับข้ามากถึงเพียงนี้เพราะฉะนั้นข้าจะตอบแทนเ้าอย่างสาสม พ่อบ้านเติ้ง ไปยังที่ว่าการของหยาเมินข้า้ายืมใช้ห้องทรมานของพวกเขา”
ภายใต้แสงแดด สีหน้าของหลินเมิ้งหยากลับเ็าจนน่าขนลุก
พ่อบ้านเติ้งและหลินขุยรู้สึกได้ว่าแผ่นหลังของพวกตนกำลังเย็นวาบ
พระชายา้าจะทำอะไรกันแน่?
“ฮูหยินได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย! ข้าน้อยไม่รู้เื่ว่าเ้านี่เป็นักฆ่าฮูหยินได้โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยเ้าค่ะ!” หยาผอที่กำลังตกอกใกลัวว่าฮูหยินท่านนี้จะลงโทษตัวเอง
ต้องโทษความโลภของนางที่ไปรับส่วยจากถังหวังสื่อสามตำลึงแต่ใครจะรู้เล่าว่าอีกเพียงนิดเดียวชีวิตของนางก็จะหามีไม่!
“ข้าไม่โทษเ้าหรอก แต่เ้าต้องบอกข้ามาตามความจริง ยังมีใครที่อยู่ด้านนอกใช้วิธีเดียวกันกับชายผู้นี้หรือไม่?” หลินเมิ้งหยากลอกสายตาเ็าหยาผอรีบโคกศีรษะลงพื้น
“ไม่มีแล้วเ้าค่ะ! ไม่มีแล้วจริงๆ เ้าค่ะ! แต่ว่า...ในกลุ่มคนเ่าั้ยังมีสาวใช้อีกหนึ่งคนที่มักจะพูดคุยกับคนผู้นี้ ข้าน้อยเคยลองถามดู แต่พวกเขาทั้งสองอ้างว่าไม่รู้จักกันมาก่อนดังนั้นข้าน้อยจึงไม่ได้ใส่ใจเ้าค่ะ”
หยาผอพูดตามความจริงทุกประการ ไม่รอให้หลินเมิ้งหยาออกคำสั่งพ่อบ้านเติ้งรีบออกไปลากตัวสาวใช้คนนั้นมา
“นายหญิง คนผู้นี้เองก็เป็ชายปลอมตัวเป็หญิงพ่ะย่ะค่ะตอนนี้กุมตัวเอาไว้แล้ว!”
“เอาตัวไปยังห้องทรมานของที่ทำการหยาเมิน ส่วนคนอื่นๆ ให้ลงนามในสัญญารับรองความตายของตำหนักจากนั้นมอบเงินคนละสองตำลึงเพื่อปลอบขวัญ” สัญญารับรองความตายถ้าเช่นนั้นคนเ่าั้ก็กลายเป็บ่าวรับใช้ของจวนแล้ว
อำนาจในการตัดสินความเป็ความตายของพวกเขาจะตกอยู่ในกำมือของเ้านายประจำจวนหากกล้าเอาเื่ภายในออกไปป่าวประกาศให้ภายนอกรู้ นั่นไม่ต่างอะไรจากการฆ่าตัวตาย
แน่นอนว่าคนเหล่านี้ล้วนถูกพูดคุยเื่สัญญาฉบับนั้นเอาไว้แล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเพียงเพราะเกิดเื่นี้ขึ้นพวกเขาจึงได้เข้าไปทำงานในตำหนักที่มีคนธรรมดามากมายพยายามอ้อนวอนร้องขอเข้าไปแต่ก็มิอาจเข้าไปได้
“พ่ะย่ะค่ะนายหญิง”มองดูจิ่นเยว่และพ่อบ้านเติ้งพาสาวรับใช้เ่าั้กลับไป หลินเมิ้งหยาและองครักษ์พากันมายังห้องทรมาน
เหตุเพราะทำการแจ้งล่วงหน้าเอาไว้แล้ว ดังนั้นจึงไม่ถูกห้ามปราม
ภายในห้องขังมืดมิดและอับชื้นทว่าใบหน้าของหลินเมิ้งหยาไร้ซึ่งความหวาดกลัว
ไร้สาระ เมื่อก่อนตอนเป็นักเรียนแพทย์ เพื่อฝึกฝนความกล้านางจึงต้องเข้าไปใช้เวลาเรียนรู้ยามค่ำคืนที่ห้องเก็บอาจารย์ใหญ่เสมอ
ความหวาดกลัวจนตัวสั่นงันงกในตอนแรกกลับกลายเป็ความหฤหรรษ์เพราะแอบเล่นไพ่ยามค่ำคืนภายในห้องเก็บศพแล้วแบบนี้ยังจะมีที่ใดที่นักเรียนแพทย์อย่างพวกนางไม่กล้าเข้าไปกันเล่า?
ระหว่างทาง หลินขุยอดไม่ได้ที่จะลอบมองพระชายาผู้กล้าหาญเพราะเหตุนี้ท่านอ๋องจึงพึงใจในตัวพระนางสินะ ที่แท้ก็มิใช่หญิงสาวธรรมดาทั่วไป
ภายในห้องทรมานคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหม็นเน่าและคาวเื
ห้องไม่ใหญ่มาก แต่สามารถบรรจุเครื่องทรมานหลายสิบชนิดเอาไว้นักฆ่าทั้งสองถูกมัดเอาไว้ด้วยกัน สายตาโกรธเกรี้ยวจ้องมองทางหลินเมิ้งหยาราวกับว่าอยากจะฉุดกระชากิญญาของนางออกมา
“พวกเ้าคิดว่าข้าจะทรมานพวกเ้าเพื่อหาคำสารภาพเช่นนั้นหรือ?” หลินเมิ้งหยาเยื้องย่างเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าทั้งสอง
ยาพิษที่ถูกอมไว้ในปากของพวกเขาถูกองครักษ์เอาออกไปแล้วแม้แต่คางก็ถูกตีจนแตก คนที่แต่งกายเป็หญิงรับใช้อายุน่าจะราวสามสิบกว่าๆเหตุเพราะได้รับาเ็สาหัส ดังนั้นเขาจึงต้องอดทนกับความเ็ปทรมาน
มุมปากหยักยกขึ้นรอยยิ้มของหลินเมิ้งหยาเปี่ยมไปด้วยความไร้เดียงสา
“ข้า...แค่้าจะฆ่าพวกเ้าเท่านั้น เอาล่ะ บอกข้าสิว่าใครอยากตายก่อน?”
หลินเมิ้งหยานั่งลงบนเก้าอี้ จ้องมองชายทั้งสองท่าทางของนางเสมือนหมาป่ากำลังมองดูลูกแกะที่กำลังจะถูกเชือด
“เ้า” หลินเมิ้งหยาชี้นิ้วไปทางชายวัยกลางคน “หรือว่าเ้า?”จากนั้นเลื่อนนิ้วไปทางเด็กหนุ่ม สีหน้าเผยให้เห็นความลำบากใจ
“ช่างเถอะ ข้าไม่อยากคิดให้เปลืองสมอง เริ่มจากเ้าก็แล้วกัน”หลินเมิ้งหยาชี้นิ้วไปทางชายวัยกลางคน ก่อนจะมีคนลากตัวเขาออกไป
ภายในห้องทรมานจึงเหลือเพียงเด็กหนุ่มเท่านั้น ลูกตากลอกไปมาไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร
“วางใจเถิด อีกเดี๋ยวก็ถึงตาเ้าแล้ว บอกมาสิว่าเ้าอยากตายแบบไหน?” หลินเมิ้งหยาหัวเราะจนตัวงอน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความสุขสนุกสนาน ไม่เหมือนกับคนที่กำลังฆ่าผู้อื่นตายแต่เหมือนคนที่กำลังเลี้ยงข้าวและกล่อมนอนเสียมากกว่า
“โอ้ จริงสิ ข้าลืมไปเลยว่าเ้าพูดไม่ได้” ปากของเด็กหนุ่มถูกผ้าปิดเอาไว้ใบหน้าของเขาแดงก่ำ เขาไม่อาจพูดหรือแม้แต่กัดลิ้นของตนเองได้
อยู่ๆ กลิ่นหอมของเนื้อย่างจากห้องเผาก็ฟุ้งกระจายออกมา
กลิ่นหอมนั้นคือกลิ่นเนื้อที่กำลังย่างจนสุกหอมทุกคนที่อยู่ภายในห้องเวลานี้อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
“ได้กลิ่นหรือไม่ มันคือกลิ่นความตายของเพื่อนเ้าอย่างไรเล่า”หลินเมิ้งหยาลุกขึ้นจากนั้นหยุดยืนตรงหน้าเด็กหนุ่มแล้วเอ่ยออกมาด้วยท่าทางตื่นเต้น
“ข้าสั่งให้คนไปหากระดานตะปูมา ด้านล่างโรยถ่านที่ถูกเผาจนร้อนฉ่าเอาไว้จากนั้นข้าสั่งให้เพื่อนของเ้ากลิ้งไปกลิ้งมาบนแผ่นไม้นั้นเมื่อใดที่กระดานตะปูเ่าั้ร้อนจัดจนกลายเป็สีแดงข้าจะสั่งให้คนราดน้ำเย็นลงไป จากนั้นอีกสี่ห้าชั่วโมงต่อมาเพื่อนของเ้าก็จะถูกย่างจนใกล้สุกแล้วตายจากไป ข้าเรียกวิธีทรมานนี้ว่านิพพาน ฟังดูน่าสนใจมากเลยใช่มั้ยล่ะ!”
แม้ห้องทรมานจะน่ากลัวแต่ก็ยังไม่อาจน่ากลัวกว่าน้ำเสียงของหลินเมิ้งหยาเลยแม้แต่น้อย
เห็นได้ชัดว่านี่เป็การฆ่าคนตายแต่น้ำเสียงของนางประหนึ่งคนกำลังเล่นเกมสนุกๆ อย่างไรอย่างนั้น
เด็กหนุ่มไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้อีกทั้งยังไม่เคยได้ยินวิธีทรมานเช่นนี้ดวงตาทั้งสองข้างจ้องมองหญิงสาวหน้าตางดงามตรงหน้าด้วยความหวาดกลัวร่างกายแข็งทื่อราวกับน้ำแข็ง
“หากถึงตาเ้าแล้วละก็...” หลินเมิ้งหยาครุ่นคิด ราวกับว่ากำลังหาวิธีที่เหมาะสมที่สุด
“เอาไหมล่ะ ลองดูไหม? แต่ว่าข้าจะเปลี่ยนจากถ่านร้อนเป็ก้อนน้ำแข็งเท่านั้นเ้าก็จะไม่ตาย แต่จะกลายเป็ของเล่นสนุกๆ เ้าคิดเช่นนั้นหรือไม่?”
หญิงสาวผู้มีใบหน้างดงามไร้เดียงสากลับเอ่ยประโยคที่ทำให้แม้แต่ชายหนุ่มต่างหวาดกลัว
เด็กหนุ่มมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยอาการตกตะลึงบรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นเนื้อไหม้ ราวกับว่าหากกลิ่นยังส่งมามากกว่านี้เขาอาจจะได้ยินเสียงร้องโหยหวนของชายวัยกลางคนผู้นั้น
ไม่! เขาไม่อยากตายด้วยความทรมานเช่นนั้นผู้หญิงคนนี้จิตใจโเี้อำมหิตเกินไป!
“เข้ามา เอาตัวเขาไปยังห้องทรมาน ข้าอยากเห็นกับตาตัวเอง” อยู่ๆ หลินเมิ้งหยาก็รู้สึกสนอกสนใจองครักษ์สองคนจึงรีบกระชากตัวเขาขึ้นมา
ความหวาดกลัวทวีคูณยิ่งขึ้น ก่อนจะพยายามสะบัดตัวดิ้นหนีบนพื้นพลันปรากฏร่องรอยของน้ำที่น่าสงสัย
“เ้าอยากพูดอะไร ตอนนี้ข้าจะให้โอกาสของเ้าในการสั่งเสีย”หลินเมิ้งหยาสั่งให้คนปลดผ้าปิดปากของเขาออก เด็กหนุ่มจึงรีบแผดเสียงร้อง
“ฮูหยินได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วยข้า...ข้าจะบอกท่านเดี๋ยวนี้ว่าใครเป็ผู้อยู่เื้ั”
ทว่าราวกับหลินเมิ้งหยาไม่สนใจอีกต่อไปนางเบือนสายตาหันมามองเด็กหนุ่ม “รู้แล้วอย่างไรเล่าถึงอย่างไรพวกเ้าก็ฆ่าข้าไม่ได้ ข้ายังไม่ตาย แถมยังมีคนส่งมาให้ข้าฆ่าทุกวันอีกเอาตัวไปได้!”
“ไม่ ไม่ ไม่! ฮูหยิน ได้โปรดไว้ชีวิตข้า ข้าสามารถเป็คนสอดแนมให้กับท่านได้ท่านชอบฆ่าคนมิใช่หรือ? ข้าสามารถทำให้พวกเขาทั้งหมดติดกับและส่งมาให้ท่านฆ่าได้!”
เด็กหนุ่มอ้อนวอนร้องขอต่อหลินเมิ้งหยาไม่หยุด องครักษ์ยังคงรอคำสั่งจากหลินเมิ้งหยา
นางหมุนตัว ทว่าเด็กหนุ่มกลับได้เห็นรอยยิ้มเย็นะเื
ปลา...ติดเบ็ดแล้ว