ความแค้นเป็พลังให้เขา และปิดตาเขาไว้ในเวลาเดียวกัน
เวลาที่สตรีผู้นั้นมองเขาอย่างเขินอาย เขาก็คิดถึงความอ้างว้างของการสูญเสียบิดา
ในตอนที่นางทักทายเขาด้วยถ้อยคำบางเบา เขาก็นึกถึงภาพที่มารดาทิ้งเขาไว้ตามลำพัง
ยิ่งนางรักและชื่นชมเขามากขึ้นเท่าใด เขาก็ยิ่งเข้าสู่ความเกลียดชังมากขึ้นเท่านั้น
แม้จะยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด แต่ในขณะนั้น เขาได้วางอวิ๋นอี้และพ่อของนางไว้บนเสาแห่งความเกลียดชัง
เขาต้องแก้แค้นพวกนั้น ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
ั้แ่วันที่พบกัน บางทีเขาอาจจะกลายเป็ปีศาจไปแล้ว
แต่ช่างมันปะไร
เขาไม่ทำร้ายผู้อื่น ผู้อื่นก็มาทำร้ายครอบครัวของเขา
หากเป็เช่นนั้น ก็ไม่ต้องมีผู้ใดได้อยู่เป็สุขเลยเสียดีกว่า
อวิ๋นเส่าต้าวกับท่านพ่อหรงอี้เจินเป็เพื่อนกันมานานหลายปี ในตอนแรกที่พวกเขาติดตามองค์ฮ่องเต้ออกรบทั่วยุทธภพ ตอนนั้นพวกเขากำลังเป็บุรุษเืร้อน เรียกกันว่าพี่น้อง มีเื่ให้พูดคุยไม่รู้จบ ใน่ชีวิตวัยรุ่นมักจะสร้างปาฏิหาริย์ไว้นับไม่ถ้วน
หลังจากที่ครองใต้หล้าได้แล้ว หรงอี้เจินและอวิ๋นเส่าต้าวต่างก็ได้รับการขนานนามว่าเป็าาแห่งขั้วตรงข้าม พวกเขาทั้งสองมีความสามารถบู๊และบุ๋นในการช่วยองค์ฮ่องเต้ปกครองราชย์
อวิ๋นเส่าต้าวมีความสามารถ เื่ของการศาลและกฎหมายล้วนอยู่ในระบอบระเบียบ ในตอนที่กำลังกระสับกระส่าย เขาก็ออกมาตรการทำให้ชีวิตของประชาชนได้เข้าที่เข้าทางอย่างรวดเร็ว
หรงอี้เจินอยู่นิ่งได้ไม่นาน อยู่ในเมืองหลวงมา่หนึ่ง ก็ขอไปอยู่ที่ชายแดนสมัยนั้นราชวงศ์เพิ่งจะก่อตั้งขึ้นใหม่ ขอบแดนค่อนข้างโดนจับตามองอยู่ ฮ่องเต้อวี่ซวนจึงอนุญาตให้เขาไป
หกเจ็ดปีหลังจากนั้นทุกอย่างก็สงบสุข และราชวงศ์ต้าอวี่ก็ประสบความสำเร็จในการพัฒนาอย่างรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
เพียงแต่วีรบุรุษแก่ง่าย การต่อสู้มาหลายปีส่งผลเสียให้ร่างกายของหรงอี้เจินเป็อย่างมาก อากาศที่ชายแดนมักจะทำให้เขาไม่ค่อยสบาย เขาเริ่มจะปวดเอวปวดหลัง ถึงขนาดจับมีดดาบไม่ได้
ท่านแม่แนะนำให้กลับเมืองหลวง ร้องไห้ทั้งวันทั้งคืน จนในที่สุดท่านพ่อเถียงมิได้ ได้เพียงพยักหน้าเห็นด้วย ครอบครัวสามคนก็เก็บของกันอย่างตื่นเต้น หลังจากที่ไปอยู่ข้างนอกมานาน ในที่สุดก็ได้กลับไปอยู่บ้านอย่างสงบสุข แม้แต่หรงซิวที่เป็เด็กในตอนนั้นก็ยังรู้สึกว่ามีความสุขนัก
พวกเขาคิดว่าชีวิตจะดำเนินไปอย่างสงบสุข ท่านพ่อและท่านแม่จะมีชีวิตวัยชราที่สงบสุข ปลูกดอกไม้เลี้ยงหมาอยู่อย่างเรียบง่าย แต่พวกเขาคิดผิด
ท่านพ่อของเขาไม่สามารถอยู่นิ่งได้ เมื่อมาถึงเมืองหลวง หลังจากที่สุขภาพดีขึ้นแล้ว เขาก็เริ่มไปทำงาน เขาเป็วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ เป็ขุนนางระดับสูง ฮ่องเต้อวี่ซวนโปรดปรานเขาเป็พิเศษ ไม่มีผู้ใดกล้าขัดแข้งขัดขาเขา นอกจากอวิ๋นเส่าต้าว
ทั้งสองมักจะทะเลาะกันด้วยเื่เล็กน้อย ทะเลาะกันในราชสำนัก บางคราที่ท่านพ่อกลับมาจากทำงาน เขาก็ชี้จมูกของอวิ๋นเส่าต้าวด่ากราด
ด่ากันก็เช่นนั้น วันถัดมาพวกเขาก็นั่งดื่มกันต่อ
หรงซิวเคยคิดว่านั่นเป็สภาพที่ดีที่สุดของการเป็เพื่อนกัน วินาทีก่อนหน้ายังเบิกตาด่ากัน วินาทีต่อมาสามารถยอมสละเืเนื้อเพื่อกันและกันได้
เขาคิดไม่ถึงว่า ใจคนจะกั้นด้วยหนังท้อง [1] ในโลกนี้มีสิ่งล่อใจมากมายเหลือเกิน เพื่อชื่อเสียงผลประโยชน์ เพื่อเงินทอง พี่น้องแท้ๆ ยังฆ่ากันเองได้ ไม่ต้องพูดถึงเพื่อนที่รู้จักกันครึ่งทาง
ก่อนที่ท่านพ่อจะเสีย สภาพของเขาก็ผิดแปลกไป เขาตื่นตระหนกตลอดทั้งวัน เป็กังวลและขี้สงสัย ท่านแม่เคยเกลี้ยกล่อมเขาว่า หากไม่ไหวก็อย่าออกไปจากเมืองหลวง ท่านพ่อที่อ่อนโยนกับพวกเขามาตลอด จู่ๆ ก็อารมณ์ร้าย ขี้หงุดหงิดและโวยวายเสียงดัง
ท่านแม่ใกลัวจนร้องไห้ เขาจึงปลอบนางอย่างระมัดระวัง
คงจะเป็เพราะตระหนักได้ว่าตนเองเสียการควบคุม ท่านพ่อจึงขังตนเองไว้ในห้อง ไม่ชอบพบปะผู้คน ไม่ออกจากห้อง
เหตุการณ์เช่นนี้ดำเนินไปชั่วขณะหนึ่ง เขาก็ได้รับจดหมาย
จดหมายฉบับนั้นเขียนว่ากระไรกันแน่ จนถึงตอนนี้หรงซิวก็ยังไม่ทราบแน่ชัด เพราะว่าเขาหามันไม่พบ เดาว่ามันน่าจะถูกทำลายไปแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นท่านพ่อก็ค่อยๆ มีความสุขขึ้นมา คนในครอบครัวก็วางใจลงเล็กน้อย มีเพียงท่านแม่เท่านั้นที่ยังคงกลุ้มใจ และหลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็ออกไปเที่ยวูเาจนถึงคราที่โศกนาฏกรรมได้เกิดขึ้น
เมื่อหรงซิวมีเป้าหมายในเื่ใดแล้ว เขาย่อมแน่วแน่ทำให้ถึงที่สุด
ใจของเขาตั้งมั่นแล้วว่าจะหลอกใช้อวิ๋นอี้ เขาจึงลงมืออย่างว่องไว
หรงซิวรู้อยู่เสมอว่าตนเองดูดี เป็ที่ชื่นชอบของสาวๆ ตราบใดที่เขาเต็มใจจะเล่นด้วย นางก็ติดกับได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมาก
แน่นอนว่าอวิ๋นอี้ยอมให้เขาหมดใจ
เขาหมั้นหมายกับนางอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เริ่มต้นแผนอันยาวนาน
แสงสีขาวส่องมาทางหน้าต่าง ส่องผ่านผ้าบางสีน้ำเงินเข้ามา แสงเป็ประกายได้ตกลงบนผ้าห่มนุ่มๆ และลอยมาเข้าดวงตาของเขา ทำให้เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย
หรงซิวรู้สึกตัว ก็ตระหนักว่าเป็เวลาเที่ยงวันแล้ว
หญิงสาวตัวเล็กในอ้อมแขนของเขาร้องไห้หนักมากเมื่อคืนนี้จนตาของนางยังบวมแดง เขาหวั่นไหวมากจนอดไม่ได้ที่จะโน้มตัวจูบนางเข้าที่ใบหน้า
อวิ๋นอี้เ็ปไปทั่วตัว ทำให้นางนอนหลับได้ไม่สบาย ในความงุนงงก็รู้สึกได้ว่ามีคนใกล้เข้ามา นางเอียงหน้าออกไปโดยอัตโนมัติ จากนั้นก็รู้สึกเย็นวาบบนใบหน้าของนาง
“อุ๊...”
ััแปลกๆ ทำให้นางพึมพำเสียงเบา มือเล็กๆ ของนางดิ้นรนอย่างไม่เป็สุข บังเอิญไปตบหรงซิวโดยไม่ได้ตั้งใจ กล้ามเนื้อของชายหนุ่มนั้นแข็งแรง นิ้วของนางทั้งเจ็บและชา จึงทำได้เพียงร้องอู้อี้ขึ้นมา
ใจของหรงซิวรับไม่ไหว ปวดใจนัก เลยรีบคว้ามือนางเอามาชิดปากทั้งจูบทั้งเป่า แล้วบอกต่อว่า “โอ๋ๆ เป็ความผิดของข้าเอง”
น้ำเสียงของเขาช่างอ่อนโยน อวิ๋นอี้วุ่นวายอยู่ครู่หนึ่งก็หันตัวกลับ หน้ามุ่ยให้เขาแล้วนอนต่อ
เมื่อมองแผ่นหลังของนาง หรงซิวทำกระไรไม่ถูกทั้งรู้สึกขบขัน
ที่แท้เวลาที่เป็ห่วงใครคนหนึ่งจริงๆ แม้แต่เขาเองก็ยังคิดไม่ออกว่าจะทำกระไรได้บ้าง
ในใจคิดอย่างนั้นก็ทำไปทันที และแม้แต่ร่างกายของข้าก็เคลื่อนไหวเร็วกว่าสมองคิดเสียอีก
มันเป็สัญชาตญาณ เป็ธรรมชาติราวกับการหายใจ
เขาถูกพิษจากนางแล้วจริงๆ
หรงซิวกุมขมับ นอนไม่ค่อยหลับมาทั้งคืน ตอนนี้เขาก็ง่วงขึ้นมาแล้ว กำลังคิดว่าจะนอนกับสาวน้อยอีกสักพัก แล้วนอกห้องก็มีเสียงเคาะประตูเบาๆ ดังนั้น
“ฝ่าาเพคะ?” เซียงเหอถามเสียงเบา “ฝ่าาตื่นหรือยังเพคะ?”
หรงซิวทำได้เพียงลุกขึ้น ตั้งใจเบาเสียงฝีเท้าเอาไปที่ประตู เขาเปิดประตูอย่างเงียบๆ แล้วถามเซียงเหอ “มีกระไร?”
เซียงเหอรีบก้มหน้าลงและรายงานตามจริงว่า “ท่านขันทีมาบอกฎีกาเพคะ บอกว่าให้ฝ่าาเข้าวังเพคะ”
“เพิ่งจะมาหรือ?” หรงซิวพิงประตู เขาถามอย่างไม่ใส่ใจ
เซียงเหอก้มหัวลงต่ำอีก “เพคะ บอกว่าองค์ฮ่องเต้มีรับสั่ง ให้ฝ่าารีบไปเพคะ”
"เข้าใจแล้ว"
หรงซิวโบกมือให้ แล้วหันหลังเข้าไปในห้อง เซียงเหอไม่รู้ว่าเกิดกระไรขึ้นกันแน่ ทำได้แค่ยืนนิ่งๆ นางมองเข้าไปในห้องเงียบๆ เห็นผิวขาวจั๊วะของอวิ๋นอี้ หน้าก็แดงขึ้นทันที
ไอหยา!
ไม่น่าเชื่อ!
มิคิดเลยว่าพระชายาร้องคราเดียวจะทำเอาคนตะลึง!
หากจำไม่ผิดล่ะก็ ทั้งสองคนอยู่ในห้องอย่างไม่ละอายต่อกันมาสองวันแล้ว!
มองไม่ออกจริงๆ ว่าองค์ชายจะดุดันเพียงนี้!
หากพระชายาสมบูรณ์หน่อย ตั้งครรภ์องค์ชายน้อยได้ แค่คิดก็มีความสุขแล้ว!
เซียงเหอคิดในใจอย่างบ้าคลั่ง แต่ใบหน้าก็ยังคงจดจ่อ เห็นหรงซิวนั่งยองๆ อยู่ข้างเตียง เอนร่างไปด้านหน้า ไม่รู้ว่าเขาพูดกระไรกับอวิ๋นอี้ หญิงสาวที่หลับใหลอยู่พยักหน้ารัวๆ เขาลุกขึ้นยิ้ม แล้วเดินออกไปอย่างช้าๆ
หรงซิวจัดของเสร็จก็เดินไปที่ห้องโถง พยักหน้าให้ท่านขันที แล้วทั้งคณะก็ออกเดินทางไปที่พระราชวัง
เชิงอรรถ
[1] ใจคนกั้นด้วยหนังท้อง 人心隔肚皮 หมายถึง ใจคนยากแท้หยั่งถึง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้