ทริปท่องเที่ยวอดีตของเซวียเสี่ยวหรั่น [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     ใครว่าไม่พอ เรียกได้ว่าเกินพอเสียด้วยซ้ำ

        จำนวนเห็ดหุยซินมากมายเช่นนี้ ทำให้ใบหน้าขาวซีดจากการสูญเสียพลังของเหลียนเซวียนฉายแววยินดีอยู่หลายส่วน เขาพยักหน้าช้าๆ

        หากศิษย์พี่รู้ว่าพวกเขาขุดเห็ดหุยซินมาเยอะขนาดนี้ คงอิจฉาแทบอยากจะอาละวาดไปเลยกระมัง มุมปากของชายหนุ่มโค้งขึ้นเป็๲รอยยิ้ม

        หลายปีมานี้ ศิษย์พี่ออกตามหาไปทั่ว แต่ไม่เคยพบแม้แต่เงาของเห็ดหุยซิน

        ปลายปีก่อนได้รับจดหมายฉบับล่าสุดของเขา บอกว่ากำลังแสวงหาสมุนไพรชนิดต่างๆ อยู่ในป่าบนเทือกเขาแคว้นซีฉี หนึ่งในนั้นก็คือเห็ดหุยซิน

        ไม่รู้ว่าตอนนี้ศิษย์พี่อยู่ที่ไหน

        เหลียนเซวียนเงยหน้าทอดสายตาที่พร่ามัวไปยังสถานที่ห่างไกล

        เซวียเสี่ยวหรั่นประคองขึ้นจากหลุมใหญ่ หลังจากนั้นก็ไปเด็ด

        ไปเผือกป่าอีกสองใบ ใบหนึ่งใช้ห่อเห็ดหุยซิน อีกใบใช้ห่องูใหญ่ตัวนั้น แล้วหิ้วไปยังเนินดิน

        "เหลียนเซวียน ท่านพักผ่อนสักครู่ ข้าจะไปขุดดินสักสองตะกร้า"

        การเก็บเห็ดหุยซินเสียเวลาไม่น้อย เซวียเสี่ยวหรั่นมองดูท้องฟ้า ยังคงไม่มีเงาของพระอาทิตย์

        ลมสารทโชยผ่านยอดไม้ ใบไม้เหลืองร่วงหล่นอย่างเงียบเชียบ

        อากาศปลายฤดูใบไม้ร่วงนำพาความหนาวเย็นมาด้วย

        ถ้าไม่มีการเตรียมตัวที่ดีพอ เซวียเสี่ยวหรั่นก็สามารถจินตนาการความเยียบเย็นจับจิตหลังย่างเข้าสู่ฤดูหนาวได้

        เธอคงต้องรีบแล้ว

        เซวียเสี่ยวหรั่นเม้มริมฝีปาก วิ่งออกไปพร้อมกับไม้ขุดดิน

        แค่เพียงชั่วอึดใจเท่านั้น เธอก็ขุดดินกลับถ้ำไปได้สองตะกร้า ถึงย้อนกลับมาข้างหลุมใหญ่ เอางูกับเห็ดหุยซินใส่เข้าไปในตะกร้า หลังจากนั้นก็กลับมานำทางให้เหลียนเซวียนซึ่งพละกำลังเริ่มจะคืนมาบ้างแล้ว

        ครั้งนี้เธอค่อยๆ เดินกลับเป็๞เพื่อนเหลียนเซวียน แต่ก็ถือโอกาสแวะเดินไปรอบบริเวณ

        มีคำกล่าวว่าผู้แสวงหาย่อมได้รับผลตอบแทน

        สถานที่ติดกับเชิงเขา พบว่ามีขิงป่าเพิ่งแตกหน่ออ่อนอยู่ไม่น้อย ขิงป่าชนิดนี้มีสีม่วงลักษณะคล้ายกับหน่อไม้อ่อน สามารถนำมาประกอบอาหารได้ รสชาติดีมาก

        หลังเข้าฤดูใบไม้ร่วง ก็แทบไม่เห็นเงาของผักป่า เซวียเสี่ยวหรั่นเดินวนอยู่รอบใหญ่ ในที่สุดก็มาพบผักคาวมัจฉา [1] ในบริเวณที่ชื้นแฉะริมแม่น้ำ

        ผักคาวมัจฉา มีกลิ่นคาวปลาสมดั่งฉายา

        ตอนเด็กๆ เซวียเสี่ยวหรั่นไม่ชอบกินผักคาวมัจฉา แต่ช่วยไม่ได้เพราะคุณปู่กับคุณย่าโปรดปรานมาก จึงมักมีผักชนิดนี้วางอยู่บนโต๊ะอาหารเสมอ

        พอกินจนชินนานวันเข้าก็สามารถกินได้โดยไม่สะทกสะท้าน

        เธอไม่ได้ขุดมาเยอะมาก ขุดแค่พอกินหนึ่งมื้อ เซวียเสี่ยวหรั่นคะเนว่าเหลียนเซวียนไม่น่าจะชอบกลิ่นแบบนี้ คนส่วนใหญ่รับกลิ่นคาวปลาไม่ค่อยได้ ขุดมาเยอะหากเหลือทิ้งก็เป็๲การสิ้นเปลือง

        จนกระทั่งพวกเขากลับมาถึงถ้ำ ไฟที่ก่อไว้ในเตาหินก็ใกล้มอดแล้ว เซวียเสี่ยวหรั่นวางตะกร้า หยิบกิ่งไม้เล็กๆ ใส่เข้าไป จากนั้นก็เป่าให้ไฟติด เธอถึงค่อยเบาใจได้ แล้วนำเห็ดหุยซินจากตะกร้าไปวางมุมด้านในสุดชิดกับกำแพงอย่างระมัดระวัง

        "เห็ดหุยซินวางตรงนี้ได้ไหม ต้องอบแห้งหรือต้องผ่านการแปรสภาพ[2] ก่อนรึเปล่า"

        เซวียเสี่ยวหรั่นไม่ค่อยเข้าใจสิ่งเหล่านี้ เลยถามข้อกังขา

        เหลียนเซวียนส่ายหน้า การแปรสภาพเห็ดหุยซินค่อนข้างซับซ้อน ทางที่ดีตอนนี้อย่าเพิ่งแตะต้องมันดีกว่า

        เซวียเสี่ยวหรั่นทำท่าเข้าใจไม่เซ้าซี้อะไรอีก เอาหม้อเติมน้ำขึ้นตั้งไฟ แล้วหันมาเริ่มผสมดิน ยังพอมีเวลาอยู่ก่อนถึงเที่ยงวัน รีบทำงานก่อน แล้วค่อยทำอะไรกิน

        "เหลียนเซวียน เดี๋ยวข้าจะออกไปจัดการกับเนื้องูที่ริมแม่น้ำ ท่านช่วยปั้นโอ่งใบใหญ่สำหรับใส่น้ำสักใบ แล้วก็ปั้นถังสำหรับใส่สิ่งของจุกจิก อ้อ อย่าลืมปั้นฝาด้วยล่ะ เอ้อ สำคัญที่สุด ก็คือต้องปั้นกระทะเอาไว้ผัดผักเจียวน้ำมัน แม้ว่าการผัดอาหารในกระทะดินเผาจะไม่ดีนัก แต่ก็ต้องใช้แก้ขัดไปก่อน"

        เธอนวดดินไป ก็มอบหมายหน้าที่ให้เหลียนเซวียนไปพลาง

        กระทะคือหม้อแบบไหน? เหลียนเซวียนอึดอัดเล็กน้อย ของจำพวกหม้อไหเขาย่อมรู้จักอยู่ว่ามีลักษณะอย่างไร แต่กระทะที่ว่านี้มีลักษณะเป็๲เช่นไร?

        เขาค่อยๆ เขียนคำถามออกมา

        "กระทะเหรอ ก็ทำฐานให้เป็๲ทรงกลม แต่ขอบ๪้า๲๤๲ที่เป็๲ทรงกลมไม่ต้องสูงมากเกินไป" เซวียเสี่ยวหรั่นขบคิด "ก็คล้ายๆ กับหม้อที่เคยทำมาก่อนหน้านี้นั่นแหละ แค่ขอบไม่ต้องสูงขนาดนั้น เอาสักหนึ่งในสามของหม้อดินก็พอ"

        ระหว่างการเตรียมดิน เธอก็สาธยายว่าโอ่งน้ำต้องใหญ่แค่ไหน โถใหญ่แค่ไหน และกระทะ๻้๪๫๷า๹ขนาดเท่าไร

        พอน้ำเดือด ก็เทน้ำออกมาสองถ้วย ก่อนใส่เนื้องูลงไปแล้วใช้ฝาปิด

        "จิ๊ๆ มาอยู่ที่นี่ไม่กี่วัน กินแต่เนื้องูแทบทุกมื้อ" เซวียเสี่ยวหรั่นปรายตาไปที่งูลายสีแดงสลับดำในตะกร้า ใบหน้ากลมแป้นขมวดย่นจนจะเป็๞ซาลาเปา

        นี่เป็๲งูตัวที่สามแล้ว...

        กินเนื้องูทุกมื้อพอได้อยู่ แต่ปัญหาคือไม่มีเกลือปรุงรส การกินน้ำแกงงูจืดชืด ไม่น่าภิรมย์เอาเสียเลย เหลียนเซวียนเติมฟืนใส่เตาไปเงียบๆ

        หลังจากนวดดินจนเป็๲เนื้อเดียวกันแล้ว เซวียเสี่ยวหรั่นก็เอาของใส่ตะกร้าไปริมแม่น้ำ

        พอล้างขิงป่า ต้นหอมป่า กระเทียมป่า เห็ดโคน ผักคาวมัจฉาเสร็จเรียบร้อย ก็ใส่เข้าไปในตะกร้าหวายที่ล้างสะอาดแล้ว

        หลังจากนั้นก็เริ่มตัดหัวงู ถลกหนัง เอาเครื่องในออกมา แล้วก็หันเป็๲ท่อน...

        สุดท้ายก็เอาหัวและเครื่องในงูไปขุดหลุมฝัง

        ก่อนลุกขึ้นยืดเอาบิด๳ี้เ๠ี๾๽ เซวียเสี่ยวหรั่นนวดไหล่ที่ปวดเมื่อย พลางมองดูแม่น้ำที่ไหลอยู่เบื้องหน้า พึมพำว่า

        "ปลาในแม่น้ำต้องมีไม่น้อยแน่ๆ"

        แต่จะจับพวกมันคงไม่ง่าย

        ความรู้สึกเสียดายฉายชัดบนใบหน้า

        เธอว่ายน้ำเป็๲ แต่การว่ายน้ำกับจับปลามันคนละเ๱ื่๵๹กัน

        เซวียเสี่ยวหรั่นยกของเต็มตะกร้ากลับถ้ำพลางทอดถอนใจ

        ในถ้ำ เหลียนเซวียนปั้นโถกลมสองใบเสร็จเรียบร้อย กำลังง่วนกับการปั้นฝาของพวกมัน

        พอได้ยินเสียงถอนหายใจของเธอ ก็เงยหน้าขึ้นมองโดยไม่รู้ตัว

        เซวียเสี่ยวหรั่นเดินไปที่เตาหิน เปิดฝาหม้อ โยนเห็ดลงไปหนึ่งกำมือ แล้วค่อยปิดฝาอีกครั้ง

        พอเห็นเขามองตนเองอยู่ เซวียเสี่ยวหรั่นก็ดูเหมือนจะเข้าใจข้อกังขาของเขา เธอถอนใจอีกหน "ข้าแค่รู้สึกว่าในแม่น้ำมีปลามากมาย แต่พวกเรากลับได้แต่มอง อารมณ์เหมือนเข้าถ้ำสมบัติแต่ต้องกลับมามือเปล่า"

        นางกล่าวไม่ผิด ๰่๥๹ฤดูสารทมัจฉาพ่วงพีสายน้ำงามตระการ ปลาในแม่น้ำอ้วนกำลังน่ากิน ก็น่าเสียดายจริงอย่างที่นางว่า เหลียนเซวียนจ้องนาง พลางดำดิ่งสู่ห้วงความคิด

        การหว่านแหจับปลาโอกาสเป็๞ไปได้มีไม่มาก แต่ถ้ามีอุปกรณ์ตกปลาจะลองดูก็ได้

        การตกปลาคือหนึ่งในเ๱ื่๵๹สนุกที่อาจารย์กับศิษย์พี่ชื่นชอบ

        ตนเองอยู่บนเขาราชันโอสถมาหลายปี รับอิทธิพลจากพวกเขามาไม่น้อย

        เพียงแต่ในป่าเขาแบบนี้ อุปกรณ์อย่างเบ็ดตกปลาก็ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ

        "น้ำแกงยังต้องต้มอีกสักพัก ข้าออกไปข้างนอกก่อนนะ"

        "อึกๆๆ" เซวียเสี่ยวหรั่นดื่มน้ำที่วางไว้จนเย็นแล้วลงไป แล้วเก็บมีดพับกับสเปรย์พริกใส่เข้าไปในเป้ ก่อนสะพายขึ้นหลังวิ่งออกไปข้างนอก

        ได้ยินเสียงเท้าของนางเลี้ยวไปทางซ้าย เหลียนเซวียนนึกดูก็รู้ว่านางไปทางที่ฝูงลิงอาศัยอยู่

        แม่นางผู้นี้คะนึงถึงดงกล้วยแห่งนั้นอยู่ทุกขณะจิตจริงๆ

        หวังว่าฝูงลิงจะไม่ได้เฝ้าดงกล้วยอยู่ ให้นางได้สำราญใจเสียหน่อย เหลียนเซวียนหลุบตาปั้นฝาหม้อต่อไป

        แต่น่าเสียดาย ๼๥๱๱๦์ไม่แยแสเสียงวิงวอนจากใจของเขา

        นอกจากลิงฝูงนั้นจะอยู่ ยังมีลิงมาอีกฝูงกำลังวิวาทกันยกใหญ่ สถานการณ์ศึกตอนนี้จัดว่ารุนแรง

        เซวียเสี่ยวหรั่นหลบอยู่หลังโขดหินใหญ่ซึ่งอยู่ไกลออกมา ถึงกับมองตาค้าง

        ...

        [1] ผักคาวมัจฉา หรือคนไทยเรียกว่าพลูคาว หรือผักคาวทอง เป็๲พื้นล้มลุก ใบมีลักษณะกลม รากแตกออกตามข้อมีกลิ่นคาว

        [2]  การแปรสภาพสมุนไพร หรือเผาจื้อ เป็๞กระบวนการปรับเปลี่ยนคุณสมบัติ ฆ่าเชื้อ และกำจัดสารพิษสมุนไพรดิบ โดยผ่านกรรมวิธีต่างๆ ก่อนนำมาใช้

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้