ใครว่าไม่พอ เรียกได้ว่าเกินพอเสียด้วยซ้ำ
จำนวนเห็ดหุยซินมากมายเช่นนี้ ทำให้ใบหน้าขาวซีดจากการสูญเสียพลังของเหลียนเซวียนฉายแววยินดีอยู่หลายส่วน เขาพยักหน้าช้าๆ
หากศิษย์พี่รู้ว่าพวกเขาขุดเห็ดหุยซินมาเยอะขนาดนี้ คงอิจฉาแทบอยากจะอาละวาดไปเลยกระมัง มุมปากของชายหนุ่มโค้งขึ้นเป็รอยยิ้ม
หลายปีมานี้ ศิษย์พี่ออกตามหาไปทั่ว แต่ไม่เคยพบแม้แต่เงาของเห็ดหุยซิน
ปลายปีก่อนได้รับจดหมายฉบับล่าสุดของเขา บอกว่ากำลังแสวงหาสมุนไพรชนิดต่างๆ อยู่ในป่าบนเทือกเขาแคว้นซีฉี หนึ่งในนั้นก็คือเห็ดหุยซิน
ไม่รู้ว่าตอนนี้ศิษย์พี่อยู่ที่ไหน
เหลียนเซวียนเงยหน้าทอดสายตาที่พร่ามัวไปยังสถานที่ห่างไกล
เซวียเสี่ยวหรั่นประคองขึ้นจากหลุมใหญ่ หลังจากนั้นก็ไปเด็ด
ไปเผือกป่าอีกสองใบ ใบหนึ่งใช้ห่อเห็ดหุยซิน อีกใบใช้ห่องูใหญ่ตัวนั้น แล้วหิ้วไปยังเนินดิน
"เหลียนเซวียน ท่านพักผ่อนสักครู่ ข้าจะไปขุดดินสักสองตะกร้า"
การเก็บเห็ดหุยซินเสียเวลาไม่น้อย เซวียเสี่ยวหรั่นมองดูท้องฟ้า ยังคงไม่มีเงาของพระอาทิตย์
ลมสารทโชยผ่านยอดไม้ ใบไม้เหลืองร่วงหล่นอย่างเงียบเชียบ
อากาศปลายฤดูใบไม้ร่วงนำพาความหนาวเย็นมาด้วย
ถ้าไม่มีการเตรียมตัวที่ดีพอ เซวียเสี่ยวหรั่นก็สามารถจินตนาการความเยียบเย็นจับจิตหลังย่างเข้าสู่ฤดูหนาวได้
เธอคงต้องรีบแล้ว
เซวียเสี่ยวหรั่นเม้มริมฝีปาก วิ่งออกไปพร้อมกับไม้ขุดดิน
แค่เพียงชั่วอึดใจเท่านั้น เธอก็ขุดดินกลับถ้ำไปได้สองตะกร้า ถึงย้อนกลับมาข้างหลุมใหญ่ เอางูกับเห็ดหุยซินใส่เข้าไปในตะกร้า หลังจากนั้นก็กลับมานำทางให้เหลียนเซวียนซึ่งพละกำลังเริ่มจะคืนมาบ้างแล้ว
ครั้งนี้เธอค่อยๆ เดินกลับเป็เพื่อนเหลียนเซวียน แต่ก็ถือโอกาสแวะเดินไปรอบบริเวณ
มีคำกล่าวว่าผู้แสวงหาย่อมได้รับผลตอบแทน
สถานที่ติดกับเชิงเขา พบว่ามีขิงป่าเพิ่งแตกหน่ออ่อนอยู่ไม่น้อย ขิงป่าชนิดนี้มีสีม่วงลักษณะคล้ายกับหน่อไม้อ่อน สามารถนำมาประกอบอาหารได้ รสชาติดีมาก
หลังเข้าฤดูใบไม้ร่วง ก็แทบไม่เห็นเงาของผักป่า เซวียเสี่ยวหรั่นเดินวนอยู่รอบใหญ่ ในที่สุดก็มาพบผักคาวมัจฉา [1] ในบริเวณที่ชื้นแฉะริมแม่น้ำ
ผักคาวมัจฉา มีกลิ่นคาวปลาสมดั่งฉายา
ตอนเด็กๆ เซวียเสี่ยวหรั่นไม่ชอบกินผักคาวมัจฉา แต่ช่วยไม่ได้เพราะคุณปู่กับคุณย่าโปรดปรานมาก จึงมักมีผักชนิดนี้วางอยู่บนโต๊ะอาหารเสมอ
พอกินจนชินนานวันเข้าก็สามารถกินได้โดยไม่สะทกสะท้าน
เธอไม่ได้ขุดมาเยอะมาก ขุดแค่พอกินหนึ่งมื้อ เซวียเสี่ยวหรั่นคะเนว่าเหลียนเซวียนไม่น่าจะชอบกลิ่นแบบนี้ คนส่วนใหญ่รับกลิ่นคาวปลาไม่ค่อยได้ ขุดมาเยอะหากเหลือทิ้งก็เป็การสิ้นเปลือง
จนกระทั่งพวกเขากลับมาถึงถ้ำ ไฟที่ก่อไว้ในเตาหินก็ใกล้มอดแล้ว เซวียเสี่ยวหรั่นวางตะกร้า หยิบกิ่งไม้เล็กๆ ใส่เข้าไป จากนั้นก็เป่าให้ไฟติด เธอถึงค่อยเบาใจได้ แล้วนำเห็ดหุยซินจากตะกร้าไปวางมุมด้านในสุดชิดกับกำแพงอย่างระมัดระวัง
"เห็ดหุยซินวางตรงนี้ได้ไหม ต้องอบแห้งหรือต้องผ่านการแปรสภาพ[2] ก่อนรึเปล่า"
เซวียเสี่ยวหรั่นไม่ค่อยเข้าใจสิ่งเหล่านี้ เลยถามข้อกังขา
เหลียนเซวียนส่ายหน้า การแปรสภาพเห็ดหุยซินค่อนข้างซับซ้อน ทางที่ดีตอนนี้อย่าเพิ่งแตะต้องมันดีกว่า
เซวียเสี่ยวหรั่นทำท่าเข้าใจไม่เซ้าซี้อะไรอีก เอาหม้อเติมน้ำขึ้นตั้งไฟ แล้วหันมาเริ่มผสมดิน ยังพอมีเวลาอยู่ก่อนถึงเที่ยงวัน รีบทำงานก่อน แล้วค่อยทำอะไรกิน
"เหลียนเซวียน เดี๋ยวข้าจะออกไปจัดการกับเนื้องูที่ริมแม่น้ำ ท่านช่วยปั้นโอ่งใบใหญ่สำหรับใส่น้ำสักใบ แล้วก็ปั้นถังสำหรับใส่สิ่งของจุกจิก อ้อ อย่าลืมปั้นฝาด้วยล่ะ เอ้อ สำคัญที่สุด ก็คือต้องปั้นกระทะเอาไว้ผัดผักเจียวน้ำมัน แม้ว่าการผัดอาหารในกระทะดินเผาจะไม่ดีนัก แต่ก็ต้องใช้แก้ขัดไปก่อน"
เธอนวดดินไป ก็มอบหมายหน้าที่ให้เหลียนเซวียนไปพลาง
กระทะคือหม้อแบบไหน? เหลียนเซวียนอึดอัดเล็กน้อย ของจำพวกหม้อไหเขาย่อมรู้จักอยู่ว่ามีลักษณะอย่างไร แต่กระทะที่ว่านี้มีลักษณะเป็เช่นไร?
เขาค่อยๆ เขียนคำถามออกมา
"กระทะเหรอ ก็ทำฐานให้เป็ทรงกลม แต่ขอบ้าที่เป็ทรงกลมไม่ต้องสูงมากเกินไป" เซวียเสี่ยวหรั่นขบคิด "ก็คล้ายๆ กับหม้อที่เคยทำมาก่อนหน้านี้นั่นแหละ แค่ขอบไม่ต้องสูงขนาดนั้น เอาสักหนึ่งในสามของหม้อดินก็พอ"
ระหว่างการเตรียมดิน เธอก็สาธยายว่าโอ่งน้ำต้องใหญ่แค่ไหน โถใหญ่แค่ไหน และกระทะ้าขนาดเท่าไร
พอน้ำเดือด ก็เทน้ำออกมาสองถ้วย ก่อนใส่เนื้องูลงไปแล้วใช้ฝาปิด
"จิ๊ๆ มาอยู่ที่นี่ไม่กี่วัน กินแต่เนื้องูแทบทุกมื้อ" เซวียเสี่ยวหรั่นปรายตาไปที่งูลายสีแดงสลับดำในตะกร้า ใบหน้ากลมแป้นขมวดย่นจนจะเป็ซาลาเปา
นี่เป็งูตัวที่สามแล้ว...
กินเนื้องูทุกมื้อพอได้อยู่ แต่ปัญหาคือไม่มีเกลือปรุงรส การกินน้ำแกงงูจืดชืด ไม่น่าภิรมย์เอาเสียเลย เหลียนเซวียนเติมฟืนใส่เตาไปเงียบๆ
หลังจากนวดดินจนเป็เนื้อเดียวกันแล้ว เซวียเสี่ยวหรั่นก็เอาของใส่ตะกร้าไปริมแม่น้ำ
พอล้างขิงป่า ต้นหอมป่า กระเทียมป่า เห็ดโคน ผักคาวมัจฉาเสร็จเรียบร้อย ก็ใส่เข้าไปในตะกร้าหวายที่ล้างสะอาดแล้ว
หลังจากนั้นก็เริ่มตัดหัวงู ถลกหนัง เอาเครื่องในออกมา แล้วก็หันเป็ท่อน...
สุดท้ายก็เอาหัวและเครื่องในงูไปขุดหลุมฝัง
ก่อนลุกขึ้นยืดเอาบิดี้เี เซวียเสี่ยวหรั่นนวดไหล่ที่ปวดเมื่อย พลางมองดูแม่น้ำที่ไหลอยู่เบื้องหน้า พึมพำว่า
"ปลาในแม่น้ำต้องมีไม่น้อยแน่ๆ"
แต่จะจับพวกมันคงไม่ง่าย
ความรู้สึกเสียดายฉายชัดบนใบหน้า
เธอว่ายน้ำเป็ แต่การว่ายน้ำกับจับปลามันคนละเื่กัน
เซวียเสี่ยวหรั่นยกของเต็มตะกร้ากลับถ้ำพลางทอดถอนใจ
ในถ้ำ เหลียนเซวียนปั้นโถกลมสองใบเสร็จเรียบร้อย กำลังง่วนกับการปั้นฝาของพวกมัน
พอได้ยินเสียงถอนหายใจของเธอ ก็เงยหน้าขึ้นมองโดยไม่รู้ตัว
เซวียเสี่ยวหรั่นเดินไปที่เตาหิน เปิดฝาหม้อ โยนเห็ดลงไปหนึ่งกำมือ แล้วค่อยปิดฝาอีกครั้ง
พอเห็นเขามองตนเองอยู่ เซวียเสี่ยวหรั่นก็ดูเหมือนจะเข้าใจข้อกังขาของเขา เธอถอนใจอีกหน "ข้าแค่รู้สึกว่าในแม่น้ำมีปลามากมาย แต่พวกเรากลับได้แต่มอง อารมณ์เหมือนเข้าถ้ำสมบัติแต่ต้องกลับมามือเปล่า"
นางกล่าวไม่ผิด ่ฤดูสารทมัจฉาพ่วงพีสายน้ำงามตระการ ปลาในแม่น้ำอ้วนกำลังน่ากิน ก็น่าเสียดายจริงอย่างที่นางว่า เหลียนเซวียนจ้องนาง พลางดำดิ่งสู่ห้วงความคิด
การหว่านแหจับปลาโอกาสเป็ไปได้มีไม่มาก แต่ถ้ามีอุปกรณ์ตกปลาจะลองดูก็ได้
การตกปลาคือหนึ่งในเื่สนุกที่อาจารย์กับศิษย์พี่ชื่นชอบ
ตนเองอยู่บนเขาราชันโอสถมาหลายปี รับอิทธิพลจากพวกเขามาไม่น้อย
เพียงแต่ในป่าเขาแบบนี้ อุปกรณ์อย่างเบ็ดตกปลาก็ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ
"น้ำแกงยังต้องต้มอีกสักพัก ข้าออกไปข้างนอกก่อนนะ"
"อึกๆๆ" เซวียเสี่ยวหรั่นดื่มน้ำที่วางไว้จนเย็นแล้วลงไป แล้วเก็บมีดพับกับสเปรย์พริกใส่เข้าไปในเป้ ก่อนสะพายขึ้นหลังวิ่งออกไปข้างนอก
ได้ยินเสียงเท้าของนางเลี้ยวไปทางซ้าย เหลียนเซวียนนึกดูก็รู้ว่านางไปทางที่ฝูงลิงอาศัยอยู่
แม่นางผู้นี้คะนึงถึงดงกล้วยแห่งนั้นอยู่ทุกขณะจิตจริงๆ
หวังว่าฝูงลิงจะไม่ได้เฝ้าดงกล้วยอยู่ ให้นางได้สำราญใจเสียหน่อย เหลียนเซวียนหลุบตาปั้นฝาหม้อต่อไป
แต่น่าเสียดาย ์ไม่แยแสเสียงวิงวอนจากใจของเขา
นอกจากลิงฝูงนั้นจะอยู่ ยังมีลิงมาอีกฝูงกำลังวิวาทกันยกใหญ่ สถานการณ์ศึกตอนนี้จัดว่ารุนแรง
เซวียเสี่ยวหรั่นหลบอยู่หลังโขดหินใหญ่ซึ่งอยู่ไกลออกมา ถึงกับมองตาค้าง
...
[1] ผักคาวมัจฉา หรือคนไทยเรียกว่าพลูคาว หรือผักคาวทอง เป็พื้นล้มลุก ใบมีลักษณะกลม รากแตกออกตามข้อมีกลิ่นคาว
[2] การแปรสภาพสมุนไพร หรือเผาจื้อ เป็กระบวนการปรับเปลี่ยนคุณสมบัติ ฆ่าเชื้อ และกำจัดสารพิษสมุนไพรดิบ โดยผ่านกรรมวิธีต่างๆ ก่อนนำมาใช้