หลังจากไทเฮาเอ่ยคำพูดเหล่านี้ออกไป ความขุ่นเคืองในใจพระองค์จึงลดลงเล็กน้อย และเมื่อเห็นนางยังคุกเข่านิ่งไม่ไหวติงจึงโบกมือ แม่นมซูรีบเข้ามาพยุงฮวารั่วซีลุกขึ้นพลางกล่าว “ไทเฮาทรงระงับโทสะเพคะ ซูเฟยสำนึกผิดแล้ว”
“ไทเฮา หม่อมฉันทำให้ท่านผิดหวัง” บนใบหน้าของฮวารั่วซีมีคราบน้ำตาไหลริน ภายในดวงตาเอ่อคลอไปด้วยความรู้สึกผิดที่ปกปิดไว้ไม่อยู่
ไทเฮาคล้ายจะเหนื่อยล้า น้ำเสียงจึงอ่อนลงมาก “อายเจียเองก็คิดไม่รอบคอบเช่นกัน เ้าอายุยังน้อย ยามนี้มีเต๋อเฟยดูแล เต๋อเฟยอยู่ในวังั้แ่เล็กจนโต นางเป็คนจัดการ อายเจียก็วางใจ”
“หม่อมฉันจะช่วยพี่เต๋อเฟยแน่นอนเพคะ” ฮวารั่วซีกล่าวทันที
ไทเฮากวาดสายตามองนางและไม่ได้ตอบอันใด เพียงกล่าวว่า “ตำหนักหลังควรดูแลให้ดี ตายสองสามคนนับว่าไม่เป็อันใดมาก องค์ชายไม่มีแล้ว ภายหลังค่อยให้กำเนิดใหม่ก็ยังได้ แต่เื่ของเจิ้งเจี๋ยอวี๋มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่?”
ฮวารั่วซีตัวสั่นเล็กน้อยจนแทบมองไม่เห็น นางได้ยินไทเฮาเอ่ยกับแม่นมซู “ไปตรวจดูหน่อย เกิดเื่โสมมมานานเพียงนี้กลับไม่มีคนดูแล”
นางกำนัลด้านข้างตอบรับแล้วจากไป ฮวารั่วซีรู้ว่านางต้องไปหาเต๋อเฟยเพื่อถ่ายทอดราชโองการของไทเฮาเป็แน่ ความริษยาในใจกำลังกัดกินเหตุผล นางก้มศีรษะหยิบนิยายขึ้นมาเตรียมจะอ่านต่อ ทว่าไทเฮากลับกล่าวกับนางว่า “วันนี้เ้าเหนื่อยมากแล้ว กลับไปพักผ่อนเถิด”
ฮวารั่วซีรีบตอบรับพลางถอยไปที่ประตู จากนั้นพลันได้ยินไทเฮาเอ่ยเสียงเ็าตามหลังมา “สิ่งที่ไม่น่าเชื่อถือที่สุดในโลกใบนี้ก็คือความรัก หากยังปลงไม่ได้ เ้าก็เป็ซูเฟยของเ้าต่อไปเถิด”
ฮวารั่วซีดีใจและรีบคุกเข่าโขกศีรษะทันที “หม่อมฉันขอบพระทัยไทเฮาที่เมตตา”
ขณะมองฮวารั่วซีจากไป ในที่สุดไทเฮาพลันถอนหายใจกล่าวว่า “ซูเอ๋อร์ ซูเฟยนางนี้ไม่รู้ความเกินไปแล้ว…...”
แม่นมซูพยุงนางไปนั่งลงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง นางกำนัลด้านข้างมารวมตัวกันปลดอาภรณ์ให้ไทเฮา แม่นมซูกล่าวเสียงเบาอยู่ด้านข้าง “ซูเฟยปักใจรักลึกซึ้งต่อฝ่าา ช่างน่าสงสารยิ่งนักเพคะ”
“อยู่ในวังมานานหลายปี เรียนรู้เพียงแค่การแยกเขี้ยวเผยกรงเล็บเท่านั้น” ไทเฮากระชากเสียงฮึเ็าและกล่าวอีกว่า “เ้าคิดว่าเหยียนเป่าหลินเป็อย่างไร?”
“งดงามเพคะ เพียงแต่น่าเสียดายที่สถานะต่ำต้อยเกินไป ไร้ที่พึ่งพิง และยังไม่รู้กาลเทศะ วันนี้ไทเฮาปฏิบัติต่อนางเช่นนั้น ซูเฟยยังทนไม่ได้ เกรงว่าผู้อื่นยิ่งไม่มีทางปล่อยนางเป็แน่เพคะ เกรงว่าจะกลายเป็เป้าให้ผู้อื่นโจมตีเอาได้เพคะ”
“เป้าหรือ?” ไทเฮาพึมพำเสียงเบาพลางกล่าวว่า “อายเจียนับวันยิ่งไม่เข้าใจความคิดฮ่องเต้จริงๆ...…”
“บ่าวคิดว่าเหยียนเป่าหลินผู้นี้ไม่มีตระกูลคอยสนับสนุน เกรงว่าคงยืนหยัดได้ไม่นาน ฝ่าาอาจเพียงแค่สนใจชั่วขณะหนึ่ง เมื่อหมดความโปรดปราน ภายหลังคงลำบากนักเพคะ”
ไทเฮาทอดถอนใจ “เต๋อเฟย ซูเฟย ใครบ้างที่ไม่ได้ไต่ขึ้นมาจากชนชั้นล่าง อายเจียก็เฉกเช่นเดียวกัน”
“พวกนางจะเทียบกับไทเฮาได้อย่างไรเพคะ” แม่นมซูรีบเอ่ยตอบ
ไทเฮามองตนเองในคันฉ่อง ่วัยที่งดงามล่วงเลยไปแล้ว ใบหน้าที่สะท้อนในคันฉ่องทองสัมฤทธิ์หย่อนคล้อยตามวัย ไม่เอิบอิ่ม นางอยู่ในวังหลวงมาเนิ่นนานสามารถหยั่งรากลึกลงที่นี่ได้
หลายปีก่อนนางเคยออกจากวังครั้งหนึ่ง หลังจากกลับมาร่างกายแทบจะทรุดโทรมลงไปมาก โชคดีที่อดทนจนสามารถปกป้องชาติบ้านเมืองไว้ได้
นางกังวลเื่ในราชสำนักมามากพอแล้ว ส่วนเื่ตำหนักหลังที่นางจัดการมาหลายสิบปีนี้นางเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับมันมากจริงๆ
เพียงแค่เหยียนเป่าหลินตัวเล็กๆ นางหนึ่งทำให้วิตกกังวลจนกลายเป็เช่นนี้ ต้องรู้ว่าดวงตาของเหยียนเป่าหลินคล้ายกับอวิ๋นอู๋เหยียนยิ่งนัก ต่อให้ฮ่องเต้โปรดปรานเพียงใด มองไปนานๆ ประเดี๋ยวก็เบื่อหน่าย
ฮวารั่วซีรับใช้ฮ่องเต้มานานกลับไม่รู้เื่นี้ ช่างไม่ได้เื่เสียจริงๆ
……
ฮวารั่วซีออกจากตำหนักอี้คุน เกี้ยวโคลงเคลงไปตลอดทาง เงาร่างทอดยาวใต้แสงจันทร์ราวกับโผล่ออกมาจากใต้พื้นดิน
เกี้ยวที่โคลงเคลงอย่างรุนแรงทำให้นางหงุดหงิดใจ
การกระทำของไทเฮาวันนี้ทำให้นางหวาดกลัวถึงขีดสุด นางจึงลากสังขารเหนื่อยล้าเดินทางไปตำหนักอี้คุนเพื่อแสดงความกตัญญูสุดความสามารถ เดิมทีนางคิดว่าด้วยความสัมพันธ์ของตนเองกับไทเฮาจะทำให้การกำจัดเป่าหลินต่ำต้อยเป็เื่ง่ายดาย ทว่านางไม่คาดคิดเลยว่าไทเฮาจะตำหนินางเพราะเหตุนี้
ดูจากท่าทางป่วยออดแอดเดินสามก้าวแล้วล้มของเหยียนเป่าหลิน ไทเฮาคงไม่คิดว่าเหยียนเป่าหลินจะให้กำเนิดบุตรัได้จริงกระมัง!
ยามนั้นนางสร้างความวุ่นวายเพื่อให้ไทเฮาเชื่อใจตนเอง นางแสดงจุดยืนของตนเองอย่างถึงที่สุดแล้วว่าต่อจากนี้ไปนางจะยืนฝั่งเดียวกับไทเฮา ทำเช่นนี้นางจึงจะมีที่ยืนในตำหนักหลังแห่งนี้ และสามารถอยู่เคียงข้างซ่งอี้เฉินได้นานยิ่งขึ้น
คำสาบานเป็ร้อยเป็พันครั้งแต่เก่าก่อน น่าเสียดายที่สุดท้ายกลับต้านทานกาลเวลาไม่ได้ ฮวารั่วซี้าเรียนรู้จากเต๋อเฟยที่ถือลูกประคำพร่ำสวดมนต์ ทว่าเมื่อคิดถึงความพยายามของนางในหลายปีมานี้ นางจึงยอมแพ้ไม่ได้ นาง้าเป็ภรรยาของเขา นี่คือคำมั่นสัญญาที่เขาเคยให้ไว้กับนาง
นางเคยคิดว่าศัตรูมีเพียงผู้เดียว ยามนี้เพิ่งรู้ว่าศัตรูของนางคือสตรีทั้งตำหนักหลังที่อยากจะนั่งอยู่บนตำแหน่งนั้น ทว่านางไม่อยากยอมรับความพ่ายแพ้ และยิ่งไม่อยากยอมแพ้ นางคือฮวารั่วซี มิใช่อวิ๋นอู่เหยียน ในเมื่อ้านั่งบนตำแหน่งนั้น นางจะต้องประสบความสำเร็จให้ได้
ส่วนเศษหินขวางทางรกหูรกตาเ่าั้เพียงบดขยี้มันเสียก็สิ้นเื่
ขันทีกลุ่มหนึ่งเดินผ่านมา เมื่อเห็นฮวารั่วซีจึงรีบคำนับอย่างนอบน้อม ฮวารั่วซีที่สะดุ้งเพราะเสียงทักทายนี้ก้มศีรษะไปมอง มั่วหนงนางกำนัลใกล้ชิดของนางเอ่ยถามเสียงเข้ม “รีบร้อนไปทำอันใด เกือบชนพระสนมแล้ว!”
แม้ยามนี้เต๋อเฟยจะเป็ผู้ดูแลตำหนักหลัง ทว่าอำนาจที่หลงเหลือเมื่อก่อนของฮวารั่วซียังคงมีอยู่บ้าง เมื่อขันทีที่เป็ผู้นำได้ยินมั่วหนงตำหนิจึงโขกศีรษะไม่หยุดพลางกล่าว “เต๋อเฟยสั่งให้พวกบ่าวรีบไปที่เรือนเตี๋ยฟาง จนทำให้เดินชนพระสนม พระสนมโปรดอภัย”
มั่วหนงมองฮวารั่วซีคราหนึ่ง เมื่อเห็นนางพยักหน้าจึงเปิดปากเอ่ยทันที “พระสนมใจกว้าง ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับพวกเ้า ภายหลังว่องไวกว่านี้หน่อย หากเป็เหยียนเป่าหลิน เกรงว่าคงถูกด่าทอทุบตีไปแล้ว เอาเถิด ในเมื่อมีธุระก็รีบไปจัดการ”
เมื่อเหล่าขันทีที่โขกศีรษะอย่างแข็งขันอยู่เบื้องล่างได้ยินมั่วหนงเอ่ยเช่นนี้พลันอดสาปแช่งในใจไม่ได้ น่ากลัวเพียงใดก็มีซูเฟยที่น่ากลัวยิ่งกว่า วันนี้เพียงโชคดีที่มีเต๋อเฟยเป็ผู้ดูแลแล้ว หากเป็เมื่อก่อนเกรงว่าคงถูกเฆี่ยนจนตายไปนานแล้ว กระนั้นปากยังคงกล่าวขอบคุณในความเมตตาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เกี้ยวโคลงเคลงอีกครั้ง โคลงเคลงเสียจนรู้สึกง่วงนอน ฮวารั่วซีเหนื่อยกับงานเลี้ยงฉลองวันประสูติไทเฮามาหลายวันติดแล้ว ยามนี้งานเลี้ยงเสร็จสิ้นจึงได้ผ่อนคลายเล็กน้อย ร่างกายเริ่มยืนหยัดไม่ไหว ทว่าในสมองกลับยังคงไม่หยุดคิด
เต๋อเฟยกลับเคลื่อนไหวรวดเร็ว ทันทีที่ได้รับราชโองการของไทเฮาพลันส่งขันทีออกไปเรือนเตี๋ยฟางทันที นั่นเป็สถานที่ที่เจิ้งเจี๋ยอวี๋อาศัยอยู่มิใช่หรือ?
เกรงว่ายามนี้นางคงเสียใจที่วันนั้นรีบร้อนจัดการเจิ้งเจี๋ยอวี๋ ไม่คาดคิดเลยว่าไทเฮาจะนำเื่นี้มาตั้งประเด็น ยามนี้คนตายไม่สามารถให้การได้ ทำได้เพียงหาเบาะแสจากที่อื่นเท่านั้น
โชคดีที่ใช้เวลาไม่นาน เต๋อเฟยมุ่งหน้าไปปิดเรือนเตี๋ยฟางไว้ก่อนแล้ว ทว่ายังพอมีความหวังอยู่บ้าง
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฮวารั่วซีพลันอดที่จะหัวเราะไม่ได้ ขณะที่กำลังสัปหงก หมอนก็มาพอดี
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้