“พรืด...เด็กเล็ก” เฉินเนี้ยนหรานได้ยินก็พูดออกมา “ได้ ต้าหลางเ้าไม่ได้จัดว่าเป็เด็ก มีคำโบราณกล่าวไว้ว่า สุภาพบุรุษนั้นเป็เด็กดี ส่วนเด็กดื้อนั้นเลี้ยงยาก ต้าหลาง หากเ้าเป็เด็กดื้อ ถ้าพวกเราถูกเ้าเล่นงานเข้าคงร้องไห้ไม่ออกแน่”
ต้าหลางร้อนรน ลุกขึ้นมาดุนาง “แม่หนูหราน ข้าจะบอกเ้าให้นะ ข้าคือพี่ชายของเ้า เ้าจะพูดว่าข้าเป็เด็กไม่ได้”
เฉินเนี้ยนหรานส่ายหน้า ทำหน้าแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เขา “แบร่ๆๆๆ ข้าพูดแล้ว พูดแล้วจะทำไมหรือ ฮ่าๆ ท่านป้า ท่านดูต้าหลางสิ เขายังคิดที่จะมาตีหลานสาวของท่าน ไอ๊หยา ท่านป้า ข้ากลัวจัง”
เฉินจื่อิที่กำลังดูไฟอยู่ด้านข้างมองพวกลูกๆ เขาหัวเราะออกมา
ความจริงแล้ว หากเฉินเนี้ยนหรานเป็ลูกสาวของเขา เช่นนั้นก็ไม่เลวเลยจริงๆ น่าเสียดาย...ที่นางไม่ใช่
เห็นท่านลุงกำลังหัวเราะ เฉินเนี้ยนหรานก็ถลึงตาใส่เขา คิดถึงเื่ความลับของเขากับโจวอ้าวเสวียน นางก็พุ่งไปตรงหน้าของกวนซูเยวียน “ท่านป้า ท่านจะต้องสั่งสอนท่านลุงให้ข้านะ เหอะๆ กล้ารังแกหลานสาวของตัวเองได้ลง ช่างสามารถจริงๆ”
กวนซูเยวียนหัวเราะ เอาก้อนแป้งในมือขึ้นมาโยน ทั้งยังใช้แรงกดนวดลงไป
“ได้ ข้าจะทำตามที่เ้าบอก ั้แ่คืนนี้เป็ต้นไปข้าก็จะไม่ให้เขามานอนกับข้า และข้าจะให้เขาไปนอนอยู่ที่ไม้กระดานด้านนอก ไม้กระดานแคบๆ เล็กๆ ด้วย ตอนนี้เ้าพอจะหายโกรธบ้างหรือไม่”
เฉินเนี้ยนหรานพยักหน้าอย่างน้อยใจ “อืม หายโกรธนิดหน่อยแล้วเ้าค่ะ แต่ยังไม่หายทั้งหมดนะเ้าคะ ดังนั้นท่านป้าจะต้องทำต่อไปนะเ้าคะ”
ต้าหลางได้ยินคำพูดนี้ก็หัวเราะจนท้องแข็ง
มองบิดาของตนเองอย่างสมน้ำหน้า ก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงเหมือนคนท่องหนังสือแฝงด้วยความทอดถอนใจ
“เฮ้อ ถึงว่าล่ะ ท่านสุภาพบุรุษพูดได้ดี บนโลกใบนี้มีเพียงเด็กกับสตรีที่เลี้ยงยาก ข้าว่านะ เด็กยังเลี้ยงง่าย มีแค่สตรีเท่านั้นแหละที่เลี้ยงยาก”
ต้าหลางส่ายหน้าพูดอย่างทอดถอนใจจบ ทว่าเขากลับพบว่าบรรยากาศมันไม่ถูกต้อง
ตอนที่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งกลับพบว่าสตรีสองนางที่อยู่ด้านซ้ายขวากำลังใช้สายตาถมึงทึงมองมายังเขา
เฉินเนี้ยนหรานยกมือขึ้น “ข้าจะเอาแป้งปาดจมูกเ้า” แป้งสีขาวกับสีเทาในมือถูกนำไปแปะที่จมูกของเขา
กวนซูเยวียนโกรธจนยกมือขึ้น “เ้าเด็กแสบ ข้าเองก็เป็มารดาของเ้า ข้าเองก็เป็สตรีนะ ข้าจะปาดทั้งหน้าเ้า กล้ามาหัวเราะเยาะผู้หญิงอย่างพวกข้า หัวเราะเยาะต่อสิ หัวเราะเยาะเลย ต่อไปข้าจะบอกกับลูกสะใภ้ในอนาคตว่าเ้ากล้าหัวเราะเยาะสตรี ข้าจะให้นางสั่งสอนเ้า”
การถูกปาดหน้าในครั้งนี้ ต้าหลางผู้น่าสงสารไม่กล้าแม้แต่จะหลบ จึงปล่อยให้สตรีทั้งสองทำให้หน้าของเขาเลอะเทอะเป็ลายพร้อย
เฉินจื่อิมองสภาพน่าเกลียดของลูกชาย ก็ถดเข้าไปใกล้กับเตามากขึ้น อนาถเกินไปแล้ว จุ๊ๆ ใบหน้าของต้าหลางตอนนี้ขาวไปหมด จนเหมือนเป็ก้อนแป้ง ช่างน่าสงสาร ในเรือนนี้สอนไว้ว่าห้ามมีเื่กับสตรีอย่างเด็ดขาด
สตรีกับเด็ก ต่างก็เลี้ยงยาก คำโบราณไม่เคยหลอกข้าเลยจริงๆ
นึกดูแล้ว ทำไมเฉินเนี้ยนหรานโกรธและแค้นเฉินจื่อิขนาดนี้ พูดถึงเื่นี้นางก็โกรธเขายิ่งนัก
ตอนแรกที่อยู่ระหว่างทางกลับเรือน เฉินเนี้ยนหรานก็คอยคิดเื่ที่ว่าทำไมเฉินจื่อิถึงได้ดูสนิทกับโจวอ้าวเสวียนนักอยู่ตลอด
เฉินจื่อิเองก็รู้ว่าปกปิดไม่ได้
ดังนั้นระหว่างทางจึงเล่าออกมาจนหมด เล่าเื่ั้แ่ต้นจนจบ
ั้แ่ตอนนั้น เฉินเนี้ยนหรานถึงได้รู้ชัดเจนว่า ก่อนหน้านี้เฉินจื่อิเคยไปขับรถม้าให้จวนสกุลโจวมาหนึ่งปี
ซึ่งในตอนนั้นเขาเคยเป็คนขับรถม้าของโจวอ้าวเสวียน แต่เป็แค่่เวลาสั้นๆ เท่านั้น ซึ่งเป็ระยะเวลาแค่หนึ่งเดือน
หนึ่งเดือนต่อมา เนื่องจากเกิดเื่ขึ้นกับครอบครัวเฉินจื่อิจึงไม่ได้กลับไปทำงานต่อ
แต่ในหนึ่งเดือนนี้ เขากับโจวอ้าวเสวียนก็ถือว่าเป็คนที่คุ้นเคยกันดี
ตอนที่เฉินเนี้ยนหรานออกจากเรือนสกุลโจวได้ไม่กี่วัน โจวอ้าวเสวียนก็ส่งลูกน้องของตนมาหาเขา ให้เขาคอยดูแลเฉินเนี้ยนหรานให้
เื่ก็เป็เช่นนี้ ดังนั้นตอนที่เฉินเนี้ยนหรานบอกว่าจะไปหาเรือนปักหลักอาศัยอยู่ด้วยสถานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว เฉินจื่อิจึงไปหาโจวอ้าวเสวียน
เื่เช่นนี้ จากความสามารถของเขา เขาทำไม่ได้จริงๆ
อย่างไรสตรีที่ออกเรือนแล้วคนหนึ่งอยากจะไปปักหลักอาศัยอยู่อย่างสงบไร้ศัตรู เื่ที่ยุ่งยากเช่นนี้ พ่อค้าเช่นเขาจะไปจัดการได้อย่างไร
โจวอ้าวเสวียนกลับเป็คนที่พูดง่าย ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ ภายในเวลาไม่ถึงสองวัน เขาก็สามารถจัดการเื่นี้ได้แล้ว
จะว่าไป ก็ไม่ถือว่านี่เป็เื่ที่ใหญ่มาก แต่ว่าเงินที่เฉินจื่อิจ่ายให้หลังจากหาเรือนได้แล้ว ความจริงแล้วยังมีส่วนเล็กๆ ที่โจวอ้าวเสวียนเป็คนออกเงิน
ในวันนั้น เฉินเนี้ยนหรานถึงได้รู้แน่ชัดว่า ทำไมเรือนหลังนั้นเ้าของเขาถึงได้ยอมขายให้ทั้งๆ ที่ได้เงินจำนวนน้อยเช่นนั้น การที่อยากจะจ่ายเงินแค่สามตำลึงก็ได้บ้านทั้งหลังมาเลยนั้น ราวกับการฝันกลางวัน เมื่อรวมแปลงผักรอบๆ เรือน คำนวณขอบเขตแล้วมีพื้นที่เกือบๆ หนึ่งไร่ แล้วก็ยังมีนานิดหน่อย รวมถึงพื้นดินทราย
คำนวณจากของพวกนี้แล้ว แค่เรือนหลังนั้น แล้วก็ที่นา หากขายไปสิบสองตำลึงก็ซื้อมันมาไม่ได้
จากตำลึงอันน้อยนิดของเฉินเนี้ยนหรานในตอนนั้น หากซื้อเรือนมาได้ อยากจะซื้อที่ดินอีก ก็เท่ากับฝันกลางวันแล้ว
พูดถึงเื่นี้ โจวอ้าวเสวียนยังเพิ่มเงินเข้าไปอีกเกือบสิบห้าตำลึง เงินนี้ เขาได้ใช้มันในนามของเฉินจื่อิเพื่อเอาเงินนี้มาให้กับเฉินเนี้ยนหราน
พอคิดว่านางใช้เงินของเด็กชายคนนั้นมาั้แ่แรกจบจน เฉินเนี้ยนหรานก็รู้สึกเหมือนมือของตัวเองสั่นเทาเป็อย่างมาก
ความจริงแล้ว หลังจากได้ยินเื่พวกนี้ อารมณ์ของนางก็ยุ่งเหยิง รวมถึงมีความโกรธที่อัดอั้นเอาไว้โดยไม่มีที่ระบาย
รู้สึกว่าญาติที่ใกล้ชิดกับตนเองที่สุด กลับปิดบังเื่นี้เอาไว้ แล้วร่วมมือกับคนนอกมารังแกนาง
ส่วนตัวนาง ไฟในใจของสตรีก็พวยพุ่งขึ้นมาเช่นนั้น
ดังนั้นั้แ่ตอนนั้นเป็ต้นมา เฉินเนี้ยนหรานก็ไม่ทำสีหน้าดีๆ ต่อเฉินจื่อิอีก เหอะ ท่านเอาข้าไปขาย ข้ายังทำสีหน้าดีๆ ให้ท่าน เช่นนั้นข้าจะไม่กลายเป็คนโง่หรือ ถึงแม้ท่านจะทำธุระให้ข้าจริงๆ แต่ว่า... แต่ว่า ก็ต้องลงโทษที่ท่านเป็ผู้ใหญ่ที่ขายครอบครัวของตัวเอง
เื่ก็เป็เช่นนี้ หลังจากกลับมา เฉินเนี้ยนหรานก็ไปหากวนซูเยวียน บอกให้นางมาจัดการเฉินจื่อิด้วยกัน
กวนซูเยวียนเป็สตรีที่แสบสัน ได้ยินว่าสามารถยืมเื่นี้มาสั่งสองบุรุษของเรือนตัวได้ เช่นนั้นก็น่าสนุกแล้ว
คิดถึงตอนที่นางแต่งเข้าสกุลเฉินเมื่อหลายปีก่อน มีโอกาสได้จัดการกับบุรุษของตนเสียที่ไหน บนโลกใบนี้ บุรุษยิ่งใหญ่ขนาดที่ว่าเป็ดั่งโลกทั้งใบ
ตอนนี้ พอมีเื่นี้ กวนซูเยวียนก็จัดการกับเฉินจื่อิโดยไม่มีแม้แต่การออมมือ…
เพราะเฉินจื่อิเองก็เข้าใจ ถึงแม้ภรรยาจะจัดการเกินไปหน่อย แต่เขาก็จะปล่อยพวกนางไป อย่างไรเสีย เื่นี้ก็จัดการแล้ว พูดกันจนชัดเจนแล้ว ในใจของเขาก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย หากอยู่ในใจตลอด ไม่พูดออกมา เขาคงรู้สึกผิดต่อเฉินเนี้ยนหรานจริงๆ
วกกลับมาเื่ขนมไหว้พระจันทร์
ว่าไปแล้วในวันแรกของการทำขนมไหว้พระจันทร์ ทั้งสี่คนทำกันไปจนถึงหลังเที่ยงคืน
หนังตาของเฉินเนี้ยนหรานเริ่มจะต่อสู้กันแล้ว ต้าหลางที่ยังเป็หนุ่มเองก็ทนไม่ไหวหลับฟุบไปแล้ว
ทั้งสองคนต่างหลับไหลไป กรนเสียงครอกฟี้ ทำเอากวนซูเยวียนอดไม่ได้ที่จะหันไปเอนพิงสองคนนี้
กลางดึกเช่นนี้ ทุกคนเองก็หิวกันแล้ว
ต้าหลางที่ได้กลิ่นอาหารยั่วยวนจนอดใจไม่ไหว ตื่นขึ้นมามองขนมไหว้พระจันทร์ที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นก็อยากจะกินสักหน่อย
มือว่องไวยกขึ้นมา แต่ก็ถูกกวนซูเยวียนตบกลับไป
“หนึ่งร้อยอีแปะเชียวนะ ไม่ต้องกินเลย หากหิวจริงๆ ข้าจะไปทำน้ำแกงเมี้ยนเกอตา [1] มาให้กิน ข้างในยังมีเนื้อมีเส้นอยู่หน่อย รับประกันว่าอร่อย” น้ำแกงเมี้ยนเกอตาแค่ไม่กี่อีแปะ ขนาดใส่เนื้อเข้าไปนิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่แพงเท่าขนมไหว้พระจันทร์
สี่คนกินขนมไหว้พระจันทร์ไปแปดห่อ ซึ่งก็เป็เงินเกือบหนึ่งก้วน เงินหนึ่งก้วน นางไปทำน้ำแกงเมี้ยนเกอตา ก็สามารถกินกันได้หลายวัน ในน้ำแกงยังใส่เนื้อแผ่นลงไป เนื้อแผ่นแบบที่คนร่ำรวยเท่านั้นถึงจะสามารถกินของดีๆ เช่นนี้ได้…
ฝ่ามือของกวนซูเยวียน ตีดังเพียะๆ เฉินเนี้ยนหรานที่ล้างมืออยู่ด้านข้างมองท่าทางหงุดหงิดของต้าหลาง ก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ นางยกนิ้วโป้งให้กับกวนซูเยวียน “ท่านป้า ท่านมีความสามารถสูงมาก คำนวณเป็ด้วยจริงๆ ชิ ต้าหลาง เรียนรู้เื่นี้ไว้นะ ต่อไปเ้ามีครอบครัวมีการงานทำแล้ว จะต้องคำนวณการใช้ชีวิตด้วย” พูดจนถึงสุดท้าย ก็คิดไปถึงท่าทางเคร่งขรึมที่ต้าหลางสั่งสอนภรรยาให้ใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด นางก็หัวเราะออกมาเสียงดัง
ถูกนางหัวเราะเยาะอีกครั้ง ความง่วงงุนของต้าหลางก็ไม่เหลือแล้ว เขาถลึงตาดุใส่นาง แล้วสะบัดหัวไปร้องเฮอะๆ ด้วยความกระเง้ากระงอด “ไม่ ข้าไม่อยากจะแต่งเมีย หากข้าจะแต่งเมีย ก็ต้องส่งเ้าแต่งงานก่อน อีกอย่าง ข้าจำได้ว่าสุภาพบุรุษสมัยก่อนพูดเอาไว้น่าฟังมาก บุรุษไม่มีการงานอาชีพไม่มีทางประสบความสำเร็จ ข้าก็จะใช้คำพูดนี้มาประกาศการตัดสินใจของข้า ‘บุรุษไม่มีการงานอาชีพไม่แต่งงาน!’ ั้แ่ตอนนี้ไป ข้าเฉินต้าหลางหากไม่มีการงานทำจะไม่แต่งงาน แม่หนู เ้าสามารถทำธุรกิจออกมาได้ ทั้งยังทำมันออกมาได้ดีเสียด้วย ในจุดนี้ข้าจะเรียนรู้จากเ้า ต่อไปหากข้าจะไปทำงานด้านนอก ข้าจะเอาแต่พึ่งพวกเ้าไม่ได้ ข้าเองก็จะเป็บุรุษที่มีประโยชน์ของครอบครัวสกุลเฉิน!”
เมื่อคำพูดประโยคนี้ของต้าหลางเอ่ยออกมา ภายในเรือนก็พลันเงียบกริบจนแม้แต่เข็มร่วงก็ยังได้ยินเสียง
“หวี่หวี่...” “หวี่หวี่…” เสียงจักจั่นมุมกำแพงร้องเบาๆ จนกลายเป็ท่วงทำนอง
หลังจากที่สายตาของเฉินเนี้ยนหรานกวาดตาไปมองคู่สามีภรรยากวนซูเยวียน สุดท้ายก็หยุดลงที่ตัวของเฉินจื่อิ
นางชื่นชมต้าหลางมาก คิดไม่ถึงว่าความใฝ่ฝันของเขาจะยิ่งใหญ่ก้าวไกลขนาดนี้
เพียงแต่ในยุคสมัยที่เห็นบิดามารดาเป็ดั่งท้องฟ้า ความใฝ่ฝันของต้าหลาง จะถูกทำลายก่อนที่ความฝันจะเป็จริงเพราะพ่อแม่หรือไม่?
เฉินจื่อิเหมือนรู้จักลูกชายคนโตของตนเองครั้งแรก เขามองต้าหลางนิ่ง สุดท้ายก็ยิ้มชื่นชม
“ดี ดี ดี ไม่เสียแรงที่เป็ลูกชายของข้าเฉินจื่อิ อยากจะออกไปทำธุรกิจด้านนอก พ่อกับแม่ไม่รั้งเ้าหรอก”
เมื่อเห็นกวนซูเยวียนที่อยู่ด้านข้าง เขาก็ร้อนรนขึ้นมา เฉินจื่อิจึงพูดเสริมมาหนึ่งประโยค “แต่ว่านะ เ้าลูกชาย หากไปข้างนอกแล้วเจอแม่นางดีๆ เ้าก็อย่าปล่อยไปเชียว สกุลเฉินของพวกเรา ก็มีเ้าที่เป็พี่ใหญ่เป็คนดูแล ไม่ว่าจะเป็การงาน หรือว่าความเป็คน ข้าก็หวังว่าเ้าจะสามารถเป็ที่หนึ่งได้ หากเ้าไม่แต่งงานมีครอบครัว เช่นนั้นแล้วต่อไปใครจะดูแลพวกเรา?”
ต้าหลางคิดไม่ถึงว่าความใฝ่ฝันของตนจะได้รับการยอมรับจากบิดามารดา ในตอนนั้นจึงดีใจจนพูดอะไรไม่ออก
กวนซูเยวียนรู้ว่าเื่นี้ไม่สามารถดึงกลับมาได้แล้ว จึงทำน้ำแกงต่อไป
“พวกเ้าน่ะ ข้าไม่สนใจแล้ว ภายในห้าปีนี้ ต้าหลาง หากเ้าไม่แต่งงานมีครอบครัว ข้าไม่ปล่อยเ้าไปแน่”
------------------------
เชิงอรรถ
[1] น้ำแกงเมี้ยนเกอตา 面疙瘩 เป็น้ำแกงที่มีเส้นเมี้ยนเป็เส้นอ้วนๆ ที่ทำขึ้นมาเอง กับน้ำน้ำแกงที่ส่วนมากจะทำจากมะเขือเทศผัดจนได้น้ำมันออกมา รสชาติจะออกเปรี้ยวๆ กินแล้วดีต่อสุขภาพ