ฟางเมี่ยวหันไปมองตามเสียงนั้น ก่อนจะพบกับบุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่งที่กำลังก้าวเดินเข้ามา ท่าทีของเขาดูเป็บัณฑิตผู้มีความรู้ นางจำเขาได้ดี เขาคืออาจารย์จาง บิดาของจางเสวี่ยฮุ่ย นามว่าจางหยวน เขาคือผู้ที่มีความสามารถและเคารพนับถือของเหล่าบัณฑิตในเมืองหลวง ผู้คนต่างเรียกเขาว่าท่านอาจารย์จาง
จางลี่อิงลดมือลง ก่อนจะหันไปมองบิดาของตนคราหนึ่ง จางหยวนมองบุตรสาวของตนด้วยแววตาที่ตำหนิอย่างไม่ปิดบัง ก่อนจะหันมาจ้องมองฟางเมี่ยวด้วยแววตาที่ล้ำลึก
"บุตรสาวของข้าเสียมารยาทแล้ว เ้าคือบุตรสาวตระกูลใดหรือ?"
"คารวะท่านอาจารย์จาง ข้ามีนามว่าฟางเมี่ยว บุตรสาวจวนตระกูลฟางเ้าค่ะ"
"อ้อ บุตรสาวของท่านเสนาบดีฟางนี่เอง"
จางหยวนยิ้มให้ฟางเมี่ยวเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย
"ต้องขออภัยแทนบุตรสาวของข้าด้วย นางไม่รู้ความเท่าใดนัก"
"ไม่เป็อันใดเ้าค่ะ เดิมทีข้าก็ตั้งใจมาร่วมงานเลี้ยงตามคำเชิญของเสวี่ยเสวี่ยอยู่แล้ว ต้องขออภัยท่านอาจารย์จางเช่นกันที่ไม่สำรวมกิริยา"
"อืม คุณหนูฟางช่างรู้ความไม่น้อยเลย เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน ลี่เอ๋อร์ ตามพ่อมา"
จางลี่อิงหันมาถลึงตามองฟางเมี่ยวคราหนึ่งอย่างไม่พอใจเท่าใดนัก ก่อนจะยอมเดินตามบิดาตนไปอย่างไม่เต็มใจเท่าใดนัก ฟางเมี่ยวคร้านจะสนใจจางลี่อิงอีก จึงหันมาสนทนากับจางเสวี่ยฮุ่ยแทน
ผ่านไปไม่นานนัก ก็มีขันทีจากวังหลวงเดินทางมาที่จวนราชครู บอกว่ามีราชการโองการจากฝ่าา จางราชครูและเหล่าฮูหยินรวมถึงคนที่อยู่ในงานเลี้ยงต่างรีบคุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว
เนื้อความในราชโองการสร้างความใให้ทุกคนไม่น้อย แต่ก็ไม่เกินความคาดหมายของฟางเมี่ยวไปเท่าใดนัก เนื่องจากราชโองการนี้เป็ราชโองการพระราชทานสมรส ให้จางเสวี่ยฮุ่ยแต่งเข้าจวนอ๋องเป็พระชายาเอก
จางเสวี่ยฮุ่ยดีใจยิ่งนัก เขาทำตามที่รับปากนางเอาไว้ในงานเลี้ยงจวนตระกูลหลี่จริงๆ แต่ทว่านางทำได้เพียงเก็บงำความดีใจนี้เอาไว้ ใบหน้าจึงมีแต่เพียงความนอบน้อมและกิริยามารยาทงดงาม ขันทีที่รับหน้าที่มาประกาศราชโองการลอบพยักหน้าด้วยความพึงพอใจเป็อย่างยิ่ง
แต่ทว่าจางลี่อิงกลับลอบกำมือตนเอาไว้แน่น เดิมทีนางควรจะได้แต่งเป็พระชายาเอกของชินอ๋อง แต่พี่สาวต่างมารดาของนางผู้นี้กลับได้ตำแหน่งนี้แทนนางไปเสีย น่าเจ็บใจนัก!!!
การกระทำของจางลี่อิงอยู่ในสายตาของฟางเมี่ยวทุกอย่าง นางลอบส่งเสียงเหอะคราหนึ่งอย่างดูแคลน
มีหรือนางจะดูไม่ออก ชาติก่อนยามที่ได้ยินว่าจางเสวี่ยฮุ่ยแต่งกับเย่จิ้นหยางไปแล้ว นางก็มีท่าทีเช่นนี้ ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้มาพบเจอสตรีที่มีนิสัยเหมือนกับนางในกาลก่อนไม่มีผิดเพี้ยน
เื่การแต่งงานของจางเสวี่ยฮุ่ยและเย่จิ้นหยางนั้นฟางเมี่ยวไม่ได้ตื่นเต้นอันใดมากนัก ก่อนจะกลับนางได้เอ่ยแสดงความยินดีกับจางเสวี่ยฮุ่ยไม่กี่ประโยค ก่อนจะขอตัวลากลับจวนของตน
บุรุษที่มองตามฟางเมี่ยวต่างพึงพอใจในตัวนาง บางคนถึงกับตั้งใจเอาไว้ว่าหากกลับจวนไปแล้ว จะต้องให้มารดาส่งแม่สื่อไปสู่ขอนางให้จงได้
หลิวจือลอบเบ้ปากคราหนึ่ง นางเองก็ได้รับเทียบเชิญให้มาร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ด้วย นางเดินตามฟางเมี่ยวมาจนถึงรถม้า ก่อนจะเอ่ย
"เฮ้อ สตรีหน้าไม่อายที่ใดกันที่กล้ามายั่วยวนบุรุษในงานเลี้ยงเช่นนี้"
ฟางเมี่ยวเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยก็มีท่าทีเบื่อหน่ายไม่น้อย นางหันไปมองหลิวจือก่อนจะเอ่ย
"เ้าว่าผู้ใดหรือ?"
หลิวจือแสยะยิ้มมุมปาก
"เ้าคิดว่าข้าว่าผู้ใดเล่า?"
"ผู้ใดจะรู้เล่า ข้าก็คิดว่าเ้าว่าตนเองเสียอีก"
"ฟางเมี่ยว!!!"
"เข้ามาสิ หากเ้ากล้าแตะตัวข้าแม้เพียงนิดข้าจะถีบเ้าให้ลอยกลับบ้านเก่าเลย"
ฟางเมี่ยวเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย หลิวจือที่ได้ยินเช่นนั้นจึงจำใจเดินจากไปด้วยท่าทีที่อัดอั้นตันใจเป็อย่างมาก ฟางเมี่ยวไม่สนใจนางอีก รีบขึ้นรถม้ากลับจวนตนเสีย เมื่อมาถึง นางก็พบกับสาวใช้นางหนึ่งที่กำลังยกกาสุราผ่านนางไป
"ช้าก่อน"
สาวใช้น้อยนางนั้นหยุดชะงักก่อนจะหันมาทำความเคารพฟางเมี่ยว
"คุณหนู"
"มีผู้ใดมาที่จวนหรือ ปกติท่านพ่อไม่ดื่มสุรานี่?"
"เอ่อ เป็คุณชายจากจวนตระกูลหลี่เ้าค่ะ โอะ คุณหนู"
"เ้ามีสิ่งใดไปทำก็ไปเถิด ข้าจะนำกาสุรานี้ไปให้พวกเขาเอง"
"แต่คุณหนูเ้าคะ..."
"มีสิ่งใดก็ไปทำเถิด"
"เ้าค่ะ"
ฟางเมี่ยวดึงถาดที่ใส่กาสุรามาถือเอาไว้เอง ก่อนจะเดินมุ่งหน้าไปที่เรือนของฟางเจี๋ยในทันที หากหลี่เยี่ยนเฉินมาที่จวนของนางย่อมจะต้องไปที่เรือนของพี่ชายนางเป็แน่
เมื่อนางมาถึงก็ได้ยินเสียงบุรุษสองคนสนทนากันอย่างสนิทสนม ในขณะที่นางกำลังก้าวเข้าไปในเรือน บุรุษทั้งสองก็หันมามองนางพร้อมกัน
ฟางเจี๋ยขมวดคิ้วมุ่น ในขณะที่หลี่เยี่ยนเฉินมองนางด้วยแววตาที่วูบไหว
ฟางเมี่ยววางกาสุราในมือลง ก่อนจะเทใส่ถ้วยและส่งให้บุรุษทั้งสอง พลางหันไปส่งยิ้มให้หลี่เยี่ยนเฉิน เขามองถ้วยสุราคราหนึ่งไม่ได้เอ่ยสิ่งใด ด้านฟางเจี๋ยที่เห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถามทันที
"เหตุใดเ้าจึงยกเข้ามาเล่า สาวใช้ไปที่ใดกันหมด?"
ฟางเมี่ยวยิ้มตาหยี ก่อนจะเอ่ย
"ข้าผ่านมาทางนี้พอดีน่ะเ้าค่ะ จึงอาสายกมาให้ท่านพี่เอง"
ฟางเจี๋ยหรี่ตามองฟางเมี่ยวคราหนึ่ง ก่อนจะครุ่นคิดในใจ ผ่านทางเช่นนั้นหรือ เรือนของฟางเมี่ยวกับเรือนของเขาห่างกันไม่น้อย นางจะผ่านมาทำสิ่งใดที่เรือนของเขากัน
"หากไม่มีสิ่งใดแล้ว เ้าก็ไปเถิด พี่มีเื่ต้องสนทนากับอาเยี่ยนสักหน่อย"
"เ้าค่ะ"
ฟางเมี่ยวจ้องมองหลี่เยี่ยนเฉินอีกครา เห็นเพียงบุรุษตรงหน้าเอาแต่ดื่มสุรา ไม่สนใจจะมองนางสักนิด ก็รู้สึกน้อยใจเป็อย่างยิ่ง นางจึงจำใจต้องเดินกลับเรือนอย่างไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก
ด้านหลี่เยี่ยนเฉินนั้น เมื่อฟางเมี่ยวเดินกลับเรือนตนไปแล้ว เขาจึงวางถ้วยชาในมือลง ก่อนจะเอ่ย
“อาเจี๋ย เดิมทีเื่นี้ข้าไม่อยากจะพูดกับเ้า เพราะอย่างไรก็ไม่ใช่เื่ของข้า แต่ทว่าเพราะข้าเห็นฟางเมี่ยวมาั้แ่ยังเด็ก เติบโตมาด้วยกันกับนาง”
ฟางเจี๋ยที่ได้ยินเช่นนั้นจึงมองหลี่เยี่ยนเฉินคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย
“เื่ใดหรือ?”
“สาวใช้ข้างกายฟางเมี่ยวดูจะไม่ได้เื่เท่าใดนัก ตอนที่ข้ากลับมาเมืองหลวง ได้ยินข่าวเล่าลือว่านางติดสุราเล่นการพนัน สาวใช้ของนางนอกจากจะไม่ห้ามปรามแล้ว ยังสนับสนุนนางอีก ข้าเห็นนางมานาน และเห็นแก่ที่นางเป็น้องสาวของเ้า ข้าจึงไม่อยากเห็นนางเดินในทางที่ไม่ควร ข้าสงสารท่านลุงและเห็นแก่ที่เ้าเป็สหายรักของข้า หวังว่าเ้าคงไม่โกธรที่ข้าพูดมากไป”
หลี่เยี่ยนเฉินพยายามใช้คำพูดที่ทำให้ฟางเจี๋ยคล้อยตาม เขาเองจำได้ดี สาวใช้ที่ติดตามฟางเมี่ยวนั้นมีนามว่าลู่ชิง ไม่ได้เื่เลยแม้แต่น้อย ก่อนหน้านี้หากเขาจะยื่นมือเข้าไปยุ่ง สนาบดีฟางย่อมต้องไม่พอใจเป็แน่ แต่ยามนี้ฟางเจี๋ยกลับมาแล้ว เขารู้ว่าฟางเจี๋ยค่อนข้างเข้มงวดกับฟางเมี่ยวไม่น้อย คงมีเพียงฟางเจี๋ยที่จะทำได้
เขาถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง แม้ชาตินี้จะไม่อยากเกี่ยวข้องกับนาง แต่ลึกๆ ในใจของเขาก็ไม่อยากมองเห็นนางเดินซ้ำรอยเดิมอีก
มันเป็ความรู้สึกที่ประหลาดไม่น้อย เขาลอบยิ้มเยาะให้ตนเอง ไหนเขาบอกว่าตนเองเก่งนักไม่ใช่หรือ ต้องตัดขาดจากนางได้ แต่ท้ายที่สุดเขาก็หลอกตนเองทั้งสิ้น
ฟางเจี๋ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าเห็นด้วย เดิมทีเพราะท่านพ่อตามใจฟางเมี่ยวมากเกินไป คนข้างกายนางแต่ละคนจึงไม่ได้เื่ไม่ได้ความ
เห็นทีเขาคงต้องหาสาวใช้คนใหม่มาเพิ่มให้นางเสียแล้ว
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาจึงเอ่ยกับหลี่เยี่ยนเฉินอย่างซาบซึ้งใจ
“ข้าไม่โกธรเ้าหรอก ข้าต้องขอบใจเ้ามากนะอาเยี่ยน เมี่ยวเอ๋อร์ยามนี้นิสัยดีขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ข้าก็ยังกังวลว่าหากยังมีสาวใช้เช่นนั้นคอยรับใช้ข้างกายคงจะไม่ดีเท่าใดนัก”
“อืม”
ด้านฟางเมี่ยวนั้นเมื่อกลับมาถึงเรือน ก็พบกับแม่นมหลิ่วที่กำลังรอนางอยู่ที่หน้าเรือนด้วยความร้อนใจ
"คุณหนู ท่านกลับมาแล้วหรือเ้าคะ?"
"แม่นมหลิ่ว มีอันใดหรือ?"
"คุณหนู เกิดเื่ที่ร้านเครื่องประทินโฉมแล้วเ้าค่ะ"
"เกิดเื่ใดหรือ?"
"คุณหนูไปดูเองจะดีกว่าเ้าค่ะ"
