สตรีสองคนจะาเ็หรือ?
สำหรับนางที่อยู่ในใจนั้นอาจจะาเ็ ทว่าสำหรับอวิ๋นอี้นั้นมิแน่
สตรีผู้นี้เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย บางคราก็ตระหนี่บางคราก็ใจกว้าง นางค่อยๆ หลุดพ้นจากการควบคุมของเขา แม้แต่หัวใจของเขาเองยังถูกอาคม มองมิเห็นความจริง
หรงซิวเม้มริมฝีปากด้วยสีหน้านิ่ง ยังมิทันที่จะคิดให้ลึก เสียงฝีเท้าพลันดังมาลอยเข้าหู เข้ามาใกล้
เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วมองออกไป เห็นสตรีสองคนเดินสวนทางกับแสงที่สาดส่องเข้ามา กำลังพูดคุยและหัวเราะ พวกนางมาถึงประตู ในชั่วพริบตา
หรงหลินที่อยู่ข้างๆ ก้าวออกไปก่อน ยิ้มอย่างอบอุ่น ดึงมือของกู่ซือฝานไว้ "ในที่สุดก็ได้เจอเ้าแล้ว"
กู่ซือฝานยิ้มแก้มปริ เหลือบมองเขาอย่างเขินอายพลางพูดว่า "มานานแล้วหรือเพคะ ?”
“แน่นอนสิ วันนี้เ้ากลับบ้าน ข้าควรจะมารับเร็วๆ สิ” หรงหลินบีบปลายจมูกของนางทำให้กู่ซือฝานเอามือปิดหน้าพูดว่าเขาขี้เล่น
อวิ๋นอี้หน้าหนามาก หลังจากเป็ก้างขวางคออยู่นาน แทนที่จะเขินอายบ้าง กลับมองดูอย่างออกรส
คิดมิถึงเลยว่า กู่ซือฝานที่อยู่ต่อหน้านางจะพูดออกมาได้แม้กระทั่งเื่ส่วนตัวบนเตียง ทว่าเมื่ออยู่หน้าองค์ชายเก้ากลับเขินอายราวบัวขาวดอกน้อย
การแสดงนี้ช่างน่าชื่นชมเสียจริง
นางครุ่นคิดในใจอย่างมีความสุข หากมีโอกาสจะต้องเยาะเย้ยนางสักครา
“ยังจะดูอีกหรือ?” จู่ๆ พลันมีเสียงดังเข้ามา ตามด้วยมีคนมาปิดตานาง
อวิ๋นอี้ได้กลิ่นที่คุ้นเคย ขณะที่กำลังจะหันหลังกลับพลันถูกหรงซิวหันตัว นำหัวของนางกดเข้าไปในอ้อมอกของเขา
การเต้นของหัวใจที่เต้นแรงอยู่ข้างหูเป็ของเขา
นางเลียริมฝีปากอย่างไม่รู้ตัว ยิ้มพลางเงยหน้า ดวงตาของนางราวมีดวงดาวระยิบระยับ "หรงซิว ท่านมาด้วยหรือ?"
"ข้าบอกก่อนหน้านี้แล้วมิใช่หรือว่าข้าจะมา?" นิ่งไปครู่ เขาเข้ามาใกล้อีก เป่าลมที่ข้างหูของนาง "มีวันใดที่ข้ามิได้มาบ้าง"
เขากำลังพูดถึงการคลานขึ้นเตียงกลางดึก
อวิ๋นอี้ผลักไหล่ของเขา กังวลว่าสองคนนั้นจะได้ยินความลับเล็กๆ นี้ ที่ไหนได้ กลับจับมือนางไว้ในฝ่ามือใหญ่ๆ ของเขา
ทั้งสี่คนยืนอยู่ข้างนอกประตูมินานนัก แล้วขึ้นรถม้ากลับจวน
จวนองค์ชายเจ็ดกับจวนองค์ชายเก้าผ่านทางเดียวกันระยะหนึ่ง จากนั้นจึงแยกกันเมื่อถึงทางแยก
อวิ๋นอี้นั่งอยู่ในรถม้า เล่าเหตุการณ์่นี้ให้ฟังเขาด้วยความสนใจ ทั้งยังทำท่าทำทาง
หรงซิวขมวดคิ้วและรั้งมือที่อยู่ไม่นิ่งของนางไว้ ทำให้อวิ๋นอี้ถูตัวเข้าไปในอกเขาอย่างไม่พอใจ
“เ้าถูอันใด?” เขาถูกนางถูจนเสียววาบ ใช้มือใหญ่ตบเข้าที่ก้นของนาง “อยู่บนตักข้ายังกล้าถูหรือ? มิกลัวว่าจะจุดติดไฟหรือเช่นไร?”
อวิ๋นอี้หน้าแดง จากที่เป็สตรีที่พูดจากระฉับกระเฉงก่อนหน้า ขณะนี้กลับพูดตะกุกตะกัก "ฝ่าา...หยุดทะลึ่งจะได้หรือไม่เพคะ!"
"ทะลึ่งที่ใดกัน?" หรงซิวชอบใจกับท่าทีของนาง เลียริมฝีปาก มองนางด้วยสีหน้ามิเชิงยิ้ม "ข้ากำลังพูดจริงจังกับเ้า มันตอบสนองแล้ว!"
"หรงซิว!"
อวิ๋นอี้มิมีสิ่งใดที่จะคุยกับเขาได้ สมองของบุรุษผู้นี้ไม่มีอันใดนอกจากเื่นั้น และนางมิฝักใฝ่ในเื่นั้นเลย
นางมิอยากประชันฝีปากกันเขาเื่นี้ จึงลุกขึ้นยืนทันใด ทว่าลืมไปว่าอยู่ในรถม้า หัวนางพลันกระแทกกับหลังคารถ
ทันใดนั้น ความเ็ปปะทุขึ้นจากหัวของนาง น้ำตาคลอเบ้าในทันใด แววตาที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองจ้องไปที่หรงซิว
หรงซิวเห็นก็ตะลึง หลังจากได้สติ จึงรีบคว้านางไว้ในอ้อมอกของเขา โอ๋นาง
อวิ๋นอี้มิไว้หน้าเขา ปากยังคงเบ้ขึ้นสูง
หรงซิวมิมีทางเลือกนอกจากต้องกล่อมนางราวกับเด็ก ชี้ไปที่รถม้าแล้วดุ ใช้เวลาอยู่นานถึงจะทำให้อวิ๋นอี้ขำออกมาได้
ถึงกระนั้น ตอนที่กลับมาถึงจวน อวิ๋นอี้กลับยังทำหน้าบูดใส่เขา เดินสะบัดกลับไปที่ห้องโดยมิแม้จะหันกลับมามอง
เรียกได้ว่าสาวใช้เซียงเหอหวังรอคอยให้ดาวและพระจันทร์พานางกลับมาเลยทีเดียว ตอนที่ยังอยู่ไกลออกไปประตู นางจึงะโว่า "พระชายา! เซียงเหอคิดถึงท่านแทบแย่เพคะ!"
พูดพลางพลันเข้ามาขอกอด
อวิ๋นอี้เอื้อมมือออกไปผลักนางแล้วชี้ไปที่คนที่ตามมาติดๆ "ข้าโกรธเขาอยู่ เ้าดูไว้นะ อย่าให้เขาเข้ามาในห้องของข้าได้"
"อ๊า?" เซียงเหอมีสีหน้างุนงง “เหตุใดกันเพคะ?”
อวิ๋นอี้คงพูดมิได้ว่านางโขกรถม้าทว่าอารมณ์เสียใส่เขาอย่างไร้เหตุผลหรอกนะ นางหุบปากมิอธิบายใดๆ
ที่ใดได้เซียงเหอกลับเป็เช่นศัตรูเสียเอง ตามหลังนางมาและพูดมิหยุดหย่อน “พระชายาเพคะ ท่านกลับจวนมาทั้งทีนะเพคะ ต้องถึงโอกาสรีบพิชิตใจองค์ชายสิเพคะ!”
“พิชิตหัวใจหรือ?” อวิ๋นอี้ถอดเครื่องประดับบนหัวออก ผู้ใดจะรู้ว่าใส่เครื่องประดับพวกนี้ทุกวันที่สำนักซืออี๋เหนื่อยเพียงใด พลันพูดต่อว่า “เหตุใดเขามิอยากพิชิตหัวใจข้าบ้างเล่า?"
"หัวใจของท่านก็อยู่ที่องค์ชายมิใช่หรือเพคะ!" เซียงเหอเห็นว่าพระชายาของนางมิรู้อันใดเอาเสียเลย หันซ้ายหันขวามองเห็นว่ามิมีผู้ใดอยู่รอบๆ นางจึงโน้มตัวเข้ามาใกล้และพูดว่า "พระชายามิได้รู้สึกหวาดหวั่นเลยหรือเพคะ? ดูรูปลักษณ์ กริยาท่าทีขององค์ชายสิเพคะ สตรีใดที่มิได้ตาบอดคงจะชอบเขากันหมดใช่หรือไม่ ?”
“แล้วกระไรเล่า?” อวิ๋นอี้ถาม หน้ากับร่างของหรงซิวหล่อเหลาเกินบรรยายจริงๆ
“เพราะงั้นท่านต้องยึดหัวใจองค์ชายไงเล่าเพคะ! แม้ว่าจะครองใจมิได้ ก็ต้องครองตัวเขาไว้ มีลูกเร็วๆ ถึงจะเป็ทางที่ดีที่สุด!” เซียงเหอพูดอย่างจริงจัง
อวิ๋นอี้ได้ยินก็หัวโต เหตุใดพูดไปพูดมาถึงเข้าอีหรอบนี้เช่นเดิม
นางมึนๆ พูดประชดว่า “ข้ารู้แล้ว ทว่าการมีลูก เพียงคิดว่าจะมีก็มีได้งั้นหรือ? ข้ามิใช่แม่ไก่ เพียงอยากก็ออกไข่ได้แล้ว ต้องรอบคอบ เข้าใจคำว่ารอบคอบหรือไม่?”
“มิเข้าใจเพคะ” เซียงเหอมุ่ยปากตอบว่า “ข้ารู้เพียงว่าองค์ชายเขา...”
“ช่างเถิด มิรู้ก็ไม่พูดกับเ้าแล้ว" อวิ๋นอี้มิมีน้ำทน พอดีกับที่ล้างเครื่องหน้าเสร็จแล้ว นางจึงยืนขึ้นล้างหน้าขัดจังหวะนาง
เซียงเหอยืนอยู่ข้างๆ พร้อมผ้าขนหนูในมือ พูดต่อเงียบๆ ในสิ่งที่ยังพูดไม่จบ เสียงเบาลง “พระชายาเพคะ หากท่านมิรีบมีลูก เกรงว่าต่อไปจะมิมีโอกาสแล้วนะเพคะ"
"เพราะเหตุใดกัน?" อวิ๋นอี้มิเข้าใจ มือที่ล้างมือชะงักไป "หรงซิวกำลังจะตายหรือ? หรือว่าเขาทำเื่อย่างว่ามิได้แล้ว? หรือข้ากำลังจะตาย?"
“มิใช่เพคะ มิใช่!” เมื่อเห็นว่านางยิ่งพูดยิ่งไปกันใหญ่ เซียงเหอพลันรีบปัดมือ “เกรงว่าองค์ชายจะมีสตรีอื่นข้างนอกน่ะสิเพคะ”
อวิ๋นอี้หยุดนิ่ง ตัวแข็งทื่อ
เมื่อเซียงเหอเห็นนางเช่นนั้นจึงพูดต่อ “แม้ว่าองค์ชายจะดีกับท่าน ทว่าเป็บุรุษ โดยเฉพาะจากตระกูลสูงศักดิ์ การมีภรรยาสามสนมสี่เป็เื่ปกติมากเพคะ พระชายาเพคะ ใน่ที่ท่านมิได้อยู่จวน องค์ชายแทบจะมิได้กลับจวนเลยเพคะ ทุกครั้งที่กลับเข้ามาบนร่างของเขาจะมีกลิ่นของสตรี หลายคราที่ข้าเห็นเขากลับมาที่ห้อง ข้าก็พบสิ่งนั้น.. เอ่อ...ร่องรอยที่คอนั่น พระชายาเข้าใจใช่หรือไม่เพคะ”
"อ๊า?" เมื่อได้ยินคำอธิบายของนาง อวิ๋นอี้พลันปากกระตุก “เ้าบอกว่าองค์ชายมิได้กลับจวนทุกคืนเลยหรือ?”
“กลับมาน้อยมากเพคะ กลับมาสองสามครา” เซียงเหอขมวดคิ้วหวนนึกถึง “นางแพศยาที่เขาเลี้ยงไว้ข้างนอกนั้นดุร้ายจริงๆ! หน้ามิอาย! ดูดคอบุรุษถึงเช่นนั้น! นางคิดว่านางกำลังประกาศความเป็เ้าของหรือ! คิดว่าสักวันจะได้ขึ้นมาอยู่บนจวนของเราหรือเช่นไร!"
"เอ่อ..."
"ข้าถึงบอกเพคะ พระชายา เื่สำคัญคือท่านควรรีบตั้งครรภ์ให้เร็วเพคะ!" เซียงเหอไม่ลืมสิ่งที่จะพูด พูดย้ำชัดอีกครั้ง
อวิ๋นอี้โล่งอกลงได้ เซียงเหอพูดไม่หมดนี่เอง มิฉะนั้นนางก็คงคิดว่าหรงซิวมีสตรีอื่นข้างนอกจริงๆ
เซียงเหอขึงขังมาก เมื่อพูดถึงสตรีที่ถูกเลี้ยงอยู่ข้างนอก นางกัดฟันด่ามิหยุด
อวิ๋นอี้พูดมิออก อยากจะบอกเซียงเหอว่านางแพศยาที่ดุร้ายนั่น ยืนอยู่เบื้องหน้านางเอง...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้