บทที่ 72 ตอบแทนด้วยร่างกายสิ
ห้องผู้ป่วยพิเศษ โรงพยาบาลปิงเฉิง
เย่จื่อเฉินนั่งเบ้ปากอยู่บนเตียงคนไข้ โดยที่ภายในห้องคนไข้ยังมีหวงเซิงเหม่ยและเย่หรงยืนอยู่ด้วย
บอกเลยว่าเขาโดนสองคนนี้ด่าจนเละ โดยเฉพาะหวงเซิงเหม่ยที่ยังคงราดน้ำมันลงบนกองไฟอยู่ไม่มีหยุด จนเย่จื่อเฉินกลัวว่าอีกเดี๋ยวเย่หรงจะจับเขามัดเอาไว้แน่
“คุณเย่คะ อาการของคนไข้เป็ยังไงคุณก็รู้ โดนยิงได้รับาเ็ขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่ว่าเขาโชคดีโดนลูกะุเจาะเข้าบริเวณสะบักไหล่ ก็อาจจะเจาะทะลุทั้งไหล่เลยก็ได้ าเ็ขนาดนี้แล้วเขายังจะวิ่งพล่านไปทั่วอีก…”
หวงเซิงเหม่ยโกรธแทบตายตอนที่เย่จื่อเฉินแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เธอแล้วหนีไป ใบหน้าของเย่หรงก็เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว เธอเองก็กำลังโมโหกับเื่ที่เย่จื่อเฉินแอบหนีออกไปเช่นเดียวกัน
“หมอหวงคะ หมอหวงวางใจได้เลยค่ะ ต่อไปนี้ฉันจะคอยเฝ้าเขาด้วยตัวเอง จะไม่ให้เกิดเื่แบบวันนี้อีกค่ะ”
จากนั้นเย่จื่อเฉินก็เห็นหวงเซิงเหม่ยยกมือขึ้นมาทำสัญลักษณ์มือเป็คำว่า yes ใส่เขา ท่าทางกระหยิ่มยิ้มย่องนั้นเหมือนกับว่าชนะการต่อสู้แล้ว
“นี่คุณ…”
เย่จื่อเฉินยกมือขึ้นชี้เธอ แต่กลับโดนเย่หรงตีมือลง
“หมอหวงหวังดีกับลูกนะ ต่อไปนี้ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากแม่ห้ามลูกออกไปนอกห้องแม้แต่ก้าวเดียว เข้าใจไหม?”
พอเห็นความโกรธบนใบหน้าของเย่หรง เย่จื่อเฉินก็ยู่ปากพึมพำเหมือนว่าหดหู่มาก
“เข้าใจแล้วครับ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้ก็แล้วกันนะคะคุณเย่ หมอขอตัวก่อนนะคะ ถ้ามีปัญหาอะไรก็ตามหมอได้ตลอดเวลาเลยค่ะ”
“รบกวนหมอหวงด้วยนะคะ”
เมื่อส่งหมอหวงออกจากห้องไปแล้ว เย่หรงก็เดินกลับมาด้วยอาการฉุนเฉียว
“ผมผิดไปแล้วครับ”
เย่จื่อเฉินรีบก้มหน้ายอมรับผิด ในสถานการณ์แบบนี้การยอมรับผิดจากใจจริงถึงจะได้รับการผ่อนปรนลดโทษลงไปได้บ้าง
“พอแล้ว รีบนอนเข้า ไปวิ่งพล่านอยู่ข้างนอกนานขนาดนั้นก็สมควรที่จะเหนื่อยอยู่หรอก”
เย่หรงถอนหายใจ แล้วช่วยห่มผ้าให้เย่จื่อเฉิน
หนึ่งคืนที่ไร้ซึ่งคำพูด
ติ๊ง!
ติ๊ง!
ติ๊ง!
โทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างหมอนสั่นรัวขึ้นมา
“ใครเนี่ย ดึกดื่นขนาดนี้…”
เย่จื่อเฉินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตรงหน้าอย่างสะลึมสะลือ…
ยมทูตขาว!
ยมทูตขาว?
วินาทีนั้น ความง่วงก็ได้หายเป็ปลิดทิ้ง
ยมทูตขาว : อยู่ไหม?
ยมทูตขาว : คุยกับฉันหน่อยได้ไหม?
ยมทูตขาว : ส่งรูป
มองดูรูปที่อีกฝ่ายส่งมา ในรูปคือสาวใหญ่ที่มีผมสีบรอนด์ทองและดวงตาสีอำพัน ที่ตัวมีผ้าขาวพันซ้อนทับกันอยู่สองชั้น…
ยมทูตขาว : เธอคิดว่าฉันแต่งตัวแบบนี้แล้วสวยไหม?
เย่จื่อเฉินอึ้งกิมกี่
บ้าน่า นี่คือยมทูตขาวเหรอ?
นึกย้อนกลับไปตอนที่เขากับยมทูตขาวได้เจอกัน ดูเหมือนจะไม่มีความรู้สึกว่าเธอหุ่นดีขนาดนี้เลยนะ
ต้องเป็รูปที่เอามาจากอินเทอร์เน็ตแน่นอน
เย่จื่อเฉินไม่กล้ายืนยัน ถ้าหากว่านี่เป็ยมทูตขาวจริงๆ แล้วยมทูตดำยังออกไปมั่วผู้หญิงนอกบ้าน แบบนั้นสมองคงมีปัญหาแล้วล่ะ
ไม่ต้องสนใจว่าผู้หญิงในรูปคือเธอหรือเปล่า ส่วนนี้มันไม่สำคัญ ที่สำคัญคือเขาต้องบุกเข้าไปในนรกผ่านทางยมทูตขาว
เหลือบมองระดับความสัมพันธ์ของทั้งคู่
200
พึ่งพาอาศัย
ไม่คิดเลยว่าระดับความสนิทระหว่างกันจะค่อนข้างสูงขนาดนี้ เกือบไล่ทันระดับความสนิทของยี่หนึงจินกุนกับเขาแล้ว
คิดไปคิดมา ก็ส่งข้อความกลับไปหาเธอ
เย่จื่อเฉิน : สวย
ยมทูตขาว : งั้นเหรอ (ต่อท้ายประโยคด้วยสติกเกอร์หน้าเขินอาย) เธอชอบก็ดีแล้ว
พรูดดด!
ทำไมถึงต้องฉันชอบก็ดีแล้วด้วยล่ะ
เย่จื่อเฉินหน้าเหวอ ก่อนจะเปลี่ยนเื่
เย่จื่อเฉิน : ดึกแล้วทำไมยังไม่นอน คุณไม่รู้เหรอว่าผู้หญิงนอนดึกมันจะไม่ดีต่อผิว?
ยมทูตขาว : พวกฉันนอนตอนกลางวันกันไง
เย่จื่อเฉินเข้าใจทันที ผู้คนในนรกจะทำกิจกรรมกันตอนกลางคืน กฎในการใช้ชีวิตย่อมไม่เหมือนกับพวกเขาอยู่แล้ว
ยมทูตขาว : รบกวนเวลาพักผ่อนของเธอหรือเปล่า?
เย่จื่อเฉิน : เปล่าหรอก คุณอยากคุยอะไรกับผมล่ะ ยมทูตดำรังแกคุณอีกแล้วเหรอ?
ยมทูตขาว : เขาไม่ได้รังแกฉันหรอก เขาแค่ออกไปทำงานน่ะ ฉันอยู่ที่บ้านก็เลยเบื่อนิดหน่อย
เย่จื่อเฉิน : คุณสองคนไม่ได้ไปทำงานด้วยกันหรอกเหรอ?
ยมทูตขาว :เปล่า ั้แ่แยกกับเธอวันนั้น เขาก็ทำเื่ถึงเบื้องบนขอย้ายไปร่วมงานกับคนอื่น
...
พูดแบบนี้หมายความว่ายมทูตดำขาวที่มาจากนรกไม่ได้มีแค่คู่เดียวน่ะสิ
แต่คิดดูแล้วก็น่าจะใช่ คนตายตั้งมากมาย ถ้าให้ยมทูตดำขาวแค่คู่เดียวมาคอยตามจับิญญา แบบนั้นพวกเขาก็ได้เหนื่อยตายเลย
คุยกับยมทูตขาวมาได้สองชั่วโมงเต็ม ั้แ่เื่ความรักจนถึงการใช้ชีวิต เย่จื่อเฉินคุยกับเธอไปหลายเื่เลย
เมื่อเห็นว่าฟ้าใกล้จะสว่างแล้ว ทางฝั่งของยมทูตขาวถึงได้ส่งข้อความมา
ยมทูตขาว : ขอบใจเธอมากเลยนะที่คุยกับฉันอยู่ตั้งนาน ฉันอารมณ์ดีขึ้นมากแล้ว ฉันไปพักผ่อนก่อนนะ
ติ๊ง!
ระดับความสนิทของคุณกับยมทูตขาวเพิ่มขึ้นอีก 20 ระดับการพึ่งพาอาศัยปัจจุบันอยู่ที่ 220
พอเห็นข้อความนี้เย่จื่อเฉินก็หมดแรงที่จะค่อนขอด เธอสบายใจแล้ว แต่ตัวเขาง่วงจะตายอยู่แล้วเนี่ย
ดีอยู่ที่ว่าครั้งนี้ไม่ได้คุยเสียเวลาเปล่า ระดับความสนิทยังเพิ่มขึ้นมาอีก 20
ต่อไปถ้าระดับความสนิทยิ่งสูงขึ้น ถ้าจะบอกเธอว่าขอเข้ากลุ่มมันก็จะยิ่งง่าย เมื่อถึงตอนนั้นเขาก็จะได้กำไรทั้งจากฝั่ง์แล้วก็ฝั่งนรก
หลับไปท่ามกลางอาการสะลึมสะลืออีกครั้ง พอลืมตาขึ้นมาอีกทีก็เป็เวลาเที่ยงวันแล้ว
“ตื่นแล้วเหรอ?”
ทีแรกคิดว่าคนที่เฝ้าอยู่ข้างเตียงเขาจะต้องเป็เย่หรงไม่ก็หลิวฉิง แต่ไม่คิดเลยว่าคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงเขาจะเป็ตำรวจหลิน ในดวงตาคู่สวยมองเขาด้วยความรู้สึกสับสน
“ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ แผลหายดีแล้วเหรอ?”
บนร่างกายของตำรวจหลินสวมชุดคนป่วย แต่ก็เห็นว่าใบหน้าเธอมีเืฝาดแล้ว ดูไปแล้วน่าจะไม่ได้เป็อะไรมาก
“เกือบหายดีแล้วแหละ”
ตำรวจหลินยื่นส้มที่แกะเปลือกออกแล้วเรียบร้อยส่งให้ เย่จื่อเฉินหลุดขำแล้วจึงพูดขึ้น
“คุณตำรวจหลินครับ คุณน่าจะไม่เคยดูแลคนป่วยสินะ ผมเพิ่งตื่นคุณก็ให้ผมกินส้มเลยเหรอ ไม่กลัวว่าผมจะเป็ร้อนในหรือไง”
“ไม่กินก็ไม่ต้องกิน”
ตำรวจหลินเอาส้มกลับมาแบ่งเป็สองซีกแล้วแกะเข้าปาก เย่จื่อเฉินเอาหมอนวางซ้อนหลังเพื่อนั่งพิง มองดูปากของเธอที่เคี้ยวส้มอยู่ แล้วจึงค่อยๆ เลื่อนสายตาลงไปข้างล่าง
ผู้หญิงคนนี้โตมาได้โดยการกินอะไรกันแน่นะ หน้าอกหน้าใจถึงได้ใหญ่ขนาดนั้น
เย่จื่อเฉินเหล่มองพลางคิดไปด้วย พอตำรวจหลินเห็นดังนั้น จึงตีหน้านิ่งขรึมทันที
“มองพอหรือยัง?”
“ยัง…” เย่จื่อเฉินตอบกลับทันที แต่พอรู้สึกถึงสายตาคู่นั้นที่แทบจะฆ่าเขาให้ตาย เขาก็รีบเปลี่ยนคำพูดทันที “พอแล้วครับ”
“มองพอแล้วก็เก็บสายตาทุเรศของนายกลับไปเลย”
“ก็ได้ๆ”
เย่จื่อเฉินเลื่อนสายตาล้อเลียนออกไป แล้วจึงยกแขนสอดเข้าท้ายทอย
“คุณตำรวจหลินมาทำอะไรที่นี่เหรอครับ หรือว่าจะมาตอบแทนบุญคุณ? ผมได้ยินมาว่าผู้หญิงสมัยก่อนตอบแทนบุญคุณด้วยร่างกายกันทั้งนั้น หรือว่าคุณตำรวจหลินก็เหมือนกัน ถ้าจริงนี่สุดยอดเลยนะครับ”
“นาย…”
ตำรวจหลินกำลังจะโมโหขึ้นมาทันที แต่พอเห็นผ้าพันแผลตรงบริเวณไหล่ของเย่จื่อเฉิน อารมณ์โกรธในใจก็โดนเธอกดไว้อีกครั้ง
“ฉันมาขอบคุณนายจริงๆ นั่นแหละ”
“โอ๊ะ จริงเหรอเนี่ย” เย่จื่อเฉินเลิกคิ้วยิ้มร้ายแล้วพูด “ถ้าอย่างนั้นคุณตำรวจหลินก็เตรียมพร้อมที่จะตอบแทนด้วยร่างกายแล้วสินะครับ?”
“ฉันไม่ได้ล้อนายเล่นนะ ฉันมาขอบคุณนายจริงๆ ขอบคุณมากที่ตอนนั้นนายมาขวางปืนแทนฉัน แล้วช่วยฉันออกมาโดยไม่สนใจอันตรายเลย ”
ตำรวจหลินกัดริมฝีปาก เสียงแ่ลงเรื่อยๆ
“นายอยากให้ฉันตอบแทนนายยังไง ขอแค่เป็สิ่งที่ฉันทำได้ ฉันก็จะทำให้นายพอใจ”
“หึหึ…”
จู่ๆ เย่จื่อเฉินที่นอนเอนตัวอยู่บนเตียงคนไข้ก็หัวเราะร้ายขึ้นมาแล้วพูดขึ้น
“คุณตำรวจหลินพูดมาขนาดนี้แล้ว ถ้าผมมัวแต่เกรงใจคุณก็จะรู้สึกผิดใช่ไหมล่ะ คุณอยากตอบแทนบุญคุณผมใช่ไหม งั้นก็…ตอบแทนด้วยร่างกายสิ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้