บนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยก้อนเมฆดำทะมึน นกปีศาจขนาดมหึมาที่มีการบ่มเพาะระดับก่อตั้งิญญาขั้นที่ 9 กำลังบินอยู่ท่ามกลางความมืดเ่าั้ มันเป็สัตว์ร้ายที่ถูกฝึกมาโดยผู้าุโสูงสุดของนิกายดาบ์
บนหลังของนกปีศาจิญญา มีคนจากนิกายดาบ์จำนวนมากนั่งอยู่ รวมถึง ซุนห้าว ศิษย์ของาุโสูงสุดแห่งนิกายดาบ์ ศิษย์หลายคนกำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย หัวข้อการพูดคุยคือการดูถูกหลี่หวง และเอาข่าวลือของหลี่หวงมาพูดคุยกันอย่างตลกขบขัน
“จักรพรรดิผู้มีเมตตางั้นเหรอ ฮ่าฮ่าฮ่า นี้คือเื่ที่ตลกที่สุดเท่าที่ข้าได้ยินมากเลย”
“ข้าว่าแค่เดินมันก็คงจะเหนื่อยแล้วมั้ง เพราะยังไงวันๆ ก็ได้แต่ กิน นอน หลับ และรอวันตายเท่านั้น ฮ่าฮ่าฮ่า”
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนานแต่ในขณะที่นกปีศาจิญญากำลังบินผ่านเมฆ ทันใดนั้นเอง เสียงร้องของนกปีศาจิญญาก็ดังขึ้น มันกระพือปีกอย่างรุนแรงและกรีดร้องออกมาด้วยความเ็ป ก่อนที่มันจะโจมตีไปยังก้อนเมฆตรงหน้ามันในทันที คลื่นลมพายุพัดเมฆบนฟ้าให้สลายหายไปทันที
"เกิดอะไรขึ้น!" หนึ่งในศิษย์นิกายดาบ์ะโด้วยความตื่นตระหนก
ก่อนที่พวกเขาจะทันได้รู้ตัว พวกเขาก็พ่นเืออกมาพร้อมหน่วยลับเงาทมิฬจำนวนมากก็ปรากฏตัวออกมาจากเงาของศิษย์นิกายดาบ์ พวกเขาแฝงตัวอยู่ในเงาของศิษย์นิกายดาบ์อย่างเงียบเชียบและรอโอกาสสังหารศิษย์ของนิกายดาบ์ด้วยความรวดเร็วและเด็ดขาด ดาบของหน่วยลับเงาทมิฬทุกเล่มแทงเข้าไปที่หัวใจของศิษย์นิกายดาบ์อย่างแม่นยำและโเี้ แม้แต่ผู้าุโที่ระดับพลังก่อตั้งิญญาขั้นที่ 1 ก็ไม่มีโอกาสแม้แต่จะตั้งตัว ก่อนที่ร่างของพวกเขาจะล้มลงบนหลังนกปีศาจิญญาและเสียชีวิตในทันที
นกปีศาจิญญาพยายามดิ้นตัวเพื่อช่วยเหลือเหล่าศิษย์ของนิกายดาบ์ มันพยายามกระพือปีกเพื่อขยับตัว แต่ก่อนที่มันจะได้ทำอะไรต่อ ดาบจำนวนนับไม่ถ้วนของหน่วยลับเงาทมิฬก็พุ่งเข้าไปแทงทะลุผ่านร่างของมันแทบทุกส่วนของร่างกายและไม่นานนกปีศาจิญญาหยุดการเคลื่อนไหวในทันทีพร้อมเสียงกรีดร้องอันเ็ปของนกปีศาจิญญาที่ดังกึกก้องฟ้า แต่ในพริบตา หัวของมันก็ถูกตัดขาดด้วยความรวดเร็ว ร่างที่ไร้หัวของมันร่วงหล่นลงจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
ซุนห้าว ผู้ซึ่งเป็อัจฉริยะที่ถูกกล่าวขานว่าแข็งแกร่งที่สุดของนิกายดาบ์ ก็ไม่ได้ต่างไปจากศิษย์คนอื่น ๆ เขาไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะเปล่งเสียงพูดใดๆ ออกมา และหน่วยเงาทมิฬก็ได้ฟันไปที่หัวของคนเ่าั้ หัวของซุนห้าวก็หลุดออกจากร่าง เืพุ่งกระจายไปทั่วอากาศ ท่ามกลางความเงียบงันอันเยือกเย็น
ในไม่ช้า หัวของทุกคนในนิกายดาบ์ก็ถูกตัดขาด ไม่มีใครรอดพ้นจากชะตากรรมอันโหดร้ายนี้ได้ และหน่วยเงาทมิฬก็เก็บศพของศิษย์นิกายดาบ์และสัตว์ิญญาพร้อมหายไปในก้อนเมฆทันที
ท่ามกลางความเงียบสงัดภายในนิกายดาบ์ เสียงคำรามของชายคนหนึ่งดังขึ้นสะท้อนไปทั่วทั้งนิกาย
"ไอ้สารเลวคนไหนมันกล้าสังหารลูกศิษย์และสัตว์ิญญาของข้ากัน!"
เสียงนั้นเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวและเ็ปจนทำให้ผู้คนภายในนิกายต่างตกตะลึงและตื่นตระหนก ทั้งศิษย์และผู้าุโต่างพากันหยุดชะงัก
ไม่นานนัก ผู้นำนิกายดาบ์ได้รีบพุ่งตรงมาหาผู้าุโสูงสุด เขามองไปที่ชายชราที่กำลังโกรธเกรี้ยวและเอ่ยถามด้วยความเป็ห่วง "เกิดอะไรขึ้นกัน?"
แต่ก่อนที่ผู้าุโสูงสุดจะตอบ เสียงของผู้าุโอีกคนหนึ่งดังขึ้น เขาบินมาหาพวกเขาทั้งสองด้วยความเร่งรีบ
"แย่แล้วขอรับ! หยกิญญาของศิษย์ 300 คน และผู้าุโลำดับที่ 11 แตกทั้งหมดเลยขอรับ!"
เสียงพูดของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ทั้งผู้นำนิกายและผู้าุโสูงสุดต่างตกตะลึง ผู้าุโสูงสุดแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธ "ไอ้สารเลวคนไหนกัน!"
ความโกรธที่สุมอกของผู้าุโสูงสุดปะทุขึ้นอย่างรุนแรง ผู้นำนิกายพยายามจะห้ามไม่ให้เขาทำอะไรโดยประมาท
"ใจเย็นก่อน พวกเรายังไม่รู้ว่าใครเป็คนทำ และ..."
แต่ทันใดนั้นเอง ผู้าุโสูงสุดกลับปล่อยพลังิญญาออกมาอย่างรุนแรงและเขาดูดซับพลังจากรอบตัวเข้ามาในร่างกาย ออร่าอันทรงพลังที่ยากจะหยุดยั้งปะทุออกจากร่างของเขา ทำให้ทุกคนรอบข้างตกตะลึง
ร่างกายของผู้าุโสูงสุดเปล่งแสงเจิดจ้า ก่อนที่การเพาะปลูกของเขาจะทะลวงขึ้นไปสู่ ระดับนิพพานขั้นที่ 1 อย่างรวดเร็ว แต่มันไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น พลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราวกับน้ำพุที่ไหลอย่างไม่มีวันหยุด เขาทะลวงไปจนถึง ระดับนิพพานขั้นที่ 4 ในทันทีและหยุดลงที่ระดับนี้
ผู้าุโสูงสุดที่รวบรวมพลังทั้งหมดของเขาเสร็จสิ้นแล้ว เตรียมพร้อมที่จะบินตรงไปยังราชวงศ์เพลิง์
"ข้าจะทำลายราชวงศ์เพลิง์ให้สิ้นซาก!" เขาประกาศด้วยความโกรธเกรี้ยว โดยไม่สนใจว่าราชวงศ์เพลิง์จะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ก็ตาม แต่ที่เขาเลือกจะโจมตีราชวงศ์เพลิง์เพราะเขารู้ว่าศิษย์ของเขากำลังจะไปราชวงศ์เพลิง์เพื่อสังหารจักรพรรดิหลี่หวง เท่านั้น
แต่ก่อนที่เขาจะได้เคลื่อนตัวออกไป ผู้นำนิกายดาบ์รีบเข้ามาขวางทางเขาทันที " หยุดก่อน! เราไม่ควรรีบร้อนไปเช่นนี้ พวกเรายังไม่รู้ถึงศัตรูที่แท้จริง... ถ้าเ้าโจมตีราชวงศ์เพลิง์โดยไม่ไตร่ตรองให้ดี พวกที่อยู่เื้ัเหตุการณ์นี้มันก็จะได้ประโยชน์ไปโดยไม่ต้องลงมือทำอะไรเลย!"
ผู้าุโสูงสุดตั้งสติและเขานึกถึงว่าราชวงศ์เพลิง์เองก็มีบรรพบุรุษระดับนิพพานที่นอนอยู่ในโลงศพเช่นกันและพวกเขาจะออกมาเฉพาะตอนที่ราชวงศ์เพลิง์จะล่มสลายเท่านั้น ถึงแม้ว่าพวกบรรพบุรุษแห่งราชวงศ์เพลิง์จะไม่ช่วยหลี่หวง แต่พวกมันจะช่วยราชวงศ์เพลิง์อย่างแน่นอน
ผู้าุโสูงสุดจ้องมองผู้นำนิกายด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงของที่เต็มไปด้วยความขมขื่น "……ตกลง……"
"เราต้องหาข้อมูลให้แน่ชัดก่อน ถึงจะลงมือทำอะไรได้" ผู้นำนิกายพูดต่อ
ผู้าุโสูงสุดยังคงเดือดดาล แต่คำพูดของผู้นำนิกายก็ทำให้เขาต้องสงบลง เขาพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง "…….เอาตามที่เ้าว่าก็ได้… "
ท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เงียบสงบ รถม้าบินคันหนึ่งกำลังแล่นทะยานผ่านกลุ่มเมฆ เสียงพูดคุยดังขึ้นภายในรถม้า "นายหญิง พวกเรากำลังมุ่งหน้าไปที่ราชวงศ์เพลิง์ทำไมกัน?" เสียงหนึ่งถามขึ้นด้วยความสงสัย
หญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านหน้าของรถม้า เผยให้เห็นใบหน้าที่งดงามและสะสวยดุจภาพวาด ดวงตาของเธอแฝงไปด้วยความเด็ดเดี่ยวและความมุ่งมั่น รูปร่างของเธอสง่างามราวกับเทพธิดา
นางตอบด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น "ข้า้าไปดูให้เห็นกับตา ว่าคนที่แย่งชิงบัลลังก์จากศิษย์น้องของข้าเป็เช่นไร และหากว่ามันไม่คู่ควรกับบัลลังก์นี้... ข้าจะทำให้เขาได้พักผ่อนอย่างสงบตลอดไป"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้