หลงเหยียนะโม้วนตัวลงมา เมื่อเห็นลั่วเฉิง รังสีที่แข็งแกร่งของเขาก็เทียบเท่าของตน ยิ่งไปกว่านั้น รังสีบนตัวเขาแข็งแกร่งมากกว่าผู้าุโตระกูลหลงเสียอีก
เขารู้สึกตกตะลึงเป็อย่างยิ่ง ััได้ถึงเื้ัที่ยิ่งใหญ่ของตระกูล อย่างไรเสีย หลงเหยียนก็ไม่กลัว ยังคงจ้องหน้าเขา
หลงเหยียนใช้ชีวิตในเมืองัมาตลอด พยัคฆ์ร้ายจูเก๋อคือผู้ที่แข็งแกร่งสุดเท่าที่เคยเจอ ความคิดของเขาที่มีต่อตระกูลหลงเมื่อก่อนทำให้หลงเหยียนเข้าใจคำพูดที่ว่า ‘เหนือฟ้ายังมีฟ้า’
เมื่อเห็นหลงเหยียนอยากเข้าไปวุ่นวายเื่คนอื่น เด็กในร้านอาหารจึงรีบเข้ามาลากหลงเหยียน
เวลานี้เอง เขาเงยหน้าขึ้นด้วยท่าทางโอหัง ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงจองหอง “ไอ้หนุ่ม จะให้ดีอย่าเข้ามายุ่งเสียดีกว่า เ้ารู้หรือไม่ว่าเขาเป็ใคร? เขาเป็นายน้อยลั่วเฉิงในเนินดาราแห่งนี้ของเรา เ้ามาจากป่าเขา คงสู้เขาไม่ไหวหรอก”
คำเตือนจากคนงานในร้านอาหารเป็การเยินยอลั่วเฉิง ทว่าลั่วเฉิงไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา และไม่มองหลงเหยียนอยู่ในสายตาด้วยเช่นกัน ลูกน้องในตระกูลและคนที่มุงดูด้านหลังต่างก็ส่งเสียงหัวเราะเยาะเย้ยหลงเหยียน
ผู้ดูแลพูดด้วยน้ำเสียงเริ่มมีน้ำโห “ไอ้คนบ้านนอก เ้ามาจากที่ใดกัน อย่ามายุ่งเสียดีกว่า จะให้ดี กลับไปตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองดูเถอะ” เมื่อเห็นหลงเหยียนไม่โต้ตอบ เขาจึงหัวเราะเยาะเย้ย
นายน้อยลั่วเฉิงมองฉินเซียนก่อนพูดกับคนข้างกาย “เดี๋ยวหักแขนและขาเ้าหมอนี่ให้ข้าด้วย ให้เขากลายเป็คนไร้ประโยชน์ไปชั่วชีวิต ข้าขอเตือนเ้า หากครั้งหน้าเจอข้าอีก กล้าปรากฏตัวตรงหน้าตระกูลลั่วอีก ข้าจะไม่ได้แค่ทำให้เ้าไร้ประโยชน์ ข้าจะเอาชีวิตเ้าซะ”
เมื่อพูดจบลั่วเฉิงก็แสดงสีหน้าหยิ่งผยองพร้อมหัวเราะเสียงดังหลายครั้ง เตรียมตัวเดินจากไป เวลานี้เอง หลงเหยียนที่ไม่พูดไม่จาเดินมาขวางตรงหน้า
“เ้ารังแกคนมากเกินไปแล้ว อาศัยอำนาจที่มี แล้วอยากรังแกคนซื่อตรงก็ทำได้อย่างนั้นหรือ?” ขณะที่พูดเขาก็ลากชายหนุ่มที่น่าสังเวชบนพื้นขึ้นแล้วตบฝุ่นบนตัวเขา
“อะไรนะ?”
ทุกคนนึกว่าตัวเองได้ยินผิดไป นึกไม่ถึงว่าเ้าหมอนี่จะไม่เจียมเนื้อเจียมตัวเพียงนี้ กล้าขวางแม้กระทั่งนายน้อยลั่วเฉิง
ลั่วเฉิงหัวเราะ ั้แ่ต้นจนตอนนี้ เขายังไม่มองหน้าหลงเหยียนเลยด้วยซ้ำ ถึงอย่างไรเขารู้สึกนับถือในความกล้าของหลงเหยียนนัก จากนั้นจึงพูดกับผู้ดูแล “เอาหยกิญญาให้เ้าหมอนี่แล้วไล่มันไป”
ผู้ดูแลฟังเช่นนั้นก็ทิ้งหยกิญญาไว้ตรงหน้าหลงเหยียน เดินขึ้นมาข้างหน้า ใช้มือชี้หน้าหลงเหยียนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงดุร้าย “ไอ้หนุ่ม เ้าใจกล้าไม่เบาเลย นอกจากคุณชาย เ้าเป็คนแรกที่กล้าพูดกับนายน้อยเช่นนี้ วันนี้เ้าโชคดีไป นายน้อยของเราไม่ได้เมตตาปานนั้น รีบไสหัวไปซะ ไม่เช่นนั้น หากนายน้อยเราไม่พอใจ เ้าคงต้องตายที่นี่”
คนที่ล้อมอยู่รอบๆ ไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง ครั้งนี้ นายน้อยลั่วเฉิงไม่เพียงแค่ไม่แสดงอำนาจ กลับยังเอาหยกิญญาให้เ้าหมอนั่นแล้วปล่อยเขาไปอีก เมื่อเห็นหยกิญญา คนพวกนั้นเบิกตาโพลง นึกไม่ถึงว่าชายหนุ่มที่ไม่กลัวตายจะได้หยกิญญาอีก นั่นเป็หยกิญญาที่มีค่าเท่าเหรียญเงินหนึ่งพันตำลึงเชียวนะ คนส่วนใหญ่มองว่าหลงเหยียนโชคดีเกินไปแล้ว
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้สี่พี่น้องหนานกงที่อยู่บนร้านอาหารตกตะลึง หลงเหยียนมีรูปร่างบอบบาง หน้าตาสดใสและอ่อนโยน กลับใจกล้าเข้าไปขวางนายน้อยลั่วเฉิง
ดูท่าทางเหมือนนายน้อยลั่วเฉิงไม่ถือสา หลงเหยียนควรรู้ตัวแล้วเก็บหยกิญญาจากไป
นึกไม่ถึงว่าหลงเหยียนจะแค่นหัวเราะ เก็บหยกิญญาขึ้นมาไว้ในกระเป๋าเสื้อ ยกมุมปากขึ้นแล้วพูดออกมาทีละคำๆ “เ้าเห็นข้าเป็คนเห็นแก่ได้งั้นหรือ ดูเหมือนเ้าร่ำรวยมากนี่ อย่างไรเสียวันนี้ข้าก็มาเจอเื่นี้เอง ข้าจำเป็ต้องยุ่ง”
“ว่าอย่างไรนะ? เ้าหมอนี่ช่างไม่รู้จักแยกแยะเลยจริงๆ!”
หลงเหยียนบังอาจนัก เขาทำให้คนที่อยู่รอบข้างสูดลมหายใจเข้าเฮื อกใหญ่ นึกไม่ถึงว่าเ้าหนุ่มผู้นี้จะใจกล้าอะไรเช่นนี้ ทุกคนนึกสภาพตอนที่นายน้อยลั่วเฉิงโมโหออกแล้ว
เพราะทุกคนต่างรู้ดี นายน้อยลั่วเฉิงไม่เพียงแค่โเี้เท่านั้น ยังมีพร์ล้ำเลิศด้วย อายุเพียงยี่สิบปี กลับเป็อัจฉริยะแนวหน้าในเนินดารานี้แล้ว อีกทั้งยังได้ยินมาว่า เมื่อไม่นานมานี้เขาเพิ่งทำภารกิจของตระกูลอู่ตี้สำเร็จ กลายเป็ส่วนหนึ่งของตระกูลอู่ตี้แล้ว วันรุ่งขึ้นจะเตรียมตัวเดินทางเข้าเมืองหยุนจง ที่สำคัญยิ่งกว่าคือพี่ชายของลั่วเฉิงรับหน้าที่สำคัญในตระกูลอู่ตี้แล้ว
แค่นึกถึงข้อนี้ ทุกคนก็รู้แล้วว่าเหตุใดวันนี้นายน้อนลั่วเฉิงถึงไม่อยากสังหารใคร…
ลั่วเฉิงหันหน้ากลับมาช้าๆ มองมาทางหลงเหยียน แววตาเย็นะเื ทำให้หลงหยียนรู้สึกขนลุกอย่างอธิบายไม่ได้
“ไอ้หนุ่ม บังอาจนัก ตัวข้าให้โอกาสเ้าแล้ว กลับไม่รักษาไว้ อย่าโทษหากข้าโเี้เกินไป มีพลังเพียงระดับชีพัขั้นที่แปดก็กล้าผยองด้วย?”
นึกไม่ถึงว่าลั่วเฉิงมองเพียงครู่เดียวก็รู้แล้วว่าหลงเหยียนมีพลังระดับอะไร ทำให้เขาตกตะลึงไม่น้อย หลงเหยียนกินยาซ่อนิญญา เท่านี้ก็รู้แล้วว่าลั่วเฉิงไม่ธรรมดาเพียงใด
พลังปราณจากภายในร่างกายของลั่วเฉิงปะทุออกมา หลงเหยียนััได้ถึงความน่ากลัว ขณะนั้นเอง บนชั้นสองก็มีเสียงคำราม สัตว์อสูรสามตัวะโลงมาแล้วพุ่งมาข้างกายหลงเหยียน
หนานกงฉู่ยืนขวางหน้าหลงเหยียน ยิ้มรับหน้าลั่วเฉิง
“ที่แท้ก็เป็นายน้อยลั่วเฉิงเองหรือ ข้านามว่าหนานกงฉู่จากหมู่บ้านตระกูลหยาง น้องชายท่านนี้คือลูกพี่ลูกน้องข้าจากแดนไกล ต้องขอโทษด้วย ขอโทษด้วยจริงๆ เื่ทั้งหมดเป็แค่เื่เข้าใจผิด เห็นแก่หน้าหนานเลี่ยเทียน ท่านปล่อยพวกเราไปเถิด”
ลั่วเฉิงโมโหมากแล้ว ที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้ใดในเนินดาราที่กล้าทำกับเขาเช่นนี้มาก่อน จึงพูดด้วยความโมโห “ตัวข้าไม่เคยได้ยินชื่อหมู่บ้านตระกูลหยางมาก่อน? ให้หนานเลี่ยเทียนมาคุยกับข้าเอง!”
ขณะที่ลั่วเฉิงกำลังจะบันดาลโทสะ ขณะนี้เอง ผู้ดูแลที่อยู่ข้างกายเขาก็ขยับเข้ามาใกล้ กระซิบอะไรบางอย่าง หลังจากลั่วเฉิงได้ยินแล้ว เขาก็เก็บรังสีพลังกลับไป “เหอะ! น่าหงุดหงิดเหลือเกิน ในเมื่อเป็เช่นนั้นก็รีบไสหัวไป ทว่าพวกเ้ามีเื่กับข้า หยิบยกหนานเลี่ยเทียนออกมา หากยังมีครั้งหน้าอีก ข้ารับรองว่าพวกเ้าต้องไม่ได้กลับไปในสภาพนี้แน่ จะให้ดีอย่าโผล่หัวมาที่นี่อีก”
ลั่วเฉิงผลักหนานกงฉู่ออก จากนั้นก็ชี้หน้าหลงเหยียน “เ้าหน้าโง่ ให้ดีรีบไสหัวไป ไม่งั้นอย่ามาโทษหากข้าบีบให้เ้าต้องตาย” เมื่อพูดจบเขาก็เดินจากไปด้วยความโมโห
หลังจากลั่วเฉิงจากไปแล้ว ใบหน้าของผู้ดูแลปรากฏความเ้าเล่ห์ คนที่อยู่รอบข้างต่างก็มองพลางส่ายหน้า พวกเขารู้ดีว่าคนอย่างลั่วเฉิงเป็คนเช่นไร
“เฮ้อ คนที่มาจากป่าจากดอย ไม่รู้จักเจียมเนื้อเจียมตัวเลยจริงๆ เพื่อคนที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า มามีเื่กับนายน้อยลั่วเฉิง เกรงว่าจากนี้ชีวิตต้องไม่ดีแน่ วันนี้ก็แค่ไว้หน้าหมู่บ้านตระกูลหยางเท่านั้นละ”
ทุกคนมองหนานกงฉู่กับพวกพ้องของเขา จากนั้นก็เดินจากไป ถึงอย่างไร หายนะครั้งใหญ่ก็กำลังจะมาถึงแล้ว
หลงเหยียนมองหนานกงฉู่ด้วยสายตาตื้นตัน “พี่ฉู่ เื่เมื่อครู่ ข้าต้องขอบคุณท่านจริงๆ หากไม่ใช่เพราะท่าน คาดว่าคนที่ชื่อลั่วเฉิงคงลงมือกับข้าไปแล้ว จะว่าไป ข้าหลงเหยียนไม่กลัวเขาหรอก”
ขณะที่พูดอยู่พวกเขาก็เตรียมจากไป ฉินเซียนคุกเข่าลง มือทั้งสองข้างกอดขาหลงเหยียนแน่น “ขอบคุณ ขอบคุณพวกท่าน ข้านึกไม่ถึงจริงๆ ว่าจะเจอคนดีอย่างพวกท่านในโลกนี้” ขณะที่พูดเขาก็โค้งคำนับอย่างต่อเนื่อง
หลงเหยียนดึงเขาลุกขึ้น จากนั้นก็มอบหยกิญญาที่เก็บไว้ให้ฉินเซียน “ในเมื่อมีวาสนาได้พบกัน แล้วข้าจะนิ่งดูดายไม่ช่วยได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม ข้าขอเตือนเ้า รีบออกจากสถานที่บ้าๆ นี่เถอะ”
ดูออกว่าสหายฉินเซียนเป็คนที่รู้จักบุญคุณคน เป็คนที่เห็นความสัมพันธ์เป็ที่ตั้ง เมื่อเห็นว่าเขาไม่ยอมจากไป หลงเหยียนจึงถาม “อะไร? เ้ายังมีอะไรอีกหรือ?”
“ผู้มีพระคุณ ข้าก็อยากเตือนให้พวกท่านรีบออกจากที่นี่ด้วยเช่นกัน นายน้อยลั่วเฉิงเป็คนที่แค้นฝังหุ่น พวกท่านมีเื่กับเขาเพราะช่วยเหลือข้า เกรงว่าเขาไม่มีทางปล่อยพวกท่านไปอย่างง่ายดายแน่”
--------------------