พรรคเทพหมาป่า์ ประตูทางเข้าตำหนักหมาป่าบูรพา
งานแต่งงานที่ควรหวานชื่นมื่นเวลานี้กลายเป็ชักดาบประจันหน้ากันเสียแล้ว บ่าวสาวชักดาบออกมาร่วมกันเข่นฆ่าแเื่ร่วมงาน? ลูกน้องที่หวังเค่อพามาด้วยต่างพากันเหม่อมองอย่างโง่งม พวกมันอยู่กับท่านประมุขมาหลายปี ขนาดท่านประมุขยังไม่กล้าทำอะไรแบบนี้เลย นี่มันสถานการณ์แบบไหนกัน?
แขกร่วมงานพากันชักอาวุธวิเศษออกมาทีละคนพลางมองหน้ากันไปมา
“มู่หรงลวี่กวง เ้าคิดทำอะไร?”
“จางหลี่เอ๋อร์ พวกเรามาร่วมงานแต่งงานเ้า ถ้าเ้าไม่ได้กราบไหว้ฟ้าดินแล้วทำไมถึงมาโกรธพวกข้าแทนล่ะ?”
…......
.........
......
......
...
...
บรรดาแเื่พากันสบถอย่างต่อเนื่อง
จางหลี่เอ๋อร์ไม่ได้ะเิอารมณ์อีก นางเพียงมองดูแขกรอบด้านด้วยรอยยิ้มเย็น “ทุกท่าน ได้โปรดอย่าแสดงละครอีกเลย พรรคเทพหมาป่า์ปิดประตูเข้าออกแล้ว ยังคิดว่าจะหนีรอดอีกรึ?”
“จางหลี่เอ๋อร์ น้องชายเ้าถูกพรรคเทพหมาป่า์ทำร้าย หากเ้าไม่คิดก่อกวนมู่หรงลวี่กวงแล้วเ้าคิดจะทำอะไร?” แขกคนหนึ่งะโ
“ฮึ่ม น้องชายข้าาเ็ ข้าย่อมต้องให้พรรคเทพหมาป่า์ชดใช้ ส่วนพวกเ้ายังคิดเล่นละครอยู่อีก? เ้าอยากให้ข้ากับมู่หรงลวี่กวงชี้หน้าทีละคนหรือไม่? พวกมารร้าย!” จางหลี่เอ๋อร์แค่นเสียงเย็น
วาจาเยียบเย็นนี้ทำให้แเื่ทั้งหลายพลันเงียบสนิท สีหน้าแขกบางส่วนพลันแปรเปลี่ยนราวกับถูกล้วงความลับจนเผยสีหน้าลนลาน ส่วนแขกอีกครึ่งที่เหลือเพียงมีสีหน้าสงสัย เ้าหมายความว่าอะไร?
“มารรึ?” ไม่ไกลออกไป หวังเค่อสีหน้าเปลี่ยนแปร
“มารอย่างพวกเ้าก็อุบายเหลือร้ายนัก เหอะ เวลาเพียงไม่กี่ปีกลับสามารถแฝงตัวเข้าไปในสำนักเซียนทั้งหลายได้ ถ้าหากพรรคเทพหมาป่า์ไม่ได้จับตาดูพรรคสำนักเซียนอยู่ตลอดก็คงไม่มีทางรู้ พวกเ้ารอโอกาสเข้ารับตำแหน่งสำคัญในสำนักเซียนทั้งหลาย เหอะ ครั้งนี้พรรคอีกาทองคำข้ากับพรรคเทพหมาป่า์จะขอเดินตามแนวทางวิถีฟ้า เข่นฆ่าปราบมาร!” จางหลี่เอ๋อร์ส่งเสียง
สิ้นเสียงนางก็สะบัดดาบในมือออก ดาบยาวสิบจั้งร่วงหล่นจากฟากฟ้าฟันเข้าใส่แขกผู้หนึ่ง
“จางหลี่เอ๋อร์ นี่ต้องเป็เื่เข้าใจผิดแล้ว” แขกท่านนั้นเอ่ยอย่างกังวล
“ตูม!”
ดาบยาวฟันเข้าใส่แขกที่ชักดาบเข้ารับไว้อย่างรีบร้อน
ร่างจางหลี่เอ๋อร์เปล่งแสงสีแดงเจิดจ้า พลังของดาบยิ่งทวีความรุนแรงจนเกือบจะบั่นศีรษะแขกผู้นั้นอยู่รอมร่อ
“จางหลี่เอ๋อร์ เ้าทำเกินไปแล้ว!” แขกทั้งหลายต่างพากันส่งเสียง
ยามนี้เอง แขกที่ถูกดาบยาวของจางหลี่เอ๋อร์ฟันใส่ก็ทนต่อไปไม่ไหว ใบหน้ามันพลันบิดเบี้ยว ร่างเปล่งไอสีดำพวยพุ่งปกคลุม ดวงตาที่บิดเบี้ยวกลายเป็สีแดงฉาน เขี้ยวยาวคู่หนึ่งงอกออกมาจากปาก
“โฮกกกก!”
มารตนนั้นเปล่งเสียงคำรามก้องคล้ายพยายามฝืนดิ้นรน
“ตาย!” จางหลี่เอ๋อร์ส่งเสียง
“เปรี้ยง!”
คมดาบยาวชวนขนลุกฟาดผ่าลง ขยี้แขกมารจนแหลกเป็ชิ้นๆ โลหิตสาดกระเซ็น แสงสีทองดวงหนึ่งพุ่งออกจากร่างมารที่สิ้นใจเข้าสู่ร่างจางหลี่เอ๋อร์
“แสงกุศลทองคำ? นี่ นี่ นี่เป็มารร้ายของจริง?” แขกท่านหนึ่งอุทาน
“แเื่ทั้งหลาย ระวังตัวไว้เถอะ ครึ่งหนึ่งในหมู่พวกท่านเป็มาร!” จางหลี่เอ๋อร์ยิ้มหม่น
“ว่าอะไร?” แขกทั้งหลายต่างหน้าเปลี่ยนสี พวกมันต่างระแวงซึ่งกันและกัน
“ยังมัวยืนงงอะไรอีก? ลงมือเลย วันนี้กำราบปราบมาร เดินตามแนวทางวิถีฟ้า!” จางหลี่เอ๋อร์ส่งเสียง
“ทราบ!” ศิษย์พรรคอีกาทองคำทั้งหมดต่างเปล่งเสียงตื่นเต้น
“จางหลี่เอ๋อร์ เ้าจะทำเกินไปแล้ว นี่คือพรรคเทพหมาป่า์ข้า เ้ายังคิดเป็ผู้นำอีก?” มู่หรงลวี่กวงเอ่ยเสียงเย็น
จางหลี่เอ๋อร์เหลือบมองมู่หรงลวี่กวงก่อนแค่นเสียง “นี่แค่ดอกเบี้ยที่ทำร้ายน้องชายข้าอย่างไร มู่หรงลวี่กวง ฮ่าฮ่า ขอบคุณเ้าที่บอกข้าเื่มารพวกนี้ วันนี้เ้าคงได้แค่ดูข้าอย่างเดียวแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
“กรร!”
มารที่แฝงมากับแขกทั้งหลายรู้ตัวแล้วว่าถูกเปิดเผยตัวตนพวกมันจึงไม่คิดปิดบังโฉมหน้าอีก ไอทมิฬพวยพุ่งขึ้นทีละจุดสองจุด มารบางตนถึงกับงอกปีก พวกมันล้วนพยายามขัดขืนกองกำลังที่จางหลี่เอ๋อร์พามาด้วย
“เหอะ จางหลี่เอ๋อร์ เ้าทำเกินไปแล้ว ถ้างั้นจะมาโทษข้าไม่ได้!” มู่หรงลวี่กวงแค่นเสียงเ็า
“หึ่ง!”
บนฟากฟ้าพลันปรากฏแสงสีฟ้าปกคลุม ภายใต้แสงสีฟ้านี้ ผู้คนและมวลมารล้วนแต่ชะงักนิ่งค้างราวกับถูกสะกัดจุดไว้
ทุกคนที่ถูกผนึกการเคลื่อนไหวต่างเผยสีหน้าหวาดผวา
จางหลี่เอ๋อร์ฝืนเงยหน้าขึ้นก่อนจะเห็นกระจกบานหนึ่งลอยอยู่เหนือพรรคเทพหมาป่า์ แสงสีฟ้าอ่อนจากกระจกปกคลุมทั่วพรรคเทพหมาป่า์ ทุกคนภายในบริเวณพรรคพลันไม่อาจขยับเคลื่อนไหว
“นี่ก็คือสมบัติประจำพรรคเทพหมาป่า์ กระจกสะกดแสงรึ?” จางหลี่เอ๋อร์อุทาน
“ใช่แล้ว นี่คือกระจกสะกดแสงของพรรคเรา กระจกจะเปล่งแสงสะกดสีฟ้าออกมาผนึกการเคลื่อนไหว! ข้าต้องขอร้องท่านประมุขอยู่นานกว่าท่านจะยอมทิ้งกระจกสะกดแสงเอาไว้ให้พรรคเทพหมาป่า์ใช้ในยามจำเป็!” มู่หรงลวี่กวงตอบเสียงเย็น
“ไม่ได้มีใครเปิดใช้งานมันอยู่เสียหน่อย นี่อะไร เป็ไปได้อย่างไร?” จางหลี่เอ๋อร์กล่าวอย่างแตกตื่นปนโมโห
“กระจกสะกดแสงถูกประทับลงไปในข่ายปราณคุ้มภัยของูเาแล้ว ูเาิญญาของพรรคเทพหมาป่า์จะถ่ายทอดพลังให้กระจกอย่างต่อเนื่อง จริงอยู่ที่ข้าบังคับมันอย่างละเอียดไม่ได้ แต่ก็สามารถเปิดใช้ให้มันแช่แข็งทุกสิ่งที่อาบแสงของมันได้! แค่นั้นก็พอแล้ว พวกเ้าไม่มีใครขยับตัวได้ทั้งนั้น!” มู่หรงลวี่กวงแค่นเสียงแ่เบา
“ก็ผนึกได้แค่การเคลื่อนไหวของผู้บรรลุขั้นดวงธาตุทองคำเท่านั้น สะกดขั้นทารกแกนิญญาไม่ได้!” จางหลี่เอ๋อร์เอ่ยเสียงเข้ม
“แล้วอย่างไร เ้าเป็ยอดฝีมือขั้นทารกแกนิญญาเรอะ? เหอะ มารร้ายทั้งหมดที่เชิญมาวันนี้ล้วนอยู่ในขั้นดวงธาตุทองคำ! จางหลี่เอ๋อร์ เดิมข้าหวังปราบมารร่วมกับเ้า แต่โชคร้ายที่เ้าโอหังเกินไป ไม่สิ! เ้าเคยเห็นข้าในสายตาบ้างหรือเปล่า? ทำไมไม่เรียกที่นี่เป็บ้านไปเลยเล่า? เหอะ ในเมื่อเ้าไม่สน เช่นนั้นก็ไม่ต้องปราบมารแล้ว คอยเบิกตาดูข้ากำราบมารเหล่านี้ไปทีละตนเถอะ!” มู่หรงหลี่กวงแค่นเสียงใส่
ห่างออกไปไม่ไกลนัก หวังเค่อเบิกตามองกระจกสะกดแสงบานั์กลางเวหาด้วยดวงตาลุกวาว ทำไมหวังเค่อถึงต้องดั้นด้นมายังพรรคเทพหมาป่า์? ก็เพื่อหวังฝากตัวเข้าเป็ศิษย์ ใช้บางสิ่งในพรรคเทพหมาป่า์เพื่อปัดเป่าโชคร้ายของมันที่เกาะกินอยู่ให้หายไป และสิ่งที่สามารถปัดเป่าโชคร้ายของมันได้ก็คือกระจกสะกดแสงนี้เอง!
ร่ำลือกันว่ากระจกสะกดแสงสามารถดึงดูดโชคลาภวาสนา หลีกเลี่ยงเภทภัยกำราบมาร คาดไม่ถึงแม้แต่ผู้คนก็ยังสะกดได้ด้วย?
ตอนนี้ทุกคนถูกสะกดนิ่งไปแล้ว ไม่ใช่ว่ามู่หรงลวี่กวงจะสามารถทำตามอำเภอใจได้หรอกหรือ?
“มู่หรงลวี่กวง เ้าสะกดพวกข้าไว้ทำไม? ปล่อยนะ!” แขกท่านหนึ่งเอ่ยอย่างร้อนรน
“มู่หรงลวี่กวง ข้ายอมรับแล้วก็ได้ว่าเมื่อกี้มีมารร้าย แต่ข้าไม่ใช่มาร เ้าจะทำอะไรข้า!” แขกอีกคนเบิกตากว้าง
มู่หรงลวี่กวงกล่าวเสียงเข้ม “ทุกท่านโปรดสงบใจไว้ก่อน ข้าสะกดการเคลื่อนไหวของทุกคนไว้เพื่อความปลอดภัย แต่โปรดวางใจ มารทุกตนถูกพรรคเทพหมาป่า์ข้าบันทึกเอาไว้หมดแล้ว ไม่มีการทำร้ายผู้บริสุทธิ์แน่นอน! ขอทุกท่านรอสักประเดี๋ยว ทุกสิ่งก็จบแล้ว”
แเื่ตาพากันขมวดคิ้ว เหล่ามารย่อมต้องบันดาลโทสะ ส่วนแขกทั่วไปต่างเผยสีหน้าสับสน
“ที่แท้ก็เป็เช่นนี้ งานแต่งงานเรอะ? งานแต่งปลอมน่ะสิไม่ว่า! เพื่อจะล่อลวงมารทั้งหมดมาซุ่มโจมตีที่นี่ใช่หรือไม่? ทั้งพรรคเทพหมาป่า์และพรรคอีกาทองคำ พวกเ้าจงใจหมายหัวพวกมารั้แ่แรก!” แขกท่านหนึ่งหน้าเปลี่ยนสีเมื่อเข้าใจเื่ทั้งหมด
“ถูกต้อง ทุกท่านโปรดรอประเดี๋ยว ข้าจะเปิดกลอสนี์ปะามาร เข่นฆ่าเหล่ามารทั้งหมด นำความสงบสุขคืนสู่สิบหมื่นมหาบรรพต!” มู่หรงลวี่กวงปลอบ
“มู่หรงลวี่กวง เ้าคิดกินอิ่มคนเดียว พรรคอีกาทองคำข้าร่วมมือกับเ้ามาตั้งนาน เ้าคิดฮุบมารทั้งหมดเอาไว้คนเดียว? คิดรับกุศลเพียงลำพัง?” จางหลี่เอ๋อร์เอ่ยอย่างเกรี้ยวกราด
“จางหลี่เอ๋อร์ การกำราบมารเป็หน้าที่ของข้า แต่เ้ากลับสนใจแค่กุศลหรือ? ต้องขอบคุณพรรคอีกาทองคำที่ร่วมมือด้วย ข้าคิดว่าหลังกำราบมารเสร็จแล้ว เซียนทั้งปวงจะต้องซาบซึ้งในตัวเ้า!” มู่หรงลวี่กวงหัวเราะ
“เ้า!” จางหลี่เอ๋อร์ได้แต่เบิกตาด้วยโทสะ
มู่หรงลวี่กวงผู้นี้จะไร้ยางอายเกินไปแล้ว เ้าคิดฮุบกุศลทั้งหมดไว้คนเดียวยังมีหน้ามาพูดดีอีก?
จางหลี่เอ๋อร์พยายามดิ้นรนขัดขืนผนึกแสงสีฟ้า แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ได้แต่บิดตัวไปมาโดยไม่อาจขยับเขยื้อน นางโกรธเกรี้ยวยิ่ง มารทั้งหลายในบรรดาแขกเองต่างก็ดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง ใบหน้าดำหม่นด้วยโทสะ แขกทั่วไปทั้งหลายเองก็ขนลุกซู่หนังศีรษะชาด้าน
“ศิษย์พี่? นี่ นี่ท่านเป็มารหรอกเรอะ?”
“ท่านลุง ท่าน ท่านกลับถูกมารเข้าสิงจนกลายเป็มารแล้ว?”
“เลวร้ายนัก เมื่อวันก่อนในงานประชุมพรรค ท่านลุงฉีเกือบจะได้เป็ประมุขพรรคคนใหม่แล้ว ท่านลุงที่แท้กลับเป็มาร?”
…......
.........
......
......
...
...
แม้แขกทั้งหลายจะเข้าใจเื่ที่มู่หรงลวี่กวงคิดฮุบกุศลปราบมารทั้งหมดไว้คนเดียว แต่ก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไรเท่าใดนัก เพราะอย่างน้อยพวกมันก็ได้รู้ตัวว่าคนสนิทใกล้ชิดล้วนเป็มารแฝงตัวมาทั้งสิ้น ไม่รู้พวกมันจะถูกมารเหล่านี้จับกินเมื่อไหร่ อันตรายยิ่งนัก!
“กลอสนี์ปะามาร จงมา!” มู่หรงลวี่กวงล้วงป้ายหนึ่งออกมาถือไว้ก่อนขยับเล็กน้อย
“เปรี้ยงงง!”
ท้องนภาเหนือพรรคเทพหมาป่า์พลันส่งอสนีบาตนับร้อยสายลงมา
“โฮก!” “ไม่นะ!”
เหล่ามารต่างพากันคำรามอย่างสิ้นหวัง
“ตูมมมมมม!”
เมื่ออสนีบาตฟาดผ่า เศษดินหินนับไม่ถ้วนต่างปลิวว่อน เสียงคำรามด้วยความหวาดผวาดังระงมไม่หยุด
ทว่าหลังสิ้นเสียงกึกก้อง ทุกคนล้วนต่างเบิกตาโพลง
เพราะไม่มีมารตนใดถูกฟ้าผ่า ตรงกันข้าม ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์กับพรรคอีกาทองคำกลับเป็ฝ่ายถูกฟ้าผ่า พวกมันต่างกรีดร้องกระอักเืด้วยเนื้อตัวดำเมี่ยม
มู่หรงลวี่กวงกับจางหลี่เอ๋อร์ยิ่งถูกสายฟ้าฟาดหนักกว่าใครเพื่อน สายฟ้าหลายสายฟาดเข้าใส่ทั้งคู่ แต่พวกมันก็คล้ายจะมีอาวุธวิเศษคอยปกป้องเอาไว้ ถึงแม้จะอับอายขายหน้าแต่ก็ไม่ได้าเ็สาหัส ผมเผ้าของจางหลี่เอ๋อร์ยุ่งเหยิงด้วยแรงะเิ ส่วนเสื้อผ้าของมู่หรงลวี่กวงก็ขาดวิ่นหลายจุด
“ปะ เป็ไปได้อย่างไร?” มู่หรงลวี่กวงเหม่อมองอย่างสับสน
“มู่หรงลวี่กวง เ้าทำบ้าอะไร? เ้าทำร้ายข้าทำไม? ไม่ใช่ว่าเ้าควรกำราบมารหรอกหรือ? เ้ามากำราบข้ากับศิษย์พรรคอีกาทองคำทำไม?” จางหลี่เอ๋อร์ถามอย่างโกรธเกรี้ยว
แขกทั้งหลายเองก็เหม่อมอง มู่หรงลวี่กวงทำบ้าอะไร? หรือเ้าทำร้ายตัวเองเพื่อขู่พวกมารให้กลัวหัวหด?
“หรือ หรือป้ายควบคุมกลอสนี์ปะามารจะมีปัญหา?” มู่หรงลวี่กวงหน้าเปลี่ยนสี
“ย่อมต้องมีปัญหาอยู่แล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่า!” เสียงหนึ่งพลันหัวเราะร่าขึ้นมา
ทุกคนเบนสายตาไป กลับเป็ซุนซง พิธีกรผู้ดูแลพิธีแต่งงานในวันนี้!
นี่เื่อะไรกัน?
“ซุนซง? เ้าสลับป้ายคำสั่งของข้า? เ้าคิดจะทำอะไร?” มู่หรงลวี่กวงจ้องเขม็งด้วยโทสะ
ซุนซงเป็ลูกไล่ของมู่หรงลวี่กวง เป็ม้ารับใช้ที่มู่หรงลวี่กวงไว้วางใจจนฝากฝังให้ทำหลายเื่ แล้วนี่ซุนซงมันทำอะไร?
“ซุนซงคนเดิมตายไปนานแล้ว! ซุนซงในวันนี้ไม่ใช่สุนัขรับใช้เ้าอีกต่อไป!” ซุนซงตอบกลับเสียงเย็น
“ว่าอะไรนะ?” มู่หรงลวี่กวงไม่เข้าใจไปครู่หนึ่ง
“เหอะ งานแต่งก็คืองานแต่ง ทำไมถึงได้มากเื่มากความขนาดนี้! พวกเ้าทำบ้าอะไรถึงให้ข้าต้องรอคอยเนิ่นนานปานนี้?” ซุนซงจ้องหน้ามู่หรงลวี่กวงกับคนที่เหลือเขม็ง
“ไม่ ไม่ใช่ เ้าไม่ใช่ซุนซง หรือเ้าเองก็เป็มารด้วย? เ้าเป็มารที่แฝงตัวอยู่ในพรรคเทพหมาป่า์?” สีหน้าของมู่หรงลวี่กวงเปลี่ยนไป
“เมื่อครู่ก็ได้เห็นกันแล้ว! พรรคเทพหมาป่า์มีวิธีแยกแยะมารที่แฝงตัวอยู่ได้ยอดเยี่ยม หากไม่ได้ท่านมารอริยะช่วยเหลือ ข้าไหนเลยจะเล็ดรอดแฝงตัวมาอยู่ใต้จมูกพวกเ้าได้?” ซุนซงแค่นเสียงดูแคลน
“เ้า เ้าทำอะไร?” มู่หรงลวี่กวงหน้าเปลี่ยนสี
“ข้าทำอะไรรึ? เดิมข้าคิดจะแฝงตัวอยู่เงียบๆ ไปอีกนาน แต่ทุกอย่างเป็เพราะความโลภของเ้า ข้าเลยขอให้มารเหล่านี้ยอมเปิดเผยตัว! ั้แ่ตอนที่เ้าได้รายชื่อพวกมารที่แฝงตัวอยู่ในสำนักเซียน ความโลภของเ้าก็นำพาพรรคเทพหมาป่า์ไปสู่ความพินาศแล้ว!” ซุนซงเย้ย
“คำแนะนำทั้งหมดที่เ้าบอกข้า ทั้งหมดก็เพื่อเวลานี้รึ?” มู่หรงลวี่กวงหน้าซีด
“ข้าแนะนำก็จริง แต่ก็จำต้องใช้ความโลภของเ้าช่วยหนุนเสริมด้วย! หากเ้าไม่โลภมาก มีหรือเ้าจะคิดฮุบกุศลทั้งหมดไว้คนเดียว? หากเ้าไม่โลภมาก ท่านมารอริยะไหนเลยจะสามารถหลอกล่อยอดฝีมือทั้งหมดในพรรคเทพหมาป่า์ออกไปได้? หากเ้าไม่โลภมาก ข้ามีหรือจะล่อลวงให้เ้าใช้กระจกสะกดแสงผนึกการเคลื่อนไหวของทุกคนเอาไว้ได้? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” ซุนซงหัวเราะลั่น
“เ้า เ้า…ทั้งหมดเป็เ้าตั้งใจไว้?” มู่หรงลวี่กวงถามด้วยสีหน้าบูดเบี้ยว
“ถูกต้อง ข้ารอคอยวันนี้มานานแล้ว เพราะความโลภของเ้า ภายใต้แสงจากกระจกสะกดแสง จะไม่มีใครในพรรคเทพหมาป่า์สามารถขยับเขยื้อนได้! ต่อไปก็ถึงคราวข้าใช้กลอสนี์ปะามารฆ่าพวกเ้าทีละคน!” ซุนซงเองก็ควักป้ายคำสั่งออกมา
“เ้าฆ่าพวกเราไม่ได้หรอก กลอสนี์ปะามารสังหารพวกเราไม่ได้เร็วขนาดนั้น…!” มู่หรงลวี่กวงเอ่ยด้วยสีหน้าอัปลักษณ์
“ก็จริง กว่ากลอสนี์ปะามารจะฆ่ายอดฝีมือระดับดวงธาตุทองคำได้ต้องใช้เวลาสักพัก แต่สำคัญตรงไหน ในเมื่อพวกเรามีเวลาอีกถมเถ! กระจกสะกดแสงจะผนึกการเคลื่อนไหวได้หนึ่งวันเต็ม แค่นั้นก็เหลือเฟือแล้ว! เ้าปิดประตูเข้าออก ไม่มีคนนอกที่ไหนเข้ามารบกวนพวกเราได้! ขณะเดียวกัน ด้านนอกประตูขึ้นเขาเองก็ถูกมารที่ท่านมารอริยะส่งมาล้อมเอาไว้แล้ว ไม่ให้ผู้ใดขึ้นเขามาได้! ต่อไปข้าจะใช้ป้ายคำสั่งนี้ฆ่าพวกเ้าทีละคน เอาละ ขั้นดวงธาตุทองคำเรอะ? ข้าเรียกสายฟ้าผ่าเ้าอีกไม่กี่ทีก็จบแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
“เ้า เ้า เ้า…!” มู่หรงลวี่กวงพูดด้วยโทสะ
“มู่หรงลวี่กวง พรรคเทพหมาป่า์เ้าคอยจับตาดูมารในสำนักเซียนทั้งหลายแต่ไม่เคยดูคนของตัวเองเลย? เ้าลากข้าไปซวยด้วยแล้ว!” จางหลี่เอ๋อร์จ้องเขม็งอย่างเกรี้ยวกราด
มู่หรงลวี่กวงใบหน้าบูดเบี้ยว มันไหนเลยจะคิดว่าคนสนิทใกล้ตัวกลับเป็มารไปได้?
“ฮ่าฮ่าฮ่า จะเริ่มจากใครดี? งั้นเริ่มจากศิษย์พี่ใหญ่ก่อนก็แล้วกัน ฮ่าฮ่าฮ่า!” ซุนซงขยับนิ้วไปมา
“เปรี้ยงงง!”
อสนีบาตฟาดผ่าลงจากฟากฟ้าเข้าใส่มู่หรงลวี่กวงเต็มเปา ร่างของมันถูกสายฟ้ากลืนเข้าไป
“ไอ้มารชั่ว พรรคเทพหมาป่า์ข้าจะกำราบพวกเ้าให้หมด พวกเ้าไม่มีทางหนีรอด!” มู่หรงลวี่กวงที่อยู่ในดงสายฟ้าคำรามออกมาด้วยโทสะ
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า พรรคเทพหมาป่า์? หลังผ่านพ้นวันนี้ไปก็ไม่มีพรรคนี้อยู่อีกแล้ว! หลังข้าฆ่าพวกเ้าทุกคน ข้าจะขุดูเาิญญาของพรรคเทพหมาป่า์ ทำลายผนึกประจำพรรคทิ้ง พวกเ้าจะเหลือรากฐานอะไรเอาไว้บูรณะพรรคกลับมาอีก? ยอดฝีมือขั้นทารกแกนิญญาของพรรคเ้าต่างก็อยู่ข้างนอก! ศิษย์ขั้นดวงธาตุทองคำทั้งหมดเองก็ถูกเ้าสะกดเอาไว้ เหอะ ยามนี้จะมีใครรู้ว่าข้าเป็คนทำลายพรรคเทพหมาป่า์? อ้อ จะว่าไป ยังเหลือระฆังล่มสลายอยู่สินะ หากลั่นระฆังล่มสลาย พวกมันทุกคนที่ได้ยินจะต้องรีบบึ่งกลับมา! แต่ทุกคนในพรรคเวลานี้ขยับตัวไม่ได้ แม้แต่ข้าเองก็ทำได้แค่ขยับนิ้วมือป้อนคำสั่งให้ป้าย แล้วใครมันจะไปลั่นระฆังได้? ใครจะไปลั่นระฆังหือ? พวกกระดูกคนตายที่ฝังไว้ในหุบเขาวีรชนจะลั่นระฆังช่วยพวกเ้าหรือไง? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” ซุนซงหัวเราะลั่น
ขณะซุนซงกำลังหัวเราะลั่น เสียงระฆังพลันดังกังวาลมาจากหุบเขาไกลออกไป
“โหม่งงงงงง~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
เสียงของระฆังนี้ดังสนั่นยิ่ง แก้วหูของทุกคนต่างปวดแปลบด้วยคลื่นเสียงรุนแรง เสียงระฆังพุ่งออกจากพรรคเทพหมาป่า์กระจายออกไปยังโลกภายนอก
ซุนซงใบหน้าแข็งทื่อ จางหลี่เอ๋อร์และมู่หรงลวี่กวงเองก็เผยสีหน้าตกตะลึง
“ระฆังล่มสลายดัง? เป็ไปไม่ได้ เป็ไปไม่ได้ ร่างที่อาบแสงจากกระจกสะกดแสงจะถูกผนึกการเคลื่อนไหว แล้วใครมันเป็คนลั่นระฆังกัน?” ซุนซงขวัญผวา
“ระฆังล่มสลายดังแล้ว ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์ที่กระจายอยู่ทั่วสิบหมื่นมหาบรรพตจะรับรู้ว่าต้องรีบกลับมา รวมถึงท่านประมุขด้วย!” มู่หรงลวี่กวงเผยสีหน้ายินดี
“ไม่เป็ไร สิบหมื่นมหาบรรพตกว้างใหญ่ไพศาลนัก พวกมันคิดกลับมายังต้องใช้เวลาอีกนาน ก่อนพวกมันจะมา ข้าจะฆ่าเ้าเสีย กลอสนี์ปะามาร ลงมือ!” ซุนซงรีบป้อนคำสั่ง สายฟ้าฟาดลงจากเบื้องบน
ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่มู่หรงลวี่กวง แต่ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์และศิษย์พรรคอีกาทองคำเองก็ถูกสายฟ้าฟาดใส่เช่นกัน
“เปรี้ยงงง!”
อสนีบาตสาดแสงทรงพลัง เสียงกรีดร้องดังระงมไปทั่ว
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ขยับไม่ได้ล่ะสิ ขยับไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ? ยังอยากกำราบมารอยู่หรือเปล่า? วันนี้ถึงตามารอย่างพวกเราลงทัณฑ์พวกอวดอ้างวิถีธรรมอย่างพวกเ้าบ้างแล้ว!” ซุนซงหัวเราะลั่น
“ใช่แล้ว เอาพวกมันให้ตาย ฮ่าฮ่า เร็วเข้า ฆ่าพวกมันเลย!” เหล่ามารในหมู่แขกต่างพากันส่งเสียงอย่างตื่นเต้น
“ซุนซง ข้าจะฆ่าเ้า!” มู่หรงลวี่กวงคำรามออกมาท่ามกลางสายฟ้าฟาด
“ก็มาซี่ ถ้าเ้าขยับได้ เ้าก็ชิงป้ายคำสั่งไปจากมือข้าได้ มีป้ายคำสั่งนี้ เ้าก็ควบคุมกลอสนี์ปะามารได้ แล้วเ้าทำได้มั้ย? ทำได้หรือเปล่า! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…ฮึก!” ซุนซงหัวเราะได้ครึ่งทางก็พลันชะงักไป
สายฟ้ารอบด้านพลันหยุดลงกะทันหัน ทุกคนต่างมองไปยังซุนซงด้วยความสับสน จู่ๆ มันหยุดมือทำไม?
แต่ทุกคนกลับเห็นเ้าชายชู้ยืนอยู่ตรงหน้าซุนซง ไม่ใช่สิ เป็หวังเค่อ หวังเค่อไม่ได้ผลอะไรจากกระจกสะกดแสงแม้แต่น้อย มันเดินไปตรงหน้าซุนซงอย่างอิสระก่อนจะฉวยป้ายคำสั่งมาจากมืออีกฝ่าย
“เป็เ้า?” จางหลี่เอ๋อร์ตะลึงงัน
มู่หรงลวี่กวงที่อับอายเองก็จ้องหวังเค่อที่เดินเหินได้ตามใจเขม็ง
เป็ไปได้อย่างไร? กระจกสะกดแสงสามารถผนึกทุกคนที่ต่ำกว่าขั้นดวงธาตุทองคำได้ ดูเหมือนหวังเค่อเองยังไม่บรรลุขั้นดวงธาตุทองคำด้วยซ้ำ แล้วมันขยับตัวได้ยังไง?
“หวังเค่อ เ้าขยับตัวได้ยังไง?” องค์หญิงโยวเยว่ที่ขยับไม่ได้เองก็ถามอย่างแปลกใจ
“เ้า ทำไมกระจกสะกดแสงถึงไม่มีผลกับเ้า?” ซุนซงเองก็เผยสีหน้าตกตะลึง
หวังเค่อไม่สนใจซุนซง หากแต่ศึกษาป้ายคำสั่งที่ชิงมาในมือด้วยสีหน้าประหลาดใจ “ไฮเทคดีแท้? ถึงกับมีรีโมตควบคุมด้วย?”
