หวงต้าดูเศร้าสลด กั๋วฉานได้เล่าเื่ที่เกิดขึ้นใน่สามวันที่ไม่ได้สติ
หลังจากที่มันได้ทะลวงเข้าสู่แก่นแท้์ขั้นปลาย มันวางแผนที่จะแสดงความสามารถข่มเจียงเฉินสักหน่อย แต่เมื่อมันได้ยินจากกั๋วฉานว่าเจียงเฉินได้สังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นต้น ทำให้มันรู้สึกหดหู่ขึ้นมาในทันที แต่ด้วยการบ่มเพาะของหวงต้าในตอนนี้ มันก็สามารถกำจัดผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นต้นได้เช่นกัน
นอกจากนี้มันได้สายเืของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์โดยสมบูรณ์ การที่จะสู้กับผู้มีระดับสูงกว่าตนเอง นั่นไม่เป็ปัญหาแต่อย่างใด
"หวงต้า หากเ้าอยากจะแสดงความสามารถมันไม่ยาก ภายหลังยังมีโอกาสอีกมาก"
เจียงเฉินหัวเราะพร้อมกับเผยรอยยิ้มเจื่อนๆ หวงต้าไม่ได้อยู่รอบตัวเขาเพียงแค่ไม่กี่วัน เขาก็รู้สึกเหมือนขาดเสียงหัวเราะไป ในตอนนี้หวงต้าได้ทะลวงเข้าสู่แก่นแท้์ขั้นปลาย มันคงจะช่วยเหลือได้มากในการเดินทางไปหุบเขาสายหมอกในครั้งนี้
"ข้าได้ยินว่าหวี่น้อยได้รับาเ็สาหัส ท่านย่าทวดมันเถอะ! ไอ้เ้าเฝินคุนมันโชคดีชิงตายเสียก่อน! มิเช่นนั้นนายท่านหมาผู้นี้จะฉีกมันเป็ล้านๆชิ้น แก้แค้นให้หยวี่น้อย!มันกล้าดียังไงถึงได้มาข่มเหงหยวี่น้อยของข้า นี่มันน่ารังเกียจยิ่งนัก!"
หวงต้าพูดอย่างโกรธแค้น มันรู้สึกเป็ห่วงอย่างมากเมื่อได้รู้ว่าหยวี่น้อยได้รับาเ็ ตลอดการเดินทาง มันและเยี่ยนเฉินหยวี่ได้สร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง และในตอนนี้เยี่ยนเฉินหยวี่ได้รับาเ็หนัก ไม่ทราบชะตากรรม เป็ธรรมดาที่หวงต้าจะโกรธแค้น
"เฝินคุนตายไปแล้ว แต่เฝินจงถังมันยังมีชีวิตอยู่ ไม่ช้าก็เร็วข้าจะกำจัดมันซะ!"
เมื่อพูดถึงเฟินจงถัง ในดวงตาของเจียงเฉินเผยความโเี้ออกมา หลังจากนั้นเขาก็หันไปหากั๋วฉานและพูดออกมา
"พี่กั๋ว เมื่อท่านทะลวงเข้าสู่แก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลาง ด้วยพลังหกสุริยันที่ทรงพลัง ข้าเชื่อว่าท่านสามารถต่อสู้ได้อย่างเท่าเทียมกับเฝินจงถัง ตอนนี้หวงต้ากับข้าจะเดินทางไปยังหุบเขาสายหมอก ข้าขอฝากทุกอย่างไว้ที่ท่าน"
"ไม่ต้องเป็ห่วงน้องชาย แม้ต้องแลกด้วยชีวิต ข้าจะปกป้องหยวี่น้อยด้วยทั้งหมดที่ข้ามี! ข้าจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นซ้ำสองเป็อันขาด!"
กั๋วฉานพูดด้วยความแน่วแน่ สำหรับเขา สิ่งที่เกิดขึ้นกับเยี่ยนเฉินหยวี่และฮันหยานเป็ความอัปยศครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา จนกลายมาเป็ปมในใจเขา สิ่งที่เขา้าทำในตอนนี้เพื่อชดใช้ในสิ่งที่เขาเคยทำผิดพลาด เพื่อขจัดความรู้สึกผิดในใจเขาได้
ยิ่งไปกว่านั้น เจียงเฉินเป็ผู้มีพระคุณของกั๋วฉาน หรือกระทั่งอาจารย์ของเขา เขาได้เรียนรู้วิชาการปรุงยาจากเจียงเฉิน และเจียงเฉินยังมอบทักษะยอดิญญาต้าเหยี่ยนและพลังหกสุริยันแก่เขา ทั้งสองเป็ทักษะที่ล้ำค่าที่ไม่อาจประเมินค่าได้
"เ้าหนู การสังหารหมูป่าหนามอัคคีและเอาดวงจิติญญาอสูรในครั้งนี้ไม่ใช่เื่ง่าย ข้าได้ยินมาว่าเ้า้าปล่อยธงโลหิตไว้สำหรับฮันหยาน แต่ในความคิดของข้า เ้าควรนำธงโลหิตไปกับเ้าด้วย การเดินทางไปยังแคว้นเฉวียนเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และธงนั่นเป็อาวุธที่ทรงพลัง เราสามารถใช้มันในเวลาฉุกเฉินได้ อย่างน้อย มันสามารถเป็ไพ่ตายสำหรับพวกเรา"
หวงต้าเตือนเจียงเฉิน มันได้รู้จากกั๋วฉานว่าเจียงเฉินจะทำอะไรต่อไป
"พวกเราไม่จำเป็ต้องพึ่งมันอีก ข้าในตอนนี้มีทั้งฝ่ามือัแท้จริงและเปลวเพลิงัแท้จริง ด้วยทักษะเหล่านี้ ข้าสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นต้นโดยไม่จำเป็ต้องพึ่งธงโลหิต นอกจากนี้อาหยานยังจำเป็ต้องใช้สภาพแวดล้อมภายในธงโลหิตช่วยประคองอาการ หากข้าใช้ธงโลหิตดูดศัตรูเข้าไปด้านใน มันจะยิ่งส่งผลร้ายต่อเขา ข้าจึงปล่อยมันไว้ที่นี่"
เจียงเฉินโบกมือของเขา เขาไม่ได้นำธงโลหิตไปกับเขาด้วย ฮันหยานถูกผนึกไว้ภายในธง หากเขาใช้มันโจมตีศัตรู มันจะยิ่งส่งผลเสียต่อฮันหยาน นอกจากนี้เป้าหมายของเขาคือหมูป่าหนามอัคคีที่ทรงพลัง หากธงโลหิตได้รับความเสียหายระหว่างการต่อสู้ มันจะเป็อันตรายต่อชีวิตฮันหยาน
นอกจากนี้ การทิ้งเยี่ยนเฉินหยวี่และฮันหยานไว้ในนิกายเซวียนอี้ ย่อมปลอดภัยกว่าอยู่ใกล้ตัวเขา การเดินทางไปยังแคว้นเฉียนนั้นยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน การที่จะพาพวกเขาไปด้วยเป็ความคิดที่แย่มาก
ความจริง หลังจากที่เจียงเฉินได้เรียนรู้ทักษะเพลิงัแท้จริงและฝ่ามือัแท้จริง ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มมากขึ้น และสิ่งนี้ทำให้เขาเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
"ตามใจเ้า"
หวงต้าแกว่งหางของมัน
"เื่นี้จะมัวช้าอยู่มิได้ ตอนนี้พวกเราต้องออกเดินทางสู่แคว้นเฉียนแล้ว"
หลังจากพูดเช่นนั้น เจียงเฉินได้บินขึ้นมุ่งหน้าไปยังแคว้นเฉียน ภารกิจในแคว้นเฉียนครั้งนี้มิใช่เื่ง่าย ศัตรูของเขาแข็งแกร่งอย่างมาก เพื่อที่จะเอาดวงจิตอสูรหมูป่าหนามอัคคีมาให้ได้ เขาจำเป็ต้องวางแผน
หวงต้าเห่าหอน จากนั้นมันได้แปรเปลี่ยนเป็ลำแสงสีทองและไล่ตามหลังเจียงเฉินไป เ้าหมานี่ไม่สามารถอยู่เป็สุขได้ หากไม่มีเื่ตื่นเต้นสำหรับมัน มันต้องเป็บ้าอย่างแน่นอน การเดินทางไปต่อสู้กับหมูป่าหนามอัคคีที่หุบเขาสายหมอก ได้ทำให้มันรู้สึกตื่นเต้น
"เ้าหนู ดาบหักของข้าล่ะ?"
หลังจากที่ออกจากนิกายเซวียนอี้ได้ไม่นาน หวงต้าได้ถามเจียงเฉินถึงดาบหักของมันอย่างเร่งรีบ นี่พิสูจน์ได้ว่าดาบหักสำคัญกับมันมากแค่ไหน
"หวงต้า เ้าบอกข้าหน่อยว่าดาบหักของเ้าเป็สมบัติประเภทไหน?"
ดวงตาของเจียงเฉินส่องประกายขึ้น เขาสนใจในดาบหักมาก บางสิ่งที่แม้แต่เขาก็ไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร แน่นอนมันได้ดึงดูดความสนใจของเขา
"ข้าไม่รู้เหมือนกัน แต่ความสามารถดั้งเดิมของข้าสามารถััถึงเอกลักษณ์เฉพาะของสมบัติใดๆได้ ดาบหักนี้ย่อมไม่ใช่สิ่งที่มาจากดินแดนแห่งนี้ แม้ว่ามันจะหัก แต่ไม่อาจดูถูกมันได้ ข้ามีสายเืของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ นั่นเป็เหตุผลว่าทำไมข้าถึงสามารถปลดปล่อยพลังของมันออกมาได้"
หวงต้าไม่ได้ปิดบังอะไรกับเจียงเฉินเวลานี้ มันบอกเจียงเฉินในทุกสิ่งที่มันรู้เกี่ยวกับดาบหักเล่มนั้น เื่ต้นกำเนิดของดาบหักนี่ มันรู้ไม่มากนัก
การล่าสมบัติ เป็หนึ่งในความสามารถดั้งเดิมของหวงต้า ตราบที่มันยังมีสมบัติหายากและล้ำค่า มันก็จะสามารถััถึงของเ่าั้ได้ มันสามารถถึงความหายากของสมบัติจากความแรงของััมันได้ ความสามารถดั้งเดิมนี้ผิดปกติยิ่งนัก
"ไม่ใช่สิ่งที่มาจากดินแดนนี้ แสดงว่ามันได้ร่วงหล่นมาจากโลกเซียน?"
เจียงเฉินพึมพัมกับตัวเอง เขาไม่สงสัยในคำพูดของหวงต้า หากต้นกำเนิดของดาบหักมาจากภายในโลกต้นกำเนิดเซียน เขาก็จะสามารถบอกได้ทันที
หากดาบหักเป็สิ่งของจากโลกเซียนจริงๆ มันก็เป็สมบัติที่หายากอย่างมาก เจียงเฉิน้าที่จะไปโลกเซียนมาโดยตลอด โลกต้นกำเนิดเซียนเป็แค่เพียงดินแดนด้อยค่าในยุคา การเชื่อมต่อระหว่างต้นกำเนิดเซียนกับโลกเซียนได้ถูกปิดผนึกโดยสมบูรณ์
มันได้ปิดผนึกเส้นทางสู่โลกเซียนทั้งหมดในโลกต้นกำเนิดเซียน เมื่อยอดนักบุญทั้งหลายที่ได้ก้าวถึงจุดสูงสุด พวกเขาจะอยู่ใน่เวลาที่จะเข้าสู่โลกเซียน และเจียงเฉินก็เป็หนึ่งคนที่อยู่ใน่เวลานั้น นั่นเป็เหตุว่าทำไมเขาถึงได้ใช้ดาบของเขาฟาดฟันต่อ์ เปิดประตูเข้าสู่โลกเซียน แต่น่าเสียดาย ที่เขาไม่สามารถข้ามผ่านสู่โลกเซียนได้
นี่คือสิ่งที่เจียงเฉินเสียใจมากที่สุดในชีวิตที่แล้ว ในชีวิตนี้เขามุ่งมั่นจะตัดผ่านไปยังโลกเซียน เขาตั้งใจแน่วแน่ที่จะขจัดความเสียใจของเขาออกไป
"เ้าหนู ส่งดาบนั่นคืนบิดาเร็วเข้า ของสิ่งนี้อยู่ในมือเ้า มันไร้ค่า"
หวงต้าเตรียมพุ่งกระโจนใส่เจียงเฉิน
"เอาคืนไป เ้าหมาขี้งก"
เจียงเฉินโยนดาบหักคืนหวงต้า เขาลองใช้มันอยู่หลายหน แต่เขาไม่อาจปลดปล่อยพลังของมันออกมาได้ นั่นก็หมายความว่าเขามีระดับการบ่มเพาะพลังไม่เพียงพอที่จะใช้มัน มีเพียงหวงต้าเท่านั้นที่สามารถใช้ดาบหักนี่ได้
หวงต้าอ้าปากกว้าง และกลืนดาบหักเข้าไปในทันที ท้องของหวงต้าเปรียบเสมือนมิติเก็บของขนาดใหญ่ มันจึงกล้าที่จะกลืนกินทุกสิ่ง
"เ้าหนู ข้าได้ยินมาว่าหมูป่าหนามอัคคีมีระดับการบ่มเพาะที่แข็งแกร่ง เป็ถึงสัตว์อสูรแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลางระดับสูงสุด และนั่นเป็เหตุว่าทำไมมันถึงสามารถอาณาเขตทั่วทั้งหุบเขาโดยไม่มีผู้ใดกล้าท้าทายมัน เ้าพอจะมีแผนที่จะต่อกรกับมันหรือไม่?"
หวงต้าถามออกมา
"พวกเราสามารถทำได้เพียงใช้ความคิดของพวกเราในการต่อกรกับหมูป่าหนามอัคคี พวกเราไม่สามารถใช้กำลังสู้กับมันได้ ด้วยระดับการบ่มเพาะของพวกเราในปัจจุบัน ถึงแม้ว่าจะร่วมมือกัน เมื่อเผชิญหน้ากับหมูป่าหนามอัคคี ไม่มีโอกาสชนะแม้แต่น้อย และเป็การพาตัวของพวกเราไปตาย ในตอนนี้ข้ายังไม่มีแผนใดๆ พวกเราทำได้แต่เพียงมุ่งหน้าไปเท่านั้น ไปถึงแคว้นเฉียนก่อนแล้วค่อยพูดกันใหม่"
เจียงเฉินยักไหล่ ในตอนนี้เขายังไม่รู้เื่เกี่ยวกับแคว้นเฉียนและหุบเขาสายหมอก และเขายังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับหมูป่าหนามอัคคี ไม่มีทางที่เขาจะสามารถคิดหาทางจัดการหมูป่าหนามอัคคีได้ในทันทีทันใด
แคว้นเฉียนและแคว้นฉีเป็แคว้นเพื่อนบ้านกัน ในทวีปตะวันออกมีแคว้นต่างๆอยู่มากมาย และแคว้นลำดับท้ายๆอย่างแคว้นเฉียนและแคว้นฉี มีขุมกำลังที่แข็งแกร่งใกล้เคียงกัน
แม้ว่าจะเป็แคว้นเพื่อนบ้าน แต่บริเวณชายแดนระหว่างแคว้นเฉียนและแคว้นฉีมีพื้นที่รกร้างขนาดใหญ่กั้นอยู่ ซึ่งเป็สิ่งที่พวกเขาได้แยกออกจากกัน มันได้พาเจียงเฉินและหวงต้าบินตลอดทั้งวันก่อนที่พวกเขาจะข้ามพื้นที่รกร้างไปถึงในแคว้นเฉียน
"อย่ามัวเอื่อยเฉื่อย รีบไปที่หุบเขาสายหมอกให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้"
หลังจากพูดเช่นนั้น เจียงเฉินก็บินตรงไปยังทิศทางของหุบเขาสายหมอก
หุบเขาสายหมอก มีพื้นที่โดยรอบกว่าหนึ่งหมื่นลี้ มันเป็แนวเขาขนาดใหญ่มีรูปร่างคล้ายกับั และถูกปกคลุมด้วยหมอกเลือนลางตลอดทั้งวัน นั่นเป็เหตุว่าทำไมมันถึงได้ชื่อว่าหุบเขาสายหมอก มีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งจำนวนนับไม่ถ้วนอาศัยภายในและมันยังเป็ดินแดนที่อุดมสมบูรณ์อย่างแท้จริง
เมื่อเจียงเฉินกับหวงต้าได้มาถึงรอบนอกของหุบเขาสายหมอก เวลาได้ล่วงเลยมาถึง่บ่าย วิสัยทัศน์ของพวกเขา แม้พวกเขาอยู่ในท้องฟ้าและไกลจากหุบเขา พวกเขายังสามารถเห็นฝูงชนมายมากอยู่ภายนอกหุบเขา
"มีคนมากมายอยู่ที่นี่ ข้าจะไปตรวจสอบสถานการณ์ของหุบเขาสายหมอกก่อน"
หลังจากพูดจบ เจียงเฉินและหวงต้าได้ลงมาที่รอบนอกหุบเขาสายหมอก เจียงเฉินสามารถเห็นผู้คนเดินเข้าออกจากหุบเขาสายหมอก หลายคนต่างก่นด่าและก่นสาปแช่งออกมาด้วยความไม่พอใจ
"มารดามันเถอะ!มันน่าโมโหจริงๆ!นิกายชิงิคิดว่าพวกมันแข็งแกร่งแล้วพวกมันจะทำอะไรก็ได้ที่พวกมัน้าหรืออย่างไร?พวกมันไม่คิดจะให้ขุมกำลังเล็กๆอย่างพวกเราอยู่รอดได้งั้นรึ?"
"ฮึ่ม!หุบเขาสายหมอกเป็หุบเขาของแคว้นเฉียน เมื่อมันเข้ามาก็เป็อาณาเขตของมันเช่นนั้นหรือ?ถึงได้มาขวางทางพวกเราไม่ให้เข้าไปข้างในหลายวัน? นี่มันไม่เกินไปหน่อยหรือ!"
"ใช่แล้ว ศิษย์นิกายชิงิมาฝึกฝนในหุบเขาสายหมอกทุกเดือน และทุกครั้งพวกมันกีดกันทุกคนที่จะเข้าไปข้างใน! ขบวนรถม้าจำนวนมากต่างถูกมันขับไล่!"
ผู้คนเ่าั้ทั้งหมดมีท่าทีโกรธแค้นและไม่พอใจอย่างมาก แต่ไม่มีใครกล้าพูดเสียงดัง ชัดเจนว่าพวกเขาเกรงกลัวนิกายชิงิ
เจียงเฉินได้ยินในสิ่งที่พวกเขาพูดออกมา แต่เขายังไม่สามารถเข้าใจได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาจึงเรียกชายคนหนึ่งที่ผ่านมา
"พี่ชาย ข้าขอถามอะไรพวกท่านสักหน่อยได้ไหม?"
เจียงเฉินมายืนต่อหน้าชายคนนั้น ตอนนี้ชายคนนั้นอารมณ์ไม่ดี หลังจากที่เขาได้เห็นชายหนุ่มมายืนขวางทางเขา เขาก็โบกมือของเขาและพูดว่า
"ไสหัวไป ตอนนี้ข้าอารมณ์ไม่ดี!"
"พี่ชาย ข้าเพิ่งจะมาแคว้นเฉียน ข้าอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับสถานที่แห่งนี้"
ขณะที่พูดเช่นนั้น เจียงเฉินได้นำเม็ดยามนุษย์หยวน ยี่สิบเม็ดและวางพวกมันลงที่ฝ่ามือของชายคนนั้น เมื่อชายคนนั้นเห็นเม็ดยา ดวงตาของเขาก็ส่องประกายขึ้น
"น้องชาย...เช่นนั้นนี่คงเป็ครั้งแรกที่เ้ามาแวะเวียนที่แคว้นเฉียนสินะ! ไม่ต้องกังวลไป หากเ้าอยากรู้เื่อะไรถามข้ามาได้เลย ไม่มีสิ่งใดที่ข้าไม่รู้!"
ท่าทีของชายคนนั้นเปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็หลังมือในทันที มุมปากของเจียงเฉินยกขึ้น มีเงินสามารถไปได้รอบโลก เขามาที่หุบเขาสายหมอก และเขา้าข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้และหมูป่าหนามอัคคี ตลอดจนนิกายชิงิที่มาปิดกั้นหุบเขาสายหมอก
