หมาล่าเนื้อกินศพ ระดับ 41 เนื่องจากกินซากศพเป็อาหารตลอดทั้งปีทำให้เขี้ยวได้รับพิษที่เข้มข้นจากพิษของซากศพติดมาด้วย เมื่อถูกกัดเพียงครั้งเดียวผลที่ตามมาคงไม่ต้องพูดถึง นางอาย ระดับ 42 เป็ลิงที่มีขนาดตัวเล็กใกล้เคียงกับแมวร่างเป็สีเขียว กรงเล็บทั้งสิบคมกริบไม่ต่างจากใบมีดเคลื่อนที่ได้รวดเร็วปานสายฟ้า เป็นักฆ่าในป่าที่รับมือได้ยากยิ่งนัก ม้าป่าแห่งหุบเขาฉางไป๋ระดับ 43 เคลื่อนที่ว่องไว มีความเร็วค่อนข้างมาก ชอบโจมตีใส่ผู้คนด้วยการดีดหลังเท้าใส่เนื่องจากมีความแข็งแรงค่อนข้างมาก เมื่อถูกเตะเพียงครั้งเดียวกล้ามเนื้อเส้นเอ็นฉีกขาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สามารถใช้เวทธาตุน้ำแข็งได้ าากระรอกั์ระดับ 44 เป็เผ่าพันธุ์ที่แตกต่างจากกระรอกทั่วไปไม่กินลูกสน แต่เปลี่ยนมากินเนื้อแทน ร่างกายสูงใหญ่ราวสองเมตรชำนาญในการใช้เวทธาตุลม เสือดาวหมอกั์ตาม่วงระดับ 45 เคลื่อนไหวได้รวดเร็วราวสายฟ้า จู่โจมไร้สุ้มเสียงถนัดในการซุ่มโจมตี ทำให้หลบหนีจากการไล่ล่าได้ยาก
มอนสเตอร์หลายหมื่นตัวนี้ไม่ต่างจากคลื่นที่โหมกระหน่ำกระแทกครืนในเวลาไม่นานก็เต็มพื้นที่จนแทบไม่เหลือช่องไว้ให้หายใจ เนื่องจากคราวนี้ไม่มีกับดักจึงทำให้คลื่นการโจมตีพุ่งเข้ามาได้อย่างรวดเร็ว
"เตรียมตัว... ยิง" ลมกระจ่างจันทร์แรมะโด้วยเสียงอันดัง
ลูกธนูนับหมื่นถูกยิงออกไปราวกับห่าฝน
มอนสเตอร์นับร้อยล้มลงพร้อมกับเสียงร้องด้วยความเ็ปดูเหมือนว่ามอนสเตอร์เพียงแค่ได้รับาเ็ แต่ไม่ถึงกับตายแม้ร่างจะเต็มไปด้วยลูกธนู แต่พวกมันก็ยังคงพุ่งเข้าใส่ทั้งอย่างนั้น
"โอ๊ะ ดูท่าไม่ดีแล้ว"เฉ่าเสียเสี่ยวมู่โถวอุทานขึ้น
"ไม่ต้องวิตกไป"ลมกระจ่างจันทร์แรมยิ้มก่อนจะะโขึ้นว่า "เปลี่ยนเป็ลูกธนูฉมวกเตรียมพร้อม... ยิงได้"
ลูกธนูฉมวก : ยาวสองฉื่อเก้าชุ่นหัวลูกศรหล่อขึ้นจากแร่แพลลาเดียม กว้างหนึ่งชุ่นสี่เฟิน ยาวหนึ่งชุ่นเก้าเฟินแบ่งออกเป็ห้าแฉก แต่ละแฉกจะประกอบด้วยเงี่ยงฟันปลา มีความแหลมคมเป็อย่างมากก้านธนูทำจากต้นหลิว ปีกลูกธนูทำจากขนห่านป่าและทาด้วยสีดำ
ด้วยการยิงแบบเดียวกันการโจมตีรอบนี้ค่อนข้างรุนแรงมากพอดู มอนสเตอร์เกือบสองพันตัวล้มลงส่วนที่เหลือก็ได้รับาเ็ต่างก็ส่งเสียงร้องออกมาราวกับจะทนไม่ไหวทุกการเคลื่อนไหวส่งผลให้เืไหลออกมาจากาแเป็จำนวนมาก
ด้วยการออกแบบที่เป็รูปแบบเฉพาะลูกธนูฉมวกจึงส่งผลให้เืไหลไม่หยุด เนื่องจากเต็มไปด้วยเงี่ยงแหลมยิ่งเคลื่อนไหวมากขึ้นเท่าไร มันก็จะยิ่งเกาะยึดแน่นมากขึ้นเท่านั้นสุดท้ายก็เืไหลออกมามากจนถึงแก่ความตาย
"สุดยอดดด..."เฉ่าเสียเสี่ยวมู่โถวถึงกับอุทานออกมา
เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่ลมกระจ่างจันทร์แรมจะมัวมาถ่อมตนก่อนจะออกคำสั่งให้โจมตีต่อไป กำแพงเมืองนั้นมีความยาวหลายกิโลเมตรซึ่งไม่ใช่เื่ง่ายเลยที่จะป้องกัน ถ้าเขาประมาทแม้เพียงนิดเดียวก็อาจถูกมอนสเตอร์โจมตีเข้าใส่ได้ นี่เป็แนวป้องกันด่านแรกซึ่งเขาเองไม่อยากให้เกิดเื่ผิดพลาดขึ้น
ในขณะที่ลูกธนูยังคงถูกยิงจากด้านหน้าของเมืองลงไปอย่างต่อเนื่องมอนสเตอร์ที่อยู่บนพื้นต่างก็ล้มลง อาวุธ และ อุปกรณ์ดรอปกระจายออกมาเต็มพื้นที่เหรียญเงินและเหรียญทองแดงส่องประกายระยิบระยับให้เห็นไปทั่ว บางครั้งก็จะมองเห็นแสงสีทองซึ่งส่องประกายจากเหรียญทองอยู่บ้าง
ถึงแม้มอนสเตอร์ด้านหน้าจะตายลงมอนสเตอร์ที่อยู่ด้านหลังก็ยังคงรุกคืบขึ้นหน้ามาเป็ระยะทำให้ระยะทางเริ่มหดสั้นลงทีละน้อย
240 เมตร
230 เมตร
220 เมตร
"ทุกคนจงฟังคำสั่ง เปลี่ยนเป็ลูกธนูเหล็กเตรียมตัว... ยิง"ไม่มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นให้เห็นบนใบหน้าของลมกระจ่างจันทร์แรมดวงตาของเขากำลังจดจ่ออยู่กับสถานการณ์ตรงหน้า
ลูกธนูเหล็ก :ลักษณะคล้ายกับลูกธนูทั่วไป แต่มีขนาดเล็กและคมกว่ามีเงี่ยงปลายแหลมขนาดเล็กติดอยู่สองด้าน โดยลูกธนูนั้นทำขึ้นมาจากเหล็กกล้า มีลักษณะค่อนข้างแบนทำให้สามารถทะลุทะลวงสูงและก่อให้เกิดความเสียหายที่มากขึ้น
ลูกธนูร่วงหล่นราวกับฝนโปรยทำให้มอนสเตอร์พากันล้มลง โดยเฉพาะาากระรอกั์ที่รูปร่างสูงใหญ่ตัวนั้นเมื่อได้รับความเ็ปก็รีบร้อนปล่อยเวทธาตุลมออกมาไม่เพียงแต่จะโจมตีไม่ถูกศัตรู แต่กลับทำให้เพื่อนพ้องต้องาเ็เป็จำนวนมากอีกด้วยแต่อย่างน้อยเื่นี้ก็ส่งผลดีกับพวกเขา และเวทธาตุลมนั้นมีผลกับความรุนแรงของลูกธนูหลังจากที่หลีกเลี่ยงมานาน เหล่านักธนูก็ได้จัดการหลังจากดูแลมาเป็อย่างดีเมื่อสิ้นสุดการโจมตีด้วยลูกธนูราวกับห่าฝน ทั้งหมดก็ตายเรียบจนแทบจะสูญพันธุ์
ในที่สุดเมื่อเข้ามาถึงระยะสองร้อยเมตรมอนสเตอร์ระลอกนี้ก็ถูกกำจัดจนหมดสิ้น แต่ดูเหมือนว่าระลอกที่สามก็ได้มาถึงแล้ว
"ไม่นะ...มอนสเตอร์นั้นเข้ามาเร็วเกินกว่าที่ลมกระจ่างจันทร์แรมจะต้านไหว"ฉินโจ้วเอ่ยขึ้นพลางขมวดคิ้ว "ถ่ายทอดคำสั่งลงไป เริ่มปฏิบัติการ ''ทำลายซากศพ''
"มันไม่เร็วไปหรือที่จะ ''ทำลายซากศพ'' ในตอนนี้มอนสเตอร์ที่อยู่ด้านหลังดูแล้วไม่น่าจะจัดการได้ง่าย"จอมยุทธ์ย่ำเท้าไปสุดขอบฟ้าถามขึ้นด้วยความสงสัย
"ไม่ต้องกังวล" ฉินโจ้วเอ่ยขึ้นปราศจากคำอธิบายใดๆโดยไม่จำเป็
บริเวณด้านข้างของสนามรบมีผู้เล่นยืนจับกลุ่มอยู่เป็จำนวนไม่น้อย เนื่องจากถูกดึงดูดจาก ''าป้องกันเมือง'' เพราะการต่อสู้ลักษณะนี้ค่อนข้างหาได้ยากทำให้ผู้คนเป็จำนวนไม่น้อยยอมทิ้งเวลาในการเพิ่มระดับเพื่อมาชม นอกจากพวกเขาเหล่านี้ยังมีสมาชิกที่แข็งแกร่ง และผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในลำดับรายชื่อมาอีกด้วย
สำหรับกลุ่มผู้นำระดับสูงนี่ถือเป็โอกาสดีที่สุดในการเฝ้าสังเกตความแข็งแกร่งของคู่แข่งของพวกเขาแน่นอนว่าไม่อาจพลาดได้ นอกจากนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญที่หาตัวจับได้ยากคนเหล่านี้ล้วนมาชมเพื่อความบันเทิง แต่ในส่วนของมอนสเตอร์ที่โจมตีเมืองนั้นมีสิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นก็คืออัตราการดรอปของไอเทมและค่าประสบการณ์นั้นได้เพิ่มขึ้นเป็สองเท่าซึ่งนี่คือโอกาสที่หาได้ค่อนข้างยาก
ในบางครั้งจะเห็นผู้เล่นบางคนถือดวงตาอิเล็กทรอนิกส์วิ่งไปๆมาๆ นั่นก็คือ ตากล้องมือสมัครเล่น แต่ส่วนมากมักจะเป็นักข่าวแน่นอนว่ามีผู้เล่นธรรมดาทั่วไปรวมอยู่ด้วย ตราบใดที่พวกเขาได้ข้อมูลก่อนผู้อื่น ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สามารถขายทำเงินได้และนี่ยังเป็โอกาสที่คนทั่วไปสามารถหารายได้พิเศษอีกด้วยดวงตาอิเล็กทรอนิกส์นั้นเป็อุปกรณ์ชนิดเดียวที่ระบบมี และทุกคนสามารถหาซื้อมาใช้ได้
ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ มีกลุ่มผู้เล่นที่แตกต่างกันยืนรวมกันอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่บอกว่าดูแตกต่างกันนั้นไม่ใช่ว่ารูปร่างของพวกเขาดูแปลกประหลาดตรงกันข้ามพวกเขาล้วนเป็ชายที่หน้าตาดี แต่งกายกันตามสบายถ้าจะให้บอกว่าเป็ดาราดัง ทุกคนก็คงจะไม่รู้สึกสงสัย ส่วนใหญ่เป็ผู้เล่นอายุไม่มากราว18-19 ปี ซึ่งเต็มไปด้วยความมั่นใจที่คนวัยเท่ากันล้วนหามีไม่
ผู้ที่เป็ผู้นำหน้าตาหล่อเหลาเป็อย่างยิ่งผิวขาวเนียนราวกับน้ำนม แต่งกายชุดนักรบ ได้ยินเขาพูดกับคนอื่นว่า "พี่สามมอนสเตอร์ของระลอกการโจมตีจะมาถึงที่ด้านในของกำแพงหรือไม่ ?"
"เป็ไปไม่ได้หรอกฉินหวังกรุ๊ปยังมีอาวุธที่สามารถกำหนดโชคชะตาได้อยู่ นักฆ่าจำนวนมากก็ยังไม่ได้ลงมือจะมีโอกาสแตะกำแพงเมืองหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ว่าแต่ทำไมถึงถามอย่างนั้นล่ะน้องรอง" น้องรองที่พูดถึงนั่นก็คือ ผู้ใช้เวทคนหนึ่งในขณะที่พูดนั้นก็โบกไม้เท้าเวทไปมา ท่าทางดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
"น่าเบื่อ... เปลี่ยนเื่เถอะฉันคิดว่านายน่าจะเป็คนที่โง่เขลาสุดในบรรดาพี่น้องไม่คิดเลยว่าจะยังมีความฉลาดอยู่บ้าง" พี่ใหญ่ถึงกับหัวเราะร่า
"ไอ้เวร..."ก่อนที่ผู้ใช้เวทจะชูนิ้วกลางให้เขา
"ดูนั่นสิ...ซากศพที่อยู่ในกับดักหายไปหมดแล้ว" พี่สี่อุทานขึ้นก่อนจะขัดจังหวะการถกเถียงของพวกเขาคนที่สี่นั้นเป็หัวขโมย มีความสามารถในการสังเกตสังกาเฉียบคมเป็อย่างที่สุด
เมื่อทั้งคู่หันกลับไปดูก็เป็ไปตามที่คาดเอาไว้ บรรดาซากศพทั้งหลายที่มีอยู่เต็มหลุมลึกนั้นเพียงพริบตาก็กลายเป็ว่างเปล่าซากศพที่มีอยู่เต็มเหวกับดักทั้งห้ากลับหายวับไปในพริบตา
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น?"น้องสามถามขึ้นด้วยความใ
ไม่มีใครสามารถตอบคำถามของเขาได้ เวลานี้ซากศพของมอนสเตอร์ที่โจมตีเมืองนั้นยังคงอยู่ั้แ่่เวลาเริ่มโจมตีเมืองเกือบชั่วโมง เื่นี้ทุกคนนั้นก็ต่างรู้ดี ถ้าไม่ใช่ระบบเป็คนจัดการแล้วถ้าไม่ใช่เพราะเหตุนี้ แล้วจะเกิดจากสาเหตุอื่นใดได้อีกหรือ?
"นี่เป็เวท ''การกัดกร่อน''แห่งธาตุมืด" จู่ๆ พี่คนที่ห้าที่เงียบอยู่นานก็เอ่ยขึ้น
"ไม่น่าจะใช่ ''การกัดกร่อน''นั้นจำเป็ต้องใช้เวลา มันไม่น่าจะเร็วแบบนี้ได้" น้องหกที่อายุน้อยที่สุดเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย
"นี่ต้องเป็ ''การกัดกร่อน'' อย่างแน่นอนดูจากควันสีดำที่ลอยอยู่้านั่น ซึ่งนี่เป็ลักษณะของเวท ''กัดกร่อน'' แน่" พี่ห้ายืนยันหนักแน่น
"มีควันดำจริงด้วย" พี่สี่ยืนยันอีกคน
"มันน่าจะเป็เวท ''กัดกร่อน''แต่เพิ่มเติมด้วยยาเวทมนตร์บางประเภทที่ทำให้เกิดผลเช่นนี้"พี่รองคาดเดาขึ้น
ปรากฏการณ์ที่น่าอัศจรรย์นี้ดึงดูดความสนใจผู้เล่นคนอื่นๆสุดท้ายแล้วพวกเขาก็สรุปได้ว่า เป็เวท ''กัดกร่อน'' และมียาเวทบางชนิดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนเพิ่มเข้าไปเพื่อย่อยสลายซากศพได้ในทันที
และดวงตาอิเล็กทรอนิกส์ก็จับภาพเหตุการณ์นี้ไว้ได้อย่างครบถ้วน
"ดูนั่นสิ ฉินหวังกรุ๊ปส่งนักฆ่าออกไปแล้ว"พี่สามะโขึ้น
"มันต้องเป็แบบนั้นอยู่แล้ว มีอุปกรณ์หล่นอยู่มากมายเป็จำนวนไม่น้อยจะเหลือไว้ให้คนนอกได้อย่างไรกัน" พี่รองเอ่ยถึงพวกคนนอกอย่างไม่ได้ใส่ใจ
บนกำแพงเมือง มีเงาดำค่อยๆ ปรากฏขึ้นอย่างช้าๆนั่นคือ ผู้นำกองพันเงา ''หายไปกับสายลม'' คนผู้นี้เป็ผู้ใช้เวทธาตุมืดที่มีทักษะในการลอบสังหารที่ทรงพลังมากและยังเป็บุคคลที่ลึกลับมากอีกด้วย
''หายไปกับสายลม'' เดินเข้าไปด้านหลังของฉินโจ้วก่อนจะเอ่ยด้วยความเคารพ"รายงานหัวหน้า ภารกิจที่ได้รับมอบหมายนั้นสำเร็จลงเรียบร้อย กับดักทั้งห้าสามารถนำมาใช้งานได้ใหม่ในส่วนของ ''ปฏิบัติการเก็บกวาด'' ก็เริ่มลงมือแล้วเช่นกันมั่นใจได้ว่าสิ่งของที่มีค่าเ่าั้จะไม่สูญหายไปอย่างแน่นอน"ทุกครั้งที่มีาการป้องกันเมือง มักจะมีผู้เล่นแอบลักลอบฉกฉวยไปอย่างรวดเร็วอุปกรณ์ที่ทรงพลังและสิ่งของที่มีค่าราคาแพงจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถเก็บขึ้นมาได้ทัน เมื่อถูกผู้อื่นเดินเข้ามาฉกฉวยไปก็ทำให้กลุ่มผู้นำทั้งหลายต่างรู้สึกโกรธแค้น แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
"พวกนายทำได้ดีมากการนำกับดักกลับมาใช้ใหม่นั้นจะช่วยลดแรงกดดันให้กับลมกระจ่างจันทร์แรมได้ถึง 20%เลยทีเดียว" ฉินโจ้วกล่าวขึ้นด้วยความชื่นชม
"ทั้งหมดนี้ก็เป็เพราะผงละลายศพที่หัวหน้าเป็คนนำมามอบให้มันใช้งานได้ง่าย ผู้น้อยคงไม่กล้ารับความดีความชอบไว้ถ้าต้องหวังพึ่งผู้ใช้เวทธาตุมืดเพียงร้อยคน คาดว่าคงต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าชั่วโมงในการจัดการกับซากศพพวกนี้ถ้าเป็ดอกไม้จีนก็คงร่วงโรยหมดแล้ว ถ้าอาศัยผงละลายศพนี้การป้องกันเมืองก็กลายเป็เื่ที่ง่ายขึ้นมาก" หายไปกับสายลมพูดขึ้น
"น่าเสียดายนี่เป็สิ่งเดียวที่ผมพอจะช่วยได้" ฉินโจ้วกล่าวพลางยิ้มขื่นๆเื่นี้คงต้องขอบคุณหลั๋วอีอีแล้ว ถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือจากเธอสิ่งนี้ก็คงไม่สามารถเกิดขึ้นได้
เวลานี้ที่ด้านนอกของเมืองบางครั้งจะมองเห็นเงาดำวูบวาบเคลื่อนไหวไปมาก่อนที่อุปกรณ์ชิ้นที่หล่นอยู่ที่พื้นจะหายไป นั่นเป็คนที่กองพันเงาส่งไปเพื่อเก็บกวาดอุปกรณ์ทั้งหลายในทุกสาขาอาชีพนั้น จะมีเพียงขโมยและมือสังหารเท่านั้นที่จะสามารถพรางตัวได้ทำให้สมาชิกในหน่วยเก็บกวาดครานี้จึงมีเพียงแค่นักฆ่าและหัวขโมยเท่านั้น
การเก็บกวาดสนามรบดูเหมือนจะเป็เื่ง่ายแต่อันที่จริงกลับมีอันตรายมาก เพราะมีมอนสเตอร์ที่อยู่กันอย่างแออัดเป็จำนวนไม่น้อยถ้าประมาทเพียงนิดก็สามารถนำไปสู่ความตายได้ทันที นี่ไม่ใช่เื่น่าขันแต่อย่างใดถึงแม้จะล่องหนได้ แต่มันก็เป็เพียงการล่องหน ไม่ใช่การหายไปอย่างไรร่องรอยการเก็บกวาดสนามรบมักจะเริ่มโดยใช้เวลาไม่นานนัก แต่จำนวนผู้เล่นที่ติดอยู่ในวงล้อมจนเสียชีวิตนั้นมีมากถึงสามเท่าตัว
นอกจากนี้ในขณะที่กำลังเก็บสิ่งของนั้นผลของการล่องหนก็จะลดลงจนเกือบจะถึงระดับต่ำสุด นั่นคือ่เวลาที่อันตรายที่สุดเพราะมอนสเตอร์เองคงจะไม่ใจดีนัก เมื่อถูกพบเจอเมื่อไรพวกมันก็จะเริ่มโจมตีอย่างบ้าคลั่งทันที
เนื่องจากเต็มไปด้วยความยากลำบากดังนั้นทำให้ของมีค่าหลายชิ้นไม่ได้ถูกเก็บมาด้วย เมื่อเวลาผ่านไป่หนึ่งสิ่งของเ่าั้ก็หายไปโดยไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าใครเป็คนหยิบไป ซึ่งเป็สิ่งที่น่ารำคาญใจเป็อย่างยิ่งใน่ที่มอนสเตอร์บุกโจมตีเมืองนั้นทุกคนต่างก็รู้ดีว่าเป็การทำงานที่ไม่ต่างจากเอาเงินไปเผาทิ้งซึ่งอัตราการดรอปของไอเทมที่สูงขึ้นนั้นพอจะชดเชยสิ่งที่สูญเสียไปได้บ้างแต่ถ้าต้องถูกผู้อื่นหยิบไป ทำให้ในใจรู้สึกโกรธแค้นขึ้นมาเหล่าผู้เล่นที่รอฉกฉวยสิ่งของเหล่านี้ล้วนเข้าใจดี ดังนั้นพวกเขาจึงต้องทำด้วยความระมัดระวังโดยหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกจับได้ เพราะถ้าไม่อย่างนั้นแล้วผลลัพธ์เพียงสิ่งเดียวนั้นก็คือ การถูกฆ่าตาย
ทันทีที่มอนสเตอร์ระลอกถัดไปปรากฏพื้นดินก็เริ่มสั่นะเืราวกับมีคลื่นใต้น้ำโหมซัด
ระดับของมอนสเตอร์ระลอกนี้อยู่ใน่ 46-50ซึ่งมากกว่าระดับเลเวลเฉลี่ยของผู้เล่นทั้งหลายพวกมันทั้งแข็งแกร่งและค่อนข้างตายยากภายใต้การโจมตีด้วยธนูที่ยิงออกไปราวกับห่าฝนแต่ก็ยังคงสามารถรุกคืบเข้ามาได้ทีละก้าวอยู่ดีถึงมอนสเตอร์ที่อยู่แถวหน้าสุดจะตายไปแต่มอนสเตอร์ที่อยู่ด้านหลังก็จะพุ่งเข้าใส่แทนที่เหยียบย่ำศพของพวกเพื่อนพ้องของมันไป ก่อนจะกู่ก้องร้องคำรามขึ้น
การพุ่งเข้าใส่ของมอนสเตอร์นั้นดูบ้าคลั่งเป็อย่างมากดูราวกับว่าพวกมันไม่กลัวตายเลยแม้แต่น้อยแต่ดูเหมือนว่ายังคงรับรู้ได้ถึงความเ็ปเพราะเมื่อมอนสเตอร์ถูกยิงก็ยังคงมีเสียงร้องคำรามให้ได้ยิน
เหล่านักบวชได้มาปรากฏกายขึ้นด้านหน้าของเมืองก่อนจะเริ่มร่ายเวทฟื้นฟูเพื่อฟื้นคืนสภาพพละกำลังของนักธนูให้กลับคืนมาไม่เช่นนั้นผู้เล่นคงไม่สามารถยิงธนูอย่างต่อเนื่องได้อีกแต่ถึงแม้จะไม่มีการสนับสนุน ลูกธนูที่ยิงออกไปก็จะเริ่มสูญเสียพละกำลังไปเมื่อไร้ซึ่งกำลัง ก็จะไม่มีความรุนแรง เมื่อลูกธนูปราศจากความรุนแรงแล้วจะยังสามารถยิงมอนสเตอร์ได้อยู่อีกหรือ?
นักธนูนั้นจำเป็ต้องยิงธนูออกไปเป็เส้นตรงเนื่องจากระยะที่กระชั้นเข้ามาอยู่ที่ 170 เมตรซึ่งระยะทางที่ดีที่สุดสำหรับการยิงธนูออกไปอยู่ที่ราวๆ 190-280 เมตร หลังจากที่นักบวชได้ฟื้นฟูสภาพให้แล้ว ค่าสถานะต่างๆ ของนักธนูก็กลับดีขึ้นมาดังเดิมความรุนแรงของฝนธนูก็ค่อยกลับมาเพิ่มขึ้นทำให้ความเร็วของมอนสเตอร์ที่กำลังเคลื่อนที่มาข้างหน้านั้นเริ่มช้าลง
จาก ''ปฏิบัติการทำลายซากศพ'' เพื่อทำให้กับดักกลับมาใช้งานได้ใหม่อีกครั้ง ก็คร่าชีวิตมอนสเตอร์ไปได้อีกราวหนึ่งหมื่นห้าพันตัวทำให้ระลอกการโจมตีของมอนสเตอร์ครั้งนี้อ่อนแรงลง เมื่อมอนสเตอร์เข้าใกล้ระยะ 150เมตร ทั้งหมดก็ล้วนถูกจัดการด้วยห่าฝนลูกธนู
ยังไม่ทันได้มีโอกาสแม้เพียงแค่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกมอนสเตอร์ระลอกที่สี่ก็มาถึงเสียแล้ว การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป และจะดุเดือดเข้มข้นมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้