เล่มที่ 2 บทที่ 34 มนต์สะกดที่ไม่สมบูรณ์
“รับทราบ ข้าเองก็ไม่ค่อยรู้เื่หมื่นวิชาหมื่นกระบี่เท่าไรนัก…” ศิษย์เฝ้าเวรที่ชื่อหลี่ชิง ย้อนคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา
“ตอนนั้นปราณกระบี่ของหลินเฟยเป็สีขาว ดูไม่ค่อยรุนแรงสักเท่าไร…”
“ปราณกระบี่สีขาว?” ข่งฟางชะงักขึ้นมา ก่อนจะถอยหลังไปหยุดอยู่ตรงจุดที่หลินเฟยเคยยืน
“ปราณกระบี่สีขาวที่ว่านั่นสะบั้นออกจากตรงนี้ใช่หรือไม่?” สิ้นคำถามดังกล่าว เ้าตัวก็ชักกระบี่ฟันออกไป ทำเมุมองศาเดียวกับหลินเฟยอย่างไม่ผิดเพี้ยน
“ใช่แล้ว ศิษย์พี่ข่งช่างยอดเยี่ยมเสียจริง แบบนี้แหละเหมือนเป๊ะเลย…”
“หึหึ…” หลังจากได้ยินคำเยินยอ ข่งฟางก็หัวเราะออกมาเล็กน้อย
“ไม่ใช่ว่าข้าเก่งกาจอะไรหรอก แต่หลี่ฉุนน่ะโง่เกินไปต่างหาก ผู้าุโมีความสามารถล้ำเลิศขนาดนั้น ทว่าศิษย์กลับมีฝีมือเช่นนี้ มิน่าถึงถ่ายทอดแค่วิชากระบี่ไฟอัสนี ทั้งที่สุดยอดวิชาของหุบเขาหมัวเจี้ยนคือคัมภีร์กระบี่เจี้ยนจิงแท้ๆ แต่กลับไม่ถ่ายทอดให้เขา…”
“หา?”
“ตอนนั้นหลินเฟยน่าจะยืนตรงนี้ อยู่ห่างจากหลี่ฉุนไม่ถึงหนึ่งจ้างด้วยซ้ำ ต่อให้หลินเฟยลงมือก่อน ซึ่งทำให้หลี่ฉุนจำเป็ต้องชักกระบี่ต้านรับ แต่ก็ไม่ใช่เื่ใหญ่อะไร เพราะเขาฝึกฝนวิชากระบี่ไฟอัสนีเชียว หากมันสะบั้นอัสนีไฟโลกันตร์ขึ้นมา ต่อให้เป็ข้าเอง ก็ยังต้องถอยออกห่าง แล้วตอนนั้นเ้าหลี่ฉุนมันจะถอยออกมาเพื่ออะไร ดูตรงนี้สิ…”
เมื่อพิจารณามาถึงบริเวณที่กำลังยืนอยู่นั้น ข่งฟางก็ย้ายตำแหน่งตัวเองไปยืนตรงจุดที่หลี่ฉุนเคยยืน จากนั้นก้าวถอยหลังและอธิบายให้หลี่ชิงฟังเพิ่มอีก
“หากข้าเดาไม่ผิด หลี่ฉุนน่าจะก้าวถอยมาตรงนี้ พอแน่ใจว่าตัวเองปลอดภัยแล้ว จึงโคจรพลังใช้วิชากระไฟอัสนี…”
“ใช่ๆ ศิษย์พี่ข่ง…” หลี่ชิงมองข่งฟางอย่างไม่วางตา แววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเลื่อมใส
‘สุดยอด…’
‘ศิษย์พี่ข่งนี่ยอดเยี่ยมไปเลย ต่อให้ไม่ได้เห็นกับตา เพียงเห็นแค่ร่องรอยที่หลงเหลืออยู่เท่านั้น กลับสามารถคาดเดาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำ มันสมองอันฉลาดปราดเปรื่องกับสายตาที่หลักแหลมเช่นนี้...ช่างสมกับเป็ศิษย์เอกของหุบเขาว่านเป่าเสียจริงๆ’
“แต่ว่า…” อยู่ดีๆข่งฟางก็เปลี่ยนสีหน้าย่นคิ้วขมวดลงมา
“ต่อให้ถอยมาถึงจุดนี้อย่างไร หรือแม้แต่พลังทำลายล้างของกระบี่ไฟอัสนีจะแ่เบาเพียงใด แต่ก็ไม่ถึงขนาดถูกปราณกระบี่สีขาวอัดกระเด็นได้หรอก หรือว่าเ้าศิษย์หุบเขาอวี้เหิงนั่น จะบรรลุขั้นมิ่งหุนแล้ว?”
“ไม่น่าจะใช่นะ…” หลี่ชิงส่ายหัว สำหรับเื่นี้เขาค่อนข้างแน่ใจ
“ตอนที่สะบั้นปราณกระบี่นั่น ข้าเห็นกับตา ถึงแม้ปราณกระบี่จะดูพิสดาร แต่ข้ามั่นใจว่าพลังของมันไม่ถึงขั้นมิ่งหุนแน่นอน หรือบางที…”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้หลี่ชิงก็เกิดชะงักไม่ยอมพูดต่อ ราวกับเริ่มไม่แน่ใจว่าควรจะพูดออกไปดีหรือไม่
“บางทีอะไร?”
“บางทีอาจจะยังไม่ถึงขั้นย่างหยวนเลยก็ได้…” หลี่ชิงรำลึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาอีกครั้ง ก่อนจะพยักหน้าอย่างมั่นใจ
“ใช่แล้ว ตอนนั้นข้าเองยังแปลกใจ ต่อให้หุบเขาอวี้เหิงขาดแคลนทรัพยากรเพียงใด แต่อย่างน้อยก็เป็หนึ่งในสิบสองหุบเขา แล้วจะมีศิษย์ที่มีแค่ขั้นบำเพ็ญแต่กลับไร้ฝีมือได้อย่างไรกัน?”
“ยังไม่ถึงขั้นย่างหยวน?”
ได้ยินเช่นนั้นข่งฟางก็ไม่พูดอะไรอีก เอาแต่ก้มหน้าก้มตาครุ่นคิดอะไรบางอย่าง…
สุดท้ายจึงละสายตาไปยังก้อนน้ำแข็งที่ถูกพลังปราณของเขาผนึกอยู่
“ไม่ใช่มีดีแค่ขั้นบำเพ็ญหรอก ปราณกระบี่สีขาวนั่นอาจจะไม่ถึงขั้นย่างหยวนก็จริง แต่มันมีความล้ำลึกยากแท้จะหยั่งถึง เกรงว่าข้าเองก็ไม่อาจรับมือได้ ดูน้ำแข็งนี่สิ มันร่วงมาจากกระบี่ของหลี่ฉุน ก็หมายความว่า เวลาที่ทั้งคู่ประมือกัน ปราณกระบี่ของหลินเฟยยังมีกระแสไอเย็นแพร่กระจายออกมาด้วย ถึงขนาดแช่แข็งกระบี่ของหลี่ฉุนได้ ไม่สิ… ไม่ใช่แค่แช่แข็งกระบี่ของหลี่ฉุนเท่านั้น หากข้าทายไม่ผิดละก็ อาจจะมีไอเย็นแทรกซึมเข้าร่างแล้วก็เป็ไปได้…”
“ไม่มีทาง!” หลี่ชิงไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน จึงโพล่งค้านขึ้นมาทันที การประลองของผู้บำเพ็ญขั้นย่างหยวน จะทำให้อีกฝ่ายถูกไอเย็นเข้าแทรกได้อย่างไร แบบนี้มันไม่ต่างอะไรกับบีบคออีกฝ่ายให้ค่อยๆตายเลยนะ
“ไอเย็นกระแสนี้ค่อนข้างอ่อนกำลัง ดูเหมือนว่าหลี่ฉุนเองก็ยังไม่รู้ตัว แถมเวลานั้นเขายังทำผิดมหันต์ไปอย่างหนึ่งเสียด้วย เพื่อที่จะให้ตัวเองรอด จึงถอยออกไปประมาณสิบจ้าง จากนั้นค่อยใช้เคล็ดวิชากระบี่ไฟอัสนี การถอยออกมาเช่นนี้ใช้เวลาแค่อึดใจเดียวเท่านั้น แต่แค่ชั่วอึดใจนี้นี่แหละ กลับเพียงพอให้กระแสไอเย็นแทรกซึมเข้าร่างแล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อไอเย็นรวมเข้ากับปราณกระบี่ หลินเฟยจึงสามารถทำลายกระบี่ไฟอัสนี จนในที่สุดก็แทงเข้าไปที่ไหล่หลี่ฉุนได้…”
ขณะที่หลี่ชิงตั้งใจฟัง ก็พลางอ้าปากตาค้างไปด้วย ท่าทางราวกับเด็กน้อยที่กำลังฟังนิทานอยู่ ในใจก็คิดเพียงอย่างเดียวว่าเื่ทั้งหมดมันเป็ไปได้อย่างไร…
‘ศิษย์ของหุบเขาอวี้เหิงที่เพิ่งบรรลุขั้นย่างหยวน จะมีฝีมือและเ้าแผนการได้ขนาดนี้เชียวหรือ?’
คิดไม่ถึงเลยว่าการประมือกับศิษย์เอกของหุบเขาหมัวเจี้ยน จะเป็แผนการที่ถูกวางไว้แต่แรกแล้ว ทุกการกระทำล้วนถูกอีกฝ่ายคำนวณไว้ทั้งหมด ดังนั้นเื่ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ล้วนแต่เป็แผนการที่ถูกวางไว้ั้แ่ต้นนั่นเอง!
‘นี่ยังหลงเหลือความเป็คนอยู่บ้างหรือไม่?’
“ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริงๆ…” ข่งฟางถึงกับเอ่ยปากชมสองครั้งติดๆ ไม่ทันใดก็กลับส่ายหัวด้วยความเสียดายแทน
“น่าเสียดายเหลือเกินที่ข้ามาช้าไปหน่อย ไม่อย่างนั้นคงมีโอกาสได้ประลองกับเ้าหลินเฟยคนนี้ ข้าเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าปราณกระบี่สีขาวนั่น หรือปราณกระบี่เฉียนคุนของข้านี้ ใครจะแน่กว่ากัน…”
“แล้วปราณกระบี่สีขาวที่ว่านั่น มีที่มาที่ไปอย่างไรหรือ ศิษย์พี่ข่ง?”
“ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน แต่เดาว่าถึงแม้ปราณกระบี่นั่นจะไม่ได้มีพลังร้ายแรงถึงขั้นย่างหยวน แต่เมื่อได้อยู่ในมือหลินเฟยแล้ว กอาจจะร้ายกาจจนมีพลังเทียบเท่าขั้นมิ่งหุนเลยก็ว่าได้…”
“มันจะเป็ได้ได้อย่างไร!”
ในขณะที่ข่งฟางกำลังวิเคราะห์ปราณกระบี่อิ๋นเหวินอยู่นั้น หลินเฟยเองก็ได้นำแร่เฮยเย่ากลับหุบเขาอวี้เหิงไปเสียแล้ว
‘จะว่าไป ก็ต้องขอบคุณเ้าหลี่ฉุนมันเหมือนกัน’
เพราะเ้านั่นดันแอบอ้างชื่ออาจารย์เพื่อข่มขู่ผู้อื่น ทำให้หลายวันมานี้ไม่มีใครกล้ายื่นหน้ามาถามราคา เ้าของแร่นั่นจึงเดือดเนื้อร้อนใจ พอหลินเฟยเสนอตะเกียงซานเป่าหลิวหลีเพื่อแลกกับแร่เฮยเย่ามาพอ อีกฝ่ายก็รีบตอบตกลงทันที
‘ทั้งที่ตอนแรกอีกฝ่ายประกาศว่า้าแลกกับศาสตราวุธขั้นอิงฝูแท้ๆ…’
ที่หลินเฟยได้กำไรเช่นนี้ ไม่ใช่แค่ตะเกียงซานเป่าหลิวหลีที่มีพลังไม่ธรรมดาพอที่จะสามารถเทียบศาสตราวุธขั้นอิงฝูแล้วอยู่แต่เดิมแล้ว ยังไงก็ต้องขอบคุณหลี่ฉุนอีกคนด้วยเหมือนกัน
พอกลับมาถึงหุบเขาอวี้เหิง หลินเฟยก็รีบหยิบแร่เฮยเย่าออกมาทันที แร่ก้อนนี้มีสีดำสนิท แถมยังไม่มีไอิญญาแพร่กระจายออกมาสักเท่าไร แต่นี่ก็เป็จุดเด่นของมัน หากคนทั่วไปไม่สังเกต ก็คงไม่คิดว่ามันเป็แร่โฮ่วเทียนขั้นสาม หากพูดถึงราคาแล้วล่ะก็ บางทีต่อให้มีเป็หมื่นหินิญญาก็ไม่อาจแลกมาได้…
‘หากหลี่ฉุนรู้เข้า เกรงว่าจะต้องเสียน้ำตาอีกแน่นอน’
‘น่าเสียดายที่เป็หลินเฟยไม่ใช่หลี่ฉุน…’
ในบรรดาคนที่เคยเจอแร่ก้อนนี้ ก็คงจะมีแค่หลินเฟยคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าเหตุใดรูปลักษณ์ของมันถึงดูธรรมดายิ่งนัก นอกจากความธรรมดาแล้ว ยังไม่ค่อยมีไอิญญาอีกด้วย…
‘ก็เพราะว่ามันเป็แร่โฮ่วเทียนที่มีมนต์สะกดไม่สมบูรณ์นั่นเอง…’
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------