ทุกคนล้วนตื่นใ เมื่อได้ยินเสียงนั้น ในไม่ช้า พวกเขาจึงเห็นฮองเฮาอวี่เหวินเร่งรีบเดินมา ด้วยสีพระพักตร์จริงจัง เหล่าข้าราชบริพารเปิดทาง ต้อนรับฮองเฮาอวี่เหวินเดินไปหาฮ่องเต้หยวนเต๋อและปรมาจารย์เฉิงกวัง นางจ้องมองประตูหินที่ถูกเปิดออกครึ่งหนึ่ง คิ้วขมวดแน่นเข้าหากัน “ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าไป”
“"ฮองเฮา ปรมาจารย์เฉิงกวังมาเพื่อโปรดดวงิญญา...” ฮ่องเต้หยวนเต๋อเข้าใจว่า เพราะเื่จี้เยวี่ย ทุกครั้งที่เอ่ยถึงสวนร้อยสัตว์ ฮองเฮาอวี่เหวินจึงตึงเครียดเป็พิเศษ
ฮ่องเต้หยวนเต๋อคิดว่า การที่ฮองเฮาอวี่เหวินเข้ามาขัดขวางไม่ให้เปิดประตูใหญ่สวนร้อยสัตว์ในยามนี้ เป็เพราะเื่จี้เยวี่ย จึงกล่าวโน้มน้าวอย่างอ่อนโยนว่า “บางทีจี้เยวี่ย อาจจะ้าให้ไปโปรดก็เป็ได้”
ฮองเฮาอวี่เหวินปรายมองฮ่องเต้หยวนเต๋อ สถานการณ์ในสวนร้อยสัตว์...
เหนียนอีหลานอยู่ข้างใน นางจะปล่อยให้พวกเขาเข้าไปดูได้อย่างเยี่ยงไร?
มาตรแม้นเหนียนอีหลานจะกระทำความผิด ถึงเยี่ยงอย่างไรการที่ข้าลงโทษนางเหนียนอีหลานก็มิได้ถือว่ามากเกินไป ทว่ามันคงจะเป็เื่ง่ายดายมากแน่ หากมีใครตั้งใจจับประเด็นนี้ขึ้นมากล่าวอันใด มันคงจะเป็เื่ง่ายดายมากแน่ นางข้าจะไม่ยอมให้สถานการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้น!
และคนที่ตั้งใจคนนั้น...
ระหว่างทางที่มาเมื่อครู่นี้ นางครุ่นคิดอย่างรอบคอบ จึงได้กลิ่นของการสมรู้ร่วมคิดบางอย่าง
นางรู้ดีว่า การที่ฉางไทเฮาเชิญพระผู้เฒ่าสมณศักดิ์สูงส่งมา จะต้องมิใช่สิ่งง่ายดายเพียงนั้น และมันก็เป็อย่างที่คิดจริงๆ !
“ไม่จำเป็ ที่นี่ไม่จำเป็ต้องโปรดดวงิญญา ท่านปรมาจารย์เฉิงกวัง…” ฮองเฮาอวี่เหวินปฏิเสธอย่างเ็า หันกลับไปเผชิญหน้ากับพระผู้เฒ่าสมณศักดิ์สูงส่ง พร้อมกับพนมมือคารวะ “ลำบากท่านปรมาจารย์เฉิงกวังแล้ว จี้เยวี่ยเป็ธิดาของเปิ่นกง แม้นดวงิญญาของนางยังอยู่ในสวนร้อยสัตว์ ไม่ว่าจะได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็ธรรมหรือไม่ เปิ่นกงก็ยังมีความสุข ทั้งขอให้ท่านปรมาจารย์เฉิงกวังโปรดเข้าใจด้วย”
"องค์หญิงจี้เยวี่ย..." ปรมาจารย์เฉิงกวังขมวดคิ้ว “"ทว่าข้างในนี้ มิได้มีิญญาอาฆาตเพียงดวงเดียว”
ฮองเฮาอวี่เหวินขมวดคิ้วเล็กน้อย พลันนึกถึงฟางเหอ สาวใช้ของเหนียนอีหลาน
ยามที่กำลังตกตะลึงอยู่เล็กน้อย เหล่าประยูรญาติสตรีที่อยู่ในสวนยวี่ฮวาเมื่อครู่นี้ ต่างมาถึงแล้วเช่นกัน ฉางไทเฮาเดินนำ ตามด้วยฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงซึ่งมีหนานกงฉี่คอยประคอง และบรรดาประยูรญาติสตรีเดินตามหลังฉางไทเฮา เมื่อทุกคนมาถึง ก็เห็นสภาพเข้าตาจน ฉางไทเฮาเหลือบมองความระแวดระวังบนใบหน้าของฮองเฮาอวี่เหวิน มุมปากค่อยๆ ผุดรอยยิ้มที่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น
ไม่ยอมให้เข้าไปงั้นหรือ?
วันนี้ สวนร้อยสัตว์แห่งนี้จะต้องเปิดออก ต่อให้เป็นาง ‘อวี่เหวินซิน’ ไม่ยอมแล้วเยี่ยงอย่างไร?
สถานการณ์ในวันนี้ นางจะควบคุมคนเดียวไหวหรือ?
“ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ ท่านปรมาจารย์เฉิงกวังเองก็ทำเพื่อฮองเฮาเช่นกันนะพ่ะย่ะค่ะ...”
อย่างที่คิด ระหว่างที่ฉางไทเฮาครุ่นคิด เสียงของบุรุษผู้หนึ่งดังขึ้น คนผู้นั้นคือ หนานกงจื้อ
ทว่าถ้อยคำของเขายังไม่ทันกล่าวจบ สายตาของฮองเฮาอวี่เหวินพลันกวาดมอง ถลึงตาใส่อย่างเ็า สายตานั้น ทำให้ก้นบึ้งจิตใจของหนานกงจื้อเย็นเยียบ แม้แต่สีหน้ายังซีดเผือดไปเล็กน้อย
“เื่ในตำหนักของเปิ่นกง เป็สิ่งที่ขุนนางเข้ามาสอดได้ั้แ่เมื่อใด? ”" ฮองเฮาอวี่เหวินตรัสอย่างเ็า
ทุกคนในเหตุการณ์สังเกตเห็นสีหน้าไม่น่ามองของฮองเฮาอวี่เหวิน
รั้งท้ายในกลุ่มผู้คน “นางกำนัลน้อย” ผู้ไม่โดดเด่นผู้นั้น เฝ้ามองเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างเงียบเชียบ พลางประเมินดูสถานการณ์ในยามนี้ เหลือบมองฉางไทเฮาโดยไม่มีผู้ใดสังเกต จากนั้นเบนมองฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง ใบหน้าของทั้งสองคนสงบนิ่ง มองไม่เห็นร่องรอยใด ทว่าความเงียบงันนี้ ทำให้นางยิ่งรู้สึกว่าเื่นี้ผิดปกติ
คนฉลาดเช่นนาง เพียงครู่เดียว ก็คาดเดาออกเป็รูปเป็ร่าง
ปรมาจารย์เฉิงกวังที่ถูกกล่าวขาน ซึ่งกล่าวว่ามาเพื่อโปรดดวงิญญาของเหล่าทหารค่ายเสินเช่อ นั่นเป็เพียงข้ออ้าง และจุดประสงค์ที่แท้จริง คือ มาเพื่อเหนียนอีหลาน!
ทว่าฮองเฮาอวี่เหวิน... ในใจของนางจะเข้าใจลึกตื้นหนาบางหรือไม่?
‘"นางกำนัลน้อย’" ขมวดคิ้วมุ่น ดูเหมือนวังหลวงแห่งนี้ จะคึกคักยิ่งกว่าสิ่งที่นางจินตนาการไว้เสียอีก
ในยามนี้ นางก็ยิ่งตั้งตารอว่า งิ้วฉากนี้ จะแสดงลูกไม้ออกมาเยี่ยงอย่างไร!
และอีกด้านหนึ่ง หนานกงจื้อที่ถูกตำหนิ พลันตระหนักได้ถึงบางสิ่ง จึงรีบรุดคุกเข่ายอมรับผิด “กระหม่อมสมควรตาย กระหม่อมล้ำเส้นสามหาวแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
สมควรตาย? ผู้ที่สมควรตาย มิใช่แค่หนานกงจื้อผู้นี้เท่านั้น!
ฮองเฮาอวี่เหวินเหลือบมองฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงกับฉางไทเฮา สตรีสองนางนี้ ร่วมมือกันจริงๆ แล้วหรือ?
พวกนางลแอบตกลงสิ่งใดกันลับหลัง?
“ฝ่าา ข้างในนี้มีิญญาอาฆาตอย่างแท้จริง ทั้งยังเป็ิญญาที่เสียชีวิตได้ไม่นาน หากฮองเฮาทรงไม่อนุญาต อาตมาจะไม่เข้าไป จะไม่โปรดดวงิญญาก็เท่านั้น” ปรมาจารย์เฉิงกวังทอดถอนหายใจ ประโยคที่กล่าวว่าเป็ดวงิญญาที่เสียชีวิตได้ไม่นาน ทำให้จิตใจของใครบางคนพลันตึงเครียด
นี่มันหมายความว่าเยี่ยงอย่างไร?
ิญญาที่เสียชีวิตได้ไม่นาน? มีคนเสียชีวิตในสวนร้อยสัตว์นี้แห่งนี้อีกแล้วหรือ?
ปรมาจารย์เฉิงกวังกล่าวอย่างตรงไปตรงมามาก ใบหน้าของทุกคนพลันเปลี่ยนสี ฮองเฮาอวี่เหวินนึกถึงฟางเหอ ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงนึกถึงเหนียนอีหลาน และมือของฉางไทเฮาที่กำลังนับลูกประคำ สั่นเทาเล็กน้อย ความสงบนิ่งในดวงตา แฝงอารมณ์พอใจที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด
“อมิตาพุทธ” ปรมาจารย์เฉิงกวังพนมมือไหว้ประตูหินที่เปิดออกครึ่งหนึ่ง หันหลังกลับไปอย่างจนใจ ขณะกำลังจะเดินออกไป ทว่าท่ามกลางฝูงชน กลับมีใครบางคนเอ่ยปากออกมาอย่างกะทันหักัน
“ฮองเฮาเพคะ พระนางก็ให้ท่านปรมาจารย์เฉิงกวังเข้าไปโปรดเถิดเพคะ ข้างในสวนร้อยสัตว์แห่งนี้... มีผีสิง!”"
ทันทีเสียงหลุดออกไป ทุกคนหันไปมองต้นตอของเสียงนั้น ฮองเฮาอวี่เหวินจ้องมองนางกำนัลที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ดวงตาพลันวาวโรจน์
นางจำนางกำนัลคนนั้นได้ เป็คนที่คอยปรนนิบัติรับใช้นางในวังมาโดยตลอด ผีสิงหรือ? เพียงถ้อยคำสองคำนี้ ฮองเฮาอวี่เหวินพลันตระหนักได้ทันทีถึงเื่ราวไม่ดี นางกำนัลผู้นี้...
ฮองเฮาอวี่เหวินยังไม่ทันได้คิดสิ่งใดมาก ฉางไทเฮากลับเอ่ยปากขึ้นมาก่อนว่า “ผีสิง? ฮองเฮา ในเมื่อมีผีสิง เช่นนั้นไม่ควรปฏิบัติตามอำเภอใจ”
ฉางไทเฮาขมวดคิ้ว ความกังวลและห่วงใยบนสีหน้า ดูจริงใจอย่างยิ่ง
ทุกสิ่งอยู่ในสายตาของฮองเฮาอวี่เหวิน นางไม่อาจขอบคุณฉางไทเฮาได้
สตรีนางนี้ วันนี้คงขุดหลุมรอให้ข้าะโลงไปแน่แล้ว!
“ใช่แล้วเพคะ ฉางไทเฮาตรัสถูกต้องนะเพคะ การมีผีสิงในตำหนัก เป็เื่ร้ายแรง ช่างประจวบเหมาะที่ท่านปรมาจารย์เฉิงกวังอยู่ที่นี่ด้วย ทรงอนุญาตให้เข้าไปโปรดดวงิญญาสักครู่ย่อมต้องก็ดีนะเพคะ ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผีร้ายทำร้ายผู้คน สุดท้าย ความปลอดภัยของฮองเฮาก็เป็เื่สำคัญนะเพคะ” ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงกล่าวคล้อยตาม
เมื่อมาถึงจุดนี้ ทั้งสองหวั่นเกรงน้อยลงมาก จึงร่วมมือกันบีบบังคับ
“ผีสิง? ผู้ใดกล่าวว่าผีสิง? เปิ่นกงอยู่ในตำหนักชีอู๋ทุกวัน เหตุใดถึงไม่รู้เื่ผีสิงเลยเล่า? เสด็จพี่สะใภ้ ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง ขอบใจทั้งสองที่ห่วงใย เปิ่นกงจะจดจำความดีของท่านทั้งสองไว้” ฮองเฮาอวี่เหวินกล่าว ใบหน้าฝืนยกยิ้ม
องค์หญิงใหญ่ชิงเหอที่อยู่ด้านข้าง รู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆ ที่ไหลอบอวลออกมาระหว่างคนทั้งสองฝ่าย นางรู้ว่ามีอะไรอยู่ในสวนร้อยสัตว์ ดูเหมือน วันนี้ ฮองเฮาอวี่เหวินจะต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้่ที่เตรียมตัวมาอย่างดี!
และคู่ต่อสู้คนนั้น...
องค์หญิงใหญ่ชิงเหอเป็คนฉลาด นางเหลือบมองฉางไทเฮา และเบนสายตามองฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง จากนั้นพลันได้ยินเสียงของฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง...
“หรือด้านในสวนร้อยสัตว์ จะมีสิ่งที่ไม่ควรให้ผู้อื่นรู้หรือเพคะ?”
ทันทีที่กล่าวจบ สีหน้าของทุกคนพลันแปรเปลี่ยน ฮองเฮาต่อต้านไม่ยอมให้เปิดประตูสวนร้อยสัตว์เยี่ยงนี้ หรือข้างในจะมีสิ่งที่ไม่ให้ผู้อื่นรู้ อย่างที่ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงกล่าวจริงๆ ?
ทุกคนหันไปมองฮองเฮาอวี่เหวิน พวกเขาเห็นคิ้วของนางขมวดแน่นยิ่งกว่าเดิม พร้อมกับสายตาอันเฉียบคมจ้องมองฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง
“หม่อมฉันสมควรตาย หม่อมฉันกล่าววาจาไม่เหมาะสม ขอฮองเฮาโปรดทรงอภัยด้วยเพคะ” ดูเหมือนตระหนักถึงถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมของตนเอง ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงจึงรีบคุกเข่าลง ท่าทีตื่นตระหนก ตรงกันข้ามกลับยิ่งทำให้ฮองเฮาอวี่เหวินดูไม่บริสุทธิ์ใจ
เื่ทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของ ‘“นางกำนัลน้อย’” ผู้ซึ่งยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน การตอบโต้ไปมาของทั้งสองฝ่าย เห็นอย่างชัดเจนแจ้งว่า ฮองเฮาอวี่าวอี่เหวินทรงเสียเปรียบแล้ว