มิผิด ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้าล้วนเป็ไป๋หยุนเฟยวางแผนจัดฉากขึ้น! ทั้งการไม่ใช้อาวุธ ทั้งการถูกหลี่ซื่อไล่ตามทัน ทั้งการจงใจเผยว่าเกราะอ่อนบนร่างเป็วัตถุิญญา รวมทั้งการต่อสู้ที่คู่คี่กับหลี่ซื่อนั้นก็ใช่...
ทั้งหมดล้วนทำเพื่อป้องกันไม่ให้จางหยางหลบหนีไป!
มันและหลี่ซื่อนับว่ามีพลังสูสีกัน แต่นั่นเพียงทัดเทียมในแง่พลังิญญาที่อยู่ระดับเดียวกันเท่านั้น! ทว่าไป๋หยุนเฟยยังมีเคล็ดิญญากระทั่งยังมีวัตถุิญญาเช่นเกราะอ่อน ทวนเปลวอัคคีและหนามธารน้ำแข็ง! กล่าวได้ว่าหากทุ่มเททุกสิ่งออกมาใช้กับหลี่ซื่อั้แ่เริ่มต่อสู้ หลี่ซื่อย่อมถูกสังหารแต่แรก!
กระนั้นมันกลับไม่ได้กระทำ เนื่องเพราะหากมันแสดงความแข็งแกร่งออกมา จางหยางย่อมต้องหลบหนีไปโดยไม่ลังเลหลังจากพบว่าไป๋หยุนเฟยร้ายกาจเพียงใด แม้จะสังหารหลี่ซื่อได้รวดเร็วแต่ไป๋หยุนเฟยยังไม่อาจสังหารในกระบวนท่าเดียว ขอเพียงมันถูกลากถ่วงไว้ชั่วครู่ก็เพียงพอให้จางหยางหลบหนีไป
หากการต่อสู้แปรเปลี่ยนเป็การไล่ล่า ย่อมทำให้ไป๋หยุนเฟยเสียเปรียบอย่างใหญ่หลวง ฉะนั้นแล้วจึงไม่อาจทำให้จางหยางหวาดกลัวหลบหนีไปทั้งยังต้องล่อมันเข้าร่วมต่อสู้แทน!
ดังนั้นหลังจากฆ่าตู้ซินอย่างกะทันหัน ไป๋หยุนเฟยก็ต่อสู้พัวพันกับหลี่ซื่อและจงใจต่อสู้อย่างคู่คี่ก้ำกึ่งกระทั่งยังจงใจเผยเกราะอ่อนบนร่างว่าเป็วัตถุิญญา หลังจากผ่านศึกบนภูไม้ดำมันก็เข้าใจแล้วว่าวัตถุิญญาเหล่านี้มีค่าเพียงใด จึงใช้เป็เหยื่อล่อจางหยางเข้าร่วมการต่อสู้
ที่จริงความอ่อนล้าที่แสดงออกหลังจากต่อสู้มายาวนานล้วนเสแสร้งขึ้น เพราะไป๋หยุนเฟยยังไม่ได้ใช้พลังกายและพลังิญญาไปมากมายเช่นเดียวกับคู่ต่อสู้ ทั้งเกราะอ่อนสีทองบนร่างก็ไม่ได้เป็เพียงวัตถุิญญาทั่วไปแต่เป็วัตถุิญญาที่ผ่านการอัพเกรดถึงระดับ +10!
(คุณสมบัติของเกราะิญญาไหมทอง)
ระดับไอเทม: หายากระดับต่ำ
ระดับการอัพเกรด: +10
พลังป้องกัน: 267
พลังป้องกันเพิ่มเติม: 139
ผลเพิ่มเติมระดับ +10: เมื่อถูกจู่โจม มีโอกาส 5% ที่จะเพิ่มพลังป้องกันขึ้นอีก 50% เป็เวลา 3 วินาที
สิ่งจำเป็ในการอัพเกรด: แต้มิญญา 64 แต้ม
เกราะอ่อนชิ้นนี้จะเป็สิ่งใดหากไม่ใช่วัตถุิญญาของหานเซียวหัวหน้าโจรค่ายไม้ดำ หลังจากฆ่ามันแล้วไป๋หยุนเฟยก็ได้รับเกราะนี้มา ด้วยพลังป้องกันอันสูงล้ำจากการอัพเกรดและผลเพิ่มเติมที่บังเกิดในบางครา ทำให้ทุกดาบที่มันต้านรับศัตรูด้วยเกราะนี้กลายเป็เื่เล็กน้อยไป
แน่นอนว่าย่อมไม่อาจให้คู่ต่อสู้ไหวตัวทัน หนำซ้ำสถานการณ์ที่จงใจสร้างขึ้นนี้ต้องทำให้จางหยางรู้สึกว่าเพียงร่วมมือกับหลี่ซื่อต่อสู้ย่อมสามารถสังหารและแย่งชิงวัตถุิญญาจากศัตรูมาอย่างง่ายดาย!
เมื่อจางหยางอดไม่ได้ต้องสอดมือร่วมต่อสู้ ไป๋หยุนเฟยก็ไม่รีรอเริ่มแสดงละครฉากต่อไปทันที
เมื่อถูกรุมกระหนาบจากศัตรูทั้งคู่ หากการต่อสู้ถูกลากถ่วงต่อไปมันย่อมตกอยู่ในสถานการณ์อันเลวร้าย สิ่งแรกที่ไป๋หยุนเฟยต้องกระทำคือกำจัดหลี่ซื่อที่ต่อสู้พัวพันจนคุ้นชินกับ‘จังหวะ’การต่อสู้ ทั้งยังต้องลงมืออย่างรวดเร็ว ดุดัน เฉียบขาดและสำเร็จในคราเดียว!
ดังนั้นแล้วไป๋หยุนเฟยจึงฉวยโอกาสใช้เคล็ดิญญาที่เก็บงำไว้ต่อหลี่ซื่อเพื่อกระแทกมันถอยไป
กระนั้นท่าชี้ขาดกลับเป็การจู่โจมที่ตามหลังมา! ทวนเปลวอัคคีแม้จะทรงพลังยิ่งแต่หากจู่โจมไม่ถูกจุดสำคัญยังคงไม่อาจเอาชีวิตในทวนเดียว แต่หากผลเพิ่มเติมของทวนบังเกิดขึ้นไม่ว่าจะจู่โจมถูกส่วนใดย่อมเพียงพอจะสังหารศัตรูได้!
ทว่าการะเิของทวนเปลวอัคคีกลับมีโอกาสบังเกิดขึ้นเพียงหนึ่งในสิบ ซึ่งนับว่าน้อยอย่างยิ่ง ไป๋หยุนเฟยจึงใช้ออกด้วยท่าไม้ตายที่เพิ่งฝึกปรือสำเร็จ --- ทะลวงสามทบ!
ด้วยการดัดแปลงเคล็ดการโจมตีทบซ้อนของวิชาระลอกคลื่นให้เป็วิชาทวน พลังหมัดสามทบที่ถ่ายทอดผ่านปลายทวนจึงเป็ที่มาของนาม ‘ทะลวงสามทบ’
หนึ่งหมัดที่จู่โจมด้วยพลังหมัดสามทบแท้จริงแล้วกลับจู่โจมทบซ้อนสามระลอก ฉะนั้นแล้วหนึ่งทวนที่ใช้ท่าทะลวงสามทบย่อมเท่ากับการจู่โจมสามคราติดต่อกันเพิ่มโอกาสเกิดผลเพิ่มเติมอย่างมากมาย
แน่นอนว่าไป๋หยุนเฟยย่อมไม่ฝากความหวังทั้งมวลไว้กับท่าทวนนี้ หากผลเพิ่มเติมของทวนเปลวอัคคีไม่บังเกิดขึ้น มันจะเผยไพ่ตายสุดท้ายเพื่อใช้สังหารหลี่ซื่อ นั่นคือหนามธารน้ำแข็ง!
ไป๋หยุนเฟยนับว่าโชคดี เมื่อท่าทะลวงสามทบจู่โจมถูกศัตรูผลของทวนเปลวอัคคีก็ถูกกระตุ้นให้บังเกิดขึ้น หนำซ้ำยังเกิดขึ้นหลังจากทะลวงแทงหน้าท้องสังหารคู่ต่อสู้ในบัดดล...
หลังจากสังหารหลี่ซื่อ ไป๋หยุนเฟยกลับไม่จู่โจมใส่จางหยางที่ตะลึงงันในทันที เนื่องเพราะผลข้างเคียงจากการใช้ท่าทะลวงสามทบนับว่าสาหัสนัก อย่างน้อยก็รุนแรงกว่าการใช้พลังหมัดสามทบหลายเท่าตัว ผ่านไปหลายลมหายใจหลังจากใช้ออกแขนขวาทั้งข้างของไป๋หยุนเฟยยังคงชาด้านโดยสิ้นเชิง ยังดีที่จางหยางไม่ฉวยโอกาสหลบหนีไป
ยามที่จางหยางกรีดร้องอย่างหวาดกลัว แขนไป๋หยุนเฟยก็ฟื้นฟูกลับคืนมา มันไม่เอ่ยปากกล่าวคำก็กระชับทวนในมือพุ่งเข้าหาจางหยางทันที
เดิมทีจางหยางหมายจะกล่าวอันใดแต่เมื่อเห็นศัตรูพุ่งเข้าหาก็ไม่กล้าแบ่งแยกสมาธิอีก มันมีท่าทีหวาดหวั่นขณะที่ทุ่มเทกำลังรับมือเงาทวนที่จู่โจมเข้ามา
มีดสั้นในมือจางหยางดูเลิศหรูยิ่งกระทั่งยังมีเพชรเม็ดเล็กฝังไว้ที่ด้ามจับทั้งยังคมกล้าไม่น้อย มีดสั้นนี้สมควรสร้างจากวัสดุชั้นเลิศ แต่ถึงอย่างนั้นมีดสั้นนี้ก็ยังไม่ได้เป็วัตถุิญญา
ด้วยฐานะศิษย์สำนักธารน้ำแข็งทั้งยังเป็นายน้อยตระกูลจาง แม้มันจะไม่ใส่ใจฝึกปรือแต่ภายใต้การเคี่ยวเข็ญของบิดาจางหยางกลับมีฝีมือไม่ต่ำทราม จังหวะการรุกและรับของมันล้วนเหมาะเจาะสมบูรณ์ ยามกะทันหันกลับไม่อาจจำแนกเหลื่อมล้ำต่ำสูงกับไป๋หยุนเฟยได้
ไป๋หยุนเฟยประมือกับหลี่ซื่อมาหลายสิบกระบวนท่า อีกทั้งยังปลดปล่อยพลังิญญาเพื่อใช้พลังหมัดสามทบและทะลวงสามทบอย่างต่อเนื่องจึงไม่สมบูรณ์พร้อมเช่นเดิม ถึงกระนั้นมันกลับไม่แสดงสีหน้ากังวลอันใด ไป๋หยุนเฟยกวัดแกว่งทวนอย่างสง่าผ่าเผยบีบให้คู่ต่อสู้ล่าถอยไปทุกคราที่หวังจะประชิดตัวเข้าจู่โจม
หลังจากการต่อสู้ผ่านไปชั่วครู่ เมื่อเผชิญกับทวนที่พุ่งแทงเข้ามา จางหยางเอนกายไปด้านข้างหลบเลี่ยงคมทวนไปเพียงปลายเส้นผม ขณะเดียวกันก็วาดแขนขวาออกหมายใช้มีดสั้นเชือดคอหอยไป๋หยุนเฟย
กระนั้นท่าจู่โจมนี้กลับผิดระยะไป เพียงไป๋หยุนเฟยเอนกายเล็กน้อยมีดนี้ก็ไม่อาจกระทบผิวมันได้ ทว่ายามที่ไป๋หยุนเฟยคิดว่าจะหลบเลี่ยงมีดนี้และเตรียมชักทวนกลับเพื่อจู่โจมอีกครา พลันเกิดเื่ราวประหลาด!
มือที่เหยียดตึงของจางหยางพลันยืดออกอีกหนึ่งนิ้วครึ่ง พุ่งแทงมีดตรงมายังคอหอยของไป๋หยุนเฟย!
นี่คือเคล็ดิญญานามว่าหมัดแขนยาว!
เคล็ดิญญาที่ชื่อธรรมดาสามัญนี้เป็เคล็ดิญญาระดับต่ำที่สุดทั้งยังเป็วิชาเดียวที่จางหยางฝึกปรือสำเร็จ วิชานี้มิได้มีความร้ายกาจใดเพียงมีประสิทธิภาพตามชื่อ คือเป็เคล็ดิญญาที่ช่วยยืดแขนให้ยาวขึ้นอีกเล็กน้อยเท่านั้น
ถึงกระนั้น บางคราวิชาอันต่ำต้อยกลับมีประสิทธิภาพเกินคาด ดังตัวอย่างเช่นในยามนี้!
จางหยางซุกงำฝีมือมาตลอดและเพียงยามนี้มันจึงใช้ออกด้วยเคล็ดิญญา เนื่องเพราะมันรอจังหวะอันเหมาะสมที่จะใช้จัดการคู่ต่อสู้โดยไม่ทันตั้งตัว
ยามเผชิญกับมีดสั้นที่พลันมุ่งเป้าที่ลำคอ แม้ไป๋หยุนเฟยจะแตกตื่นแต่ไม่ลนลาน มันละทิ้งการจู่โจมในบัดดลและแอ่นตัวไปด้านหลังอย่างกะทันหันอีกครา ปลายมีดจึงเฉียดิัทิ้งรอยแผลเล็กๆไว้บนคางปรากฏหยดเืไหลซึมออกมา แม้จะป้องกันไม่ให้มีดนี้เชือดคอหอยได้แต่ไป๋หยุนเฟยก็ต้องเสียหลักล้มไปด้านหลัง
ดวงตาจางหยางทอประกายอำมหิต มันพลิกมีดในมือหันคมลงด้านล่างแล้วจ้วงแทงลงใส่ลำคอไป๋หยุนเฟย!
ขณะที่ล้มไปด้านหลังไป๋หยุนเฟยก็ชักมือขวากลับ ทวนในมือก็พลันสาบสูญไป ยามที่จางหยางพลิกมีดสั้นในมือ ไป๋หยุนเฟยก็สะบัดมือขวาซัดมีดสั้นเข้าใส่ใบหน้าจางหยาง
เมื่อเห็นมีดในมือกำลังจะแทงเข้าลำคอศัตรู ดวงตาจางหยางก็ปรากฏแววยินดี ทว่าเมื่อเห็นไป๋หยุนเฟยพลันสะบัดมือขวาซัดประสายเย็นเยียบใส่ราวสายฟ้า มันก็แตกตื่นจนไม่กล้าจู่โจมต่อรีบเบี่ยงกายสุดแรงโดยไม่ลังเลเพื่อหลบเลี่ยงมีดบินสังหาร
พริบตาต่อมามีดสั้นอีกเล่มก็พุ่งเข้าหามัน!
