เมืองเพียวเสว่เดิมทีไม่ได้ชื่อว่าเมืองเพียวเสว่ ที่ตั้งของเมืองแห่งนี้อยู่ด้านทิศเหนือสุดของเขตปกครองเทพาใกล้กับป่าดำมืด เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศค่อนข้างสูงทำให้เมืองแห่งนี้มีหิมะตกอยู่ตลอดปีจึงถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็เมืองเพียวเสว่ที่มีความหมายว่าเมืองแห่งหิมะปลิวไสว
ผู้ปกครองของเมืองแห่งนี้คือตระกูลเสว่ ตระกูลเสว่ปกครองเมืองแห่งนี้มายาวนานนับพันปีจึงได้นำเอาเมืองที่มีหิมะตกตลอดทั้งปีเมืองนี้เป็สัญลักษณ์ตัวแทนของตระกูลเสว่มาเป็เวลาเนิ่นนาน
วันนี้หิมะของเมืองเพียวเสว่ยังคงพัดปลิวไสวสวยงามเช่นเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งละอองหิมะของวันนี้รู้สึกจะมากกว่าทุกๆ วันที่ผ่านมา ทั้งเมืองถูกปกคลุมไปด้วยหิมะดูราวกับถูกสวมใส่ด้วยชุดเสื้อคลุมสีขาวฉันนั้น ทั่วทั้งเมืองส่องประกายระยิบระยับเต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูดลึกลับน่าค้นหา
เพียงแต่ว่าทัศนียภาพที่สวยงามเช่นนี้กลับไม่มีคนของตระกูลเสว่คนใดมีกะจิตกะใจที่จะไปชื่นชมแม้แต่น้อย ทั้งหัวหน้าตระกูลและเหล่าผู้าุโทั้งหมดของตระกูลเสว่ต่างพร้อมใจกันนั่งคุกเข่าอยู่บนไหล่เขาลูกหนึ่งด้านหลังของเมืองเพียวเสว่ ทั้งหมดนั่งสงบนิ่งคุกเข่าหันหน้าเข้าไปยังถ้ำที่ดูแปลกประหลาดแห่งหนึ่ง
“เฮ้ออ...!”
หลังจากผ่านไปเนิ่นนานภายในถ้ำมีเสียงทอดถอนใจเสียงหนึ่งลอยดังออกมาทำให้ทุกคนที่นั่งคุกเข่าอยู่ภายนอกถ้ำตื่นตัวขึ้นมาทันที ต่างรีบแหงนหน้ามองเข้าไปภายในถ้ำด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวังและความปรารถนาวิงวอน
“เสว่เพียวโหรว เ้าช่างมีบุตรชายที่ประเสริฐยิ่งนัก! เสว่เฟยสมองของเ้าก็คงเริ่มใช้การไม่ได้แล้วสินะถึงได้ออกความคิดเช่นนั้นให้กับเขา? เื่ราวมาถึงขั้นนี้แล้วพวกเ้ามาหาข้าตาแก่คนนี้มีประโยชน์อันใด? ข้าถูกขับไล่ออกจากตระกูลเสว่ตั้งนานแล้ว เื่ราวของตระกูลเสว่ข้าไม่มีสิทธิ์ยุ่งเกี่ยวด้วยแล้ว และไม่อยากที่จะเข้าไปยุ่งอีกด้วย...” เสียงยังคงดังต่อเนื่องออกมาจากภายในถ้ำน้ำเสียงฟังดูทั้งเ็าและเคร่งขรึม โดยเฉพาะอย่างยิ่งรู้สึกเหมือนว่าเ้าของเสียงจะยังเป็ผู้ที่เก่งกาจไม่ธรรมดาอีกด้วย กล้าด่าทอแม้กระทั่งหัวหน้าตระกูลเสว่และผู้าุโสูงสุดของตระกูลเสว่โดยที่ทั้งสองคนไม่กล้าแม้แต่ที่จะโต้เถียงกลับสักคำ
“เพียวโหรวสำนึกผิดแล้วท่านปู่รองจะลงโทษเช่นใดก็ได้ ขอร้องให้ท่านปู่รองออกหน้าสักครั้งหาไม่แล้วรากฐานของตระกูลเสว่ที่มีมานับพันปีคงต้องพังทลายลงในครั้งนี้เป็แน่แท้!” เสว่เพียวโหรวสีหน้าสิ้นหวังราวกับคนใกล้ตาย โขกศีรษะลงกับพื้นน้ำแข็งหน้าปากถ้ำ หน้าผากกระทบกับพื้นน้ำแข็งส่งเสียงดัง “ปังๆ” อยู่ไม่ขาด
“ท่านลุงรอง ขอร้องท่านคิดหาหนทางช่วยเหลือตระกูลเสว่ด้วย มิฉะนั้นตระกูลเสว่คงได้พินาศย่อยยับไม่เหลือแน่ ข้าเสว่เฟยยอมทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้ตระกูลรอดพ้นจากหายนะครั้งนี้ไปให้ได้!” เสว่เฟยก็โขกศีรษะลงอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นเดียวกัน ไม่เหลือลักษณะเค้าโครงเดิมของยอดฝีมือระดับสูงในยามปกติแม้แต่น้อย
“ขอร้องท่านปรมาจารย์บรรพบุรุษยื่นมือช่วยเหลือตระกูลเสว่ด้วยเถิด!” ทุกคนที่อยู่ด้านหลังเสว่เฟยและเสว่เพียวโหรวต่างไหว้คำนับลงกับพื้นพร้อมกับพูดขึ้นพร้อมกัน
ภายในถ้ำเงียบสงบลงหลังจากผ่านไปเนิ่นนานถึงได้มีเสียงทอดถอนใจอย่างหนักหน่วงลอยดังออกมาอีกครั้งหนึ่ง น้ำเสียงที่แก่หง่อมและไร้เรี่ยวแรงดังลอยออกมา “ข้าจะไม่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือใดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถึงข้าจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือก็ไม่มีประโยชน์ ครั้งนี้เสว่อู๋เหินทำให้มวลชนโกรธแค้น เมื่อข้ายื่นมือเข้าช่วย ตาแก่ตายยากของตระกูลเย่ ตาแก่ตายยากทั้งสองของเมืองัและยังมี... ก็ล้วนจะยื่นมือเข้ามาด้วยเช่นกัน ถึงตอนนั้นตระกูลเสว่คงได้พินาศย่อยยับอย่างแท้จริง...”
“แล้ว...แล้วจะทำเช่นไรกันดี? หรือว่า์จะกำหนดให้ตระกูลเสว่ของพวกเราต้องสูญสิ้นไปจริงๆ?” ดวงตาของเสว่เฟยสิ้นหวังร่างไร้เรี่ยวแรงหมอบลงอยู่กับพื้น ไม่คาดคิดว่าวันนั้นที่อยู่เมืองเซียวหุนเพียงแค่พูดกับเสว่อู๋เหินว่าหากมีโอกาสให้จัดการกับเย่ชิงหานเสียเพื่อกำจัดภัยร้ายในอนาคตให้หมดสิ้นไป คิดไม่ถึงว่าเื่ราวเล็กน้อยในวันนั้นสุดท้ายจะพัฒนาจนมาเป็แบบนี้ แบบที่ทำให้ตระกูลเสว่ต้องตกอยู่ในสภาพที่จะต้องสิ้นตระกูลเช่นนี้
“แล้ว...แล้วเช่นนี้จะทำอย่างไรกันดี?” เหล่าผู้าุโของตระกูลเสว่ต่างใบหน้าขาวซีดเผือดด้วยกันทั้งหมด ข้อความที่หลงผี่ฟูส่งมานั้นบ่งบอกอย่างชัดเจน ความผิดที่เสว่อู๋เหินกระทำนั้นได้รับการตรวจสอบยืนยันอย่างแน่ชัดแล้ว อีกครึ่งเดือนหลังจากนี้ทั้งหกเมืองหลักและร้อยเมืองใหญ่ของเขตปกครองเทพาจะใช้การลงคะแนนพิจารณาตัดสินโทษตระกูลเสว่ ถ้าหากถูกพิจารณาตัดสินว่ามีความผิดละก็ ทั้งเขตปกครองเทพาจะยกกำลังมายังตระกูลเสว่... ถึงเวลานั้นเมืองเพียวเสว่เมืองแห่งหิมะปลิวไสวจะไม่ได้มีแค่เพียงหิมะสีขาวที่ปลิวไสวอยู่ทั่วเมืองเพียงเท่านั้น แต่ยังจะมีเืสีแดงที่ปลิวไสวอยู่ในอากาศทั่วทั้งเมืองด้วยเช่นกัน!
ลงคะแนนพิจารณาตัดสินโทษ?
ความจริงคนของตระกูลเสว่ต่างรู้ดีว่าการลงคะแนนในครั้งนี้จะมีหรือไม่มีผลลัพธ์ที่ออกมาก็ไม่มีอะไรแตกต่าง เนื่องจากหนึ่งร้อยเมืองใหญ่ล้วนอยู่ใต้การปกครองของห้าตระกูลใหญ่
เสว่อู๋เหินสมคบคิดต่างเผ่าจนเกือบจะทำให้เหล่านายน้อยและคุณหนูทั้งหลายรวมไปถึงผู้มีพลังฝีมือระดับหัวกะทิเกือบทั้งหมดของทั้งสี่ตระกูลต้องตายไป แล้วเช่นนี้จะให้ทั้งสี่ตระกูลไม่โกรธแค้นได้อย่างไรกัน? ดังนั้นการพิจารณาตัดสินอีกครึ่งเดือนข้างหน้าแน่นอนว่าผลที่ออกมาตระกูลเสว่จะต้องมีความผิดอย่างไม่ต้องสงสัย ตระกูลเสว่จะต้องเผชิญหน้ากับกองกำลังปรามปราบที่แข็งแกร่งของเขตปกครองเทพา แล้วตระกูลเสว่ที่มีกำลังเพียงแค่หยิบมือเดียวจะต้านทานยอดฝีมือของทั้งเขตปกครองได้อย่างไร?
ดังนั้น หลังจากที่ได้รับข่าวสารที่หลงผี่ฟูส่งมา ทั่วทั้งตระกูลเสว่ตกอยู่ในความหวาดหวั่นและทำอะไรไม่ถูก สุดท้ายหมดหนทางอย่างแท้จริงทุกคนจึงติดตามเสว่เพียวโหรวและเสว่เฟยมายังสถานที่แห่งนี้ มาพบกับบรรพบุรุษรุ่นก่อนเพียงหนึ่งเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ผู้ซึ่งในตอนนั้นถูกขับออกจากตระกูลเสว่...เสว่ซีเหวิน
“เอาละ แม้ตระกูลเสว่ตอนนี้จะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับข้าแล้ว แต่อย่างน้อยก็ยังเคยชุบเลี้ยงข้ามา จงรับของสิ่งนี้ไป...” ในขณะที่ทุกคนของตระกูลเสว่กำลังจะสิ้นหวังอยู่นั้น เสว่ซีเหวินที่อยู่ภายในถ้ำพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับโยนแผ่นป้ายสีแดงอันหนึ่งออกมา “อยากจะช่วยให้ตระกูลเสว่รอดพ้นภัยพิบัติในครั้งนี้ไม่ใช่ว่าไม่มีหนทาง เสว่เฟยและเสว่เพียวโหรวพวกเ้านำแผ่นป้ายอันนี้ไปยังเมืองั จากนั้นฆ่าตัวตายต่อหน้ามวลชนเสีย...”
.................................
่นี้เขตปกครองเทพาครึกครื้นเป็อย่างมาก งานประลองาระหว่างเขตปกครองของผู้มีพลังฝีมือระดับหัวกะทิที่สามสิบปีจะมีขึ้นครั้งหนึ่งในครั้งนี้ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ ไม่เพียงได้รับชื่อเสียงเขตปกครองระดับสูงแต่อัตราการาเ็ล้มตายต่ำมากอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์อีกเช่นกัน มีเพียงผู้มีพลังฝีมือระดับหัวกะทิของแต่ละตระกูลที่ถูกส่งเข้าไปก่อนเพียงเท่านั้นที่าเ็ล้มตายไปกว่าครึ่ง ส่วนทหารระดับธรรมดาจำนวนเก้าหมื่นคนที่ถูกส่งตามเข้าไปทีหลังไม่มีผู้าเ็ล้มตายแม้เพียงคนเดียว กลับกันเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนถูกเข่นฆ่าพ่ายยับเยินแม้กระทั่งบุตรชายของจ้าวปีศาจศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าปีศาจก็ยังถูกสังหารไปด้วย สิ่งต่างๆ ทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นนี้ล้วนมาจากบุคคลเพียงคนเดียว เด็กหนุ่มที่มีอายุเพียงสิบหกปี
วีรบุรุษของเขตปกครองเทพา นายน้อยของตระกูลเย่...เย่ชิงหาน
งานประลองาระหว่างเขตปกครองถือเป็งานใหญ่ เนื่องจากผู้คนทั้งหนึ่งแสนคนล้วนถูกคัดเลือกออกมาจากเมืองนับร้อยครอบครัวนับหมื่น ทุกครั้งที่งานประลองาระหว่างเขตปกครองจบลงหัวเมืองนับร้อยครอบครัวนับหมื่นต่างตั้งตารอการกลับมาของคนในครอบครัวตนเองที่ไปเข้าร่วม งานประลองาระหว่างเขตปกครองทุกๆ ครั้งที่ผ่านมาปกติแล้วผู้ที่สามารถเดินออกมาได้อย่างปลอดภัยนั้นมีเหลือไม่ถึงหมื่นสองหมื่นคน
แต่ครั้งนี้ทุกคนกลับสามารถกลับออกมาได้อย่างปลอดภัยเช่นนี้จะไม่ทำให้เขตปกครองเทพาครึกครื้นขึ้นมาได้อย่างไร หลายครอบครัวเริ่มตั้งป้ายเสริมดวงชะตาอายุยืนให้แก่เย่ชิงหาน หญิงสาวมากมายเริ่มนึกจินตนาการถึงใบหน้าหล่อเหลาของวีรบุรุษเด็กหนุ่มคนนี้ เด็กหนุ่มมากมายเริ่มใช้เขาเป็ฮีโร่ในดวงใจพร้อมกับตั้งปณิธานว่าจะกลายเป็บุรุษผู้องอาจห้าวหาญเช่นเขาให้จงได้
เพียงแต่...
ในข่าวดีที่ทำให้ผู้คนปลื้มปีติยินดีเป็ล้นพ้นก็ยังมีข่าวไม่ดีที่เล่าลือกันออกมาด้วย เขตปกครามเทพามีไส้ศึกคนทรยศสมคบคิดกับต่างเผ่ามาปองร้ายพี่น้องของเขตปกครองตนเอง นายน้อยใหญ่ของตระกูลเสว่แอบปล่อยแมลงอำพรางลงบนตัวของนายน้อยตระกูลเย่วีรบุรุษของพวกเขา จากนั้นนำลูกแก้วผลึกบอกตำแหน่งไปมอบให้เผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนเพื่อช่วยเหลือพวกเขาสังหารนายน้อยหานจนเกือบจะทำให้นายน้อยหานและพวกนายน้อยคุณหนูของตระกูลทั้งหลายเกือบถูกสังหารตายไปทั้งหมด
เมื่อข่าวนี้แพร่กระจายออกไปทั่วทั้งเขตปกครองเทพาพลันเกิดแรงกระเพื่อมขึ้นอย่างใหญ่โต ผู้คนมากมายด่าสาปแช่งขึ้นเสียงดังก้องฟ้าด้วยความโกรธแค้น ต่อมาเมื่อพวกเขาได้ยินว่าอีกครึ่งเดือนข้างหน้าจะมีการพิจารณาตัดสินโทษของตระกูลเสว่ที่เมืองั พวกเขาต่างรีบเดินทางไปยังเมืองัในทันที ไม่ได้หวังว่าจะมีส่วนในการลงคะแนนเสียงตัดสินแต่ขอหวังเพียงได้ด่าทอสาปแช่งเพื่อระบายความแค้นไม่พอใจก็เพียงพอ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้