หญ้าเซียนที่พึ่งปลูกเมื่อวาน วันนี้กลับงอกออกมาแล้ว
ไม่เพียงเท่านี้ แปลงฝั่งหญ้าเซียนขั้นหนึ่งขึ้นสูงกว่าขั้นสองกับขั้นสาม ท่ามกลางแปลงเขียวชอุ่มยังมีสีสันสดใสแซมกันอยู่ บ้างยังออกผลเล็กๆ นั่นคือผลไม้หอม
ถึงแม้จะยังไม่โตเต็มที่ แต่ก็อีกไม่นานแล้ว
ในส่วนหญ้าเซียนขั้นสองขั้นสาม ขั้นสองนั้นพึ่งงอกออกมาเป็ต้นกล้า ส่วนขั้นสามนั้นช้ากว่า แต่ก็แตกหน่อแล้ว
โหยวเสี่ยวโม่ตะลึงงัน แม้ว่าเขาจะไม่เคยทำเกษตรแบบนี้มาก่อน แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะงอกเงยเร็วขนาดนี้
นี่แค่วันเดียวก็งอกแล้ว ช่างน่าเหลือเชื่อ
ไม่ทันได้เก็บขวดที่ตก โหยวเสี่ยวโม่ก็รีบวิ่งไปดู ขาไม่ได้ตาฝาด มันงอกแล้วจริงๆ ด้วย แต่ยังไม่โตเต็มไว ฉะนั้นเขาไม่อาจรู้ได้ว่ามันโตดีหรือไม่
โหยวเสี่ยวโม่ย้อนนึกถึงตอนที่ปลูกหญ้าเซียน
ตอนนั้นหลังหว่านเมล็ดเสร็จ เขาก็รดน้ำจากทะเลสาบ พอนึกถึงน้ำทะเลสาบ เขาก็แน่ใจแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น
น้ำจากทะเลสาบฟื้นฟูพลังปราณเขาได้ ถ้าเช่นนั้นผลลัพธ์แบบนี้ก็ไม่น่าแปลกใจอะไร
คิดเช่นนี้ โหยวเสี่ยวโม่ก็ตื่นเต้นขึ้นมา ถ้าน้ำทะเลสาบสามารถเร่งการเติบโตหญ้าเซียนได้ แบบนั้นหญ้าเซียนที่เขาปลูกก็ต้องโตไวกว่าของข้างนอก คุณภาพไม่รู้จะเป็อย่างไร แต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลว่าหญ้าเซียนจะไม่พอใช้แล้ว
เมื่อดีใจจนเกินเหตุ ทำเอาแก้มเขาแดงเปล่ง เดินวนไปวนมาที่เดิม จนสุดท้ายสามารถสงบสติลงได้
จากนั้นเดินกลับไปเก็บขวดน้ำที่ตกไว้ และเติมน้ำทะเลสาบจนเต็มทั้งห้าขวด แม้จะไม่เยอะ แต่ปกติแล้ว เขาดื่มแค่อึกเดียวก็เพียงพอแล้ว
ก่อนออกจากห้วงเวลา โหยวเสี่ยวโม่ฝึกฝนการหลอมยาทั้งเช้าทั้งบ่าย ลื่นไหลจนลืมกินข้าวเที่ยง
ตอนหลอมยา ปกติแล้วเขาจะหลอมส่วนที่ต้องส่งไปเรือนหญ้าเซียนก่อน แต่เพื่อไม่ให้คนอื่นคิดว่าเขาย่ำอยู่กับที่ เขาเลยใส่เม็ดที่คุณภาพดีขึ้นมานิดเล็กน้อยผสมเข้าไป จากนั้นเก็บไว้ในถุงเก็บของ เตรียมไปส่งให้อาจารย์จ้าวเจินวันรุ่งขึ้น
่เย็นนั้นโหยวเสี่ยวโม่ตั้งใจทดลอง กลับพบว่าพลังปราณของเขาไม่ได้แตกต่างจากหลายวันก่อนเลย
คงถึงจุดอิ่มตัวของนักหลอมโอสถที่ว่ากัน ่นี้เขาหมั่นฝึกฝนอย่างขยันขันแข็ง สามารถหลอมมากกว่าวันละหนึ่งร้อยห้าสิบเม็ด เยอะั้แ่ตอนแรก เพราะว่าไม่มีโอกาสเปรียบกับศิษย์พี่คนอื่น ฉะนั้นโหยวเสี่ยวโม่ได้แต่คำนวณจากพลังการหลอมของตัวเองใน่ที่ผ่านมา
ทว่าปริมาณการหลอมนั้นเพิ่มขึ้นทุกวันด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น
ฉะนั้นความเข้มข้นของพลังปราณถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลง แต่ก็ไม่มากนัก
เหมือนที่หลิงเซียวพูด การเพิ่มพูนพลังปราณโดยการหมั่นฝึกฝนจะพัฒนาได้ช้า อีกอย่างสองสามวันมานี้ เขารู้สึกว่าพลังปราณไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
ในตำรากล่าวไว้ นักหลอมโอสถทุกคนมีพลังปราณในแต่ละขั้นต่างกัน
การเลื่อนขั้นแต่ละขั้นนั้น ความเข้มข้นของพลังปราณจะเพิ่มขึ้นหนึ่งถึงสองเท่าตัว เป็การเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ ฉะนั้นต้องรอจังหวะพลิกผันที่เหมาะเจาะ
ยกตัวอย่าง เช่น นักหลอมโอสถบางคนหมั่นฝึกฝนการหลอมยาขั้นหนึ่ง พอสะสมนานวันเข้า ปริมาณย่อมเยอะ แต่ใช่ว่าจะสามารถบรรลุได้ดังใจ โอกาสนั้นมีแต่น้อยมาก
แต่ถ้ามีวิชายุทธ์ละก็ สถานการณ์ย่อมแตกต่าง
วิชายุทธ์เปรียบได้ถึงการฝึกพลังปราณ เช่นเดียวกับการฝึกกำลังภายใน เมื่อฝึกฝนทุกวัน เป็เดือนเป็ปี พลังก็จะยิ่งอยู่ยิ่งสูง ฉะนั้นการฝึกพลังปราณก็ใช้หลักการเดียวกัน
แต่ว่าโหยวเสี่ยวโม่รู้ว่าเื่นี้ไม่อาจเร่งรีบได้ จึงเก็บข้าวของบนโต๊ะแล้วไปกินข้าว
ในตอนนี้เอง ทันใดประตูก็ถูกผลักออกอย่างแรง เงาคนที่คุ้นเคยเดินเข้ามาอย่างไม่ยี่หระ
โหยวเสี่ยวโม่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ท่าทางยโสแบบนี้ทั้งสำนักเทียนซินมีแค่คนเดียวเท่านั้น