ภายในวังเงียบสงัด แต่กลับทำให้เซียวเฉินรู้สึกถึงเสียงเข่นฆ่าของกองทัพอันเกรียงไกร
แม้ทรุดโทรม แต่ยังเห็นเงายามเจิดจรัสของมันเมื่อปีนั้นจากด่างดวง เซียวเฉินก้าวเข้าข้างใน กลิ่นอายทำลายล้างทั่วนภาปกคลุมเขาไว้ เซียวเฉินสีหน้าแปรเปลี่ยน คิดจะเดินออกจากที่นี่ แต่ประตูใหญ่กลับปิดทันควัน
พริบตา เซียวเฉินก็ตกอยู่ในความมืดมิด
เขาไม่ชอบความรู้สึกชนิดนี้อย่างยิ่ง เพราะมันทำให้เขาไม่สบายใจ
ครู่ต่อมา เปลวไฟก็ส่องสว่างทั่วทั้งวัง
เหมือนรู้สึกถึงกลิ่นอายสิ่งมีชีวิต ในวังเริ่มเรืองแสงจางๆ ทำให้ที่นี่ยิ่งเผยความลึกลับของมันออกมา เมื่อรับรู้ถึงทุกอย่างของที่นี่ เซียวเฉินก็ยิ่งสงสัย ที่นี่คือสถานที่ใดกันแน่ ถึงกับมีวังโบราณแบบนี้อยู่ด้วย!
หรือว่าเป็โบราณสถาน?
คิดถึงตรงนี้ ดวงตาของเซียวเฉินก็ฉายแวววาดหวัง
แต่โบราณสถานธรรมดา ต้องมีสิ่งล้ำค่าที่ยอดเยี่ยมแน่ หากได้มาคือได้กำไร
เซียวเฉินมองพินิจรอบด้าน พบว่ามีภาพวาดบนผนัง สมจริงดุจมีชีวิต เนื้อหาของภาพวาดบนผนังดึงดูดเซียวเฉินให้เดินไปข้างหน้า หยุดมองดู ผ่านไปเนิ่นนาน เซียวเฉินจึงรั้งสายตากลับแบบยังไม่สมใจ สิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงคือ ภาพวาดบนผนังถึงกับเล่าความเป็มาของวังหลังนี้
วังนี้ มีนามว่าวังราชันปิศาจ!
นายแห่งวังนี้มีความสามารถถึงระดับใด จึงกล้าเรียกตนเองว่าราชัน!
ทั้งยังเป็ราชันปิศาจ!
คนผู้นี้คงเป็บุคคลไร้เทียมทานที่มีพร์เป็เอก ไม่เช่นนั้น เหตุใดจึงกล้าเรียกตนเองว่าราชันปิศาจ และถึงขั้นวังอันโอ่อ่า
แต่ตามที่ภาพวาดบนผนังบันทึกไว้ เมื่อสามร้อยกว่าปีก่อน ราชันปิศาจผู้เป็นายแห่งวังราชันปิศาจได้เคล็ดวิชาล้ำเลิศมาเล่มหนึ่ง ข่าวนี้ทำให้กลุ่มอิทธิพลอันไร้เทียมทานอื่นๆ ต่างริษยา ดังนั้น จึงมา่ชิงถึงที่ ทว่าราชันปิศาจไม่ยินยอม ผลคือทั้งสองฝ่ายเปิดศึกใหญ่ วังราชันปิศาจสู้คนจำนวนมากกว่าไม่ได้จึงพ่ายแพ้ ส่วนราชันปิศาจหมดหนทางพลิกฟื้น ตายด้วยเงื้อมมือของผู้เข้มแข็งทุกคน อีกฝ่ายก็าเ็สาหัส พวกเขาค้นหาทั่ววังราชันปิศาจแล้ว แต่ก็หาเคล็ดวิชาล้ำเลิศในตำนานเล่มนั้นไม่พบ สุดท้าย ผู้เข้มแข็งทุกคนบันดาลโทสะแล้วร่วมมือกันทำลายวังราชันปิศาจ จึงยอมเลิกราและจากไปด้วยความแค้น
เซียวเฉินมองวังราชันปิศาจแล้วถอนหายใจ
ในอดีตเจิดจรัส แต่ประสบหายนะเพราะเคล็ดวิชาเพียงเล่มเดียว...
น่าเศร้าจริงๆ
แต่ก็บอกทางอ้อมว่าเคล็ดวิชาเล่มนั้นต้องล้ำเลิศเป็แน่ ไม่เช่นนั้น คงไม่ทำให้ผู้มีความสามารถไร้เทียมทานมากมายไป่ชิงโดยไม่เสียดายกับการจ่ายค่าตอบแทนทุกอย่าง
ในใจของเซียวเฉินก็ปรารถนาเช่นกัน
“เป็เคล็ดวิชาเช่นไรกันแน่นะ? บางทีอาจจะไม่มีอยู่ ไม่เช่นนั้น เหตุใดค้นทั่ววังราชันปิศาจแล้วจึงหาไม่เจอ?” เซียวเฉินส่ายศีรษะเอ่ยยิ้มๆ หากมีคงไม่ถึงรอบของตนเองเป็แน่ เกรงว่าคงถูกคนเอาไปนานแล้ว
เซียวเฉินเดินไปตามทางที่ปูไว้ตรงเบื้องหน้า เห็นข้างหน้าไม่ไกลนักมีแสงไฟรางๆ
ในแสงไฟแฝงพลังเสวียนจางๆ ขุมหนึ่ง เซียวเฉินเร่งฝีเท้าคิดจะสำรวจดู แต่เมื่อเขาเดินไปข้างหน้ากลับตะลึงงัน เนื่องจากสิ่งที่แผ่แสงเสวียนออกมามิใช่อื่นใด ทว่าเป็กระดูกกองหนึ่ง
สิ่งที่เปล่งแสงถึงกับเป็กระดูกมนุษย์!
คิดๆ แล้วเซียวเฉินก็รู้สึกหนาวสันหลัง
เซียวเฉินอาศัยแสงไฟบนร่างมองพินิจกระดูกกองนั้น ด้านหน้ากระดูกมีอักษรเล็กๆ หนึ่งแถว
“ผู้กราบไหว้ข้า จะได้รับสืบทอดจากข้า...”
เซียวเฉินค่อยๆ พึมพำ ดวงตาค่อยๆ ฉายแววลิงโลด
กระดูกตรงเบื้องหน้าคงไม่ใช่นายแห่งวังราชันปิศาจ บุคคลผู้ยิ่งใหญ่ ผู้าุโที่เรียกว่าราชันปิศาจท่านนั้นเมื่อสามร้อยกว่าปีก่อนหรอกนะ!
นี่คือบุคคลไร้เทียมทานเมื่อสามร้อยกว่าปีก่อน!
หากได้รับสืบทอดจากเขา ความสามารถของตนเองต้องแข็งแกร่งขึ้นแน่!
แววตาของเซียวเฉินเปล่งประกาย จากนั้นเดินไปข้างหน้าช้าๆ เดินถึงเบื้องหน้ากระดูกกองนั้นด้วยแววตาจริงจัง ในเมื่อเป็ผู้าุโ ย่อมต้องได้รับการกราบไหว้จากตนเอง ดังนั้น เซียวเฉินจึงคุกเข่าโขกศีรษะช้าๆ เคารพและจริงใจ หลังกราบไหว้ เซียวเฉินก็เอ่ยช้าๆ “ผู้าุโ หากผู้เยาว์เซียวเฉินได้รับสืบทอดจากท่าน จะทำให้มันเจิดจรัส ไม่นำความเสื่อมเสียมาสู่ชื่อเสียงของผู้าุโแน่นอน...”
สิ้นเสียงของเซียวเฉิน กระดูกนั้นพลันส่งเสียงดังวิ้งๆ เหมือนยอมรับเซียวเฉิน
โจมตีลำแสงลงบนร่างของเซียวเฉิน
เซียวเฉินรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างรุกรานเข้ามาในห้วงการรับรู้ของตนเองจึงรีบหลับตาตรวจสอบ จากนั้นร่างสะท้าน ตอนแรกมีสีหน้าใสุดขีด ต่อมาลิงโลดยินดี ปีติแทบคลั่ง
ลืมตาขึ้นมองกระดูกนั้นและกราบไหว้อีกทันที
“ท่านคือนายแห่งวังราชันปิศาจจริงๆ ด้วย ผู้าุโราชันปิศาจมู่อี่เฟิง...”
เซียวเฉินรู้สึกถึงสิ่งของในห้วงการรับรู้จึงเอ่ยพึมพำ “มิน่าเล่า สามร้อยกว่าปีก่อน ผู้มีความสามารถไร้เทียมทานมากมายพลิกวังราชันปิศาจก็หาคัมภีร์ล้ำเลิศเล่มนั้นไม่พบ ที่แท้ไม่มีตำรา สิ่งที่มีคือเคล็ดวิชาที่ประทับอยู่ในห้วงการรับรู้ของผู้าุโราชันปิศาจ...”
ว่าแล้ว เซียวเฉินก็หัวเราะ
ต้องขอบคุณเ้าเดรัจฉานนั่น หากมิใช่มันบีบให้ตนะโหน้าผา ตนมิพลาดการสืบทอดอันยอดเยี่ยมนี้หรือ?
แต่ดวงตาของเซียวเฉินกลับเปล่งประกายเย็นเยียบ
ต่อให้เป็เช่นนี้ เขาก็ไม่คิดจะละเว้นมัน คนที่รังแกเขา เขาต้องเอาคืนเป็สิบเท่า...
เซียวเฉินมองกระดูกตรงเบื้องหน้าแล้วเกิดความรู้สึกโศกเศร้าในใจ บุคคลไร้เทียมทาน ผู้เป็นายแห่งวังราชันปิศาจในยามนั้น บัดนี้ตายอย่างอนาถ ถึงกับไร้สถานที่ฝังกระดูก ปีนั้นเขาต้องคาดไม่ถึงแน่ว่าตนเองจะมีวันที่ถูกทุบตีอย่างอเนจอนาถ เซียวเฉินคิดในใจแล้วเก็บกระดูกของราชันปิศาจมู่อี่เฟิงขึ้นมาทีละชิ้น และฝังไว้ตรงสถานที่แห่งหนึ่งในวังราชันปิศาจ
หยิบเสาหินขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ใช้กระบี่ฟันลงราวกับตัดโคลน จากนั้นสลักลงไปเจ็ดอักษร
สุสานราชันปิศาจมู่อี่เฟิง
ได้ผู้สืบทอด รับการกลบฝัง ให้เขาลงสู่ผืนดินได้รับความสงบ ถือว่าตอบแทนบุญคุณที่ได้รับสืบทอดจากเขา เซียวเฉินยิ้มแล้วเดินออกมา
ในเมื่อได้เคล็ดวิชาล้ำเลิศมา จะไม่ตั้งใจฝึกให้ดีได้อย่างไร
หนึ่งเดือนต่อมา ก้นเหวแห่งหนึ่งในพื้นที่รกร้างดารารายพลันมีไอปิศาจแข็งแกร่งพวยพุ่ง
ไอปิศาจทะยานฟ้าทำสัตว์ปิศาจตื่นตระหนก
ชั่วขณะ เสียงคำรามของสัตว์ปิศาจในพื้นที่รกร้างดารารายก็ะเืฟากฟ้า
ส่วนที่ก้นหุบเหว ทั่วร่างของเซียวเฉินแผ่ไอปิศาจอันแข็งแกร่ง เค้าหน้าโดดเด่นยิ่งปรากฏความหล่อเหลาชั่วร้ายตรงข้ามกับไอปิศาจเื้ั ดุจราชันบนบัลลังก์ของปิศาจนับหมื่น ทำให้หมื่นปิศาจยอมสยบ
ยามนี้ ใบหน้าของเซียวเฉินประดับด้วยรอยยิ้ม
“เทพปิศาจแปรเปลี่ยน...แข็งแกร่งนัก...”
จากนั้นค่อยๆ เก็บไอปิศาจ คืนสู่ร่างเดิม
“เทพปิศาจแปรเปลี่ยนแข็งแกร่งจริงๆ ถึงกับสามารถกลายเป็หมื่นปิศาจเข้าสัประยุทธ์...สมกับเป็เคล็ดวิชาล้ำเลิศ...”
ในเวลาเดียวกับที่เซียวเฉินถอนหายใจ เขาก็สืบเท้าออกและหายไปจากที่เดิม
ได้เวลากลับไปคิดบัญชีแล้ว
ขณะเดียวกัน สัตว์ปิศาจตัวหนึ่งที่นอนอยู่บนเนินเขาก็ลืมตาทั้งสองข้างทันควัน ทั่วร่างแผ่รังสีแข็งแกร่ง แต่ในดวงตาของมันมีแววสับสนลนลาน ต้องรู้ก่อนว่า มันเป็สัตว์ปิศาจระดับแปด มีความสามารถขั้นเสวียนฟ้าเก้าชั้นฟ้าระดับสูงสุด สิ่งใดสามารถขู่ขวัญมันได้?
ครู่ต่อมา สายตาของมันจับนิ่งที่ต้นไม้โบราณขนาดใหญ่ต้นหนึ่ง
ดวงตาที่มองต้นไม้โบราณมีแววหวาดกลัว
จากนั้น มีเสียงหัวเราะแจ่มใสดังมาจากด้านหลังต้นไม้โบราณ เด็กหนุ่มชุดขาวเดินออกมาช้าๆ ใบหน้าของเด็กหนุ่มมีรอยยิ้ม แต่กลับจับจ้องสัตว์ปิศาจตัวนั้นด้วยแววตาเย็นเยียบ เหมือนกลัวว่ามันจะหนีไป
เมื่อสัตว์ปิศาจรู้สึกถึงกลิ่นอายบนร่างของเซียวเฉินก็ก้าวถอยหลัง
“ไม่ได้เจอกันเสียนาน ไม่รู้ว่าเ้ายังจำคำพูดที่ข้าเคยกล่าวได้หรือไม่?”