ปรากฏการณ์มหัศจรรย์จากพิธีไหว้พระจันทร์มีหลายประเภท แต่ปรากฏการณ์นวัล้อมเดือนนับว่าเป็ปรากฏการณ์ขั้นสูงสุด และเป็สัญญาณว่ายุครุ่งเรืองของแคว้นจินหลานกำลังจะมาถึงแล้ว ครั้งสุดท้ายที่เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ขึ้น คือตอนที่กษัตริย์องค์ที่หกซึ่งเฉลียวฉลาดที่สุดแห่งแคว้นจินหลานได้ทำพิธีนี้ และกษัตริย์ที่หกนี้ได้พัฒนาแคว้นจินหลานจากการเป็แคว้นที่อ่อนแอให้เป็แคว้นระดับกลาง และหลุดพ้นจากการถูกรังแก
หลังจากผ่านมากว่าสามร้อยปี ในวันนี้ก็ได้เกิดปรากฏการณ์นวัล้อมเดือนขึ้นอีกครั้ง เหตุการณ์นี้สั่นคลอนทุกฝ่าย
องค์ชายสาม องค์ชายเก้า เฉิงปู้กุย ซือสิ่งหลง และฝาแฝดหยินหยาง พวกเขายังอยู่บนยอดเขานี้เพราะเพิ่งเดินจากไปได้เพียงยี่สิบก้าว
ปรากฏการณ์ดังกล่าวทำให้พวกเขาตกตะลึงในทันที ทั้งหมดหยุดยืนอยู่กับที่ ก่อนจะจ้องมองไปยังบุคคลที่ทำให้เกิดนวัล้อมเดือน ซึ่งคนคนนั้นก็คือชายหนุ่มที่พวกเขาไม่ได้ให้ความสนใจ และ้ากีดกันเขาจากสถานะยุวราชันั้แ่แรก
ผู้คนทั้งเมืองหลวงของแคว้นจินหลานต่างก็ตกอยู่ในความใเช่นกัน
ในคืนไหว้พระจันทร์นี้บ้านทุกหลังจะประดับประดาด้วยโคมไฟ และแม้จะเป็ตอนกลางคืน แต่ก็ยังมีความครึกครื้นกันอยู่
เมื่อนวัล้อมเดือนปรากฏขึ้น ในเมืองหลวงที่มีประชากรมากมายนี้ทุกคนล้วนตกอยู่ในความเงียบงันชั่วขณะ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงร้องของความดีใจอย่างท่วมท้น ผู้คนต่างรีบออกจากบ้านเพื่อมาชมปรากฏการณ์ที่หาได้ยากยิ่งนี้
ในขณะเดียวกันงานเลี้ยงภายในพระราชวังก็ถูกหยุดไว้ชั่วคราว ทั้งกษัตริย์และท่านราชครูสั่งให้คนไปสังเกตการณ์เหตุการณ์นี้
นวัล้อมเดือนส่องแสงเจิดจ้า
เมื่อแสงจันทร์ส่องผ่านเป็ประกาย ผู้คนที่สัญจรไปมาต่างก็ถูกสะกดให้ต้องจ้องมองปรากฏการณ์นี้
ผู้คนในแคว้นจินหลานได้เห็นปรากฏการณ์ที่พวกเขาจะไม่มีวันลืม
กลางคืนดวงจันทร์สว่างไสว นวัรายล้อมดวงจันทร์ ดั่งดอกหอมหมื่นลี้ที่อยู่บนต้นหอมหมื่นลี้อายุหมื่นปี มีคนคนหนึ่งยืนถือจอกสุราอยู่เพียงผู้เดียวบนยอดเขา เส้นผมและเสื้อผ้าปลิวล้อไปตามสายลม ใบหน้าหล่อเหลาภายใต้แสงจันทร์ที่ตกกระทบเต็มไปด้วยความปรารถนา ดวงตาฉายแววเศร้าโศก ทั้งหมดเป็ภาพที่งดงามมาก จนทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นลุ่มหลงอยู่กับฉากนี้
แม้แต่เสวี่ยปิงหนิงก็ยังรู้สึกดั่งตกอยู่ในภวังค์เช่นกัน
ชิ้ง!
นวัมุ่งไปที่กลางดวงจันทร์ ทำให้ดวงจันทร์ที่สว่างไสวดูคล้ายเป็ถ้วยรองรับนวั จากนั้นลำแสงจันทราที่หนามากหนึ่งเส้นก็ส่องลงมากระทบร่างของหลัวเลี่ย ทำให้ร่างของเขายิ่งเปล่งประกายมากขึ้น
จากนั้นดอกหอมหมื่นลี้ก็ค่อยๆ ร่วงหล่นลงมาจากต้นหอมหมื่นลี้อายุหมื่นปี กลีบดอกร่วงหล่นและปลิวไปตามสายลม ทั้งหมดปลิวไปทางนวั แล้วรวมกันกลายเป็ัดอกไม้พิเศษตัวหนึ่งที่ไม่เหมือนผู้ใด
บนหัวของัดอกไม้คือดวงจันทร์ที่สว่างไสว ัดอกไม้มองมาที่หลัวเลี่ยจากนั้นก็เปล่งเสียงร้องของัออกมา
แสงจันทร์ที่สว่างไสวพุ่งเข้าไปในปากของัดอกไม้ และเมื่อแสงจันทร์รวมตัวกับกลีบดอกหอมหมื่นลี้พวกนั้น สุดท้ายก็ก่อตัวเป็ของเหลวใสดุจคริสตัลหยดหนึ่ง
ติ๋ง!
ดั่งหยดน้ำในฤดูใบไม้ผลิ ของเหลวหยดหนึ่งออกมาจากปากของัดอกไม้ ตกลงสู่มือของหลัวเลี่ย
แล้ววินาทีต่อมา ัดอกไม้ก็สลายไป
กลายเป็ฉากที่สวยงามมากฉากหนึ่ง
เหล่ากลีบดอกไม้ร่วงหล่นดั่งสายฝนหลากสีโปรยปรายลงมาที่ตัวของหลัวเลี่ย
่เวลาที่กลีบดอกหอมหมื่นลี้ร่วงหล่นได้นำพาความโหยหาต้นหอมหมื่นลี้มาด้วย ซึ่งเป็ความรู้สึกเช่นเดียวกับที่หลัวเลี่ยโหยหาพ่อแม่ของเขา
ความรู้สึกที่ตรงกันนี้ทำให้หลัวเลี่ยััได้ถึงจิติญญาของต้นหอมหมื่นลี้
จิติญญาของเขาเหมือนถูกดึงดูดเข้าไปในจิติญญาของต้นหอมหมื่นลี้ หลังจากนั้นความรู้สึกอิสรเสรีก็เกิดขึ้นภายในใจของเขา
ระดับแก่น์!
ในโลกวรยุทธ์นี้ ระดับแก่น์เป็ระดับที่พิเศษมาก หากไม่มีความเข้าใจในระดับนี้อย่างแท้จริงก็จะหยุดอยู่ที่ระดับแก่น์นี้ตลอดไป ยากที่จะเข้าสู่ระดับวังชะตาได้
สิ่งนี้ถือเป็อุปสรรคใหญ่สำหรับผู้ฝึกวรยุทธ์หลายๆ คน
แต่หลัวเลี่ยได้รับเพียงความช่วยเหลือจากจิติญญาของต้นหอมหมื่นลี้อายุนับหมื่นปีเท่านั้น หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาก็มีการรับรู้ถึงระดับแก่น์
ความรู้สึกของระดับแก่น์ในขณะนี้นั้นยอดเยี่ยมมาก ราวกับว่าทุกสิ่งบนโลกอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
ด้วย่เวลาที่ได้รับระดับแก่น์นี้ ทำให้ความสงสัยในศิลปะการต่อสู้ทั้งหมดในใจของหลัวเลี่ยได้รับการแก้ไขจนกระจ่างแล้ว
หลัวเลี่ยมองไปทางเมืองหลวงของแคว้นจินหลาน
ทันใดนั้นเขาก็พบว่าเขาสามารถเห็นทุกสิ่งในเมืองหลวงได้อย่างชัดเจน แม้แต่เส้นขนเส้นเล็กๆ บนพระพักตร์ของาาแห่งแคว้นจินหลานก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาเขาไปได้
เขาได้แต่คิดในใจว่า อยากให้เป็แบบนี้ตลอดไป
และผลจากความคิดนี้ พบว่าจิติญญาของต้นหอมหมื่นลี้อายุหมื่นปีได้ปล่อยไอพลังกระตุ้นออกมาอย่างน่าอัศจรรย์ วินาทีต่อมาต้นไม้นับพันต้นบนูเาอวิ๋นเยว่ก็เปลี่ยนจากสีเหลืองที่เหี่ยวเฉาเป็สีเขียวมรกต ทุกสิ่งฟื้นคืนกลับมามีชีวิตชีวา
พลังลมปราณแห่งธรรมชาติอันแข็งแกร่งจากทุกทิศทางรวมตัวกันเข้าสู่ร่างกายของหลัวเลี่ย
ราวกับว่าเขาเป็เหมือนต้นไม้แห้งเหี่ยวพวกนั้นที่ได้รับพลังแล้วฟื้นฟูกลับมาแข็งแกร่ง ผลลัพธ์จากเหตุการณ์นี้คือพลังภายในร่างกายของหลัวเลี่ยเกิดการปั่นป่วนขึ้นอย่างรุนแรง
ตูม!
ตูม!
เพียงพริบตาเดียว หลัวเลี่ยก็ทะลวงผ่านสองระดับในเวลาติดต่อกัน
จากผู้ฝึกตนระดับที่หกสู่ผู้ฝึกตนระดับที่แปด
และในขณะเดียวกันนั้นระดับพลังแก่น์ก็สลายไปเช่นกัน
หลัวเลี่ยยังมีความรู้สึกอยากถอยห่างจากต้นหอมหมื่นลี้อายุหมื่นปีอยู่
เมื่อเขารู้สึกถึงพลังภายในร่างกายของเขาที่กำลังปั่นป่วนแล้ว หัวใจของเขาก็เปี่ยมไปด้วยความสุข การพัฒนาเช่นนี้ไม่เพียงแต่เป็การพัฒนาทางพลังภายในเท่านั้น แต่ยังเป็การพัฒนาสมรรถภาพทางกายอีกด้วย
ลักษณะพิเศษของผู้ฝึกตนระดับที่แปดในเคล็ดวิชาั์ก็คือ หายใจดั่งั และเคลื่อนไหวดั่งช้างศึก
แน่นอนว่าสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือการได้อยู่ในระดับแก่น์ แม้ว่าจะเป็เพียงแค่่เวลาหนึ่ง แต่ความช่วยเหลือที่หลัวเลี่ยได้รับนั้นยิ่งใหญ่มาก ประการแรกคือความแข็งแกร่งของเขาดีขึ้น ประการที่สองคือเขาไม่เหมือนคนอื่นที่ยากจะเข้าใจระดับแก่น์นี้ เพราะเขาเข้าใจระดับแก่น์แล้ว และข้อสงสัยเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ต่างๆ ของเขาก็ได้รับการแก้ไขจนกระจ่างแล้ว ทำให้การก้าวข้ามและการพัฒนาครั้งต่อไปง่ายขึ้นมาก
“งดงามมาก นี่คือปรากฏการณ์ในพิธีไหว้พระจันทร์ที่อยู่ในขั้นสูงสุด”
“ทั้งชีวิตได้มีโอกาสเห็นปรากฏการณ์เช่นนี้ หากต้องตายตอนนี้ก็นับว่าไม่เสียดายแล้ว”
“ปรากฏการณ์นวัล้อมจันทร์และหยาดจันทร์นิรวาน!”
“สิ่งที่หลัวเลี่ยถืออยู่ในมือคือสมบัติหายากของดินแดนนี้ นั่นคือหยาดจันทร์นิรวาน”
มีบางคนชื่นชม และมีบางคนที่ทำมากกว่าชื่นชม เช่นองค์ชายทั้งสอง
สายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่หยดน้ำในมือของหลัวเลี่ย
ของเหลวนี้คือหยาดจันทร์นิรวานที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
ดวงตาขององค์ชายเก้าเปล่งแสงสีเขียวเหมือนหมาป่า “หยาดจันทร์นิรวานนี้แม้ว่าจะไม่สามารถช่วยเื่การฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ได้ แต่มันจะช่วยสร้างร่างกายอันสมบูรณ์แบบเพื่อรองรับต่อการเข้าสู่ระดับกายทองคำ”
“หยาดจันทร์นิรวาน ข้า้ามัน” องค์ชายสามเองก็จับจ้องมันอย่างหมายมั่น
ไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้นที่ปรารถนา แม้แต่เฉิงปู้กุย ซือสิ่งหลง ฝาแฝดหยินหยาง และลูกหลานของผู้สูงศักดิ์หลายคนต่างก็จับจ้องหยาดจันทร์นิรวานนี้
หยาดจันทร์นิรวานสามารถเปลี่ยนมนุษย์ธรรมดาให้กลายเป็ยอดอัจฉริยะที่มีชีวิตเป็ะได้
ของเช่นนี้ผู้ใดจะไม่ปรารถนาเล่า
และตอนนี้หยาดจันทร์นิรวานก็อยู่ในมือของหลัวเลี่ย
องค์ชายทั้งสองชำเลืองมองกันและกัน พลางเดินกลับไปที่ด้านหน้าของต้นหอมหมื่นลี้หมื่นปีอย่างรวดเร็ว
จากนั้นผู้มากฝีมือในรุ่นเยาวชนของแคว้นจินหลานก็เดินตามไป
“หลัวเลี่ย ส่งหยาดจันทร์นิรวานมาซะ สิ่งนั้นเป็สมบัติของแคว้นจินหลาน การที่ถูกคนจากแคว้นเล็กๆ อย่างแคว้นเป่ยสุ่ยถือไว้นับว่าเป็มลทินมากพอแล้ว” องค์ชายสามะโสั่ง
องค์ชายเก้าเห็นด้วยกับองค์ชายสาม เขากล่าวว่า “ถูกต้อง หยาดจันทร์นิรวานมาจากต้นหอมหมื่นลี้หมื่นปีอันศักดิ์สิทธิ์แห่งแคว้นจินหลานของข้า เ้าไม่มีสิทธิ์แตะต้อง ส่งมันมาซะ แล้วข้าจะยอมปล่อยมือจากตำแหน่งยุวราชัน และยอมให้เ้าเข้าร่วมการประลอง”
ท่ามกลางคำพูดขององค์ชายทั้งสอง หลัวเลี่ยค่อยๆ ใส่หยาดจันทร์นิรวานที่ใสสะอาดลงในขวดกระเบื้องขนาดเล็ก จากนั้นก็เก็บมันลงไปในกระเป๋าเฉียนคุณของเขา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้