แสงอาทิตย์ลอดผ่านช่องหน้าต่างเล็กๆ ของโกดังร้างที่หลินเว่ยและหลิวซินใช้เป็ที่หลบซ่อนชั่วคราว หลังจากค้นพบตำราวิชาลมปราณอันลึกลับเมื่อวานนี้ ทั้งสองตื่นมาพร้อมกับความมุ่งมั่นที่จะฝึกฝนวิชาดังกล่าวอย่างเข้มข้น
หลินเว่ย ลืมตาตื่นขึ้นมาพบว่า หลิวซิน นั่งสมาธิอยู่มุมห้องอย่างสงบนิ่ง แสงสีทองอ่อนๆ แผ่รอบร่างของเธอ เป็พลังงาน ชี่ ที่ควบคุมได้อย่างชำนาญ เมื่อรู้สึกถึงการตื่นของหลินเว่ย เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้น
"ตื่นแล้วหรือ?" หลิวซินถาม น้ำเสียงสดใสขึ้นเล็กน้อยหลังการฝึกสมาธิ "เราต้องเริ่มฝึกอย่างจริงจังแล้ว เวลาของเราเหลือน้อยลงทุกขณะ"
หลินเว่ยพยักหน้า ลุกขึ้นยืด ความเ็ปจากการติดเชื้อยังคงอยู่ แต่ก็บรรเทาลงมากหลังจากการฝึกท่าแรก ัหลับใหล เมื่อคืน "เราจะเริ่มจากท่าที่สองใช่ไหม?"
"ใช่" หลิวซินลุกขึ้นยืน ก่อนจะเปิดตำราเล่มเก่าอย่างระมัดระวัง "ท่าที่สองคือ ัตื่นกาย เป็ท่าที่จะช่วยให้พลัง ชี่ ไหลเวียนทั่วร่างกาย ปลุกประสาทััให้ตื่นตัว"
หลิวซินเริ่มสาธิตท่ายืน เท้าทั้งสองวางห่างกันเท่าความกว้างของไหล่ หลังตรง แขนปล่อยตามสบายข้างลำตัว
"ยืนตัวตรง หายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ พร้อมกับยกแขนขึ้นช้าๆ" หลิวซินสาธิต ขณะที่เธอหายใจเข้า แขนของเธอค่อยๆ ยกขึ้นจากด้านข้างลำตัว "จินตนาการว่ากำลังดึงพลังจากพื้นดินขึ้นมาตามแขน"
หลินเว่ยทำตาม รู้สึกถึงกระแสอุ่นๆ จากพื้นดินไหลขึ้นมาตามปลายเท้า ขา และลำตัว
"เมื่อแขนยกถึงระดับอก ให้หมุนฝ่ามือออก หายใจออกพร้อมผลักแขนไปข้างหน้า" หลิวซินดันฝ่ามือออกไปข้างหน้าอย่างนุ่มนวลแต่เด็ดขาด "จินตนาการว่ากำลังผลักอากาศออกไป กระจายพลัง ชี่ ไปทั่วร่างกาย" "แสงสีทองอ่อนๆ เริ่มเปล่งประกายรอบร่างของหลิวซินขณะที่เธอสาธิตท่าทาง ไม่ใช่แสงที่มองเห็นด้วยตา แต่เป็พลังงานที่หลินเว่ยััได้ด้วยประสาทััที่เริ่มตื่นตัว เขามองเห็นกระแสพลังงานพลิ้วไหวรอบกายหลิวซินราวกับม่านแห่งแสงทองที่เต้นระบำตามจังหวะการหายใจของเธอ ช่างงดงามและทรงพลัง ราวกับเธอกำลังลอยอยู่เหนือพื้นโลก เป็ภาพที่ทั้งสวยสดและน่าเกรงขาม ทันใดนั้นหลินเว่ยเริ่มเข้าใจว่าทำไมวิชานี้ถึงได้ชื่อว่า 'ัทะยานฟ้า' — มันคือการปลดปล่อยพลังอันยิ่งใหญ่ที่ซ่อนอยู่ภายใน เป็การแปรสภาพจากมนุษย์ธรรมดาให้กลายเป็สิ่งที่เหนือกว่า"
หลินเว่ยรู้สึกถึงกระแสพลังแล่นไปตามแขน เมื่อเขาผลักฝ่ามือออกไป เกิดความรู้สึกแปลกประหลาดราวกับมีอะไรบางอย่างไหลออกจากร่างกาย
"ทำซ้ำอีกครั้ง แต่คราวนี้ให้จดจ่ออยู่กับความรู้สึกของพลังที่ไหลเวียน" หลิวซินแนะนำ "ท่านี้ต้องทำอย่างน้อยสิบรอบติดต่อกัน"
พวกเขาฝึกซ้ำไปมาหลายรอบ แต่ละครั้งหลินเว่ยรู้สึกถึงพลัง ชี่ ที่ชัดเจนขึ้น ราวกับร่างกายกำลังตื่นตัวขึ้นจากการหลับใหลอันยาวนาน
"ดีมาก" หลิวซินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ "คุณก้าวหน้าเร็วกว่าที่คาด บางคนต้องใช้เวลาเป็เดือนกว่าจะรู้สึกถึงการไหลเวียนของพลัง ชี่ ได้ชัดเจนแบบนี้"
"อาจเป็เพราะเชื้อในร่างกายของผม" หลินเว่ยเสนอ "มันเหมือนกำลังต่อสู้กับบางสิ่งตลอดเวลา ทำให้ผมต้องดึงพลังออกมาเพื่อต่อต้าน"
หลิวซินคิดครู่หนึ่ง "อาจจะใช่ นั่นอาจกระตุ้นให้ร่างกายคุณตอบสนองเร็วกว่าปกติ" เธอหยิบขวดน้ำส่งให้ "ดื่มน้ำก่อน แล้วเราจะฝึกต่อ"
หลินเว่ยรับน้ำมาดื่ม มองออกไปนอกหน้าต่าง ท้องฟ้ายังคงมีสีแดงปนส้มผิดธรรมชาติ เสียงไซเรนและเสียงะเิดังแว่วมาจากไกลๆ เป็ระยะ โลกภายนอกยังคงอยู่ในความโกลาหล
"ผมคิดว่าเราควรออกเดินทางเร็วๆ นี้" หลินเว่ยเอ่ย "ถ้าองค์กรเทียนซื่อยังตามหาเรา ที่นี่อาจไม่ปลอดภัยอีกต่อไป"
หลิวซินพยักหน้า "ตามข้อมูลที่ฉันรวบรวมมาก่อนเกิดการระบาด ฉันคิดว่าเราควรมุ่งหน้าไปทางูเาทางทิศตะวันตก ที่นั่นมีชุมชนเล็กๆ ที่อาจช่วยให้เราซ่อนตัวได้"
"คุณรู้จักที่นั่นหรือ?" หลินเว่ยถามอย่างสงสัย
"ตระกูลของฉันมีเครือข่ายกว้างขวาง" หลิวซินตอบอย่างลึกลับ "มีผู้พิทักษ์ตำรากระจายอยู่ทั่วประเทศ และพวกเขาอาจช่วยเราได้"
ก่อนที่หลินเว่ยจะถามต่อ เสียงกรีดร้องดังมาจากถนนด้านนอก ตามด้วยเสียงวิ่งและเสียงปืน ทั้งสองรีบย่องไปที่หน้าต่าง มองออกไปอย่างระมัดระวัง
กลุ่มผู้ติดเชื้อประมาณห้าคนกำลังไล่ล่าผู้รอดชีวิตสองคนบนถนน ขณะที่ทหารในชุดป้องกันสีดำกำลังยิงผู้ติดเชื้อ หนึ่งในผู้รอดชีวิตดูเหมือนจะเป็หญิงสาวที่าเ็ อีกคนเป็ชายวัยกลางคนที่พยายามปกป้องเธอ
"เราต้องช่วยพวกเขา" หลินเว่ยตัดสินใจทันที
"อย่า!" หลิวซินห้าม "นั่นอาจเป็กับดักของทหารเทียนซื่อ"
แต่หลินเว่ยไม่อาจยืนดูเฉยๆ ได้ สัญชาตญาณของแพทย์ที่ถูกปลูกฝังมาตลอดการศึกษาทำให้เขาต้องช่วยเหลือผู้าเ็ "ผมต้องลองใช้ท่า ัตื่นกาย ดู ถ้ามันช่วยเพิ่มความไวของประสาทััจริง ผมน่าจะช่วยพวกเขาได้"
หลิวซินถอนหายใจ แต่ก็พยักหน้า "ตกลง แต่ฉันจะไปด้วย เราเข้าไปช่วย แล้วออกมาทันที ไม่มีการเผชิญหน้ากับทหาร"
ทั้งสองรีบเก็บข้าวของสำคัญใส่กระเป๋า ก่อนจะออกจากโกดังทางประตูหลัง หลินเว่ยหลับตาลงชั่วครู่ ใช้ท่า ัตื่นกาย ที่เพิ่งฝึกมา ปล่อยให้พลัง ชี่ กระจายทั่วร่างกาย
ทันทีที่ลืมตาขึ้น โลกรอบตัวเขาดูชัดเจนขึ้น เขาสามารถรับรู้การเคลื่อนไหวเล็กๆ ได้แม้กระทั่งจากมุมอับสายตา เสียงต่างๆ ชัดเจนขึ้น และที่สำคัญ เขารู้สึกถึงอันตรายได้ก่อนที่มันจะมาถึง "ความรู้สึกที่แล่นผ่านร่างกายของหลินเว่ยไม่อาจอธิบายด้วยคำพูดธรรมดา โลกรอบตัวเขาไม่เพียงแค่ชัดเจนขึ้น แต่เหมือนเปลี่ยนเป็อีกมิติหนึ่ง ทุกสิ่งเคลื่อนไหวในแบบที่ช้าลง ขณะที่กระแสความคิดของเขาเร็วขึ้น เขาสามารถมองเห็นเส้นพลังงานเล็กๆ ที่เชื่อมต่อระหว่างทุกสิ่งรอบตัว เหมือนใยแมงมุมบางเบาที่โยงใยทุกชีวิตเข้าไว้ด้วยกัน สิ่งมีชีวิตทุกชนิด ต้นไม้ หิน แม้แต่อากาศ ล้วนเต็มไปด้วยพลังชี่ที่ไหลเวียนในรูปแบบต่างๆ กระแสลมอุ่นพัดผ่านลงมาตามสันหลังของเขา พร้อมกับเสียงกระซิบแ่เบาที่ไม่อาจเข้าใจได้ มีบางอย่างในตัวเขากำลังตื่นขึ้นจากการหลับใหลอันยาวนาน
"แปลกมาก" หลินเว่ยกระซิบ "ผมเหมือนััได้ถึงทุกอย่างรอบตัว"
"นั่นคือพลัง ชี่ กำลังทำงาน" หลิวซินอธิบายเร็วๆ "ตอนนี้เราต้องไปช่วยพวกเขา"
ทั้งสองแอบย่องไปตามซอกระหว่างตึก มุ่งไปยังจุดที่ชาวบ้านสองคนกำลังถูกไล่ล่า หลินเว่ยรู้สึกได้ถึงตำแหน่งของผู้ติดเชื้อและทหารอย่างแม่นยำ ราวกับมีเรดาร์อยู่ในหัว
เมื่อถึงมุมถนน หลินเว่ยเห็นว่าชาวบ้านทั้งสองถูกกดดันเข้าไปในตรอกตัน ผู้ติดเชื้อสองคนกำลังคลานเข้าไปหา ขณะที่ทหารอีกสามนายกำลังไล่ตามมาทางด้านหลัง แต่ยังอยู่ไกลพอสมควร
"ผมจะไปดึงความสนใจของผู้ติดเชื้อ คุณพาชาวบ้านออกมา" หลินเว่ยวางแผนอย่างรวดเร็ว
หลิวซินพยักหน้า เตรียมมีดในมือ ขณะที่หลินเว่ยหยิบท่อนเหล็กที่พบในซอยขึ้นมา
"ตอนนี้!" หลินเว่ยะโ พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
ประสาทััที่ถูกเสริมด้วยพลัง ชี่ ทำให้หลินเว่ยเคลื่อนไหวด้วยความเร็วและความแม่นยำที่ไม่เคยมีมาก่อน เขารู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวของผู้ติดเชื้อก่อนที่พวกมันจะขยับ ทำให้เขาหลบหลีกการโจมตีได้อย่างง่ายดาย
เขาตีผู้ติดเชื้อคนแรกด้วยท่อนเหล็ก ไม่ได้มุ่งฆ่า เพียงแค่้าให้มันล้มลงชั่วคราว อีกคนหันมาโจมตีเขา เขาหลบอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะฟาดอีกที
ขณะเดียวกัน หลิวซินวิ่งไปหาชาวบ้านทั้งสอง "มากับฉัน! เร็ว!"
ชายวัยกลางคนยังคงช่วยหญิงสาวที่าเ็ หลิวซินเข้าไปช่วยพยุง พาพวกเขาออกจากตรอกตัน
"หลินเว่ย! รีบมาเร็ว!" หลิวซินะโ ขณะนำชาวบ้านไปยังเส้นทางหลบหนีที่วางแผนไว้
หลินเว่ยถอยออกมาจากผู้ติดเชื้อที่ยังคงดิ้นรนจะลุกขึ้นมา เขาวิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว แต่ประสาทััที่ไวขึ้นทำให้เขารู้สึกถึงอันตรายจากด้านหลัง
"ระวัง!" เขาะโ ผลักทุกคนให้หลบเข้าซอยข้างทาง ขณะที่ะุปืนพุ่งเฉียดผ่านไป
ทหารเทียนซื่อตามมาทัน กำลังยิงมาที่พวกเขา
"ทางนี้!" หลินเว่ยนำทาง พาทุกคนวิ่งเลี้ยวไปตามซอกซอย ด้วยประสาทััที่เฉียบคม เขาสามารถเลือกเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุดได้
หลังจากวิ่งหลบหนีอย่างวุ่นวาย พวกเขาก็มาถึงบ้านร้างหลังหนึ่ง หลินเว่ยพาทุกคนเข้าไปซ่อนตัว รอจนแน่ใจว่าไม่มีใครตามมา
"พวกคุณเป็ใคร ทำไมถึงช่วยเรา?" ชายวัยกลางคนถามระหว่างหอบหายใจ
"ผมชื่อหลินเว่ย นี่หลิวซิน" หลินเว่ยแนะนำตัว "พวกคุณล่ะ?"
"ผมชื่อวังฉี นี่น้องสาวผม หลิน" ชายคนนั้นตอบ "เราหนีออกมาจากศูนย์กักกันของทหาร พวกเขากำลังทดลองอะไรบางอย่างกับผู้คน"
หลินเว่ยหันไปดูาแของหญิงสาว เป็รอยฉีกขาดที่ขา "ฉันเป็นักศึกษาแพทย์ ขอดูแผลหน่อยนะ"
ขณะที่หลินเว่ยกำลังรักษาแผล หลิวซินซักถามวังฉีเพิ่มเติม "คุณรู้อะไรเกี่ยวกับทหารพวกนั้นไหม? พวกเขากำลังทำอะไร?"
"ผมไม่แน่ใจ แต่พวกเขาเรียกตัวเองว่าองค์กรเทียนซื่อ" วังฉีตอบ "พวกเขากำลังทดลองวัคซีนบางชนิดกับผู้ถูกกักกัน บางคนตาย บางคนกลายเป็...สัตว์ประหลาด"
หลิวซินสบตากับหลินเว่ย ก่อนจะถามต่อ "คุณได้ยินอะไรอีกไหม? มีการพูดถึง...ตำราโบราณ หรือพลัง ชี่ บ้างไหม?"
วังฉีดูประหลาดใจ "คุณรู้เื่นั้นด้วยหรือ? ผมได้ยินเ้าหน้าที่ระดับสูงพูดถึงการตามหาคนที่มีพลังพิเศษ—พวกเขาเรียกว่า 'ผู้ถือพลัง ชี่' หรืออะไรทำนองนั้น"
หลินเว่ยและหลิวซินมองหน้ากัน การยืนยันว่าองค์กรเทียนซื่อกำลังตามหาพวกเขาโดยเฉพาะ ทำให้เื่ดูเลวร้ายยิ่งขึ้น
"แผลของเธอไม่เป็ไรมาก แต่ต้องทำความสะอาดและพักผ่อน" หลินเว่ยบอกหลังจากดูแลแผลเสร็จ
"พวกคุณจะไปไหนต่อไป?" หลิวซินถาม
"เราไม่รู้" วังฉีส่ายหน้า "เราแค่พยายามหนีให้ไกลที่สุด"
หลินเว่ยตัดสินใจทันที "พวกคุณควรมากับเรา เราจะไปทีู่เาทางทิศตะวันตก ที่นั่นอาจมีที่หลบภัยปลอดภัย" "บางอย่างในดวงตาของวังฉีและน้องสาวหลอกหลอนหลินเว่ย—แววตาแห่งความสิ้นหวังที่ผสมปนเปกับประกายความหวังเพียงริบหรี่ เขาเห็นภาพสะท้อนของตัวเองในนั้น อดีตนักศึกษาแพทย์ผู้สูญเสียทุกสิ่งภายในเวลาไม่กี่วัน ในโลกที่ความเมตตาและความช่วยเหลือกำลังกลายเป็สิ่งหายากยิ่งกว่าเพชร เขารู้สึกถึงพลังแห่งมนุษยธรรมที่ยังหลงเหลืออยู่ในตัวเองพลุ่งพล่านขึ้นมา นี่ไม่ใช่เพียงเื่ของการเอาตัวรอด แต่เป็การรักษาความเป็มนุษย์ไว้ท่ามกลางหายนะ หากพวกเขาทิ้งความเมตตาไว้เื้ั พวกเขาจะต่างอะไรกับเหล่าผู้ติดเชื้อที่สูญเสียความเป็มนุษย์ไปแล้ว?"
"แต่น้องสาวผม..." วังฉีมองไปที่น้องสาวอย่างกังวล
"เราจะช่วยกันดูแลเธอ" หลินเว่ยยืนยัน "เราไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง"
หลิวซินดูลังเลเล็กน้อย แต่ก็ไม่คัดค้าน "ตกลง แต่เราต้องรีบออกเดินทาง องค์กรเทียนซื่อคงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ"
"ผมต้องบอกอะไรคุณอีกอย่าง" วังฉีพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ในศูนย์กักกัน ผมได้ยินว่าพวกเขากำลังตามหาคนชื่อหลินเว่ย พวกเขาบอกว่าเขาเป็ 'กุญแจสำคัญ' อะไรสักอย่าง"
หลินเว่ยรู้สึกเย็นวาบไปทั้งร่าง นี่ไม่ใช่เื่บังเอิญ องค์กรเทียนซื่อรู้จักชื่อเขา และกำลังตามล่าเขาโดยเฉพาะ
"เราต้องรีบไปจากที่นี่" หลิวซินเตือน "เตรียมตัวให้พร้อม เราจะออกเดินทางในอีกหนึ่งชั่วโมง"
ขณะที่ทุกคนเตรียมตัว หลิวซินดึงหลินเว่ยไปคุยเป็การส่วนตัว
"คุณเชื่อพวกเขาหรือ?" เธอถามเสียงเบา
"ผมไม่แน่ใจ แต่เื่ที่พวกเขาเล่า สอดคล้องกับสิ่งที่เรารู้" หลินเว่ยตอบ "และผมไม่อยากทิ้งพวกเขาไว้ข้างหลัง"
หลิวซินพยักหน้า "ตกลง แต่เราต้องระวังตัว" เธอหยิบตำราลมปราณออกมา "เราต้องเร่งฝึกให้มากขึ้น ถ้าสิ่งที่พวกเขาพูดเป็ความจริง คุณจะต้องพร้อมป้องกันตัวเองและคนอื่นๆ"
"สอนผมเพิ่มเติมได้ไหม?" หลินเว่ยขอร้อง "ผมรู้สึกว่าท่า ัตื่นกาย ช่วยได้มากจริงๆ"
หลิวซินมองหลินเว่ยอย่างครุ่นคิด ก่อนจะตัดสินใจ "เรายังมีเวลาอีกเล็กน้อย ฉันจะสอนหลักการเบื้องต้นของท่าต่อไปให้คุณ"
เธอเปิดตำราไปยังหน้าที่มีภาพวาดคนกำลังกางแขน มีเส้นพลังงานแผ่ออกจากร่างกาย
"ท่านี้เรียกว่า ัสยายปีก" หลิวซินอธิบาย "เป็การฝึกกางแขนและแผ่พลังออกจากร่างกาย ใช้ได้ทั้งเพื่อป้องกันและโจมตี"
หลินเว่ยฟังอย่างตั้งใจ ขณะที่หลิวซินสาธิตท่าทางและอธิบายหลักการ เขารู้สึกถึงโชคชะตาที่นำพาให้เขาได้พบกับเธอ ผู้รู้วิชาโบราณที่อาจช่วยชีวิตเขาได้
"เรามีเวลาไม่มาก" หลิวซินเตือน "แต่ฉันสัญญาว่าจะสอนคุณทุกอย่างที่ฉันรู้ เราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน"
หลินเว่ยยิ้มบางๆ "ขอบคุณ ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงช่วยฉัน แต่ฉันสัญญาว่าจะตอบแทนความช่วยเหลือของคุณให้ได้"
หลิวซินมองลึกเข้าไปในดวงตาของหลินเว่ย น้ำเสียงของเธอจริงจัง "เราต้องช่วยกัน นี่ไม่ใช่เพียงเื่ของเรา แต่เป็เื่ของทุกคนบนโลกนี้"
ทั้งสองจับมือกัน เป็สัญญาณของการเป็พันธมิตรที่จะเผชิญภัยร้ายไปด้วยกัน มือของหลิวซินอบอุ่นและมั่นคง นิ้วเรียวยาวของเธอกำรอบมือของหลินเว่ยอย่างแ่า ดวงตาของทั้งสองสบประสานกัน เป็สัญญาใบ้ที่ลึกซึ้งกว่าคำพูดใดๆ ในชั่วขณะนั้น หลินเว่ยรู้สึกถึงพลังงานบางอย่างที่แลกเปลี่ยนระหว่างพวกเขา ราวกับพลังชี่กำลังไหลวนเชื่อมโยงกัน สร้างสายใยแห่งชะตากรรมที่จะผูกพันพวกเขาไว้ด้วยกันตลอดกาล หลินเว่ยไม่แน่ใจว่าเขาควรไว้ใจหลิวซินมากแค่ไหน แต่ในความโกลาหลของโลกที่กำลังล่มสลาย เธอคือเรือลำสุดท้ายในทะเลพายุ คือความหวังเดียวที่จะพาเขาข้ามผ่านค่ำคืนอันมืดมิดนี้ โดยไม่รู้ว่าการเดินทางข้างหน้าจะเต็มไปด้วยอันตรายและการทดสอบที่ยิ่งใหญ่กว่าที่พวกเขาจินตนาการไว้มากนัก
รัตติกาลอันมืดมิดห่มคลุมป่าทึบที่หลินเว่ยและคณะเดินทางผ่าน ท้องฟ้าสีแดงอมม่วงผิดธรรมชาติยังคงเป็เครื่องเตือนใจถึงหายนะที่กำลังแผ่ขยายไปทั่วโลก แสงจันทร์สาดส่องผ่านยอดไม้เป็ริ้วๆ ทำให้มองเห็นเส้นทางได้พอประมาณ
"เราต้องพักสักหน่อย" หลิวซินกระซิบ ขณะพาทุกคนมาหลบอยู่ในโพรงหินใหญ่ริมลำธาร "พวกทหารคงตามมาไม่ถึงที่นี่ในคืนนี้ ทุกคนควรได้พักผ่อน"
หลินเว่ยวางกระเป๋าลงด้วยความโล่งอก ร่างกายของเขาเ็ปไปทั้งตัวจากการเดินทางหนีตายอันยาวนาน เชื้อไวรัสในร่างกายเขายังคงดิ้นรนต่อสู้กับพลังชี่ที่เริ่มก่อตัว บางครั้งทำให้เขารู้สึกเหมือนมีไฟแผดเผาอยู่ภายใน
"ผมจะเฝ้ายามก่อน" หลินเว่ยอาสา "ทุกคนพักเถอะ"
หลิวซินส่ายหน้า "คุณต้องพักให้มากที่สุด คุณต้องใช้พลังต่อสู้กับเชื้อในร่างกาย ฉันจะเฝ้าเอง"
เมิ่งหลิงที่ร่วมเดินทางมาด้วยนั่งลงข้างลำธาร ล้างแผลถลอกที่แขน "เราจะไปถึงที่ปลอดภัยได้จริงหรือ?" เธอถามเสียงแ่ ดวงตาฉายแววกังวล
"เรายังมีความหวัง" หลิวซินตอบ "ชุมชนบนูเามีปราการธรรมชาติป้องกัน และมีผู้รู้วิชาโบราณที่อาจช่วยเราได้"
หลินเว่ยทรุดตัวลงนั่ง หลับตาลงเพื่อเริ่มต้นฝึกท่า ัหลับใหล เขา้ารวบรวมพลังชี่ให้มากพอเพื่อต่อสู้กับเชื้อร้ายในร่างกาย การหายใจเข้าลึกๆ อย่างสม่ำเสมอทำให้เขารู้สึกถึงกระแสพลังงานอุ่นๆ ไหลเวียนภายใน
ทันใดนั้น ความรู้สึกแปลกประหลาดก็แล่นผ่านสันหลังของเขา ประสาทััที่ถูกปลุกด้วยท่า ัตื่นกาย ส่งสัญญาณเตือนภัย
ดวงตาของหลินเว่ยเบิกกว้าง "มีอะไรบางอย่างกำลังมา!"
หลิวซินดึงมีดออกมาทันที เธอรู้สึกได้เช่นกัน "อยู่ด้านหลังพวกเรา ทุกคนรีบหลบเข้าไปในป่า!"
แต่ก่อนที่พวกเขาจะทันหนี เสียงกรีดร้องอันน่าสะพรึงกลัวก็ดังสะท้อนระหว่างโขดหิน ร่างของมนุษย์ติดเชื้อสามคนะโลงมาจากหน้าผา้า ดวงตาเรืองแสงสีแดงในความมืด พวกมันเดินเซไปมาอย่างน่ากลัว เืแห้งกรังเป็คราบติดอยู่ตามร่าง
"ปิดทางออก!" เมิ่งหลิงกรีดร้อง
หลินเว่ยหันไปมองทิศทางที่เมิ่งหลิงชี้ ผู้ติดเชื้ออีกกลุ่มกำลังปีนลงมาจากโขดหินอีกด้าน พวกเขาถูกล้อมโดยสมบูรณ์
"หลบหลังฉัน!" หลิวซินะโ เตรียมมีดในมือ
หลินเว่ยมองหารอบตัว พยายามหาทางออก แต่มีเพียงลำธารเื้ัเท่านั้นที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อปรากฏตัว
"ะโลงน้ำ!" เขาะโ
"น้ำเชี่ยวเกินไป!" เมิ่งหลิงตอบ ใบหน้าซีดเผือด
ผู้ติดเชื้อคนแรกพุ่งเข้ามา หลิวซินเบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกรีดมีดผ่านลำคอของมัน เืสีดำพุ่งออกมา แต่มันยังคงพยายามจะเข้ามาจับเธอ
หลินเว่ยรู้สึกถึงพลังชี่ในร่างกายเริ่มไหลเวียนรุนแรงขึ้น เขานึกถึงท่า ัตื่นกาย ที่หลิวซินสอนให้ ภาพของการเคลื่อนไหวและการหายใจปรากฏชัดในความคิด
เขาหลับตาลงชั่วครู่ หายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับยกแขนขึ้นช้าๆ จินตนาการว่ากำลังดึงพลังจากพื้นดินขึ้นมา เมื่อแขนยกถึงระดับอก เขาหมุนฝ่ามือออกแล้วผลักออกไปข้างหน้า
ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกเหมือนโลกรอบตัวหยุดนิ่ง ประสาทััทุกอย่างถูกขยายจนสุดขีด เขาสามารถได้ยินเสียงลมหายใจของเมิ่งหลิง เสียงใบไม้ไหวในสายลม และที่สำคัญ—เขาสามารถรับรู้การเคลื่อนไหวของผู้ติดเชื้อทุกคนได้อย่างชัดเจน
ผู้ติดเชื้ออีกคนพุ่งเข้ามา หลินเว่ยหลบหลีกด้วยความเร็วที่เขาเองยังแปลกใจ รับรู้ทิศทางการโจมตีก่อนที่มันจะเกิดขึ้น เขาคว้าท่อนไม้ที่อยู่ใกล้มือและฟาดเข้าที่ขาของผู้ติดเชื้อ ทำให้มันล้มลง
"หลินเว่ย! ระวัง!" เมิ่งหลิงะโ ขณะที่ผู้ติดเชื้อตัวใหญ่พุ่งเข้ามาทางด้านหลัง
หลินเว่ยหันไปทันเวลาพอดี เขาเบี่ยงตัวหลบการโจมตี รู้สึกได้ถึงแรงลมจากกรงเล็บที่พุ่งเฉียดใบหน้าไป
"นี่เป็การใช้ ัตื่นกาย เป็ครั้งแรกของคุณ!" หลิวซินะโขณะต่อสู้กับผู้ติดเชื้ออีกคน "ใช้ประสาทััที่ตื่นตัวนำทางคุณ!"
หลินเว่ยไม่มีเวลาตอบ เขาทุ่มสมาธิทั้งหมดให้กับการเคลื่อนไหวและการรับรู้รอบตัว ความเร็วและความแม่นยำของเขาเพิ่มขึ้นทุกขณะ ร่างกายเคลื่อนไหวเหมือนไม่ใช่ตัวเอง ราวกับมีบางสิ่งนำทาง
แม้ว่าท่า ัตื่นกาย จะช่วยให้พวกเขาต่อสู้ได้อย่างน่าทึ่ง แต่ผู้ติดเชื้อก็มีจำนวนมากเกินไป พวกเขาเริ่มถูกบีบให้ถอยลงสู่ลำธาร
ขณะที่สถานการณ์ดูเหมือนจะสิ้นหวัง เสียงปืนหลายนัดก็ดังขึ้นจากที่ไกลๆ ผู้ติดเชื้อหลายตัวล้มลงด้วยะุที่แม่นยำ
"ช่วยด้วย! ทางนี้!" เสียงของหญิงสาวะโมาจากยอดเขา้า
ทั้งสามคนมองขึ้นไป เห็นกลุ่มคนประมาณห้าคนกำลังยิงปืนมาทางผู้ติดเชื้อ หนึ่งในนั้นโบกมือให้พวกเขา
"ปีนขึ้นมาทางนี้! เร็วเข้า!"
หลินเว่ยและคณะไม่รอช้า พวกเขาปีนขึ้นไปตามโขดหินอย่างรวดเร็ว ขณะที่กลุ่มผู้ช่วยเหลือยังคงยิงปืนไล่ผู้ติดเชื้อ เมื่อขึ้นมาถึง้า พวกเขาจึงได้เห็นหน้ากลุ่มผู้ช่วยชีวิตอย่างชัดเจน
หญิงสาวผมยาวในชุดพรางทหารเป็ผู้นำกลุ่ม เธอมีรอยแผลเป็พาดผ่านแก้มซ้าย ดวงตาคมแข็งแกร่ง
"พวกคุณดวงดีที่เรามาเจอ" เธอพูด น้ำเสียงเฉียบขาด "ฉันชื่อเมิ่งหลิง เราเป็กลุ่มผู้รอดชีวิตที่กำลังเดินทางไปยังูเาเช่นกัน"
หลินเว่ยมองหญิงสาวด้วยความรู้สึกแปลกๆ "คุณชื่อเมิ่งหลิงหรือ?" เขาทวนชื่อ "เหมือนชื่อเธอเลย" เขาชี้ไปที่เมิ่งหลิงที่มากับพวกเขา
ทั้งสองเมิ่งหลิงมองหน้ากัน ดวงตาฉายแววประหลาดใจ
"เื่นี้พูดกันทีหลัง" หลิวซินแทรกขึ้น "ตอนนี้เราต้องไปจากที่นี่ก่อน ผู้ติดเชื้อกำลังพยายามปีนขึ้นมา"
กลุ่มของเมิ่งหลิงคนใหม่พยักหน้า น้าพวกเขาเข้าไปในป่าทึบ พวกเขาเดินทางกันอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ จนห่างจากผู้ติดเชื้อที่ตามมาไม่ทัน
เมื่อมาถึงค่ายชั่วคราวที่ซ่อนอยู่ในโพรงถ้ำ ทุกคนจึงนั่งพักและเริ่มแนะนำตัว
"ฉันเป็อดีตทหารหน่วยพิเศษ" เมิ่งหลิงคนใหม่อธิบาย "เรารวมตัวกันหลังจากที่การระบาดเริ่มขึ้น เราพยายามช่วยเหลือผู้รอดชีวิตระหว่างทางไปูเา"
"ทำไมูเาถึงสำคัญนัก?" เมิ่งหลิงคนเดิมถาม
"มีชุมชนโบราณที่นั่น" เมิ่งหลิงคนใหม่ตอบ "พวกเขามีความรู้ในการต่อต้านเชื้อโรคร้ายแรง และอยู่ห่างไกลจากการเข้าถึงขององค์กรเทียนซื่อ"
หลินเว่ยสบตากับหลิวซิน ราวกับได้รับการยืนยันว่าจุดหมายของพวกเขาถูกต้องแล้ว
"พวกคุณไปที่นั่นทำไม?" เมิ่งหลิงคนใหม่ถาม
หลิวซินลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเล่าความจริง "หลินเว่ยติดเชื้อ แต่ยังไม่แสดงอาการ เราพบตำราโบราณที่อาจช่วยเขาได้..."
ดวงตาของเมิ่งหลิงคนใหม่เบิกกว้าง เธอจ้องมองหลินเว่ยราวกับเห็นผี "คุณติดเชื้อแล้วยังปกติอยู่งั้นเหรอ? นานแค่ไหนแล้ว?"
"เกือบสัปดาห์" หลินเว่ยตอบ "ผมััเืของผู้ติดเชื้อในโรงพยาบาล"
เมิ่งหลิงคนใหม่หันไปกระซิบกับสมาชิกในกลุ่ม ก่อนจะหันกลับมา "คุณต้องเป็คนพิเศษแน่ๆ โดยปกติผู้ติดเชื้อจะแสดงอาการภายใน 24 ชั่วโมง และฉันยังไม่เคยเห็นใครต้านทานได้นานขนาดนี้"
"เป็เพราะตำรา" หลิวซินอธิบาย "วิชาัทะยานฟ้าช่วยให้เขาพัฒนาพลังชี่ที่ต่อต้านเชื้อได้"
แววตาของเมิ่งหลิงคนใหม่เปลี่ยนไป เธอจ้องมองหลินเว่ยอย่างสนใจอย่างยิ่ง "คุณคือกุญแจสำคัญ" เธอพูดช้าๆ
"คุณหมายความว่าอย่างไร?" หลินเว่ยถาม
"มีคำทำนายโบราณของชุมชนูเา" เมิ่งหลิงคนใหม่อธิบาย "ว่าในยามที่มนุษยชาติเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ จะมีผู้ที่แตกต่าง—ผู้ที่สามารถต้านทานหายนะและฟื้นฟูโลกขึ้นใหม่ พวกเขากำลังรอคนแบบคุณ หลินเว่ย"
คำพูดนั้นทำให้ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ
"พวกเราจะออกเดินทางพรุ่งนี้ตอนเช้า" เมิ่งหลิงคนใหม่บอก "ถ้าเราเร่งเดินทาง อาจถึงูเาได้ในอีกสามวัน ทุกคนพักผ่อนให้เต็มที่ คืนนี้ฉันจะจัดเวรยามเอง"
ขณะที่ทุกคนแยกย้ายไปพักผ่อน หลินเว่ยกลับรู้สึกวิตกกังวลมากขึ้น เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีความสำคัญถึงเพียงนี้ เขาเป็เพียงนักศึกษาแพทย์ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้กลับกลายเป็ "กุญแจสำคัญ" ที่ทุกคนพูดถึง
ทั้งองค์กรเทียนซื่อที่้าจับตัวเขา ชุมชนบนูเาที่รอคอยเขา และยังมีความลับเกี่ยวกับชาติกำเนิดของเขาที่ยังไม่ได้เปิดเผย
หลินเว่ยนอนลงอย่างเหนื่อยล้า แต่ก่อนที่จะหลับ เขาได้ยินเสียงกระซิบระหว่างเมิ่งหลิงทั้งสอง
"คุณไม่ได้บอกเขาเื่ที่เกิดขึ้นหรือ?" เมิ่งหลิงคนใหม่ถาม
"ยังไม่ถึงเวลา" เมิ่งหลิงคนเดิมตอบ "เขายังไม่พร้อม"
"เวลาของเราเหลือน้อยแล้ว ทุกอย่างเริ่มต้นแล้ว..."
หลินเว่ยพยายามตั้งใจฟังต่อ แต่ความเหนื่อยล้าทำให้เขาหลับไป โดยที่ไม่รู้ว่าความลับอะไรที่ทั้งสองคนกำลังปิดบังเขาอยู่
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้