บรรยากาศภายในโรงน้ำชาไร้ชื่อเต็มไปด้วยความเงียบสงัด กลิ่นหอมของชาอ่อนๆ ลอยคลุ้งไปทั่ว เมื่อเ้าของร้านสาวออกจากห้องหลังไป ลี่ฮวาเอ๋อร์ก็เริ่มตั้งใจระวังมากขึ้น นางสังเกตเห็นมีคนบางคนที่นั่งอยู่ที่มุมห้องหนึ่งมองมายังโต๊ะของนาง
ชายหนุ่มในชุดขาวสวมเกราะเบาที่ดูคล้ายกับชุดของผู้ฝึกกระบี่ จากท่าทางที่สง่างามและดาบที่วางอยู่ข้างตัว ทำให้ลี่ฮวาเอ๋อร์ค่อนข้างมั่นใจว่าเขาคือผู้ฝึกกระบี่จากพรรคกระบี่
“พรรคกระบี่?” เซียวเหวินหลงกระซิบถามด้วยน้ำเสียงต่ำ
ลี่ฮวาเอ๋อร์พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนที่ทั้งคู่จะลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะของชายหนุ่ม
“ท่านคือ… ผู้มาเยือนจากพรรคกระบี่?” ลี่ฮวาเอ๋อร์ถามด้วยน้ำเสียงที่สุภาพแต่แฝงไว้ด้วยความสงสัย
ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นทักทาย “ข้าคือหลี่เสวี่ย จอมกระบี่แห่งพรรคกระบี่… เพิ่งได้ยินชื่อเสียงของเ้าในหมู่ยุทธภพว่าเ้ามีรสชาติหมูปิ้งที่ไม่มีใครเทียบได้”
ลี่ฮวาเอ๋อร์รู้สึกขัดเขิน แต่ยังคงตอบอย่างมั่นใจ “ขอบคุณที่ให้เกียรติ ถ้าหากท่าน้าลิ้มรสหมูปิ้ง ข้าก็ยินดีเสิร์ฟ”
หลี่เสวี่ยยิ้มกว้างขึ้น “เ้าคงไม่รู้ใช่ไหมว่า รสชาติที่เ้าเสิร์ฟนั้นไม่ใช่แค่ความอร่อย แต่มันกลายเป็ที่้าของพวกที่มีอำนาจในยุทธภพ”
ลี่ฮวาเอ๋อร์นิ่งเงียบไป เสียงของเขากำลังบอกนางว่าไม่เพียงแค่หมูปิ้งธรรมดาๆ แต่ทุกอย่างเกี่ยวกับมันกำลังจะนำพานางเข้าสู่เกมที่ใหญ่ขึ้นในโลกยุทธภพ
“และท่าน้าอะไรจากข้า?” ลี่ฮวาเอ๋อร์ถามอย่างมั่นใจ
หลี่เสวี่ยจ้องมองไปที่นางครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข้า้าให้เ้ามอบสูตรหมูปิ้งของเ้าต่อพรรคกระบี่ เพื่อแลกกับการคุ้มครองจากพวกหลอมลิ้นดำที่ตามล่าเ้า”
คำพูดของเขาทำให้ห้องเงียบลง ลี่ฮวาเอ๋อร์รู้สึกถึงการตัดสินใจที่ยากลำบากในหัวใจ นางเงยหน้ามองหลี่เสวี่ยอย่างท้าทาย
“สูตรหมูปิ้งของข้า... ข้าไม่สามารถมอบให้ใครง่ายๆ ได้ แม้กระทั่งพรรคกระบี่”
หลี่เสวี่ยยิ้มอีกครั้ง “ข้าเข้าใจดี แต่ขอให้เ้ารู้ไว้ว่าหากเ้าปฏิเสธ พวกหลอมลิ้นดำจะไม่ยอมปล่อยเ้าไปง่ายๆ”
บรรยากาศภายในโรงน้ำชาไร้ชื่อยังคงเงียบสงบ ราวกับเวลาหยุดนิ่งไว้เมื่อหลี่เสวี่ยยื่นข้อเสนอให้ลี่ฮวาเอ๋อร์ ท่ามกลางควันจางจากชาและกลิ่นหอมของหมูปิ้งที่ย่างสดใหม่
ลี่ฮวาเอ๋อร์นั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะ ตัดสินใจอยู่ครู่หนึ่ง นางรู้ดีว่าการมอบสูตรหมูปิ้งให้ใครสักคนไม่ใช่เื่ง่าย เพราะมันเป็สิ่งที่นางสืบทอดมาจากท่านยาย และมันไม่ใช่เพียงแค่สูตรอาหาร แต่ยังเป็รากฐานของทุกสิ่งที่นางมีในตอนนี้
หลี่เสวี่ยรอดูท่าทีของนาง ใบหน้าของเขาแสดงความคาดหวังบางอย่าง ทว่าก็ยังคงแฝงความระมัดระวังเอาไว้
“พวกหลอมลิ้นดำไม่ได้มุ่งหมายแค่ตัวเ้าหรอก แต่พวกเขากำลังตามหาวิชาลับที่สูญหายไป และสูตรหมูปิ้งของเ้าก็เป็ส่วนหนึ่งของมัน” หลี่เสวี่ยพูดต่อด้วยเสียงที่เคร่งขรึม “หากเ้าสามารถช่วยพรรคกระบี่ได้ เราจะปกป้องเ้าจากทุกอันตราย”
ลี่ฮวาเอ๋อร์ยกชาที่ร้อนออกจากถ้วย ชื่นชมกลิ่นหอมของมันก่อนจะยกขึ้นดื่มอย่างช้าๆ ไม่เร่งรีบ
“ข้ารู้ว่าเ้ามีความตั้งใจดี แต่ว่า... ข้าจะไม่ยอมให้สูตรหมูปิ้งของข้าเป็เครื่องมือในการต่อรอง” ลี่ฮวาเอ๋อร์พูดขึ้นเสียงหนักแน่น
หลี่เสวี่ยถอนหายใจเล็กน้อย ราวกับรู้ว่าการเจรจาครั้งนี้ไม่ใช่เื่ง่าย
“แล้วเ้า้าอะไร?” เขาถาม
ลี่ฮวาเอ๋อร์วางถ้วยชาลงและมองเข้าไปในดวงตาของเขาอย่างมุ่งมั่น “ข้า้าคำมั่นจากท่านว่าจะไม่ใช้สูตรของข้าไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว หรือเพื่อการต่อสู้ในโลกยุทธภพ หากท่าน้าสูตรของข้า ท่านต้องสัญญากับข้าว่าจะปกป้องความลับนี้และใช้มันเพื่อสิ่งที่ดี”
หลี่เสวี่ยพยักหน้าอย่างช้าๆ เห็นได้ชัดว่าเขากำลังพิจารณาคำขอนี้อยู่
“ข้าสัญญา” หลี่เสวี่ยตอบอย่างจริงจัง “พรรคกระบี่ไม่เคยมีเจตนาในทางชั่วร้าย หากเ้าพร้อมที่จะมอบสูตรหมูปิ้ง ข้าจะปกป้องเ้าด้วยชีวิต”
ลี่ฮวาเอ๋อร์ลุกขึ้นยืนและยิ้มให้กับชายหนุ่ม “ดีแล้ว แต่ข้าจะไม่มอบสูตรนั้นให้เ้าทันที ข้า้าเวลาคิด และในระหว่างนี้... ขอให้เราร่วมมือกันเพื่อจัดการกับพวกหลอมลิ้นดำที่กำลังตามล่า”
หลี่เสวี่ยยิ้มและยืดตัวขึ้นอย่างมั่นคง “ข้าพร้อมจะร่วมมือกับเ้า ข้าหวังว่าเ้าจะตัดสินใจในเวลาที่เหมาะสม”
เพียงแต่ภายในใจของลี่ฮวาเอ๋อร์กลับเต็มไปด้วยคำถามมากมาย การขอคำมั่นจากพรรคกระบี่คือการวางเดิมพันที่หนักหนา และนางเองก็รู้ดีว่าในโลกยุทธภพนี้ คำมั่นของคนบางคนก็อาจไม่สามารถถือไว้ได้ตลอดไป
หลังจากการเจรจาในโรงน้ำชา หลี่เสวี่ยและลี่ฮวาเอ๋อร์ยังคงอยู่ในเมืองซูฝูตลอดคืน แม้จะเป็กลางคืนแล้ว แต่โลกภายนอกยังคงเคลื่อนไหวอยู่ไม่หยุดหย่อน เสียงลมพัดผ่านใบไม้และแสงจันทร์ที่สะท้อนบนพื้นดินแสดงให้เห็นถึงความเงียบสงัดที่เต็มไปด้วยความลับ
เช้าวันต่อมา ลี่ฮวาเอ๋อร์เดินไปยังตลาดของเมืองเพื่อหาสมุนไพรและวัสดุในการปรุงหมูปิ้ง บนเส้นทางนั้น นางได้พบกับกลุ่มคนแปลกหน้าที่สวมชุดดำ ดูท่าทางเข้มแข็งและมีท่าทางท่ามกลางความมืดมิดของตอนเช้า
"พวกเขาคือใคร?" ลี่ฮวาเอ๋อร์กระซิบบอกกับเซียวเหวินหลงที่เดินอยู่ข้างๆ
"พวกหลอมลิ้นดำ" เซียวเหวินหลงตอบด้วยเสียงเบา "พวกเขาคือกลุ่มที่คอยตามล่าเ้ามาตลอด และตอนนี้... พวกเขาอยู่ในเมืองนี้แล้ว"
ลี่ฮวาเอ๋อร์หันมามองตามกลุ่มคนที่เดินผ่านไป พวกเขาดูเหมือนกำลังมองหาบางสิ่งอยู่ แต่การเคลื่อนไหวของพวกเขากลับไม่แสดงถึงความรีบร้อนอะไร ชั่วขณะหนึ่ง หญิงสาวรู้สึกถึงความกดดันที่เริ่มสะสมขึ้นภายในใจ
"เราคงต้องไปหาหลี่เสวี่ยก่อนแล้ว" ลี่ฮวาเอ๋อร์กล่าว ขณะที่สายตาของนางมองไปข้างหน้า มุ่งสู่ที่พักของหลี่เสวี่ย
เมื่อทั้งสองมาถึงสถานที่ที่หลี่เสวี่ยพักอยู่ ลี่ฮวาเอ๋อร์พบว่าเขากำลังยืนอยู่ที่หน้าประตูห้อง ลำตัวสูงสง่าและท่าทางมั่นคงแสดงถึงความแข็งแกร่งของจอมกระบี่จากพรรคกระบี่
"เ้ามีอะไร?" ลี่ฮวาเอ๋อร์ถามพร้อมยิ้มให้
หลี่เสวี่ยมองมาที่นางและขยับปากพูดในเสียงที่ไม่ดังมากนัก "พวกหลอมลิ้นดำอยู่ในเมืองนี้แล้ว พวกเขาคงไม่ปล่อยให้เ้าหนีไปง่ายๆ และ...ข้าคิดว่าเวลาไม่รอใคร"
ลี่ฮวาเอ๋อร์ชะงักไปชั่วขณะ ความรู้สึกว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในวงล้อมของเกมอันลึกลับเริ่มถาโถมเข้ามาในใจ
"ข้าไม่สามารถออกจากเมืองนี้ได้ง่ายๆ ในตอนนี้ ข้าต้องคิดให้ดีว่าจะทำอย่างไรกับการตกลงร่วมมือกับพรรคกระบี่" ลี่ฮวาเอ๋อร์พูดเสียงทุ้ม
หลี่เสวี่ยพยักหน้า "ข้าพร้อมที่จะช่วยเ้าหากเ้าตัดสินใจ แต่เ้าต้องรู้ว่าในตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะลังเล"
ลี่ฮวาเอ๋อร์พยักหน้าให้กับเขา จากนั้นก็หมุนตัวเดินไปที่ห้องพักเพื่อคิดทบทวนคำพูดของเขา ท่ามกลางแสงแดดที่ลอดเข้ามาทางหน้าต่าง นางรู้ว่าการตัดสินใจในตอนนี้อาจทำให้นางตกเป็เป้าหมายของใครบางคนในโลกยุทธภพที่เต็มไปด้วยการแย่งชิง
และแล้วในที่สุดนางก็มีคำตอบในใจ...
ลี่ฮวาเอ๋อร์นั่งอยู่ในห้องพักส่วนตัวของหลี่เสวี่ย ภายในห้องยังคงมีแสงแดดสาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างเล็ก ๆ แต่ความรู้สึกของนางกลับหนักอึ้งราวกับเมฆดำที่ปกคลุมใจ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นใน่เวลานี้ทำให้นางรู้สึกเหมือนกำลังตกอยู่ในกระแสที่นางไม่สามารถควบคุมได้
เมื่อคืน นางคิดทบทวนหลายครั้งเกี่ยวกับการร่วมมือกับพรรคกระบี่ และในที่สุดก็ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด ใน่บ่ายวันนี้ นางจึงตัดสินใจที่จะบอกหลี่เสวี่ยถึงสิ่งที่นางคิด
หลี่เสวี่ยที่ยืนอยู่ข้างนอกห้อง เดินเข้ามาพร้อมกับดวงตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง แม้เขาจะพยายามเก็บอารมณ์ แต่ก็ไม่สามารถปิดความกังวลในใจได้
“เ้าพร้อมที่จะตัดสินใจแล้วหรือยัง?” หลี่เสวี่ยถามเสียงเงียบ
ลี่ฮวาเอ๋อร์สูดหายใจลึก ก่อนจะหันมามองเขาด้วยความจริงจัง
“ข้าไม่สามารถมอบสูตรหมูปิ้งให้กับพรรคกระบี่ทั้งหมดได้” นางพูดอย่างมั่นคง “แต่ข้าสามารถให้สูตรบางส่วนได้... และจะทำเช่นนี้ก็ต่อเมื่อข้ารู้สึกว่ามันคุ้มค่ากับการปกป้องไม่เพียงแค่ตัวข้าเอง แต่ยังรวมถึงทุกคนที่ข้าใส่ใจ”
หลี่เสวี่ยยืนนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ การตัดสินใจของลี่ฮวาเอ๋อร์ทำให้เขารู้สึกถึงความแข็งแกร่งในตัวนางมากขึ้น
“ข้าจะทำให้มั่นใจว่าเ้าและคนของเ้าจะได้รับการคุ้มครองอย่างดีที่สุด หากเ้าพร้อมที่จะร่วมมือ ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกหลอมลิ้นดำทำร้ายเ้า” หลี่เสวี่ยยืนยัน
ลี่ฮวาเอ๋อร์ลุกขึ้นยืนและตรงไปที่โต๊ะที่มีสมุนไพรและเครื่องปรุงต่าง ๆ วางอยู่ นางหยิบกระดาษและหมึกขึ้นมาแล้วเขียนบางสิ่งลงบนมัน
“นี่คือสูตรหมูปิ้งบางส่วนที่ข้ายินดีมอบให้ท่าน” นางวางกระดาษไว้ตรงหน้าหลี่เสวี่ย “หากพรรคกระบี่สามารถรักษาคำมั่นที่ให้ไว้ ข้าจะให้เพิ่มเติมในภายหลัง”
หลี่เสวี่ยรับกระดาษและพยักหน้ารับอย่างสุภาพ “ขอบคุณเ้า ข้าจะทำตามคำมั่นที่ข้าสัญญา”
เมื่อหลี่เสวี่ยยืนยันคำมั่นแล้ว ทั้งสองต่างรู้ว่าการเดินทางของพวกเขายังไม่จบเพียงแค่การแลกเปลี่ยนสูตรหมูปิ้ง แต่เป็การร่วมมือกันที่ลึกซึ้งขึ้นในโลกยุทธภพที่เต็มไปด้วยอันตรายและความขัดแย้ง
ขณะที่หลี่เสวี่ยกำลังเตรียมตัวออกไปจากห้อง ลี่ฮวาเอ๋อร์ยืนนิ่งอยู่ที่โต๊ะ คิดถึงสิ่งที่นางทำไป นางรู้ดีว่าในตอนนี้ ทุกการตัดสินใจอาจส่งผลต่ออนาคตอย่างคาดไม่ถึง
ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังจะเดินทางไปยังจุดหมาย ลี่ฮวาเอ๋อร์เหลือบมองไปข้างนอกหน้าต่าง แสงแดดที่ทอแสงทองลงบนพื้นดินเป็สัญญาณให้รู้ว่ามันเป็จุดเริ่มต้นของการเดินทางที่ยิ่งใหญ่—และนางจะไม่ยอมให้โลกยุทธภพที่เต็มไปด้วยอันตรายนี้มาฉุดรั้งนางจากเส้นทางที่เลือก
ลี่ฮวาเอ๋อร์ออกจากห้องของหลี่เสวี่ยและมุ่งตรงไปยังร้านหมูปิ้งที่ตั้งอยู่ในซอยแคบ ๆ ของเมืองซูฝู แม้ว่าโลกภายนอกจะดูเหมือนยังคงเป็วันปกติ แต่ความตึงเครียดในใจของนางกลับราวกับพายุที่กำลังจะมาเยือน
การร่วมมือกับพรรคกระบี่คือการเดิมพันครั้งใหญ่ มันไม่ได้เป็เพียงแค่เื่ของสูตรหมูปิ้ง แต่ยังหมายถึงการเข้าไปพัวพันกับการต่อสู้ในโลกยุทธภพที่นางไม่เคยคาดคิดมาก่อน
“ท่านหลี่เสวี่ย้าให้ข้าทำอะไรต่อไป?” ลี่ฮวาเอ๋อร์พูดกับตัวเองเบา ๆ ขณะเดินผ่านตลาดที่เต็มไปด้วยผู้คนราวกับไม่รู้ว่ากำลังเผชิญกับอันตรายอยู่
เมื่อมาถึงร้านหมูปิ้ง ลี่ฮวาเอ๋อร์พบว่าเซียวเหวินหลงยืนรออยู่ก่อนแล้ว เขายิ้มให้เมื่อเห็นนาง
“เ้าไม่ต้องกังวลมากหรอก ข้าจะช่วยเ้าในการต่อสู้กับพวกหลอมลิ้นดำ” เซียวเหวินหลงพูดด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น
ลี่ฮวาเอ๋อร์หันมามองเขาด้วยดวงตาเปี่ยมไปด้วยคำถาม “ทำไมข้าถึงควรไว้ใจท่าน?”
เซียวเหวินหลงยิ้มเล็กน้อย แล้วเอื้อมมือไปจับมือของนางเบา ๆ “เพราะข้าคือคนที่มอบชีวิตให้กับเ้าใน่เวลาที่คุณหนูลี่เคยช่วยชีวิตข้าไว้ ข้าจะไม่ปล่อยให้เ้าเป็อันตรายหรอก”
คำพูดนั้นทำให้ลี่ฮวาเอ๋อร์รู้สึกถึงความรับผิดชอบที่หนักหน่วงขึ้นในใจ แม้ว่านางจะไม่รู้จักเขามากมาย แต่ความซื่อสัตย์และความตั้งใจของเขาก็เริ่มสร้างความไว้วางใจในตัวเขาขึ้นมา
ในขณะเดียวกัน ในโลกมืดของยุทธภพ พวกหลอมลิ้นดำได้เริ่มแผ่ขยายอิทธิพลและตามล่าหาสูตรหมูปิ้งจากลี่ฮวาเอ๋อร์อย่างจริงจัง
หลี่เสวี่ยรู้ดีถึงความยากลำบากที่พวกเขากำลังจะเผชิญเมื่อพวกหลอมลิ้นดำเริ่มรู้ถึงการมีอยู่ของสูตรที่พวกเขาตามหา ทั้งสองฝ่ายต่างรู้ว่าการเผชิญหน้าครั้งนี้จะเป็การทดสอบที่สำคัญของทั้งสองฝ่าย
“พวกเราต้องเตรียมตัว” หลี่เสวี่ยกล่าวกับลี่ฮวาเอ๋อร์อย่างจริงจัง “พวกหลอมลิ้นดำจะไม่ยอมแพ้ พวกเขาเป็ฝ่ายที่อันตรายที่สุดในยุทธภพ”
ลี่ฮวาเอ๋อร์พยักหน้า “ข้ารู้แล้ว ข้าจะไม่ยอมให้สูตรหมูปิ้งตกไปอยู่ในมือของพวกเขา”
ขณะที่ทั้งสองเตรียมตัวอย่างเข้มงวด พวกหลอมลิ้นดำกำลังค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาใกล้ พวกเขารู้ว่าเวลาในการแย่งชิงสูตรหมูปิ้งใกล้จะมาถึงแล้ว
แต่ใครจะเป็ผู้ชนะในศึกครั้งนี้... ก็ยังคงเป็คำถามที่ไม่มีใครรู้คำตอบ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้