ซูซิ่นชางขึ้นคอกพยาน เมื่อเขามองซูเมิ่งหานก็เห็นความคาดหวังและหวาดหวั่นในดวงตาคู่สวยของเธอ แน่นอนว่าเธอคาดหวังให้ผู้เป็พ่อพูดความจริงออกมา และเซี่ยิ่กับเซี่ยเฉิงเย่ได้รับโทษ แต่หญิงสาวกลับกลัวว่าเขาจะทำให้เธอต้องผิดหวังอีกครั้ง
ซูซิ่นชางเดินไปที่คอกพยานด้วยความรู้สึกยุ่งเหยิงในใจ ด้านข้างของเขาคือ เซี่ยิ่ ภรรยาที่แต่งงานกับตนมานานกว่าสิบปี และเป็บุคคลสำคัญที่สุดที่ช่วยให้เขาประสบความสำเร็จด้วยเช่นกัน ตรงหน้าคือ หลินเหรินเทียน บุคคลที่สามารถทำให้อีกครึ่งชีวิตหลังจากนี้ของเขารุ่งเรืองต่อไปได้ และด้านหลังคือ ผู้คนมากมายที่เฝ้าดูด้วยความตื่นเต้น ต่างคาดเดาว่าซูซิ่นชางจะพูดอะไร
หลี่ต้าโก่วที่นั่งอยู่ด้านข้างยกยิ้มลำพองใจ เขาไม่มีทางยอมรับเื่นี้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเขาไม่ต้องคลานเข้าคุกหรอกหรือ? อีกทั้งตนยังยืนยันว่าจะร่วมมือกับท่านหลินแล้ว หลังจากเื่นี้จบ เขาจะได้รับเงินหนึ่งแสนหยวน ช่างเป็เื่ง่ายดายอะไรขนาดนี้!
หวงอานเต๋อนั่งอยู่กับญาติพี่น้องฝ่ายแม่ของซูเมิ่งหานหลายสิบคน คำเบิกความเป็พยานของเขาเมื่อครู่จะทำให้เขาได้รับเงินสองแสนหยวน ซึ่งจะทำให้ชีวิตตอนนี้ของเขาดีขึ้น ถ้าหากต้าเกินสามารถเลิกยาเสพติดและกลับมา อย่างนั้นเงินสำหรับการแต่งงาน...
หลินซือฉิงกับเซียวฉี่ต่างมองซูซิ่นชางด้วยความตึงเครียด คนคนนี้ สุดท้ายแล้วจะเลือกทางไหน?
“ผมขอสาบานต่อหน้าศาล ผมจะปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของพยานที่กำหนดโดยกฎหมายอย่างซื่อสัตย์ และจะให้ข้อมูลที่ผมรู้ตามความจริง หากผมผิดคำสาบาน ผมจะรับผิดชอบทางกฎหมายและการเอาผิดทางศีลธรรม...” ซูซิ่นชางเริ่มกล่าวคำสาบานตนด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
เซี่ยิ่ที่อยู่อีกด้านขยิบตาให้เขาไม่หยุด มันมีความหมายแฝงชัดเจน ซูซิ่นชางเห็นหลินเหรินเทียนที่ทำหน้าเคร่งขรึมอยู่ตรงหน้า และในที่สุดก็ตัดสินใจได้
“ผมสามารถยืนยันได้ว่าเื่ราวเมื่อหกปีที่แล้ว ทั้งเซี่ยิ่และเซี่ยเฉิงเย่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เลย! แม้ด้านหนึ่งจะเป็อดีตภรรยาของผม และอีกด้านหนึ่งก็เป็ลูกสาวของผม แต่...” ในที่สุดซูซิ่นชางก็กล่าวด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยว
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ซูเมิ่งหานก็หน้าถอดสี เป็อย่างที่คิดจริงๆ สุดท้ายก็ลงเอยแบบนี้อีกแล้ว ซูซิ่นชางเป็คนแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร เธอยังหวังว่าคนอย่างเขาจะเปลี่ยนตัวเองเหรอ?
ซูซิ่นชางมองใบหน้าซีดเผือดของลูกสาวแล้วก็รู้สึกอึดอัดในใจ แต่ก็ยังมุ่งมั่นต่อไป เขาไตร่ตรองแล้วว่าซูเมิ่งหานติดยาเสพติดรูปแบบใหม่และคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินหนึ่งปี ในเมื่อเป็อย่างนี้ สู้ยอมแพ้เสียตอนนี้ไม่ดีกว่าหรือ การปกป้องเซี่ยิ่และเซี่ยเฉิงเย่ยังช่วยเขาได้บ้างในอนาคต และหลินเหรินเทียนยื่นข้อเสนอว่าจะคืนหุ้นซูเซิ่งกรุ๊ปให้เขา...
เซี่ยิ่และเซี่ยเฉิงเย่วางใจได้ในที่สุด หลินเหรินเทียนเองก็แสดงสีหน้าพึงพอใจ แทบทุกคนในที่นี้ต่างโล่งใจกันเมื่อผลลัพธ์เป็ไปตามที่คาดไว้
“ซูซิ่นชาง!” ในเวลานี้เอง เสียงดังกังวานเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากที่นั่งผู้ร่วมฟังการพิจารณาคดี เสียงนี้พุ่งเข้าสู่โสตประสาทของผู้คนจนทำให้ทุกคน ณ ที่แห่งนี้สั่นสะท้าน!
คนทั้งหมดต่างจับจ้องเย่เฟิงที่ลุกขึ้นยืน
“วิชาเซียน ทักษะสะกดจิต!” เมื่อเย่เฟิงเห็นซูซิ่นชาง เซี่ยิ่ และเซี่ยเฉิงเย่หันมา ก็สบตาพวกเขาอย่างรวดเร็ว แล้วแสดงทักษะสะกดจิต ปลูกฝังความคิดเข้าไปในหัวของทั้งสามคน
การสะกดจิตแบบนี้จะทำร้ายอีกฝ่ายมาก แต่ในเมื่อซูซิ่นชางยังไม่สำนึก เย่เฟิงจึงต้องทำเช่นนี้
พลังชี่สองสามสายที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าซอกซอนเข้าไปในหัวของซูซิ่นชาง เวลาต่อมาชายคนนี้ก็คุกเข่าลงบนพื้น
“เมิ่งฮาน พ่อผิดไปแล้ว!” ซูซิ่นชางพูดทั้งน้ำตานองหน้า!
ฉากที่น่าตื่นตาตื่นใจนี้ทำให้ผู้คนในนั้นตกตะลึงอ้าปากค้าง สถานการณ์ถูกกำหนดไว้แล้ว เกิดอะไรขึ้นกับซูซิ่นชาง ทำไมอยู่ๆ ถึงคุกเข่าให้ลูกสาวล่ะ?
“ความจริงแล้วเซี่ยิ่และเซี่ยเฉิงเย่จ้างคนให้ไปฆ่าคุณยายของหนู พ่อยังมีหลักฐานมากมายที่นี่ รวมถึงหลักฐานการว่าจ้างของพวกเขากับหลี่ต้าโก่ว ต่อมาพ่อยังออกเงินชดเชยให้หลี่ต้าโก่ว... พ่อขอโทษ ลูกยกโทษให้พ่อด้วย! ที่พ่อพูดเป็ความจริงทั้งหมด!” ภายใต้ทักษะสะกดจิต ซูซิ่นชางลืมทุกสิ่งทุกอย่างไปชั่วขณะ เขาคุกเข่าหันหน้าไปทางซูเมิ่งหานแล้วสารภาพจนหมดเปลือก!
หลินเหรินเทียนนิ่งอึ้งไปเลย!
เขางุนงงไปหมด ตามความคิดของเขา เมื่อครู่ซูซิ่นชางยังดีอยู่เลย ทำไมอยู่ๆ ถึงทำเื่ประหลาดแบบนี้ออกมาได้?
หลี่ต้าโก่วลุกพรวดด้วยท่าทางกระวนกระวาย เขาไม่กังวลไม่ได้ ถ้าเื่นี้ถูกเปิดโปง เขาจะมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และต้องถูกจำคุกตลอดชีวิต!
“สุดยอดเลย!” ความยินดีกระจายทั่วใบหน้าของเซียวฉี่ เธอคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมีการพลิกผันใน่เวลาวิกฤตเช่นนี้ ดูเหมือนซูซิ่นชางยังพอมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่บ้าง
หลินซือฉิงตวัดสายตามองเย่เฟิงที่นั่งลงไปแล้วด้วยความเคลือบแคลง เสียงที่เด็กคนนี้ะโออกมามีพลังมากจนสามารถทำให้ซูซิ่นชางกลับใจได้เลยหรือ?
เย่เฟิงรู้สึกถึงสายตาของเธอจึงมองกลับไป และดวงตาสี่ดวงก็สบตากัน
จากสายตาของหลินซือฉิง เย่เฟิงเห็นร่องรอยความประหลาดใจและความสงสัยใคร่รู้อยู่ในนั้น ท่าจะไม่ดีเสียแล้ว คุณหนูใหญ่ตระกูลหลินคนนี้คงยังเดาอะไรไม่ได้หรอกใช่ไหม?
ญาติฝ่ายแม่ของซูเมิ่งหานที่นั่งอยู่ต่างเคร่งเครียดกันหมด คนเห็นแก่ตัวอย่างซูซิ่นชางจะหันอาวุธมาโจมตีฝ่ายตัวเองใน่เวลาสำคัญแบบนี้ได้อย่างไร?
หากเื่นี้ทำไม่สำเร็จ ทุกคนจะซวยกันทั้งหมด!
“เงียบ!” หลินเหรินเทียนเคาะค้อนไม้ในมือ ใบหน้าใต้กรอบแว่นขรึมลงทันที
สมฉายาจิ้งจอกเฒ่า!
เขาปรายตามองเย่เฟิงที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาคดีแล้วเอ่ย “นักเรียน ศาลเป็สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่อนุญาตให้คุณคุกคามพยาน ผมคิดว่าคุณควรออกไปก่อน รปภ.!”
“ครับ ผมไปเองได้ ไม่มีปัญหา” เย่เฟิงลุกขึ้นพร้อมยกยิ้ม ถึงอย่างไรในหัวของซูซิ่นชาง เซี่ยิ่ และเซี่ยเฉิงเย่ก็ถูกป้อนความคิดไว้แล้ว ต่อให้ตัวเขาไม่อยู่ที่นี่ สามคนนั้นก็ต้องยอมรับผิดกันต่อไป!
“สู้ๆ นะ” เย่เฟิงยกกำปั้นพร้อมส่งยิ้มให้กำลังใจซูเมิ่งหาน จากนั้นหมุนกายออกจากห้องพิจารณาคดี
เมื่อเห็นความตรงไปตรงมานี้ของเขา หลินเหรินเทียนก็รู้สึกแปลกๆ ทำไมเด็กหนุ่มคนนี้ถึงชอบทำตัวพิลึกไปทุกที่ ประหลาดคนจริงๆ
ซูเมิ่งหานเห็นเย่เฟิงเดินออกไปก็รู้สึกวูบโหวงในใจเล็กน้อย โชคดีที่ซูซิ่นชางสารภาพความจริงแล้ว ทำให้เธอพออุ่นใจได้บ้าง ด้วยคำเบิกความของซูซิ่นชางก็น่าจะเพียงพอแล้วหรือเปล่า?
“เนื่องจากพยานซูซิ่นชางถูกคุกคามในศาล ดังนั้นคำเบิกความเมื่อครู่ถือเป็โมฆะ ตอนนี้โปรดเบิกความพยานอีกครั้ง และให้บอกความจริงตามที่คุณทราบ” หลินเหรินเทียนพูดต่ออย่างไม่สะทกสะท้าน ใบหน้าภายใต้กรอบแว่นมองซูซิ่นชางด้วยกระแสคุกคาม “หากพยานเบิกความเท็จในศาล ผลที่ตามมาจะค่อนข้างร้ายแรง และหากสิ่งที่คุณพูดเมื่อครู่เป็ความจริง ไม่เพียงคุณมีความผิดฐานเบิกความเท็จ แต่ยังมีความผิดฐานช่วยเหลือผู้กระทำผิดด้วย!”
ในที่สุดทนายความจำเลยของตระกูลโหมวก็สบโอกาส จึงลุกขึ้นยืนแล้วกล่าว “ถ้าคดีจ้างวานฆ่าเป็ความจริง แล้วคุณไม่ได้แจ้งรายละเอียดข้อเท็จจริง ทั้งยังปกปิดผู้กระทำความผิดมาถึงหกปี นี่ถือเป็เื่ร้ายแรงมาก...”
นี่เป็การใช้อำนาจคุกคามซูซิ่นชางอย่างโจ่งแจ้ง!
โดยทั่วไปในกระบวนการพิจารณาคดี ไม่อนุญาตให้ใช้อำนาจคุกคามอย่างที่กระทำอยู่ตอนนี้ แต่ในที่แห่งนี้มีหลินเหรินเทียนเป็ผู้ควบคุม ทนายจำเลยของตระกูลโหมวจึงไม่เกรงกลัวอะไรแล้ว!
เมื่อซูเมิ่งหานได้ยินเช่นนี้ก็หน้าถอดสีอีกครั้ง ทำไมทนายคนนี้ถึงไร้ยางอายขนาดนี้?
ขณะที่ทุกคนคิดว่าสถานการณ์กำลังเปลี่ยนไปตามทางที่ควรจะเป็ แต่แล้วสถานการณ์ในห้องพิจารณาคดีกลับดำเนินไปเหนือความคาดหมายของทุกคน
“ไม่ครับ ผมต้องยืนหยัดในความจริง เซี่ยิ่ เซี่ยเฉิงเย่ และหลี่ต้าโก่วมีความผิดทั้งหมด!” ซูซิ่นชางพูดด้วยความหนักแน่น
ทุกคนต่างตะลึงงัน ก่อนหันมองเซี่ยิ่และเซี่ยเฉิงเย่ ขณะที่พวกเขาคิดว่าสองพี่น้องจะพยายามโต้แย้งอย่างสุดชีวิต เื่น่าใก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
“ฉันผิดไปแล้ว! ฉันมีความผิด!” ทั้งเซี่ยิ่และเซี่ยเฉิงเย่คุกเข่าให้ซูเมิ่งหาน!
หลินเหรินเทียนลุกขึ้นด้วยท่าทีเดือดดาล พวกมันทำบ้าอะไรกันอยู่!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้