จิ่งฝานส่ายศีรษะ “ก็ไม่ใช่เช่นนั้น อย่างไรเสียตระกูลจิ่งของข้าก็ชอบช่วยคนมากกว่า”
อ๋าวหรานเย้ยหยันตัวเองพูดว่า “ตระกูลจิ่งของเ้าช่วยคน แล้วเ้าเล่า? เ้าในตอนนี้ไม่ได้อยากเหลือทางรอดใดไว้ให้ข้า ไม่ใช่หรือ?”
ดวงตาราวกับหมึกคู่นั้นจ้องมองอ๋าวหรานก่อนกกล่าวว่า “อ๋าวหราน ก่อนหน้านี้ที่เ้าพูดถึง ไม่ว่าตระกูลทางก็ดีหรือ ‘จี๋เต้า’ ก็ช่างล้วนเป็เพียงแค่คำพูดลอยๆ ยังไม่สามารถเอาไปใช้จริงได้”
อ๋าวหรานหยุดนิ่งไป เริ่มสงบลงแล้วตอบว่า “จี๋ต้าวนั้นอยู่นอกเหนือการคาดการของข้า ข้าก็ไม่อาจอธิบายได้ว่าทำไมถึงยังหามันไม่เจอ ส่วนเื่ตระกูลทาง คาดว่าเ้าก็คงจะสืบดูแล้ว เื่ที่พวกเขาดึงตระกูลอื่นๆ มาเป็พวกนี้ ข้าไม่ได้โกหกใช่ไหมล่ะ?”
จิ่งฝาน “ต่อให้จะเป็เช่นนั้นแล้วอย่างไร? ตระกูลทางนั้นก็แค่ดึงบางตระกูลมาเป็พวกเท่านั้น ไม่เป็ภัยคุกคามต่อตระกูลจิ่งของข้าแม้แต่น้อย”
อ๋าวหราน “ในเมื่อเ้าคิดว่าคำพูดของข้าเชื่อถือไม่ได้ เหตุใดตอนที่เปลี่ยนผู้ดูแลในตระกูลจิ่งพวกนั้นถึงทำอย่างเด็ดขาดนัก”
จิ่งฝาน “ต่อให้ไม่มีเ้า บางคนยังไงข้าก็ต้องเปลี่ยนออก จะอย่างไรข้าก็จัดการดูแลตระกูลจิ่งมานานแล้ว คนพวกนั้นเป็เช่นไรข้ารู้ดี”
อ๋าวหรานรู้สึกว่านิสัยของจิ่งฝานแตกต่างกับในหนังสือเป็อย่างมาก จิ่งฝานในนิยายต้นฉบับจิตใจดีและอ่อนโยนเป็อย่างยิ่ง เรียกได้ว่าเป็ระดับพ่อพระนักบุญเลยทีเดียว ตอนที่อ่านแรกๆ อ๋าวหรานยังค่อนแคะว่าคนคนนี้เป็พวกอ่อนไหวง่าย ทำให้การเปลี่ยนแปลงในตอนท้ายของเขานั้นอ๋าวหรานรู้สึกรับไม่ได้ นักบุญเช่นนี้กลายเป็ปีศาจฆ่าคน ถึงแม้จะบอกว่า ในนิยายว่านเฝิงได้บรรยายการเปลี่ยนแปลงทางด้านลักษณะนิสัยของเขาไว้ยาวมาก แต่ก็ยังทำให้คนรู้สึกว่าดูฝืนเกินไปอยู่ดี
แต่ตอนนี้ เขาค้นพบว่าจิ่งฝานคนนี้ไม่ใช่คนที่ดีกับทุกคนอย่างไม่แยกแยะ ตรงกันข้ามบางครั้งเขาเองก็มีเล่ห์เหลี่ยมและกลอุบาย
อ๋าวหรานหัวเราะเย้ยแล้วพูดว่า “ทุกคนพูดว่านายน้อยตระกูลจิ่งเหมือนเทพเซียนบนสรวง์ จิตใจบริสุทธิ์ดุจบงกช มีมารยาทกับทั่วทุกคน มีความปรารถนาดีอย่างที่สุด ต่อให้กับคนที่ชั่วร้ายที่สุดในโลกนี้ก็ตาม”
จิ่งฝานโค้งริมฝีปาก “แต่ทว่า?”
อ๋าวหราน “เ้าไม่ได้เป็เช่นนั้น ความปรารถนาดีทั้งหมดที่เ้าแสดงออกต่อข้าตลอดมาก็ไม่จริงทั้งหมด”
จิ่งฝานยิ้มตอบ “สิ่งที่คนทั่วไปพูดก็แค่ส่วนเล็กน้อยที่พวกเขาเห็น ข้าดูแลจัดการตระกูลจิ่งมาหลายปี หากข้าตาบอดปรารถนาดีกับทุกผู้ทุกคน นั่นเรียกว่าไม่แยกแยะถูกผิด ไม่แบ่งแยกดีชั่ว ตระกูลจิ่งที่ยิ่งใหญ่นี้ก็จะพังทลายลงด้วยน้ำมือของข้า”
อ๋าวหรานเงียบไปเล็กน้อย จิ่งฝานอาจจะมีเมตตา แต่มิใช่เมตตาโดยไม่แยกแยะเช่นที่ในหนังสือบรรยาย เหมือนกับที่เขาค้นพบั้แ่ครั้งแรกนั้นเอง ในนิสัยของเขาเองก็มีธาตุแท้อันดำมืดอยู่ ถึงขนาดมากยิ่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้ คนคนนี้มีด้านหนึ่งที่ซุกซ่อนเอาไว้ เอาความดำมืดของตนเองเก็บไว้ภายใต้ความอบอุ่นอ่อนโยนภายนอก รอยยิ้มอบอุ่นราวแสงตะวันที่เขาแสดงออกมานั้นส่วนมากแล้วมีความหลอกลวงโดยธรรมชาติแฝงเร้นไว้อยู่
อ๋าวหรานมองจิ่งฝาน “เช่นนั้นแล้วเ้าทำไปเพื่ออะไรกันแน่?”
จิ่งฝานยิ้มตอบ “ก็ต้องดูว่าเ้าจะทำอย่างไรต่อ? ความลับนี้ก็มอบให้เ้าแล้ว ไม่เพียงแค่ถ้ำเฉิยฉุ่ย ยังมีตำรับยาตระกูลจิ่งของข้า วิธีปลูกสมุนไพร เคล็ดวิชากำลังภายใน ต่อไปข้าจะบอกเ้าทั้งหมด เ้ายังกล้าเรียนรู้อยู่อีกหรือไม่?”
อ๋าวหรานหัวเราะตอบ “เ้าผลักข้าไปสู่ทางตันจริงๆ ไม่เหลือทางให้ถอยเลย”
จิ่งฝานยกถ้วยชาขึ้นมาดื่มไปหนึ่งอึก “อ๋าวหราน ต่อไปไม่ว่าความลับใดของตระกูลจิ่งของข้ารั่วไหลออกไป แม้เพียงน้อยนิด ข้าจะถือว่าเป็ความผิดของเ้า”
อ๋าวหรานพูดด้วยความโกรธ “นี่มันไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ”
จิ่งฝานยิ้มอย่างงดงามยิ่ง “ข้าดีมากแล้ว คนคนหนึ่งที่รู้ความลับมากขนาดนี้ แล้วยังพูดไม่ได้ว่าความลับนั้นมาจากไหน ข้ารับเ้าไว้ก็ช่างเถอะ แต่ยังถ่ายทอดความรู้ทั้งหมดให้อีกด้วย ไม่มีปกปิดแม้เพียงนิด”
อ๋าวหราน “ถ้าเช่นนั้นข้ายังต้องขอบคุณเ้าด้วยสินะ”
จิ่งฝาน “ไม่ต้องเกรงใจ”
อ๋าวหรานแยกเขี้ยวส่งยิ้มไปทางเขา
จิ่งฝาน “สายแล้ว ทานข้าวเสร็จแล้วเ้าก็มาเริ่มเรียนวิชาแพทย์กับข้าเถิด”