“เพราะคิดถึงญาญ่าก็เลยมาอีกไง” เย่เทียนเซี่ยดึงซูเฟยเฟยให้เดินเข้าไปหาญาญ่าก่อนจะพูดแล้วหัวเราะออกมา
“เชอะ! คำพูดของพี่ชายมันดูหลอกลวงมากเลย ฟังแล้วเหมือนคนโกหกชะมัด เชอะ! พี่สาวสวยๆที่พี่ลากมาข้างๆคือคู่หูของพี่งั้นเหรอ?” เห็นได้ชัดว่าญาญ่าไม่เชื่อที่เขาพูด การที่เธอเมินคำพูดของเย่เทียนเซี่ยอย่างไม่เกรงใจนั้นทำให้เย่เทียนเซี่ยรู้สึกเ็ปหน่อยๆ
“เทียนเซี่ย เด็กผู้หญิงคนนี้คือ?” ซูเฟยเฟยถามออกไปอย่างสงสัย
“เธอคือ NPC ที่ดูแลที่นี่.........” พูดจบเขาก็พูดกับซูเฟยเฟยด้วยเสียงที่เบาและต่ำมากๆเพื่อให้ได้ยินกันแต่สองคน “นี่ อย่าพูดอะไรออกมานะ ดูฉันจัดการเ้าจิ้งจอกน้อยตัวนี้ก็พอ”
“นี่! ญาญ่าเป็เด็กดีนะ ไม่ใช่จิ้งจอกซะหน่อย” ญาญ่าพองลมจนแก้มป่องก่อนจะพูดออกมาอย่างโกรธๆ
เย่เทียนเซี่ยอ้าปากพะงาบๆแต่ในที่สุดก็ไม่มีคำไหนหลุดออกมาจากปากของเขาเลย.......... หูของญาญ่าตัวน้อยดูเหมือนจะดีเกินไปแล้ว
“เอ่อ ญาญ่าฟังผิดแล้วล่ะ ญาญ่าเป็เด็กดีอยู่แล้ว.......... เด็กดี พวกเราอยากเข้าไปในถ้ำหมาป่าน้ำแข็ง........”
“ภายในสามวันไม่สามารถเข้าไปสองครั้งได้ นี่คือสิ่งที่พี่สาวเทพธิดาผู้สร้างโลกพูดไว้ ใครก็ไม่อาจฝ่าฝืน!” ญาญ่าส่ายหน้าอย่างแรง ปากน้อยๆของเธอก็เอ่ยปฏิเสธความ้าของเย่เทียนเซี่ย อีกทั้งยังไม่มีท่าทีจะเจรจาต่อรองอีกด้วย
ปิ๊งป่อง..........อมยิ้มแท่งหนึ่งปรากฏขึ้นมาตรงหน้าของญาญ่า........ แน่นอนว่าเย่เทียนเซี่ยฉลาดมาดพอที่จะแกะเปลือกห่ออมยิ้มออกไปก่อน ไม่อย่างนั้นถ้าซูเฟยเฟยเห็นเข้าคงจะเป็เื่แน่
อมยิ้มที่ไม่น่าจะมีอยู่ในโลกนี้ได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง คำพูดต่อมาที่ญาญ่า้าจะพูดถูกเธอกลืนลงท้องไปในทันที ดวงตาทั้งสองข้างของเธอจ้องไปที่มัน........ ตามมาด้วยน้ำลายหยดเล็กๆที่ไหลออกมาจากปากของเธอแล้วหยดลงบนเสื้อผ้าบริเวณหน้าอก........ หลังจากที่ได้ลิ้มรสมันไปเมื่อวานเธอก็คิดถึงรสชาติของอมยิ้มอยู่ทั้งวันทั้งคืน
ญาญ่าที่รู้สึกเหมือน “สูญเสียการควบคุม” ตัวเองรีบสูดน้ำลายกลับไปอย่างแรง แต่ปากที่อ้ากว้างจนหุบไปลงของเธอก็ยังคงมีน้ำลายไหลออกมาเรื่อยๆ จนมากพอที่จะทำให้เย่เทียนเซี่ยและซูเฟยเฟยเบิกตาโตเท่าไข่ห่านได้
ญาญ่ายื่นมือออกไปคว้าอมยิ้มแท่งนั้นแต่เย่เทียนเซี่ยก็ชักมือกลับทำให้ญาญ่าคว้าได้เพียงความว่างเปล่า “เด็กดี ส่งพวกเราเข้าไปในถ้ำหมาป่าน้ำแข็งสิ แล้วเดี๋ยวฉันจะให้เธอกิน” เย่เทียนเซี่ยโบกอมยิ้มในมือไปมาแล้วยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย ท่าทางแบบนั้น การกระทำแบบนั้น........ทำให้ซูเฟยเฟยรู้ชัดเลยว่าพวกโจรที่ชอบล่อลวงเด็กผู้หญิงแท้จริงแล้วเป็อย่างไร............
“ข้า............ข้า...........ข้าตกลงจะให้พวกท่านเข้าไปแล้ว พี่ชาย......ให้ข้ากินเถอะนะ.........” ญาญ่าสูดน้ำลายกลับไปพร้อมกับจ้องมองอมยิ้มในมือเย่เทียนเซี่ยด้วยดวงตาน่าสงสาร คำพูดที่เธอพูดออกมาก็อึกๆอักๆเช่นกัน
“ญาญ่าเด็กดี” เย่เทียนเซี่ยที่ได้รับชัยชนะมาอีกครั้งวางอมยิ้มไว้ในมือของญาญ่าด้วยความพอใจ จากนั้นเขาก็หันมาชูสองนิ้วเป็สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จให้ซูเฟยเฟย ส่วนซูเฟยเฟยที่มีประกายแปลกๆในดวงตาก็พูดกับเย่เทียนเซี่ยเสียงเบา “เทียนเซี่ย ปกตินายคงไม่หลอกเด็กบ่อยๆแบบนี้หรอกใช่ไหม......... แล้วยัง อมยิ้มอันนั้นนายไปเอามาจากไหนน่ะ? ทำไมฉันไม่เคยเห็นมันมีขายที่ร้านค้าในเมืองเลย?”
“ความลับ”
“............” ซูเฟยเฟยหมดคำจะพูด ความลับอีกแล้ว!
“ญาญ่าอย่ากินเฉยๆสิ ส่งพวกเราเข้าไปในถ้ำหมาป่าน้ำแข็งได้แล้ว” เมื่อมองญาญ่าที่เริ่มยัดอมยิ้มเข้าไปในปากอย่างทนไม่ไหวอีกต่อไปเย่เทียนเซี่ยจึงต้องกระตุ้นเธอขึ้นมา
“เฮ้อ.........ญาญ่าตกลงว่าจะให้พวกท่านเข้าไปได้วันนี้ แต่ญาญ่าไม่ได้ตกลงว่าจะส่งพวกท่านเข้าไปทันทีเลยนี่นา” ญาญ่าดูดกลืนอมยิ้มจนเกิดเป็เสียงดูดอมยิ้มและเสียงน้ำลายของเธอดังออกมา
เย่เทียนเซี่ยมีสีหน้ามืดมน
ญาญ่าดึงอมยิ้มออกจากปากเสียงดัง “ป๊อก” ก่อนเธอจะโบกอมยิ้มไปมาแล้วพูดออกมาอย่างร่าเริง “พี่ชาย แล้วก็พี่สาวคนสวย เพื่อความปลอดภัยของพวกท่านในถ้ำหมาป่าน้ำแข็ง ก่อนที่จะเข้าไปจะต้องซื้อรองเท้าลุยหิมะแสนสวยที่ญาญ่าตั้งใจทำให้พวกท่านก่อนนะ ถ้าไม่ซื้อล่ะก็ เพื่อเป็การคำนึงถึงความปลอดภัยของพวกท่าน ญาญ่าคงส่งท่านเข้าไปด้านในไม่ได้ อ้อ รองเท้า ลุยหิมะของญาญ่าสวยจริงๆนะ......... พวกท่านดูสิ แล้วยังถูกมากๆด้วย แค่คู่ละพันเหรียญทองเท่านั้นเอง”
เมื่อมองญาญ่าพยายามนำเสนอรองเท้าลุยหิมะอย่างกระตือรือร้นซูเฟยเฟยก็แทบจะเป็ลม..........รองเท้าที่มีรูปแบบและทำจากวัตถุดิบที่ไม่ต่างจากขยะเช่นนี้......... ขายตั้งหนึ่งพันเหรียญทองแหนะ!
“โอเค รู้แล้วว่าเธอคงไม่ลืมบังคับคนอื่นซื้อรองเท้าของเธอ” เย่เทียนเซี่ยพูดออกไปนิ่งแล้วส่งเงินไปให้เธออย่างว่องไว เขาซื้อรองเท้าลุยหิมะมาสองคู่ สีดำหนึ่งคู่ให้ตัวเองและสีขาวอีกคู่ให้ซูเฟยเฟย
“เทียนเซี่ย จะต้องใส่รองเท้าแบบนี้จริงๆเหรอ? มันน่าเกลียดมากเลยนะ” ซูเฟยเฟยพูดออกมาเสียงอ่อนก่อนจะหยิบรองเท้าสีขาวที่ดูน่าเกลียดคู่นั้นขึ้นมา
“.............มันก็น่าเกลียดจริงๆนั่นแหละ แต่มันใช้ดีมากเลยนะ เดี๋ยวผ่านไปสักพักเธอก็จะรู้เอง” เย่เทียนเซี่ยตอบเธอกลับไป จากนั้นเขาก็หันไปพูดกับญาญ่า “ญาญ่า ครั้งนี้คงส่งพวกเราเข้าไปได้แล้วสินะ”
“ติ๊งๆๆๆ ตอนนี้เข้าสู่โหมดการทดสอบความรู้ของญาญ่า ถ้าอยากเข้าไปในถ้ำหมาป่าน้ำแข็งจะต้องผ่านการทดสอบความรู้ของญาญ่าไปให้ได้ซะก่อนนะ มีเพียงคนที่ฉลาดที่สุดเท่านั้นถึงจะเข้าไปในถ้ำหมาป่าน้ำแข็งเพื่อช่วยเหลือแม่หมาป่าผู้น่าสงสารได้........” ญาญ่ายื่นมือสองข้างออกมาสูงๆ “ตอนนี้เริ่มได้!!”
เย่เทียนเซี่ยชะงักฝีเท้าไปเล็กน้อย ในหัวของเขามีภาพที่ตัวเองหัวหมุนกับคำถามหกข้อติดต่อกันของยัยตัวจิ๋วผุดขึ้นมา จากนั้นเย่เทียนเซี่ยก็พูดไปด้วยความโกรธ “ญาญ่า เธอโกงนี่”
“ย๊า! ญาญ่าไม่ได้โกงนะ วันนี้จริงๆแล้วพี่ชายเข้าไปในถ้ำหมาป่าน้ำแข็งไม่ได้ซะหน่อย แต่พี่ชายเป็คนดี ให้ญาญ่ากินอมยิ้ม ญาญ่าถึงตกลงจะให้โอกาสพี่ชาย...........พี่ชายจะต้องคว้ามันไว้ให้ดีๆแล้วผ่านไปให้ได้ล่ะ” ญาญ่าพูดออกมาพร้อมหัวเราะคิกคัก เย่เทียนเซี่ยอยู่ในระดับไหนเมื่อวานเธอเห็นมาหมดแล้วล่ะ ดังนั้นหากวันนี้เขาคิดจะผ่านตรงนี้ไปให้ได้ล่ะก็........ ไม่มีทางซะหรอก!
ดังนั้นตัวเธอก็ไม่ถือว่านี่เป็การละเมิดคำสั่งของพี่สาวเทพธิดาผู้สร้างโลกอีกครั้ง
“ญาญ่า เธอ............”
“ติ๊งๆๆๆๆ! คำถามข้อแรก.......ฟังให้ดีๆล่ะ! มีสุนัขสองตัววิ่งแข่งกัน สุนัขตัวสีดำวิ่งได้เร็วมาก สุนัขตัวสีขาววิ่งได้ช้ามากๆ หลังจากที่พวกมันวิ่งไปถึงเส้นชัยร่างของสุนัขตัวไหนจะมีเหงื่อออกมากที่สุด? ต่อไปคือโหมดตอบคำถามอันรวดเร็วที่แสนจะน่าตื่นเต้น ทุกคำถามมีเวลาตอบคำถามเพียงแค่ 5 วินาทีเท่านั้นนะ........... เริ่มจับเวลานับจากนี้ 5……4………..3……..”
ญาญ่าไม่ให้เวลาเย่เทียนเซี่ยได้พูดอีกครั้ง เสียงแหลมๆนั่นดังขึ้นมาหลังจากที่ะโถามคำถามแรกออกมาทันทีโดยไม่หยุดพัก จากนั้นเธอก็รีบนับถอยหลังอย่างรวดเร็วทันที............... ซูเฟยเฟยเงียบกริบ เธอคิดถึงก่อนหน้านี้ที่เย่เทียนเซี่ยบอกเธอว่าไม่ให้เธอพูดอะไรออกมาเนื่องจากเขาจะเป็คนจัดการเอง ดังนั้นเธอจึงปิดปากสนิทอย่างเชื่อฟังและรอดูว่าเย่เทียนเซี่ยจะมีปฏิกิริยาตอบรับอย่างไร
“..............ตัวที่มีเหงื่อออกมากกว่าก็คือตัวที่วิ่งได้เร็ว” เมื่อญาญ่านับเลขมาถึงเลข “1” เย่เทียนเซี่ยก็ต้องรีบตอบออกไป
“คำตอบผิด! สุนัขไม่มีทางเหงื่อออกอยู่แล้ว!”
“.............” เย่เทียนเซี่ย
“.............” ซูเฟยเฟย
“ข้อที่สอง” ญาญ่าะโออกมาติดๆ “อัจฉริยะด้านการต่อสู้คนหนึ่งและอัจฉริยะทางด้านเวทมนต์คนหนึ่งแต่งงานกัน หลังจากลูกที่พวกเขาให้กำเนิดเกิดขึ้นมาจะกลายเป็คนอย่างไร? เริ่มจับเวลา.........5………4………3………”
“เขาจะกลายเป็อัจฉริยะทั้งทางด้านการต่อสู้และเวทมนต์” เย่เทียนเซี่ยพูดออกไปอย่างแข็งกระด้าง
“คำตอบผิด!! หลังจากลูกของพวกเขาเติบโตขึ้นมาเขาจะกลายเป็.........ผู้ใหญ่!” ญาญ่าะโออกมาเสียงดังจากนั้นก็เลียอมยิ้มไปมา
เย่เทียนเซี่ยอยากจะลากยัยตัวเล็กลงมาจากมนุษย์หิมะแล้วฝังกลบลงไปใต้หิมะจริงๆ
คำถามที่ญาญ่าถามออกมาล้วนเป็ปัญหาเชาว์ทั้งนั้น การทดสอบครั้งนี้ไม่ใช่การใช้ความคิดแบบปกติจริงๆ สำหรับเย่เทียนเซี่ยที่ไม่เคยลับสมองกับปัญหาเชาว์ก่อนจะมาที่นี่จึงไม่รู้ว่าควรจะรับมือกับมันอย่างไร แต่ถ้าเป็ไปตามการคิดอย่างปกติล่ะก็.......มันคงจะผิดไปหมด 100% แน่นอน
“ข้อที่สาม.......... เวลาที่เสี่ยวิเดินไปบนถนนสองเท้าของเขาไม่เคยแตะพื้นเลย นั่นเป็เพราะอะไร?”
“เพราะเสี่ยวิคือนกตัวหนึ่ง มันบินได้ ดังนั้นเท้าของมันจึงไม่แตะพื้น” เมื่อวานเย่เทียนเซี่ยมีประสบการณ์กับ “เสี่ยวิคือสุนัขตัวหนึ่ง” ไปแล้ว เขาจึงปิ๊งไอเดียแล้วตอบคำถามออกไปอย่างตื่นเต้น........... ไม่ผิด! ไม่ผิด! คำตอบต้องเป็อันนี้แน่! ครั้งนี้ไม่มีทางผิดอีกแน่
“คำตอบผิด!” เสียงที่ไร้อารมณ์ดังออกมาจากปากของญาญ่าอีกครั้ง “พี่ชายนี่โง่เกินไปแล้วนะ นกมันอยู่บนฟ้าก็ต้องบินสิ มันไม่เดินอยู่แล้ว! เสี่ยวิไม่ใช่นกนะ! เสี่ยวิเป็เด็กที่น่ารักมากๆ ตอนที่เขาเดินเท้าของเขาไม่มีทางแตะพื้นอยู่แล้วนั้นก็เพราะว่า....... เขาใส่รองเท้าอยู่ไงล่ะ ดังนั้นเท้าของเขาก็เลยไม่โดนพื้นไง!!”
คำตอบนี้ทำให้เย่เทียนเซี่ยอยากจะเอาหัวโขกพื้นตายให้รู้แล้วรู้รอด!
คำตอบแต่ละข้อไร้ที่ติแท้ๆ ไม่มีอะไรผิดพลาดไปแท้ๆ.........หรือว่าจริงๆแล้วเขาจะโง่จริงๆ?
“ข้อที่สี่!! ระยะการยิงลูกศรลูกหนึ่งคือ 100 เมตร มีกระต่ายตัวหนึ่งอยู่ห่างออกไป 200 เมตร แต่ลูกศรจากธนูอันนั้นกลับยิงโดนกระต่างเข้าเต็มๆ นั่นเป็เพราะอะไร? เริ่มจับเวลา.........5……….4………3………….”
ทำไมถึงยิงถูก............ฉันจะไปรู้ได้ยังไงเล่า!!
“...........2………….1……..0! หมดเวลา! คำตอบก็คือ..........คันธนูอันนั้นมีความยาว 100 เมตร!! บวกกับระยะการยิงอีก 100 เมตรรวมกันแล้วก็เป็ 200 เมตรพอดี!” ญาญ่าที่กัดอมยิ้มเอาไว้เฉลยคำตอบออกมา
เย่เทียนเซี่ยเริ่มปวดหัวขึ้นมาแล้ว
“พี่ชาย คำถามมี 10 ข้อ ตอบถูกห้าข้อถึงจะเข้าไปได้นะ พี่ตอบผิดมาแล้ว 4 ข้อ ต้องพยายามกันหน่อยแล้วล่ะ ข้อที่ 5 ง่ายมากๆ..........อืม คนที่ไม่เชื่อฟังที่สุดบนโลกใบนี้คือใคร?”
“ก็คือญาญ่าที่เป็เด็กแบบนี้ไงล่ะ” เย่เทียนเซี่ยกัดฟันตอบออกไป
“คำตอบผิด! คนที่ไม่เชื่อฟังที่สุดบนโลกก็คือคนหูหนวกไงล่ะ เพราะหูหนวกก็เลยไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น! ย๊า พี่ชาย พี่ตอบผิดห้าข้อแล้วนะ ถ้าตอบผิดอีกข้อล่ะก็ วันนี้คงเข้าไปไม่ได้หรอกนะ” ญาญ่าหัวเราะออกมาอย่างร่าเริง เธอเลียอมยิ้มไปด้วยแล้วทำหน้าตาล้อเลียนเย่เทียนเซี่ยไปด้วย
สิ่งที่เย่เทียนเซี่ยอยากจะทำที่สุดในตอนนี้ก็คือลากยัยเด็กญาญ่าลงมาแล้วจัดการตีก้นเธอให้หนักๆ เห็นได้ชัดว่ายัยเด็กญาญ่าแน่ใจมากว่าเขาไม่มีทางตอบคำถามถูกอย่างแน่นอน ดังนั้นเมื่อกี้เธอถึงตอบตกลงอย่างรวดเร็วเพื่ออมยิ้มหนึ่งแท่ง
คำถามพวกนี้...........มันเป็คำถามที่คนสามารถตอบได้หรือไง!!!!!!!
เมื่อมองญาญ่าที่แสดงออกถึงความพึงพอใจและเย่เทียนเซี่ยที่กัดฟันแน่นในที่สุดซูเฟยเฟยก็ทนดูต่อไปไม่ได้ เธอกระตุกชายเสื้อเย่เทียนเซี่ยแล้วพูดออกมาเสียงเบา “เทียนเซี่ย คำถามของเด็กผู้หญิงคนนั้น........ถ้าให้ฉันตอบล่ะ ได้หรือเปล่า?”