หลินเมิ้งหยาแอบร้องว่าแย่แล้วในใจนางคุ้นเคยกับน้ำเสียงชองชายผู้นี้ยิ่งนัก คุ้นเคยเสียจนตกตะลึง
ร่างของหูลู่หนานพลันปรากฏขึ้นที่หน้าประตูทางเข้ากระโจม
เมื่อถูกพบเห็น สีหน้าของชายาตู๋กูเผยให้เห็นความกระวนกระวาย
หากเื่นี้รั่วไหลออกไปเกรงว่าไท่จื่อจะได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง แม้แต่นางเองก็ไม่อาจรับมือได้
“องค์ชายรองหมายความว่าอย่างไรเพคะ เซี่ยเฉินไม่เข้าใจ”
ใบหน้ายังคงประดับไว้ซึ่งรอยยิ้มชายาตู๋กูส่งสัญญาณผ่านทางสายตาให้นำตัวหลินเมิ้งหยาออกไป
“สตรีผู้นี้เ้าเล่ห์ยิ่งนัก ชายารองมิกลัวว่านางจะหนีไปได้ทันทีที่ออกจากกระโจมกระนั้นหรือ?”
คิดไม่ถึงเลยว่าหูลู่หนานจะบีบแขนของหลินเมิ้งหยา
ท่าทางของเขาไม่เหมือนคนที่กำลังเข้ามาช่วยเหลือ
“โอ้ว? ที่แท้องค์ชายรองก็มีเื่ค้างคาใจกับพระชายาอย่างนั้นหรือเพคะ? ในเมื่อทุกคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว เช่นนั้นนั่งลงคุยกันก่อนดีหรือไม่?”
ชายาตู๋กูเป็คนฉลาด เพียงมองปราดเดียวก็รู้ได้ทันทีว่าองค์ชายรองแห่งซีฟานมีเป้าหมายเดียวกับไท่จื่อ
ทว่าเื่นี้เป็พระประสงค์ของไท่จื่อส่วนจะตกลงกันอย่างไรนั้นคงต้องแล้วแต่การตักสินใจของพระองค์
“ใช่แล้ว พวกเราเคยทำความรู้จักกันมาก่อน”
หูลู่หนานจ้องหน้าหลินเมิ้งหยาเขม็ง มุมปากหยักยิ้มเ็าราวกับมั่นใจแล้วว่าเขาสามารถเอาชนะหลินเมิ้งหยาได้อย่างแน่นอน
คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีองค์ชายรองแห่งซีฟานเข้ามาร่วมวงด้วยหลินเมิ้งหยาร้องเตือนตัวเองในใจ
ไท่จื่อและหูลู่หนานกำลังสมคบคิดร่วมมือกันเกรงว่าวันนี้นางจะเอาตัวรอดยากเสียแล้ว
“เหตุใดจึงไม่ส่งเสียงแล้วเล่า? มิใช่ว่าเ้าเก่งเื่ต่อล้อต่อเถียงผู้อื่นอย่างนั้นหรือ?”
หูลู่หนานจ้องมองหลินเมิ้งหยานับั้แ่วันที่เขาได้เจอหน้านางเป็ครั้งแรกเขารู้สึกหมดความอดทนกับนางเหลือเกิน
ในที่สุดโอกาสก็มาถึง นางกลายเป็ลูกแกะที่กำลังรอการถูกเชือดคราวนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยให้นางหนีไปไหนอีก
หลินเมิ้งหยาเหลือบมองคนทั้งคู่ด้วยสายตาเ็า เบือนหน้าไปอีกทางไม่ยอมเอ่ยสิ่งใด
“ช่างเป็สาวงามที่ใจกล้ายิ่งนัก สำหรับพวกเาาวซีฟานยิ่งหญิงสาวขัดขืนมากเท่าไรก็ยิ่งมีรสชาติมากเท่านั้น หากมิใช่ว่าไท่จื่อถูกพระทัยเ้าละก็ข้าคงเอาเ้ากลับไปเป็สาวใช้ที่ซีฟานแล้ว”
หูลู่หนานเอ่ยวาจาประสงค์ร้าย ทว่าริมฝีปากกลับหยักยิ้ม
หลินเมิ้งหยาชำเลืองมองชายไร้ยางอายตรงหน้าทั้งที่มีเชื้อสายกษัตริย์เช่นเดียวกับผู้เป็พี่ แต่เหตุใดพวกเขาจึงต่างกันยิ่งนัก
“องค์ชายรองชอบล้อเล่นหรืออย่างไร ถึงอย่างไรสตรีคนนี้ก็เป็ประชาชนของต้าจิ้นหากองค์ชายรองอยากได้สาวใช้ ท่านสามารถเลือกจากพวกสตรีที่อยู่ด้านนอกนั้นได้”
น้ำเสียงไม่เป็มิตรนัก นางคือหญิงสาวที่เขาพึงใจเหตุใดจะปล่อยให้ถูกพาตัวไปง่ายๆ
ร่างของไท่จื่อพลันปรากฏขึ้นในกระโจม
หลินเมิ้งหยาลอบมองทั้งสาม สมองประมวลผลอย่างรวดเร็ว
ดูเหมือนพวกเขาจะมิได้ปรองดองกันเท่าที่ควรเช่นนั้นนางมีโอกาสเอาตัวรอดแล้ว
“ไท่จื่อมีค่าเสมือนหยก ทว่านางกลับเป็เสมือนเครือญาติของท่านหากพระองค์ให้นางถวายตัวรับใช้ เช่นนั้นจะไม่มีข่าวลือเสีย ๆ หาย ๆ กระนั้นหรือ”
ท่าทางขององค์ชายเสมือนมิได้เกรงกลัวไท่จื่อเลยแม้แต่น้อยหลินเมิ้งหยาเริ่มวางแผนในใจ
ทั้งสองคนมิใช่คนดีดังนั้นหลินเมิ้งหยาจึงตัดสินใจดูสถานการณ์เงียบๆ
“ตอนแรกข้าคิดว่าองค์ชายรองจะเป็คนฉลาดแต่ดูเหมือนจะเป็เพียงคนไร้ความสามารถเท่านั้น”
น้ำเสียงของไท่จื่อเ็า สีหน้าแววตาไม่พึงพอใจนัก
วางแผนกำจัดองค์ชายตรงหน้าในใจเกรงว่าเขาจะเก็บองค์ชายรองแห่งซีฟานเอาไว้ไม่ได้เสียแล้ว
“เ้าอย่าได้คิดที่จะกำจัดข้าเชียวพวกเราเพิ่งจะเริ่มต้นร่วมมือกันเท่านั้น หากเกิดเื่อะไรกับข้าขึ้นมาเช่นนั้นความร่วมมือของพวกเราก็สิ้นสุดลงมิใช่หรือ?”
ทว่าหูลู่หนานกลับไม่สนใจ แยกเขี้ยวยิงฟันราวกับว่าเขาสามารถเอาชนะไท่จื่อได้
“เ้ากำลังข่มขู่ข้า?”
สายตาของไท่จื่อเจือไว้ซึ่งความเ็า
สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือการถูกข่มขู่
ที่ต้าจิ้นแห่งนี้ นอกจากเสด็จแม่หาได้มีใครมีอำนาจเหนือกว่าเขาไม่ เขาคือเ้าผู้ครองราชย์แห่งต้าจิ้นในอนาคตส่วนองค์ชายรองแห่งซีฟานเป็เพียงหมากตัวหนึ่งที่เขานำมาใช้ประโยชน์เท่านั้น
“ไม่ ข้าเพียงแต่หวังว่าไท่จื่อจะไตร่ตรองดูใหม่อีกครั้ง”
คนที่ถูกความงามของหลินเมิ้งหยาทำให้มัวเมามิใช่เพียงไท่จื่อคนเดียว
หูลู่หนานเป็คนทะเยอทะยาน
เจียงซานและสาวงามล้วนเป็เป้าหมายของเขาดังนั้นเขาจึงไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ
“ไท่จื่อ องค์ชายรอง เหตุใดจะต้องทำให้เสียเื่เพียงเพราะสตรีคนเดียวกันเล่าเพคะ?”
ชายารองตู๋กูััได้ว่ากำลังถูกข่มขู่เตียงของไท่จื่อมีสาวงามมากมายผลัดเปลี่ยนเวียนนอน แต่ไท่จื่อมิเคยสนใจสตรีคนไหนมาก่อน
เกรงว่านางมิอาจเก็บสตรีคนนี้ไว้ข้างกายไท่จื่อได้อีกต่อไปหากส่งนางไปที่ซีฟาน เช่นนั้นนางก็ยังพอจะมีแก่ใจสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อนางได้
“โอ้ว? ชายารองตู๋กูมีความเห็นเช่นไร?”
หูลู่หนานหันหน้าไป มองดูหญิงสาวผู้เชื่อฟังสามีคนนั้นนางถึงขนาดส่งสตรีอื่นขึ้นเตียงสามีด้วยมือของนางเอง
“ข้าเป็เพียงสตรีคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ว่าใครก็ชอบสาวงาม แต่เพื่อสตรีเพียงคนเดียวท่านทั้งสองกลับต้องบาดหมางกัน เกรงว่าจะไม่คุ้มเอาเสียเลยไท่จื่อคิดเห็นเช่นไรเพคะ?”
คำพูดของชายารองตู๋กูดึงสติของไท่จื่อกลับมา
เมื่อครู่เขาถูกหูลู่หนานยั่วยุให้โกรธเกรี้ยว
เมื่อหวนนึกถึงพันธสัญญาที่สร้างร่วมกันเมื่อไม่นานมานี้ความ้าที่มีต่อหลินเมิ้งหยาลดลงค่อนข้างมาก
แต่ถ้าถูกคนตัดหน้าไปกลางทางเกรงว่าเขาเองก็ไม่มีหน้าที่จะเดินต่อเช่นกัน
แม้สีหน้าเคร่งขรึม ทว่าสายตามิได้อาฆาตมาดร้ายเหมือนอย่างตอนแรก
“พวกเ้าวางแผนได้ดีนี่ มองข้าเป็เพียงสิ่งของไม่คิดจะเอ่ยถามความเห็นจากข้าเลยหรือ?”
หลินเมิ้งหยารู้สึกอยากหัวเราะออกมาดังๆเหตุใดคนพวกนี้จึงคิดว่าจัดการนางได้อยู่หมัดแล้วกันนะ?
ทั้งไท่จื่อและหูลู่หนานล้วนโง่เขลากันทั้งคู่
เพื่อสตรีเพียงคนเดียว พวกเขากล้าทำเื่ผิดศีลธรรมคนแบบนี้จะปล่อยให้มีอำนาจได้อย่างไร
“ฮึ ตอนนี้เ้าเป็เพียงลูกไก่ในกำมือเหตุใดจะต้องถามหาความเห็นจากเ้าด้วยเล่า?”
หูลู่หนานไม่กังวลเลยว่าสตรีผู้นี้จะหนีออกไปได้ก่อนมาที่นี่เขาสังเกตเห็นว่ามีองครักษ์เฝ้าอยู่มากมาย อย่าว่าแต่สตรีตัวเล็กๆเพียงคนเดียวเลย แม้แต่ตนเองยังหนีออกไปได้ยาก
“พวกท่านคนหนึ่งเป็ถึงไท่จื่อ อีกคนเป็องค์ชายรองแห่งซีฟานส่วนข้าคือชายาอวี้แห่งต้าจิ้น หรือพวกเ้าคิดว่าจะสามารถทำให้ข้าหายไปได้อย่างง่ายดาย?”
หลินเมิ้งหยาเอ่ยเสียงนิ่งสงบ ทั้งสามคนเริ่มรู้สึกหวั่นใจ
คนที่ได้เคยรู้จักนางมาก่อนต่างรู้ดีว่าชายาอวี้เ้าเล่ห์มากถึงเพียงใด
ถ้าหาก ถ้าหากสิ่งที่นางพูดเป็เื่จริง เช่นนั้น...
“อย่าเสียเวลาเปล่าเลย ข้างกายข้ามีองครักษ์ฝีมือดีคอยคุ้มกันที่วันนี้ข้ายอมปล่อยให้พวกเ้าจับตัวเอาไว้ก็เพราะอยากรู้ว่าพวกเ้ากำลังวางแผนจะทำอะไรกันแน่มิเช่นนั้น เหตุใดข้าจึงไม่พาสาวใช้ตามมาด้วยเลยสักคนเดียวเล่า?”
หลินเมิ้งหยานั่งลง ท่าทางผ่อนคลายพวกเขาไม่เข้าใจนางเลยแม้แต่น้อย
ชิงหูตามนางมาเงียบๆ ตั้งนานแล้ว ทว่าเขาเพียงแต่รอคำสั่งเท่านั้นขอเพียงนางเอื้อนเอ่ย คนที่อยู่ที่นี่คงไม่มีโอกาสหายใจ
ร่องรอยของการเย้ยหยันพลันปรากฏขึ้นในดวงตาคู่สวย ขณะเดียวกันพวกคนที่อยู่ในกระโจมต่างตกตะลึง
สตรีคนนี้แปลกมากจริง ๆ
“เช่นนั้นหรือ? แล้วองครักษ์ของเ้าอยู่ที่ไหนกันเล่า? เรียกออกมาให้พวกเรารู้จักหน่อยจะเป็ไร?”
แม้จะเอ่ยเช่นนั้น แต่หูลู่หนานกลับกำมีดในมือแน่น
ขอเพียงยอดฝีมือคนนั้นปรากฏตัวออกมาเขาพร้อมที่จะพุ่งตัวไปฆ่าทันที
ทว่าหลินเมิ้งหยามิใช่คนโง่สายตาดูถูกของเขาปกปิดความจริงในใจเอาไว้ไม่มิด
“เ้าคิดว่าเขาจะโง่ถึงขนาดออกมาแสดงตัวให้เ้าเห็นอย่างนั้นหรือ? หากเ้าไม่เชื่อ นอกจากองครักษ์หน้าประตูสองสามคนเ่าั้พวกเ้าลองดูสิว่ายังมีคนอื่นอีกหรือไม่”
เมื่อครู่ชิงหูปรากฏตัวให้หลินเมิ้งหยาได้เห็นในกระโจมหลังนี้นอกจากหลินเมิ้งหยาแล้ว มิมีคนอื่นล่วงรู้ถึงการมีตัวตนของเขา
บางครั้งสายตาสามารถหลอกลวงเราได้ น่าเสียดายที่คนทั้งสามตรงหน้าไม่รู้ถึงเหตุผลข้อนี้
“เข้ามา! เข้ามา!”
ไท่จื่อยังคงไม่เชื่อ แต่แม้จะเรียกคนด้านนอกถึงสองครั้ง แต่กลับไม่มีผู้ใดขานรับ
องครักษ์ที่ยืนเฝ้าหน้าประตูทั้งสองหันไปมองรอบๆก่อนนั้นพวกเขาได้รับคำสั่งเหมือนกันคือคนด้านในเรียกเมื่อไหร่จะต้องรีบเข้ามาข้างในทันที แต่เหตุใดเวลานี้จึงเหลือเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้น?
“ไม่ต้องเรียกหรอก คนของข้าช่วยพวกเ้ากำจัดพวกเขาไปแล้วหากเื่ในวันนี้ถูกแพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะยุ่งยากเสียเปล่าๆ”
หลินเมิ้งหยาส่งเสียงนิ่งสงบประสาทััการได้กลิ่นของนางดีกว่าคนอื่น
กลิ่นคาวเืคละคลุ้งอยู่ในอากาศ
ชิงหูลงมือฉับไว เขาฆ่าคนโดยไม่ทิ้งรอยเืออกมาให้เห็น
ดังนั้น นางจึงเป็เพียงคนเดียวที่ได้กลิ่นเืเ่าั้
เกรงว่าองครักษ์เ่าั้คงจะหมดลมหายใจไปแล้ว
“ไท่จื่อ พวกเราควรทำเช่นไร?”
ชายารองตู๋กูคิดไม่ถึงเลยว่าเื่ราวจะเปลี่ยนไปเช่นนี้
ตอนแรกพวกเขายังกำชัยชนะเอาไว้ในมือ ทว่าพริบตาเดียวเื่ราวกลับเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง
ชายาอวี้น่ากลัวเหลือเกิน! แต่ไหนแต่ไรมานางไม่เคยเห็นหญิงสาวลึกลับเช่นนางมาก่อน
“ข้าจะไม่ทำร้ายพวกเ้า เหตุเพราะข้าไม่อยากพังทลายท้องฟ้า ข้าจะทำเป็ไม่รู้เห็นเื่ที่เกิดขึ้นในวันนี้พวกเ้าเองก็ควรทำเช่นนั้นเพื่อตัวของพวกเ้าเอง”
คนกุมอำนาจกลับกลายเป็หลินเมิ้งหยาอีกครั้งแต่ถึงกระนั้นนางก็ไม่คิดทำเื่น่าตื่นตระหนกใด ๆ
ฆ่าพวกเขาตอนนี้ เป็เพียงการแก้ปัญหาระยะสั้นแต่จะมีผลตามมาในระยะยาว
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาล้วนมีเชื้อสายกษัตริย์นางควรเก็บไพ่ตายเอาไว้ในมือ หลินเมิ้งหยายังมิอยากปล่อยให้ปลาตายในข้อง
“คิดไม่ถึงเลยว่าข้าจะพ่ายแพ้ให้กับเ้าอีกครั้ง”
สีหน้าเคร่งขรึม สายตาอาฆาตจับจ้องมองทางหญิงสาวตรงหน้าเป็เพราะนาง แผนการที่ลำบากตรากตรำวางมาตลอดสิบกว่าปีจึงถูกนางกุมเอาไว้
เหตุใดเขาจึงมิอาจต่อกรชนะนางได้
“เดี๋ยวเ้าก็ชิน”
หยักยิ้มเล็กน้อย ทว่าคำพูดเพียงสั้นๆกลับทำให้เขาอยากฆ่านางให้ตาย
