ค-ลั่-ง-รั-ก
สะใภ้แม่ลูกอ่อน
นวนิยายสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น
ผู้เขียน
กาสะลองทองคำ
ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือ
หรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ
เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเ้าของหนังสือเท่านั้น
นิยายเื่นี้เป็เพียงเื่ที่สมมติขึ้น
ไม่เกี่ยวข้องกับเื่จริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล
และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเื่ ไม่มีเจตนา
อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ
……….
นิยายเื่นี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนา
ทั้งเื่ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์
ดำเนินเื่ด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง
ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง
*เราเตือนท่านแล้ว*
ตอนที่ 1
พ.ศ. 2568 ประจวบคีรีขันธ์…
ตอนเที่ยง พระอาทิตย์ตั้งฉากทำมุมเก้าสิบองศากับพื้นโลก เสียงเครื่องยนต์รถกระบะดังกระหึ่มมาท่ามกลางฝุ่นลูกรังสีแดง เข้าสู่หมู่บ้าน ‘โนนมะขาม’ ที่โอบล้อมไว้ด้วยไร่ข้าวโพดและไร่อ้อยสีเขียวขจีสุดลูกหูลูกตา
หญิงสาวแม่ลูกอ่อนอายุยี่สิบสามปีมีนามว่า ‘ดอกแก้ว’ ทอดสายตามองผ่านกระจกหน้ารถออกไปยังเส้นทางเบื้องหน้า หล่อนเอามือโอบกอดลูกชายวัยหนึ่งขวบที่กำลังหลับสนิทอยู่ในอ้อมแขน
“เหนื่อยไหมจ๊ะแก้ว… ”
‘ทิว’ ชายหนุ่มผิวขาวรูปร่างบอบบางวัยยี่สิบหกปีที่นั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับ เอ่ยถามภรรยา ขณะสายตายังจ้องมองทางเบื้องหน้า
“นิดหน่อยจ้ะพี่ทิว… ”
หญิงสาวตอบ…
หล่อนเรียกชื่อของสามีเพียงสั้นๆ ว่า ‘ทิว’ ด้วยความเคยชิน พยายามซ่อนสีหน้ากังวลกับความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต คือการย้ายที่อยู่อาศัยจากกรุงเทพฯ มาอยู่ในไร่อ้อยที่เห็นอยู่เบื้องหน้านี้
“ใกล้แล้ว… อีกนิดเดียวก็จะถึงบ้านพ่อแล้ว ทนเมื่อยหน่อยนะอีกอึดใจเดียวท่านั้น”
ทิวหันมาพูดเบาๆ…
มือข้างหนึ่งจับพวงมาลัย อีกมือเอื้อมมาลูบมือภรรยาเบาๆ ด้วยความรักใคร่
“จ้ะพี่ทิว… ที่นี่ปลูกอ้อยกันเยอะมาก… ”
ดอกแก้วตอบ…
ดวงตาคมสวยทอดมองออกไปยังไร่อ้อยเบื้องหน้าและสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ที่ไม่คุ้นเคย นั่นเป็เพราะว่าที่ผ่านๆ มาหล่อนใช้ชีวิตอยู่แต่ในเมืองหลวง
“ดูแล้วจะอยู่ได้ไหม… ”
ทิวรู้เช่นกัน ว่านี่คือความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของหญิงสาวข้างกาย
“ได้จ้ะ… แต่มันเงียบจัง…”
ดอกแก้วทอดสายตาออกไปในความเวิ้งว้างเบื้องหน้า ใบอ้อยสีเขียวเรียวยาวพลิ้วไสวอยู่ในสายลมพัดโชยมาตลอดเวลา
แม้ว่าอากาศที่นี่จะดีมาก แต่ภาพของทิวเขาทะมึนเื้ัและป่าไม้รายรอบก็ทำให้หญิงสาวยิ่งรู้สึกห่างไกลจากความเจริญที่คุ้นเคย
“พี่ว่าเงียบก็ดีนะ อากาศก็ดีด้วย ลองนึกถึงตอนที่เราอยู่กรุงเทพฯ อากาศโคตรเลวร้ายมาก มีทั้งฝุ่นทั้งควันทั้งปัญหารถติด… ”
ทิวเหลือบมองเมียรัก…
แต่สายตานั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เพราะรู้ดีว่าตัวเองเป็คนทำให้ครอบครัวต้องเดือดร้อนเื่เงิน
หลังจากหลงเข้าไปในวังวนของการพนันมาพักใหญ่ๆ และการกลับมาอยู่บ้านพ่อ คือทางรอดสุดท้ายที่ทิวคิดได้
ในเวลาต่อมา…
รถกระบะสีเทาคันใหญ่ก็เลี้ยวเข้ามาจอดอยู่หน้าบ้านไม้หลังใหญ่ สองข้างรั้วสังกะสีขนาบไปด้วยแนวต้นมะม่วงสูงตระหง่านขึ้นมาถึงหลังคาบ้าน
“พ่อไกร… ”
ทิวะโเรียกเสียงดัง…
เมื่อลดบานกระจกลงแล้วเห็นชายร่างสูงใหญ่คุ้นตากำลังยืนอยู่หน้าบ้านไม้สองชั้น ตระหง่านอยู่ท่ามกลางไร่อ้อยสีเขียวขจี
“มาแล้วรึไอ้ทิว… ”
‘ไกรสร’ ร้องทักผู้มาเยือน…
ในมือถือเสียม มืออีกข้างถือมะนาวที่เพิ่งเก็บมาจากต้น แม้ว่าไกรสรจะพูดกับลูกชาย แต่สายตานั้นจับจ้องมองสะใภ้สาวด้วยความตกตะลึงในความงาม
“พ่อไกร… นี่ดอกแก้วเมียผมกับเ้า ‘กายน์’ หลานพ่อ”
ทิวแนะนำหญิงสาวข้างกายและเด็กชายจ้ำม่ำอายุเพียงหนึ่งขวบที่อุ้มเอาไว้ในอ้อมแขนของหล่อน
“สวัสดีค่ะพ่อไกร… ”
ดอกแก้วยกมือไหว้…
หล่อนรู้สึกสะดุดตากับรูปร่างบึกบึนกำยำของพ่อสามี เป็เพราะว่าไกรสรไม่ได้สวมเสื้อ
มีแค่เพียงกางเกงขาก๊วยสีเทาบางๆ ที่ปิดบังกึ่งกลางกายและสรีระ่ล่างเอาไว้ จึงมองเห็นปั้นไหล่กำยำและแผงอกกว้าง เต็มไปด้วยแพเส้นขนสีดำสุดเซ็กซี่ ภาพของพ่อสามีคนนี้สะดุดตาของดอกแก้วยิ่งนัก
“สวัสดีจ้ะหนูแก้ว… ยินดีต้อนรับทุกคน เ้ากายน์มาให้ปู่อุ้มหน่อย… จ้ำม่ำเหลือเกินไอ้หนู… ”
ไกรสรเอื้อมมือออกมารับร่างของหลานมาอุ้ม…
เป็ครั้งแรกที่ได้เจอหน้ากัน โน้มใบหน้าหอมแก้มของหลานแล้วอดมองเต้านมของแม่ลูกอ่อนไม่ได้
แอบคิดในใจว่าหลานชายจ้ำม่ำอ้วนท้วนขนาดนี้เป็เพราะว่ามีแม่ซึ่งนมใหญ่สะดุดตามาก คงมีน้ำนมให้เ้าตัวเล็กดูดกินมิได้ขาด
“หน้าเหมือนเอ็งตอนเด็กๆ ไม่มีผิด… ”
ไกรสรชมแล้วหอมแก้มหลานอีกครั้ง…
น้องกายน์ไม่คุ้นกับคนมีหนวด เมื่อหนวดเคราเป็แพสีดำสากแข็งเหนือริมฝีปากของปู่มาโดนแก้ม ทำให้เด็กน้อยเอามือจับหนวดเคราเล่นอย่างไร้เดียงสา
ภาพที่เห็น…
ทำเอาดอกแก้วมองด้วยความสยิวแทนลูกชายที่โดนจูบ เป็เพราะว่าหล่อนแพ้ผู้ชายมีหนวด เห็นแล้วชวนให้รู้สึกจั๊กจี้วาบหวามในอารมณ์ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ครู่ต่อมา…
เมื่อพากันเดินเข้ามาในบ้าน ไกรสรพาดอกแก้วและทิวไปยังห้องนอนที่เตรียมเอาไว้ หลังจากรู้ว่าทิวจะพาลูกและเมียกลับมาอยู่บ้านไร่
ดอกแก้วเห็นว่าลูกชายง่วงนอน…
หล่อนจึงพาน้องกายน์มาให้นมอยู่ในห้องนอน ปล่อยให้สองพ่อลูกพากันเดินออกมาที่ห้องรับแขกของบ้าน เป็ระยะเวลานานมากแล้วที่ไม่ได้เจอกัน พ่อลูกจะได้มีเวลาพูดคุยกันเป็ส่วนตัว
“เมียเอ็งสวยจัง… เป็คนที่ไหน”
ไกรสรเป็คนพูดตรงโผงผาง…
ทุกอย่างที่คิดเขามักจะพูดออกมาโดยไม่ผ่านการปรุงแต่งกลั่นกรอง ซึ่งอุปนิสัยนี้ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
“แก้วเป็คนนคร์ครับ… ”
ทิวแอบยิ้มเจื่อนแล้วตอบ เมื่อได้ยินผู้เป็พ่อเอ่ยชมเมียของตนว่าสวย
อันที่จริงก็ไม่ใช่เื่แปลกอะไรที่พ่อผัวจะเอ่ยชมสะใภ้ ถ้าพ่อผัวคนนั้นคือ ‘ไกรสร’ ซึ่งเป็ผู้ชายเ้าชู้และมักมากในกามจนเป็ที่เลื่องลือไปทั้งหมู่บ้าน
ครู่ต่อมา…
ทิวลืมของบางอย่างที่ซื้อมาไว้ในรถกระบะ จึงเดินออกไปจากบ้าน ก้าวตรงไปที่รถ
และในระหว่างนั้น ไกรสรก็เดินเข้าไปหาสะใภ้ที่ยังอยู่ในห้องนอนกับลูกของหล่อน
ไกรสรเอามือผลักบานประตูเบาๆ…
ประตูไม้ที่ไม่ได้ล็อกเปิดออกช้าๆ พลันสายตาของไกรสรสะดุดเข้ากับภาพของเด็กน้อยที่กำลังดูดกินนมจากเต้ามหึมา
“อู้ววว… แม่คุณเอ๊ย… ”
ดวงตาของไกรสรลุกวาว…
ปากจิ้มลิ้มของน้องกายน์กำลังครอบดูดลึกเข้ามาถึงวงป้านลานหัวนมสีเนื้อ ดูดกินนมจากเต้าอย่างเอร็ดอร่อยเสียงดังจ๊วบๆ…
เต้านมขาวเนียนของแม่ลูกอ่อนใหญ่มหึมามากจนล้นออกมาจากคอเสื้อที่แม่ลูกอ่อนแหวกควักออกมา
“อุ๊ย… พ่อไกร… ”
ดอกแก้วร้องอุทานด้วยความใ…
เมื่อเหลือบตาขึ้นมองประตูที่ถูกผลักเข้ามา เพราะไม่คิดว่าจะมีใครเข้ามาในเวลานี้