ตอนนี้หานเฟิงไม่เพียงบีบให้ิอวี่ต้องขึ้นไปบนยอดเขาเซิงหานเท่านั้น แต่ด้านหลังของเขายังมีหลัวชีที่ตามมาด้วย แทบจะไม่ให้ิอวี่มีทางหนีได้เลย
ส่วนลูกน้องของหานเฟิงอีกสิบเก้าคนต่างยืนรออยู่ที่กลางเขาเพื่อปิดทางหนีทีไล่ทั้งหมด ก่อนที่หานเฟิงจะฆ่าิอวี่ได้สำเร็จ พวกเขาจะไม่ให้ใครเข้ามายุ่งได้เด็ดขาด
ิอวี่คิดอยากจะะโหนีลงไปเลย แต่ต่อให้เขาลองฝืนดูก็ไม่มั่นใจว่าจะะโลงจากเขาไปได้อย่างปลอดภัยไหม
อีกอย่าง ข้างกายของเขายังมีเฮยจีที่ร่างกายอ่อนแออยู่ด้วย ิอวี่ไม่สามารถะโหนีไปได้!
“ยังจะหนีไปไหนได้อีก?”
ในมือของหลัวชีมีกริชอยู่เล่มหนึ่ง เขาเดินลมปราณแล้วพุ่งแทงใส่ิอวี่
ิอวี่พลิกข้อมือโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง กระบี่ส่งเสียงเพลงกระบี่ร้องไห้พลุ่งพล่านออกมา ถึงแม้เขาจะมีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่ห้าเท่านั้น แต่ว่าพลังในร่างกายก็เทียบเท่ากับราชสีห์หนึ่งพันตัวไปแล้ว การโจมตีในครั้งนี้ทำให้หลัวชีต้องล่าถอยออกไป
หลัวชีรู้สึกเจ็บที่ง่ามนิ้ว เมื่อก้มหน้าลงมองก็เห็นว่าง่ามนิ้วของเขานั้นมีาแเืออก!
“เ้าเดรัจฉาน!”
หลัวชีร้องขู่คำราม มือขวาของเขาปล่อยพลังและแทงกริชเข้าใส่ิอวี่ ตัวกริชหมุนไปรอบตัวของิอวี่เพื่อตัดและเฉือนร่างกายของเขา
และในขณะเดียวกัน หานเฟิงเองก็ะโลอยตัวขึ้น และอาศัยแรงของอากาศดันตัวพุ่งให้เข้าไปใกล้ิอวี่!
กระบวนท่าเหยียบไปที่กลางอากาศ มันเป็ทักษะการต่อสู้ระดับสูงที่มีชื่อว่า เท้าแตะเมฆา!
ตามชื่อเลย ผู้ใช้สามารถเหยียบไปกลางอากาศเพื่ออาศัยแรงดันที่น่าสะพรึงกลัว และยังสามารถแฝงตัวไปในอากาศเพื่อฆ่าคู่ต่อสู้ได้อย่างน่าประหลาดใจ!
แต่เท้าแตะเมฆาก็มีข้อจำกัดเหมือนกันนั่นคือ หลังจากที่ใช้ไปแล้วหนึ่งครั้งจะไม่สามารถใช้ครั้งที่สองได้อีกในระยะเวลาสั้นๆ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ฝึกเท้าแตะเมฆาจนสำเร็จแล้ว จะสามารถพลิกแพลงบนกลางอากาศได้สามครั้ง และการเปลี่ยนแปลงทิศทางได้สามครั้งก็ถือเป็เื่ที่ล้ำเลิศอย่างมาก!
หานเฟิงเพิ่งฝึกเท้าแตะเมฆาในเบื้องต้นเท่านั้น จึงทำได้แค่แตะไปกลางอากาศแค่ครั้งเดียว แต่แค่ครั้งเดียวก็สามารถเข้าใกล้ิอวี่ได้แล้ว
ลมปราณรายล้อมอยู่รอบง้าวศึกสีทอง หานเฟิงฟันง้าวศึกลงเข้าใส่!
หานเฟิงมีความรวดเร็วอย่างมาก อีกทั้งด้านข้างยังมีหลัวชีที่แทงกริชมาอีกด้วย ิอวี่แทบไม่มีทางหนีได้เลย
หากเจอคนหนึ่งโจมตีเข้าใส่ตรงหน้า ส่วนอีกคนโจมตีมาทางด้านข้าง มันก็แทบจะเป็ทางตัน!
“คิดว่าจะฆ่าข้าได้ง่ายๆ อย่างนั้นหรือ?”
เมื่อเจอการโจมตีสังหารแบบนี้ ิอวี่จึงเก็บกระบี่เฟิงโหว จากนั้นก็ผสานมือแล้วสวมแหวนอักขระบนนิ้วชี้ด้านขวา ตัวแหวนเริ่มเปล่งแสง จากนั้นิอวี่ก็ซัดฝ่ามือออกไปด้านหน้า!
“ระฆังทอง เปิด”
ทันใดนั้นเอง ระฆังทองที่เผาไหม้ดั่งเปลวไฟพุ่งออกมาจากแหวนของิอวี่และห่อหุ้มร่างกายของเขาเอาไว้ จากนั้นมันก็เริ่มส่งเสียงร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“แก๊ง!”
เสียงที่ราวกับกลองยามพลบค่ำและระฆังยามเช้าดังขึ้น ตัวระฆังสีทองแตกออกเป็เสี่ยงๆ ท่ามกลางการโจมตีที่รุนแรงดุดันของฝ่ายตรงข้ามทั้งสองคน การเคลื่อนไหวที่อันตรายถึงชีวิตนั้นถูกิอวี่ต้านเอาไว้ได้
จากนั้น ิอวี่ก็อาศัยแรงปะทะนั้นพาเฮยจีวิ่งหนีขึ้นไปบนเขา
“นี่มันอะไรกัน!”
หานเฟิงรู้สึกโกรธมาก ดวงตาของเขาคมกริบ จิตะเืสยบของเขาพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างรุนแรง ซึ่งภายในแฝงไปด้วยความโกรธแค้นของเขาด้วย!
สายตาของหานเฟิงดูร้ายมาก เขาวิ่งตามล่าอย่างบ้าคลั่งที่สุด “ข้าจะดูสิว่าเ้าจะหนีไปได้สักกี่น้ำ”
ต่อให้ตอนนี้ิอวี่จะต้านการโจมตีของเขาไปได้ แต่ว่า ยิ่งหนีขึ้นไปยอดเขาสูงมากเท่าไรมันก็จะยิ่งหนาวขึ้นเท่านั้น หากไม่มีตัวช่วยเสริม ิอวี่ไม่มีทางขึ้นไปสูงกว่านี้อีกได้แน่
พริบตาเดียว พวกเขาทั้งหมดก็วิ่งไปจนถึงกลางยอดเขาเซิงหาน ชายสองคนกำลังวิ่งตามหลังมาไม่หยุด ส่วนชายหนึ่งหญิงหนึ่งอีกคนก็กำลังปีนป่ายขึ้นไปสู่ยอดเขาไม่หยุดเช่นกัน
“ิอวี่ ... เ้ายังไหวไหม?” เฮยจีที่อยู่ในอ้อมแขนของิอวี่ยกมือขึ้นมาจับไปที่ใบหน้าของิอวี่ แล้วถามอย่างเป็ห่วง
“ข้าไม่เป็ไร”
ิอวี่ตอบเสียงเข้ม จากนั้นก็ปีนขึ้นเขาต่อ
ที่จริงตอนนี้ิอวี่รู้สึกหนาวแล้ว ก็เหมือนคนที่กำลังสวมชุดฤดูใบไม้ผลิแล้วจู่ๆ อากาศก็เปลี่ยนเป็หน้าหนาวขึ้นมา แต่ไม่มีเสื้อกันหนาวให้ใส่เลย
หลัวชีกับหานเฟิงที่ไล่ตามมาติดๆ ก็รู้สึกว่าหนาวมากเหมือนกัน
การวิ่งหนีวิ่งไล่ของพวกเขา ได้วิ่งผ่านผู้กล้าหนุ่มที่ปีนเขาอย่างยากลำบากไปคนแล้วคนเล่า หลังจากผ่านไปแล้วประมาณครึ่งชั่วยาม ด้านหน้าก็ใกล้จะไปถึงยอดเขาแล้ว!
ในเวลานี้ บริเวณจุดนั้นมีชายหนุ่มหญิงสาวหลายคนกำลังหยุดพักอยู่ พวกเขาคือคนของเผ่าธารน้ำแข็งที่ล่วงหน้ามาก่อนแล้ว
แต่ว่า มีแค่คนเดียวที่ยังไม่ยอมหยุดพัก และยังคงลองเดินหน้าต่อไปอยู่ เขาก็คือปิงเฉิง
ในเวลานี้เขากัดฟันอย่างมาก ด้านหน้ามีหมอกหนาและลมหนาวซึ่งยากที่จะก้าวเดิน ระหว่างการเดินทางดูเหมือนเดินไปอย่างเชื่องช้า แต่ในความเป็จริงมันเดินได้อย่างลำบาก เพราะอากาศที่หนาวมากทำให้เืไหลเวียนได้ช้ามาก ร่างกายก็เลยเริ่มแข็ง
เขาเป็ผู้กล้าของเผ่าธารน้ำแข็งที่ไม่กลัวความหนาว แต่พอเจออากาศที่หนาวถึงระดับที่บัวหิมะน้ำแข็งแผ่กระจายออกมา เขาก็ทนแทบไม่ไหวเหมือนกัน
ตอนนี้ปิงเฉิงถึงได้เข้าใจ ว่าอะไรคืออากาศที่หนาวเหน็บ!
“ฮู้ว” ลมพัดหมอกหนาผ่านหน้า เหมือนดอกหญ้าที่ถูกอูฐเหยียบ ปิงเฉิงล้มลงไปกับพื้น เขาหนาวจนทนไม่ไหว พูดก็ไม่ชัด “ทน ... ทนไม่ไหวแล้ว”
“ช่างเถอะ ปิงเฉิง ... เ้า ... เ้าทำดีที่สุดแล้ว เรานับถือเ้านะ ...” หญิงคนหนึ่งที่รูปร่างสวยงามของเผ่าธารน้ำแข็งที่อยู่ห่างออกไปสิบเมตรก็พูดขึ้นมา
“ครั้งต่อไป ข้าปิงเฉิง ... จะต้องขึ้นไปบนยอดเขาให้ได้!”
สายตาของชายหญิงหลายคนที่จ้องมองไปที่ปิงเฉิงด้วยความประทับใจในความไม่ยอมแพ้ของเขา มันน่านับถือมาก
การมาได้ไกลถึงขนาดนี้แล้วหยุดลงจะเป็เื่ที่น่าเสียดาย แต่ว่า ในใจของปิงเฉิงยังคงรู้สึกภาคภูมิใจ
เพราะคนกว่าพันคนที่ปีนขึ้นมาบนยอดเขาเซิงหาน มีแค่เขาเท่านั้นที่ยืนหยัดมาถึงตรงได้ ไม่มีใครสามารถยืนอยู่ในจุดที่สูงกว่าเขาได้อีกแล้ว
เมื่อมองลงไปตามเส้นทางขึ้นเขาที่ดูเล็กและแคบมาก ในใจของปิงเฉิงรู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อย การพิชิตธรรมชาติแบบนี้มันท้าทายอย่างมาก รู้สึกดีจริงๆ
แต่ว่า สุดสายตาของเขากลับเหมือนมีเงาของคนหลายคนปรากฏขึ้น
“หือ?” ปิงเฉิงคิดว่าตัวเองดูผิดจึงสะบัดหัวแล้วมองไปใหม่ เขาเห็นเงาคนสามคนจริงๆ แล้วเงาของคนพวกนั้นก็คือเงาของิอวี่ที่กำลังอุ้มเฮยจีปีนขึ้นเขามา พร้อมกับหานเฟิงที่ตามหลังมาติดๆ!
เมื่อหนึ่งก้านธูปก่อน หานเฟิงก็ทนความหนาวไม่ได้แล้ว แต่เขากินหัวหยวนจือเข้าไปทำให้ร่างกายเริ่มมีความร้อนถึงทนปีนเขาขึ้นมาได้ ส่วนหลัวชีเดินไม่ไหวั้แ่ก่อนหน้านั้นไปแล้ว
เฮยจีไม่ได้กังวลกับอากาศหนาวพวกนี้เลย นางมีร่างกายเป็ธาตุหยิน จึงไม่กลัวความหนาวเย็นแบบนี้
แต่ว่า เมื่อเห็นิอวี่ขมวดคิ้วและััได้ว่าร่างกายของิอวี่กำลังสั่นเพราะความหนาวเย็น เฮยจีก็รู้สึกปวดใจ
มาจนถึงขั้นนี้แล้วมันหนาวมากจริงๆ ต่อให้เป็ผู้กล้าที่แข็งแกร่ง ความรู้สึกก็ไม่ต่างอะไรกับคนธรรมดาเดินอยู่กลางถนนที่มีหิมะตก แค่เดินหนึ่งก้าวลมหนาวก็พัดจนร่างกายเหมือนถูกมีดกรีด!
สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ เมื่ออยู่ท่ามกลางอากาศหนาวเป็เวลานานเืลมจะไหลเวียนช้าลง ดังนั้น ในสถานที่แบบนี้แทบจะไม่สามารถต่อสู้ได้เลย แค่ความเร็วในการเดินก็ช้าลงเป็สิบเท่าแล้ว
“เขาเป็ใครกัน?”
ปิงเฉิงจ้องเขม็ง แต่ไม่นานก็มองเห็นิอวี่ได้อย่างชัดเจน เขาจำได้ว่าเมื่อครึ่งชั่วยามก่อนเขาเดินผ่านตัวของิอวี่ไป ตอนนั้นก็ดูเหมือนคนตัวเล็กๆ ไม่เอาไหนคนหนึ่ง แต่คิดไม่ถึงเลยว่าิอวี่จะตามมาถึงตรงนี้ได้
อีกทั้ง ดูจากความเร็วในการเดินเท้าแล้ว เหมือนว่าจะเร็วกว่าเขาด้วย?
ิอวี่ไม่พูดอะไรเลย ยังคงเดินหน้าปีนขึ้นยอดเขาต่อไป แค่ไม่กี่อึดใจเท่านั้นเขาก็เดินมาถึงจุดที่ชายหนุ่มหญิงสาวของเผ่าธารน้ำแข็งอยู่กัน
ชายหญิงกลุ่มนั้นรู้สึกตกตะลึงมาก แต่ว่าิอวี่ก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะหยุดเลย เขายังคงเดินขึ้นไปบนยอดเขาอย่างต่อเนื่อง
หนึ่งก้าว ... สองก้าว ... ิอวี่กัดฟัน เขารู้สึกว่าเืของเขาเริ่มแข็งตัว แต่ว่าเขามีความเชื่อความศรัทธาอันแรงกล้าถึงสามารถยืดหยัดอยู่ได้ และเดินขึ้นหน้าไปทีละก้าวได้
“อย่านะ ... ” ปิงเฉิงมองไปที่ิอวี่ เขารู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย หัวใจเขาแทบจะหลุดออกมาอยู่แล้ว
แต่พอวินาทีต่อมา ิอวี่ก็เดินมาถึงระดับเดียวกับปิงเฉิงแล้ว จากนั้นสายตาของปิงเฉิงก็ใอย่างมาก เพราะเขาเดินเลยผ่านไปทางกลุ่มก้อนเมฆสีคราม้า!
เขา ... ข้ามกลุ่มเมฆไปแล้ว!
สีหน้าของปิงเฉิงซีดลง เหมือนกับว่าเขาสูญเสียอะไรบางอย่างไป ในใจของเขาเคว้งคว้างและรู้สึกแย่มาก หญิงสาวหน้าตาสวยงามของเผ่าธารน้ำแข็งก่อนหน้านี้เองก็เหมือนกัน สายตาของนางเต็มไปด้วยความตกตะลึง
เดิมทีปิงเฉิงคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขา แต่ตอนนี้พวกเขากลับพบว่า ิอวี่ต่างหากที่เป็คนที่มีร่างกายแข็งแกร่งมากที่สุด!
“ร้ายกาจมากเลย ... ” ผู้หญิงคนนั้นกัดฟันด้วยความหนาวจนลึกเข้าไปถึงกระดูก แล้วพูดออกมา
หากการที่ิอวี่เดินเข้าไปในชั้นเมฆแล้วทำให้ปิงเฉิงเสียความมั่นใจ ถ้าอย่างนั้นสำหรับหานเฟิงที่แม้แต่ก้าวเท้าอย่างยากลำบากแล้ว มันคงเป็ความรู้สึกที่ถูกเหยียบย่ำ ...
เพราะหานเฟิงมีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เจ็ด อีกทั้งยังกินหัวหยวนจือเข้าไปด้วย แต่กลับยังตามิอวี่ไม่ทัน
สิ่งที่เกินไปกว่านั้นก็คือ ิอวี่เดินเข้าสู่ชั้นเมฆแบบเหมือนไม่ได้ออกแรงมากเท่าไรเลย
ความรู้สึกแบบนี้ หานเฟิงรู้สึกว่ามันเป็ความอัปยศที่สูงที่สุดในชีวิตเขาเลย!
“เหอะๆ ... เ้าขึ้นไปแล้ว ... มันจะมีประโยชน์อะไร ช้าเร็ว ... เ้าก็ต้องหนาวตายอยู่ดี ยังมีผู้หญิงคนนั้น ... ช้าเร็วก็ต้องตายด้วยเหมือนกัน! พวกเ้ารอก่อนเถอะ ... ข้า ... ตามพวกเ้าทันแน่นอน!”
หานเฟิงพูดออกมาท่ามกลางความหนาว ถึงแม้ปากเขาจะพูดแบบนี้ แต่ว่าร่างกายของเขานั้นซื่อสัตย์มากกว่า เขาทรุดนั่งลงไปกับพื้น มันหนาวเกินไป หากปีนขึ้นไปมากกว่านี้ เขารู้สึกว่าคงมีอันตรายถึงชีวิตแน่!
ในเวลานี้หานเฟิงรวบรวมสมาธิเปิดดวงตาหยั่งรู้ขึ้นมา ขอแค่ิอวี่ลงมาจากยอดเขาเซิงหานเมื่อไหร่ เขาก็จะตามไปฆ่าทันที
หากิอวี่ไม่ลงมา อย่างไรก็ต้องตายอยู่บนชั้นเมฆนั้นอยู่ดี!