“ตามไป!” ผู้เป็หัวหน้าเผยสีหน้าไม่สู้ดี พวกเขาบุกโจมตีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นรวมชี่ที่ 5 คนเดียว ไม่เพียงแต่ล้มเหลว แต่บัดนี้ยังปล่อยให้อีกฝ่ายหนีไปได้ ช่างน่าขายหน้ายิ่งนัก จากนั้นพวกเขาฝ่าม่านฝนไล่ตามเย่เฟิงไปด้วยความเร็วสูง
ท่ามกลางอากาศคล้ายมีกลิ่นอายแห่งความตายแผ่กระจาย ดูเหมือนว่าค่ำคืนนี้คงไม่ง่ายเสียแล้ว
เย่เฟิงใช้ย่างก้าวดาวตกผีเสื้อเร่งความเร็วถึงขีดสุด ขณะเดียวกันยังกินยาลูกกลอนฟื้นฟูพลังหยวน
“เร็วเข้า อย่าให้เขาหนีไปได้!” กลุ่มผู้ฝึกยุทธ์ไล่ตามหลังมาด้วยความเร็ว
“ฟิ้ว ๆ ๆ!” ผู้ฝึกยุทธ์เ่าั้ทั้งยิงลูกศรทั้งไล่ตามไปในเวลาเดียวกัน หมายปลิดชีวิตเย่เฟิง
เย่เฟิงเพ่งจิตและอาศัยประสาทััอันเฉียบไวขณะมุ่งไปข้างหน้าไม่หยุด แต่ก็มีลูกศรหลายดอกพุ่งมากรีดผ่านร่างเขา แล้วทิ้งรอยเืหลายแห่งไว้บนร่างกาย ไม่นานเย่เฟิงมาถึงประตูเมือง ก่อนจะออกจากเมืองอย่างไม่ลังเล
“ตามไป ข้าอยากดูว่าเขาจะหนีไปที่ไหนได้!” ผู้เป็หัวหน้าแสยะยิ้มจากนั้นพุ่งตัวออกนอกเมืองหลวง ส่วนคนอื่น ๆ ก็ตามหลังมาติด ๆ
ณ ูเาร้างแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงร้อยกว่าลี้ ูเาสูงเสียดฟ้า มีทิวทัศน์งดงาม ทว่ามันกลับรกร้างน้อยคนที่จะย่างกรายมายังูเาร้างแห่งนี้ ลือกันว่าูเาแห่งนี้มีชื่อว่ายอดเขาัคชสาร เป็สถานที่ที่เลื่องชื่อแห่งอาณาจักรจ้าวในยุคโบราณ ในนั้นมีหยวนชี่ฟ้าดินอุดมสมบูรณ์ เป็สรวง์ของเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ ทว่าการมาเยือนของมารผู้หนึ่ง ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไป ตบะของมารผู้นั้นสูงส่ง พลังมารก็ถึงระดับสูงสุดจนทั่วทั้งอาณาจักรจ้าวก็หาศัตรูของเขาไม่ได้
มารนั้นมีนิสัยกระหายเื เขาเปิดฉากเข่นฆ่าที่อาณาจักรจ้าว สรรพชีวิตสูญสิ้นไปมหาศาล แต่ไม่นานเื่นี้ก็ไปถึงหูยอดฝีมือมากมาย พวกเขาจึงเดินทางมาที่อาณาจักรจ้าวเพื่อเปิดศึกกับมารผู้นี้ที่ยอดเขาัคชสาร สุดท้ายแล้วน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ มารผู้นี้จึงพ่ายศึก
อย่างไรก็ตามกายเนื้อของเขาถูกทำลาย แต่จิติญญายังไม่ดับสูญ ยอดฝีมือเ่าั้ทำได้เพียงปิดผนึกจิติญญาของมารผู้นี้ไว้ที่ยอดเขาัคชสารอย่างไม่มีทางเลือก
ั้แ่นั้นเป็ต้นมา บรรยากาศที่ยอดเขาัคชสารก็เปลี่ยนไป พืชพรรณเหี่ยวเฉา หยวนชี่ฟ้าดินที่เคยอุดมสมบูรณ์และบริสุทธิ์ค่อย ๆ สลายหายไป แต่แทนที่ด้วยความรกร้าง
เื่นี้ผ่านมานานมากโขจนถึงบัดนี้ผู้คนก็ค่อย ๆ ลืมเลือนไปทีละนิด กระทั่งตรวจสอบเื่นี้ไม่ได้ว่าจริงหรือเท็จกันแน่ แต่สิ่งที่ผู้คนทราบคือยอดเขาัคชสารเป็แดนต้องห้าม มีน้อยคนนักที่จะทราบว่ามีอะไรอยู่ในนั้น แต่หลาย ๆ คนที่พยายามเข้าไปในนั้นล้วนไม่ได้กลับออกมาอีกเลย แม้แต่ซากศพก็ไม่มีให้เห็น
บัดนี้เย่เฟิงมาถึงเชิงเขาแห่งนี้ แต่ด้วยผู้ฝึกยุทธ์ที่ไล่ตามมายิงลูกศรโจมตีไม่หยุดยั้ง เย่เฟิงจำต้องเข้าไปด้านในยอดเขาัคชสาร
“สมควรตาย ไม่นึกว่าหมอนี่จะเข้าไปในยอดเขาัคชสาร!” เมื่อหัวหน้าผู้นั้นเห็นเย่เฟิงตรงเข้าไปในยอดเขาัคชสารอย่างไม่ลังเลก็เผยสีหน้าไม่สู้ดี
“พวกเราควรทำอย่างไรดี?” มีผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งเอ่ยถามหัวหน้าผู้นั้น
“เขาเข้าไปได้ แล้วทำไมพวกเราจะเข้าไปไม่ได้?” หัวหน้าผู้นั้นตาวาบประกายเย็นเยือก ก่อนจะตามเข้าไป ส่วนคนอื่น ๆ แม้จะสองจิตสองใจ แต่ด้วยคำสั่งของผู้เป็หัวหน้า พวกเขาจำต้องตามเข้าไปอย่างไม่มีทางเลือกเช่นกัน
เย่เฟิงเคยได้ยินเื่ยอดเขาัคชสารมาบ้าง เพียงแต่เขาจำต้องเข้ามาในูเาแห่งนี้อย่างไม่มีทางเลือกเพราะมีคนไล่ตามหลังไม่หยุด ทันทีที่เย่เฟิงเข้ามาก็รู้สึกได้ถึงไอเย็นที่เข้ามากัดกร่อนร่างกายเขา เป็ความรู้สึกที่ไม่อาจพูดออกมาได้
เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่ไล่ตามหลังมาไม่ยอมรามือง่าย ๆ ทำให้เย่เฟิงต้องปีนขึ้นไปบนยอดเขา ซึ่งูเาแห่งนี้เป็ูเาร้างที่แทบจะไม่มีพืชพรรณเจริญเติบโต ยิ่งปีนขึ้นสูงไอเย็นก็ยิ่งรุนแรง แต่ผู้ฝึกยุทธ์เ่าั้ก็ไล่ตามขึ้นมาไม่หยุดด้วยความเร็วพอ ๆ กัน
ตามร่างกายของเย่เฟิงเต็มไปด้วยาแ ส่วนจูเชวี่ยเว่ยก็สวมเสื้อที่ทำจากเชือกง่าย ๆ แม้ยอดเขาัคชสารจะสูง แต่หากมีตบะสูงก็จะใช้เวลามาถึงยอดเขาในเวลาไม่นาน
ทางบนยอดเขาขรุขระแต่กลับมีพื้นที่กว้างขวาง เย่เฟิงขึ้นมาบนยอดเขาก็เพื่ออยากสลัดคนเ่าั้ที่ตามมาก็เท่านั้น ทว่ากลับพบว่าบนยอดเขามีแต่หน้าผาที่ไร้ก้นบึ้ง ทำให้ไม่มีทางไปข้างหน้า ส่วนใจกลางยอดเขามีหลุมลึกอยู่หนึ่งหลุม ในนั้นดำมืดไร้แสงสว่าง กระทั่งมีกระแสอากาศสีดำม่วงไหลเวียนอยู่ในนั้น ราวกับว่าหลุมนี้เป็ทางเข้า
ขณะที่เย่เฟิงมองหลุมลึกนั้น จู่ ๆ ก็รู้สึกอึดอัดไม่สบายตัวราวกับความกลัวผุดขึ้นจากก้นบึ้งจิติญญา
“เย่เฟิง ดูซิว่าครั้งนี้เ้าจะหนีไปที่ใดได้อีก!” ขณะนั้นผู้ฝึกยุทธ์เ่าั้ที่ไล่หลังมาก็ตามมาถึงแล้ว ก่อนหัวหน้าผู้นั้นจะกล่าวกับเย่เฟิงด้วยเสียงเย็นเยือก
“ข้าก็อยากรู้นักว่าใครกันที่้าฆ่าข้า!” เย่เฟิงกล่าว
“ในเมื่อเ้าจะตายอยู่รอมร่อแล้ว เช่นนั้นข้าจะบอกเ้าก็ได้” หัวหน้าผู้นั้นเหยียดยิ้มก่อนพูดต่อไป “ข้าคือคนของตระกูลตู๋กู ส่วนคนที่ติดตามข้ามาเป็คนของตระกูลตู๋กู ตระกูลเฉิน และตระกูลโจว พวกเขาล้วน้าฆ่าเ้า ใครใช้ให้เ้ามีตาหามีแววไม่ ล่วงเกินพวกเราสามตระกูลบัดนี้เ้าคงตายตาหลับได้แล้วสินะ!”
เมื่อกล่าวจบ ผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นบุกโจมตีเย่เฟิงก่อน ส่วนคนที่เหลือเคลื่อนไหวพร้อมกัน สำแดงเคล็ดวิชากระหน่ำโจมตีเย่เฟิงทันที
ดวงตาของเย่เฟิงวาบประกายเย็นเยือก คนที่้าฆ่าเขาเป็พวกเขาอย่างที่คิดไว้ ตระกูลตู๋กู ตระกูลเฉิน ตระกูลโจว หากวันนี้เขารอดไปได้ วันหน้าเขาเย่เฟิงจักต้องถล่มสามตระกูลนี้ให้ราบเป็หน้ากลอง
“ตาย!”
เพลิงพิโรธปะทุออกจากร่างเย่เฟิง จากนั้นเขาแทงหอกเข้าปะทะกับผู้ฝึกยุทธ์เ่าั้ ในพริบตาเดียวฝ่ายตรงข้ามถูกเย่เฟิงฆ่าตายไปหลายคน เย่เฟิงะเิศักยภาพทั้งหมดออกมาก็เพื่อศึกนี้
ขณะนั้นรังสีมีดหลายสายเชือดเฉือนร่างเย่เฟิง แล้วทิ้งรอยเืเป็ทางยาวหลายแห่ง พร้อมกับเืซึมออกมาไม่หยุด เมื่อเวลาผ่านไปพลังหยวนในกายเย่เฟิงเริ่มเหือดแห้ง ดวงตาพร่ามัวตัวเริ่มสั่นสะท้าน
“พลังหยวนของเขาใกล้หมดแล้ว ฉวยโอกาสนี้ฆ่าเขาซะ!” ผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งกล่าวขณะมองเย่เฟิงด้วยสายตาเย็นเยียบ
“วูบ!”
ทว่าเมื่อผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นพูดจบ จู่ ๆ มีแสงเยือกเย็นสายหนึ่งสว่างวาบที่หน้าตน นาทีนี้เขารับรู้ได้ถึงความเย็นที่ลำคอ เพราะว่ามีหอกเล่มหนึ่งทะลวงลำคอของเขา
เมื่อผู้ฝึกยุทธ์เ่าั้เห็นเย่เฟิงยังคงสำแดงการโจมตีที่ร้ายกาจในสถานการณ์เช่นนี้ได้ก็ต้องตกตะลึง พวกเขาจึงมองเย่เฟิงด้วยสายตาหวาดผวา แต่ว่าพลังหยวนในกายเย่เฟิงใกล้เหือดแห้งแล้ว พวกเขาย่อมไม่อยากทิ้งโอกาสนี้ไป จึงสำแดงเคล็ดวิชาที่แกร่งที่สุดของตน
“ฟิ้ว ๆ!” พลันรังสีมีดสองสายกรีดผ่านร่างเย่เฟิงจนเืสาดกระเซ็น ทำให้จูเชวี่ยเว่ยที่อยู่ด้านหลังเย่เฟิงเผยสีหน้าตึงเครียด นางไม่เข้าใจว่าทำไมเย่เฟิงถึงแบกนางไว้ข้างหลังไม่ปล่อย?
เหตุใดเย่เฟิงมุ่งมั่นถึงเพียงนี้? แม้เผชิญหน้ากับการไล่ล่าของผู้ฝึกยุทธ์หลายสิบคน เขาก็ยังสุขุมและสงบนิ่งทั้งที่ไม่สอดคล้องกับอายุและขั้นพลัง
จูเชวี่ยเว่ยได้รับผลกระทบจากความมุ่งมั่นของเย่เฟิง เย่เฟิงทำให้นางเข้าใจความหมายของความมุ่งมั่นใหม่อีกครั้ง การที่ประสบกับความเป็ตายพร้อมเย่เฟิง แม้สุดท้ายแล้วจะต้องตาย จูเชวี่ยเว่ยก็ไม่มีอะไรให้ต้องเสียใจ
“ครืน!” ตอนที่เย่เฟิงกำลังจะล้มลง จู่ ๆ หลุมลึกที่ใจกลางบนยอดเขาเกิดแปรปรวน กระแสอากาศสีดำม่วงในนั้นเคลื่อนไหวรุนแรงมากขึ้นราวกับเป็นรกก็ไม่ปาน ขณะเดียวกันมีแรงดูดพวยพุ่งออกจากหลุมลึก มันรุนแรงมากจนแม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นรวมชี่ก็มิอาจต่อต้าน
ผู้คนต่างตาเบิกโพลงด้วยความใ พวกเขาอยากหนี แต่กลับทำไม่ได้ แรงดูดนั่นรุนแรงเกินไปจนดูดพวกเขาเข้าไปในหลุมลึกทันที
“อ้าก!!!” เสียงกรีดร้องที่เ็ปและไม่พอใจดังกึกก้องต่อเนื่อง เพียงเวลาสั้น ๆ ทุกคนรวมทั้งเย่เฟิงก็ถูกดูดเข้าไปในหลุมลึกนั้น
เย่เฟิงที่าเ็สาหัสและพลังหยวนใกล้เหือดแห้ง ก็ย่อมต้านทานไม่ไหว เขาจึงหมดสติไปภายใต้แรงดูดที่ทรงพลังนั่น
ทุกคนถูกดูดเข้าไปในหลุมลึกนั่น ทั้งยังมีไอสีดำปกคลุมร่างกายราวกับว่าจิติญญาถูก่ชิงไป พวกเขาดำดิ่งลงสู่ก้นเหวตามแรงดูด ในขณะเดียวกันบนท้องฟ้ามีเมฆดำเคลื่อนตัว ทั้งยังมีสายฟ้าสีม่วงทำให้ท้องฟ้าสว่างไสว จากนั้นพลังหยวนมหาศาลมารวมตัวก่อนจะผสานกับเมฆดำนั่น
“วูบ!” ลำแสงสีม่วงพุ่งลงมายังยอดเขาัคชสาร เชื่อมต่อกับเหวลึกดำมืดนั่นราวกับกลายเป็ดินแดนศักดิ์สิทธิ์สีดำ
“นั่นมัน...”
ณ เมืองหลวง ผู้ฝึกยุทธ์หลาย ๆ คนต่างเงยหน้ามองท้องฟ้าเหนือยอดเขาัคชสารด้วยความตกตะลึง
ขณะนั้นที่ลานบ้านอันใหญ่โตในตระกูลตู๋กู มีชายวัยกลางคนผู้หนึ่งกำลังนั่งฌานบำเพ็ญตบะอยู่ที่ศาลา เมื่อลำแสงสีม่วงนั่นมาเยือนยอดเขาัคชสาร ชายวัยกลางคนผู้นี้ก็เหมือนจะมีลางสังหรณ์จึงลืมตาขึ้นมองไปที่ท้องฟ้า
“ยอดเขาัคชสาร!”
พลันเสียงดังออกจากปากของชายวัยกลางคน เขากะพริบร่างก่อนจะหายตัวไปท่ามกลางคืนอันมืดมิด
ภาพฉากเช่นเดียวกันนี้ปรากฏในหลาย ๆ กองกำลังของเมืองหลวง ก่อนจะมีผู้ฝึกยุทธ์มุ่งหน้าไปยังยอดเขาัคชสาร เพียงเวลาสั้น ๆ เกือบทั้งเมืองหลวงก็เกิดความโกลาหลเพราะปรากฏการณ์นี้
ยอดเขาัคชสารนั้นร้างมานานหลายปี แต่บัดนี้ได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครา
