ตอนที่ 2
“ไฟท์ ถามจริงๆน่ะ มึงไม่ชอบหน้ากูเหรอ หรือมึงไม่พอใจอะไรกู ?”
เมื่อเห็นว่าไฟท์อยู่คนเดียว ธารจึงตัดสินใจถามในสิ่งที่ติดค้างในใจเพราะั้แ่ครั้งแรกที่ได้รู้จักกันจนตอนนี้เรียนด้วยกันเข้าปีที่สาม และอีกไม่กี่เดือนก็จะจบการศึกษากันแล้ว แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ชอบหน้าเขาเท่าไหร่ เขาไม่รู้ว่ามันเป็เพราะอุบัติเหตุครั้งนั้น หรือเป็เพราะเขาชอบตอบคำถามในเวลาเรียนทำให้อีกฝ่ายหมั่นไส้ ทั้งที่ความจริงเราเคยทำงานกลุ่มด้วยกันหลายครั้งเพราะอาจารย์มักให้แยกกลุ่มกับเพื่อนสนิท แต่ก็ไม่สามารถทำให้ความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ดีขึ้นได้เลย
“เปล่า” ไฟท์ตอบเสียงเรียบ มองอีกฝ่ายด้วยสายตาเ็าเหมือนอย่างทุกครั้ง
“งั้นเหรอ?” คิ้วเรียวขมวดมุ่น ธารไม่อาจเชื่ออีกฝ่ายเพราะการกระทำที่ผ่านมาไฟท์ดูไม่ชอบเขาเลย
“อืม ระวัง ! ”
ไฟท์ครางรับในลำคอเบาๆก่อนจะจับข้อมือเรียวกระชากเข้าหาตัวเองเมื่อมีรุ่นน้องที่วิ่งไล่จับกันตรงบริเวณทางเดินกำลังเซมาจะชนคนตัวเล็ก
เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก ทำให้ตอนนี้ธารอยู่ในอ้อมกอดของไฟท์ไปโดยปริยาย
“เห้ย ! ผมขอโทษครับ พวกพี่เจ็บปะว่ะ ? ไอ้สัสกูบอกแล้วอย่าไล่ๆ ไม่รู้เื่ เห็นไหมว่าทำคนอื่นเดือดร้อนเนี่ย”
รุ่นน้องเอ่ยถามพร้อมมองสำรวจร่างกายของทั้งคู่ที่ยืนกอดกัน ไม่ลืมด่าเพื่อนของตัวเองไปด้วย
“พี่ไม่เป็ไร แต่คราวหลังก็อย่าวิ่งไล่กันตรงทางเดินอีกเพราะมันอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ”
ธารผละออกจากอ้อมกอดแกร่ง ก่อนจะหันมาพูดกับรุ่นน้องด้วยน้ำเสียงดุๆ
เด็กทั้งสองไม่ได้รู้สึกอะไรต่อน้ำเสียงของคนตัวเล็กสักนิด แต่พวกเขากำลังกวาดกลัวเมื่อสบกับสายตาคมของไฟท์ที่ยืนอยู่ด้านหลังคนตัวเล็ก ให้ความรู้สึกเย็นะเืทำเอาเสียวสันหลังวาบ
“ค ครับผมจะไม่ทำอีก” รุ่นน้องตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“พวกผมขอโทษอีกครั้งครับ”
รุ่นน้องทั้งสองคนรีบขอโทษแล้วพาตัวเองออกจากตรงนั้นอย่างไว
“เมื่อกี้ขอบคุณมากน่ะที่ช่วยไว้ ไม่อย่างนั้นกูคงกระเด็นชนเสา”
“อืม”
ไฟท์เพียงครางรับในลำคอแล้วเดินกลับไปเข้าห้องเรียน ปล่อยให้ธารยืนอยู่คนเดียวตรงที่เดิม
“อะไรของมันว่ะแม่ง !”
ธารสบถกับตัวเองอย่างเซ็งๆ มองแผ่นหลังกว้างด้วยความไม่เข้าใจ ทุกครั้งที่เขามีปัญหามักจะมีอีกฝ่ายอยู่ตรงนั้นและคอยช่วยเหลือเสมอ แต่ไฟท์ทำเหมือนไม่อยากพูดไม่อยากคุยกับเขานั่นคือสิ่งที่ทำให้ธารรู้สึกหงุดหงิดใจ
“เป็ไรว่ะ ทำไมมึงหน้าบึ้ง ?”
หินถามขึ้นเมื่อเพื่อนสนิทนั่งลงที่โต๊ะของตัวเองด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง
“ไม่มีอะไร”
“แต่กูว่ามึงมี เห็นไอ้ทรายบอกว่ามึงโดนไอ้ไฟท์กอดตรงทางเดินหน้าห้องสมุด?”
“มั่วแล้วมึง มันก็แค่เป็อุบัติเหตุ ไอ้ทรายมึงก็พูดไปเรื่อย คิดได้ไงว่าไอ้ไฟท์จะกอดกู หน้ากูมันยังไม่อยากจะมองเลย?”
“เออกูก็คิดแบบนั้น ดูจากนอกโลกก็รู้ว่ามันไม่ชอบมึงถามจริงมึงไปทำอะไรให้มันเกลียดว่ะ?”
“กูก็ไม่รู้ ชั่งเถอะอย่าใส่ใจเลย”
“เออ เรียนกันดีกว่า อาจารย์มาพอดี”
ธารนั่งเรียนตามปกติ โดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาคมจับจ้องอยู่ตลอดเวลา
“พวกมึงลงไปก่อน กูไปเข้าห้องน้ำ”
หลังจากเลิกเรียนใน่เย็น ไฟท์ก็บอกน้องชายและเพื่อนๆ
“เออๆ รีบตามมาน่ะ” ฟิล
@ห้องน้ำ
ธารที่กำลังเดินออกจากห้องน้ำก็ต้องชะงักหยุดยืนอยู่กับที่เมื่อไฟท์เดินเข้ามา พอเขาขยับไปทางซ้ายอีกฝ่ายก็ขยับไปทางขวา พอเขาขยับไปขวาอีกฝ่ายก็ขยับไปซ้าย ทำให้ไม่มีใครสามารถเดินออกหรือเดินเข้าห้องน้ำได้
“เอ่อ มึงเดินสักทางดิ”
ใบหน้าสวยเริ่มบึ้งตึง คืออีกฝ่ายก็ไม่ยอมเดินสักทาง แล้วเขาจะออกจากห้องน้ำได้ยังไง
“ทำไรว่ะ ?” ธารถอยหลังหนีทันทีเมื่อมือหนาของไฟท์ยื่นมาจะจับตัว
“หึ กลัวอะไร กูแค่จะติดกระดุมให้” ไฟท์มองคนตรงหน้าอย่างนึกสนุก
“บอกก็ได้ ไม่เห็นต้องเข้ามาใกล้ แล้วก็ช่วยทำความเข้าใจใหม่ด้วยกูไม่ได้กลัวมึง”
“ถ้าไม่กลัวก็อยู่นิ่งๆ”
ไฟท์พูดเสียงดุพร้อมจับตัวอีกฝ่ายให้ขยับมาใกล้เพื่อติดกระดุมให้อย่างที่บอกในตอนแรก เพราะความสูงของเขาที่มีมากกว่าทำให้มองเห็นยอดอกสีหวานที่อวดสายตาถึงแม้คอเสื้อจะไม่กว้างมากก็ตาม แต่เขาก็รู้สึกหวงอยู่ดีเพราะในโรงเรียนแห่งนี้ไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวที่สูง 190+
“หึ”
ไฟท์ขำในลำคอเบาๆ ปากบางที่กำลังจะเถียงก็ต้องหุบลงและยืนนิ่งๆให้เขาติดกระดุมเสื้อให้
“เร็วๆสิ เสร็จยัง ?”
ธารถามขึ้นเพราะรู้สึกว่าอีกฝ่ายใช้เวลาในการติดกระดุมนานเกินไป คือถ้าไม่ชอบกันก็แค่ไม่ต้องอยู่ใกล้ เขาจึงอยากออกจากสถานการณ์นี้โดยไว
“เสร็จแล้ว”
“เออ ขอบใจมึงมาก แต่คราวหลังไม่ต้องช่วยเพราะกูทำเองได้”
ธารไม่ลืมเอ่ยขอบคุณเพราะเขาโดนคุณแม่สั่งสอนมาเป็อย่างดี
“เดี๋ยว !” ไฟท์คว้าข้อมือเรียวเอาไว้ ในขณะที่คนตัวเล็กกำลังจะเดินผ่านตัวเองไป
“อะไรของมึงอีก ?” ธารได้แต่มองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ หวังว่าเขาคงไม่ลืมรูดซิปกางเกงหรอกน่ะ
“อยู่นิ่งๆ”
ในขณะที่ธารกำลังจะก้มดูเป้ากางเกง น้ำเสียงทุ้มดังขึ้นอย่างดุดัน พร้อมสายตาคมที่มองมาทำให้ธารต้องอยู่นิ่งๆ ตามคำสั่งนั้น
นิ้วยาวเกลี่ยที่แก้มใสอย่างเบามือ การกระทำสุดแสนจะอ่อนโยนนั้นทำให้ธารต้องกลั้นหายใจ ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูงกว่าอย่างไม่เข้าใจ
“เศษผมติดหน้า” น้ำเสียงทุ้มดังขึ้นอีกครั้ง
“อืม” ธารพยักหน้ารับเบาก่อนจะเดินออกไปด้วยความงุนงงและหัวใจที่สั่นระรัว หายใจไม่เป็จังหวะเพราะใบหน้าของเราใกล้กันเกินไป
ไฟท์เข้าห้องน้ำอย่างอารมณ์ดี ปากบางสีแดงระเรื่อนั่นทำให้เขาอดใจแทบไม่ไหว เมื่อกี้เกือบเผลอจูบคนตัวเล็กไปแล้ว
พอไฟท์เดินมาถึงด้านล่างก็พบว่าคนขับรถของที่บ้านมา รออยู่แล้ว ทุกคนต่างรอเขาอยู่บนรถ
“ทำไมเข้าห้องน้ำนานจังว่ะ ปวดขี้เหรอ?” ฟิล
“อืม” ไฟท์
“แต่กูว่ามึงกำลังมีความสุขใช่ไหม พี่ชาย” พาย
“รู้ดี” ไฟท์
“ฮ่าๆๆ มึงยิ้มมุมปากแสดงว่ากูเดาถูก เห็นป่ะ กูไม่ได้ขี้เสือกเหมือนมึงแต่กูฉลาด” พาย
“เออ ไอ้คนเก่ง ไอ้คนฉลาดว่าที่อนาคตคุณหมอ” ฟิล
“เลิกเถียงกันได้แล้ว เกรงใจลุงเทมส์บ้าง”
ไฟท์พูดเสียงดุๆ แต่ทั้งฟิลและพายกลับไม่ได้สนใจนัก ยังคงเถียงกันไปมาจนเขาเอือมระอา
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ ตามสบายเลยคิดเสียว่าลุงไม่ได้ยินก็แล้วกัน”
“เห็นป่ะ ลุงเทมส์ใจดี” พายพูดด้วยรอยยิ้มหวาน
“หึ”
ไฟท์ยกมือขยี้หัวน้องชายคนเล็กแรงๆ ถึงแม้จะอายุเท่ากันแต่พายก็คือน้องน้อยของทุกคน ไม่ว่าใครก็ต่างพากันเอ็นดูรักใคร่โดยเฉพาะเขาที่เป็พี่ชายคนโต
“กูชักจะอยากเห็นห้องน้ำแล้วสิว่ามีอะไรดีทำไมมึงถึงยิ้ม” พาย
…………………………………………………
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้