แม้ซูเฟยหยิ่งไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ของเย่เฟิงได้ชัดเจนนัก แต่นั่นก็ไม่สำคัญ เพราะเธอมีวิธีของตัวเอง
“สถานะของชายชุดคลุมสีขาวที่มีแขนข้างเดียวคนนั้นเป็ยังไงในยุทธจักร?”
ซูเฟยหยิ่งถามด้วยน้ำเสียงน่าฟังทว่าเ็า เธอไม่พอใจคนในยุทธจักรเ่าั้
“สถานะของเขาถือว่าดีทีเดียวครับ เขาเป็ประมุขตระกูลหลงซึ่งเป็หนึ่งในสามตระกูลที่มีอิทธิพล” เย่เฟิงขบคิดสักพักก่อนตอบ
“งั้นก็ดี”
ซูเฟยหยิ่งพยักหน้าเบาๆ ก่อนยกมือขาวเนียนขึ้น น้ำแข็งพันปีปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
ผู้ฝึกวิถีเซียนสามารถใช้หยางเสินได้เมื่อมีระดับพลังสิบปีเพื่อสำรวจรอบบริเวณซึ่งเป็ที่มาของทักษะจิตหยั่งรู้นั่นเอง สำหรับซูเฟยหยิ่งที่มีระดับพลังบ่มเพาะหนึ่งร้อยปีจึงสามารถควบแน่นหยางเสินจนก่อกำเนิดรูปร่างได้
ไม่นานนัก ด้านข้างซูเฟยหยิ่งก็ปรากฏอีกร่างที่งดงาม ร่างนี้เหมือนซูเฟยหยิ่งั้แ่หัวจรดเท้าซึ่งก่อกำเนิดมาจากหยางเสินนั่นเอง
แต่แล้วซูเฟยหยิ่งก็โบกมือขาวเนียนแล้วรูปร่างของหยางเสินก็เปลี่ยนไปทันที ชุดกระโปรงขาวราวหิมะเปลี่ยนเป็ชุดคลุมยาวสีขาว แขนขาวเนียนละเอียดก็กลายเป็... เพียงพริบตาร่างหยางเสินของเธอก็กลายเป็หลงโม่หรานที่เหมือนกับร่างจริงไม่มีผิดเพี้ยน
จากการตรวจสอบก่อนหน้านี้ จึงเลียนแบบระดับพลังห้าสิบปีของหลงโม่หรานอีกด้วย หากดูเพียงรูปลักษณ์ภายนอกก็ไม่อาจบอกได้ว่านี่คือหลงโม่หรานคือตัวจริงหรือตัวปลอม
“เขาใช้กระบี่ใช่ไหม?” ซูเฟยหยิ่งเอ่ยเสียงเบา ขณะหยิบกระบี่เหินออกมาจากแหวนมิติ “ให้เขาพกกระบี่อินทรีโบยบินไว้กับตัวด้วย”
สิ่งที่หยิบออกมาคือเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์!
เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์เพียงอย่างเดียวที่เย่เฟิงเคยเห็นั้แ่เกิดใหม่บนโลกนี้คือ ไหกักิญญา ซึ่งไม่ใช่เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในการต่อสู้โดยตรง แต่เป็เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้เสริมเท่านั้น แต่ตอนนี้กระบี่เล่มนี้เป็เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในการต่อสู้โดยเฉพาะ หากไม่นับโลกเทวะ ของเช่นนี้บนโลกนี้ถือเป็อุปกรณ์ล้ำค่ายิ่ง
“นายบอกว่าหว่านเอ๋อร์เป็ลูกสาวของหลงโม่หรานใช่ไหม? ร่างหยางเสินนี้ก็สามารถปลอมเป็เธอออกไปได้แล้ว” ซูเฟิยหยิ่งจ้องเย่เฟิงอย่างเ็าหลังจากเอ่ยประโยคดังกล่าว “ยื่นมือมา”
เย่เฟิงยื่นมือออกไปตามที่หญิงสาวบอก ซูเฟยหยิ่งถอดแหวนมิติวงเล็ก แล้วสวมบนนิ้วนางข้างขวาของเขาคู่กับแหวนกระบี่ัโบราณที่สวมไว้ก่อนแล้ว ปลายนิ้วของเธอััผิวเย่เฟิงเพียงแ่เบาจากนั้นก็ถอยออกมาเล็กน้อย ชายหนุ่มรู้สึกถึงความอบอุ่นอยู่ครู่หนึ่ง
“มันร้อนมาก”
เย่เฟิงไม่ขยับหนีและกล่าวในใจ แน่นอนว่าระดับพลังราวๆ หนึ่งร้อยปีอย่างราชันย์หั่วยวินเยาอยู่ระดับใกล้เคียงกับซูเฟยหยิ่ง คงต้องใช้เวลาครู่ใหญ่ในการฟื้นคืนเช่นกันแน่นอน
“ราชันย์หั่วยวินเยาใช้เวลาฟื้นคืนนานเท่าไรครับ?”
เย่เฟิงถามพร้อมถอนมือกลับ
“ภายในหนึ่งปี”
เวลานี้ ร่างสง่างามและบอบบางของซูเฟยหยิ่งสะท้อนกับแสงพระอาทิตย์ตกดิน เรือนผมนุ่มยาวถึงสะโพกปลิวไปกับแรงลมทะเลยามเย็น ภายใต้กระโปรงยาวสีขาว ขาเรียวยาวหันหลังเดินกลับไปในถ้ำ
ตอนนี้ทั้งสองคนไม่อาจเสียเวลาได้อีกแล้ว ต้องรีบเตรียมพร้อมรับมือ
ซูเฟิยหยิ่งกลับไปในถ้ำ เพื่อปรึกษาหลงหว่านเอ๋อร์เื่วรยุทธ์ทั้งสามของตระกูลหลง เพื่อให้ร่างหยางเสินของเธอสามารถใช้วรยุทธ์เ่าั้ได้เหมือนหลงโม่หรานอย่างแเีและกลับเข้าเมืองไปพร้อมกับเย่เฟิง ด้วยอิทธิพลของหลงโม่หราน จะไม่มีใครมาวุ่นวายกับเย่เฟิง
เวลานี้เย่เฟิงยืนอยู่ที่ชายหาดคนเดียวพร้อมกับมองสปีดโบตสีขาวที่อยู่ไม่ไกล ร่างไร้สติของหลงจื่อและหลงชิงอยู่บนเรือลำนั้น อาจต้องรอถึงสองวันกว่าพวกเขาจะฟื้นขึ้นมา เมื่อถึงเวลานั้นเย่เฟิงกับซูเฟยหยิ่งก็ต้องตระเตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อย
เย่เฟิงในเวลานี้เริ่มค้นหาของในแหวนมิติของซูเฟิยหยิ่ง เพื่อความสะดวกแก่เย่เฟิงเมื่อต้องปฏิบัติภารกิจ ซูเฟยหยิ่งจึงให้แหวนวงนี้กับเขาชั่วคราว ขณะที่เขาสวมแหวนวงนี้ก็รับรู้ได้ถึงอุณหภูมิของซูเฟยหยิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่
ครั้งอยู่ในโลกเทวะ เย่เฟิงเคยใกล้ชิดกับซูเฟิยหยิ่งมาก่อน หญิงสาวในตอนนั้นมักมีอุณหภูมิเย็นเยียบอยู่ตลอด ทว่าตอนนี้กลับกลายเป็ร้อนยิ่ง นั่นเป็เพราะาแที่เกิดขึ้นจากการกระทำของราชันย์หั่วยวินเยาจึงมีผลกระทบหนัก
น่าเสียดายที่ตอนนั้นเย่เฟิงไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย...
“เจอแล้ว”
ไม่นานนัก เย่เฟิงก็หยิบคัมภีร์โบราณจากแหวนมิติออกมาด้วยสีหน้าปิติยินดี
วิธีบ่มเพาะิญญา— เคล็ดควบคุมิญญา
ซูเฟยหยิ่งเก็บคัมภีร์สำหรับผู้ฝึกิญญาไว้จริงๆ ด้วย นี่ถือเป็ข่าวดีสำหรับเย่เฟิงเลยทีเดียว
ยามค่ำ เขาปล่อยลูกบอลเปลวสุริยะเพื่อให้แสงสว่าง ขณะอ่านคัมภีร์เกี่ยวกับเคล็ดควบคุมิญญาเล่มนี้ด้วยความสนใจใคร่รู้ และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าสติปัญญาของผู้ฝึกวิถีเซียนไม่มีที่สิ้นสุดจนสามารถเขียนคัมภีร์มหัศจรรย์เช่นนี้ได้ ไม่รู้เลยว่าผู้ฝึกิญญามากพร์คนใดที่คิดทักษะนี้ขึ้นมาได้
เมื่อคนธรรมดาที่ไม่มีวิชาเซียนตายไปแล้วก็จะกลายเป็ิญญาล่องลอยอยู่ในโลกระยะหนึ่ง หากสามารถฝึกเคล็ดควบคุมิญญานี้ได้รวมทั้งมีพร์มากพอก็จะกลายเป็ผู้ฝึกิญญาได้ในที่สุด
หลังจากฝึกเคล็ดควบคุมิญญา ขั้นแรกที่ต้องทำให้ได้คือรวมจิติญญาของตนเองเพื่อยืดเวลาที่จะกระจายไปเมื่อระดับพลังเพิ่มมากขึ้น ผู้ฝึกิญญาก็จะอยู่บนโลกได้นานยิ่งขึ้น กล่าวอีกนัยคือ หากพร์ไม่มากหรือโชคไม่ดีนัก ผู้ฝึกิญญาก็จะสูญสลายไปอย่างรวดเร็ว
กระบวนการฝึกขั้นพื้นฐานของผู้ฝึกิญญานั้นคล้ายกับผู้ฝึกวิถีเซียน เคล็ดควบคุมิญญาเป็พลังสมานิญญาระดับต้นซึ่งสามารถเพิ่มระดับพลังบ่มเพาะของผู้ฝึกิญญาให้เพิ่มขึ้นปีละครั้งซึ่งเหมือนกับผลลัพธ์ของเคล็ดสุสานดวงดาว
เพียงแต่หลังจากฝึกเคล็ดควบคุมิญญาแล้วทุกๆ การเพิ่มระดับพลังบ่มเพาะหนึ่งปีจะช่วยยืดอายุจิติญญาตนเองไปอีกหกเดือน นั่นหมายความว่า การเพิ่มขึ้นของระดับพลังบ่มเพาะจะต้องเร็วกว่าการเพิ่มขึ้นปกติถึงสองเท่าเพื่อให้ผู้ฝึกิญญายังดำรงอยู่ต่อไปได้
เวลากระชั้นชิดเช่นนี้เป็ปัญหาสำหรับเย่เฟิง เพราะในแหวนมิติของซูเฟยหยิ่งมีสมบัติ์อยู่ไม่น้อยเพื่อเพิ่มระดับพลังบ่มเพาะของผู้ฝึกิญญาได้ แต่หลังจากดูดซับสมบัติที่มีเหล่านี้ไปหมดแล้ว การจะหาสมบัติชนิดใหม่มาเพื่อยืดอายุคงไม่ใช่เื่ง่าย...
เย่เฟิงส่ายหัว ปลงในสิ่งที่คิด
จ้าวอี้เปยที่ตายไปแล้ว หากกลายเป็ผู้ฝึกิญญา อย่างน้อยก็ยังใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้หลายปี แต่จะอยู่ได้กี่ปีนั้นก็ขึ้นอยู่กับพร์และความสามารถของเขา
ส่วนเด็กหนุ่มจากตำหนักไท่จี๋ เย่เฟิงไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะฝึกเคล็ดวิชาควบคุมิญญาได้ไหม เพราะก่อนหน้าที่เด็กหนุ่มจะเสียชีวิต ก็เคยฝึกวรยุทธ์มาแล้ว...
“ดวงิญญาจงกลับมา”
เย่เฟิงสะบัดมือ เรียกดวงิญญาของจ้าวอี้เปยและเด็กหนุ่มจากตำหนักไท่จี๋จากแหวนกระบี่ัโบราณพร้อมกัน
ในค่ำคืนที่มืดมิด สายลมพัดโบก ยากที่จะมองเห็นด้วยตาเปล่าว่าสิ่งใดออกมาจากแหวนกระบี่ัโบราณ จนมองได้ไม่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เมื่อมองไปข้างหน้า เย่เฟิงกลับพบคนสองคนหรือไม่ก็สองตนจนทำให้ผงะ
เมื่อได้เห็นจ้าวอี้เปยอีกครั้ง เย่เฟิงก็เศร้าใจ คนคนนี้ตายเพราะเข้ามาบังะุให้เขา หลังจากปิดผนึกิญญาเป็เวลานานพอสมควร ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เขาจะได้พบแสงสว่างอีกครั้งแล้ว!
ั้แ่วันนี้จ้าวอี้เปยจะไม่ใช่คนธรรมดาอีกต่อไปแล้ว
กองกำลังิญญาพิทักษ์ของเย่เฟิง เริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้!