ถังชิงหรูใช้แต้มจิตพิสัยทั้งหมดแลกเป็ยาลูกกลอนถอนพิษประสิทธิภาพสูง ทันทีที่ชายหนุ่มกลืนโอสถลงท้อง อาการกระตุกพลันหยุดลง สีหน้าเ็ปทรมานก็กลับมาสงบนิ่ง
นางจะล้างพิษที่ตกค้างให้หมด เพียงแต่หากเขาไม่กินยา เื่ยุ่งยากก็จะตามมาอีก พิษในร่างกายของเขามีปริมาณมาก หากไม่ล้างออกให้หมด เขาอาจเสียชีวิตได้ไม่ช้าก็เร็ว
ต่อจากนั้นก็ฝังเข็มแล้วค่อยออกเทียบยา ทุกสิ่งที่ทำนอกเหนือจากตอนเริ่มต้นที่ให้กินยาลูกกลอนซึ่งมีกลิ่นหอมเม็ดหนึ่ง ก็ไม่มีสิ่งใดแตกต่างไปจากคราก่อน ดูเป็ปรกติมาก พ่อบ้านหลินอดประเมินในใจไม่ได้ โอสถเม็ดนั้นน่าจะเป็ของล้ำค่า ตนเองควรต้องจ่ายให้หมอเทวดาเท่าไรถึงจะไม่ดูเป็การขอไปที ร้อยตำลึงเงินไม่ได้แน่นอน เช่นนั้นสักห้าร้อยตำลึงเงินเล่า?
สีหน้าของถังชิงหรูยามนี้ขมขื่นสุดประมาณ นั่นเป็ค่าจิตพิสัยที่ตนเองเพียรสะสมมานมนาน ชั่วพริบตาเดียวก็กลับกลายเป็ศูนย์ หลังจากนี้ย่อมใช้ระบบไม่ได้ไปอีกหลายวัน
"ท่านหมอเทวดา เ้านายของพวกเรา..." พ่อบ้านหลินเห็นถังชิงหรูสีหน้าไม่เบิกบาน จึงคาดคะเนว่าต้องมีสิ่งไหนทำให้นางไม่พอใจ
"เขามิเป็อันใด ไม่ตายหรอกน่า" ถังชิงหรูไม่มีอารมณ์สนทนา "โอสถของข้าเป็ของมีราคาและหายากยิ่ง แต่ไม่เรียกเก็บท่านมากนักหรอก สักสามร้อยตำลึงก็แล้วกัน"
พ่อบ้านหลินไม่คิดว่ายาลูกกลอนเม็ดนั้นจะราคาแค่สามร้อยตำลึง ที่จริงเขาเตรียมเงินห้าร้อยตำลึงไว้พร้อมสรรพแล้ว แต่พอได้ยินถังชิงหรูเอ่ยปาก ก็รีบตอบรับทันควัน
"ท่านหมอเทวดา บ่าวยังมีอีกเื่ที่บังอาจขอร้อง" พ่อบ้านหลินกล่าวอย่างวิงวอน "ต่อไปท่านช่วยมาตรวจชีพจรและตรวจสุขภาพให้เ้านายของพวกเราวันละหนึ่งครั้งจนกว่าเขาจะหายขาดได้หรือไม่ แน่นอนว่าไม่เอาเปรียบท่านเื่ค่ารักษาอย่างแน่นอน"
"ข้าไม่้าค่ารักษา" ถังชิงหรูหันไปมองพ่อบ้าน เกิดความคิดหนึ่งขึ้นในใจ พลางกล่าวว่า " ข้าวางแผนจะเปิดร้านยา ท่านช่วยหาทำเลที่ไม่เลวให้ข้าสักแห่ง หน้าร้านใช้ตรวจรักษาคนไข้ ด้านหลังเป็ที่พักอาศัย หากท่านช่วยจัดการให้ได้ ข้ารับรองว่าเ้านายของท่านจะปลอดภัยหายห่วง ภายในสามเดือนหากเขามีอาการผิดปรกติอันใดก็แล้วแต่ ข้าจะรับผิดชอบช่วยรักษาให้โดยไม่รับเงินแม้แต่อีแปะเดียว"
สาเหตุที่ถังชิงหรูเสนอความ้าแบบนี้ หนึ่งคือร้านค้าของที่นี่ไม่อาจซื้อได้ด้วยเงินเพียงไม่กี่ร้อยตำลึง หากการมาตรวจแต่ละครั้งรับเงินหนึ่งถึงสองร้อยตำลึง นานไปอาจถูกใครบางคนค่อนแคะว่าโลภมากไม่รู้จักพอ นางจึงถือโอกาสใช้การรักษาครานี้มาแลกเป็ร้านค้าเสียเลย ซึ่งมีค่าเทียบเท่ากับค่ารักษาในแต่ละครั้งมารวมกัน สองพ่อบ้านหลินเป็ผู้ดูแลจวนชิ่งอ๋อง รู้จักกับผู้คนไม่น้อย มีเขาเป็เกราะคุ้มกัน นางย่อมได้รับความสะดวกสบายในเมืองนี้มากขึ้น สมมุติว่าถ้าวันหนึ่งสถานะการเป็สตรีของนางถูกเปิดเผย ผู้อื่นก็จะไม่กล้าทำอะไร เพราะตนเองมีจวนชิ่งอ๋องหนุนหลังอยู่
พ่อบ้านหลินตอบตกลงโดยไม่ต้องใคร่ครวญ หมอหญิงผู้นี้มีทักษะในการรักษาขั้นสูง แต่ปัญหาใหญ่ก็คือหากนางหนีไป ก็ไม่รู้จะไปตามที่ไหน แต่ถ้ามีหน้าร้านเป็หลักแหล่ง เช่นนั้นก็ง่ายต่อการตามตัว นี่เป็เหมือนหลักประกันที่ช่วยให้พวกเขาเบาใจได้ ดังนั้นเมื่อทั้งสองฝ่ายต่างได้ประโยชน์ เขาย่อมไม่ปฏิเสธ
ขณะออกจากจวนชิ่งอ๋อง พ่อบ้านหลินมอบตั๋วเงินสามร้อยตำลึงให้ถังชิงหรู พอได้เงินมา นางก็ซื้อของใช้เข้าบ้านอีกกองใหญ่
กระเป๋าสะพายในระบบของนางใส่ของได้ไม่น้อย ทั้งของกินและของใช้ แต่ไรมาถังชิงหรูไม่เคยปล่อยให้ตัวเองลำบาก ยิ่งเสื้อผ้าของน่าหลันหลิง นางซื้อครั้งหนึ่งถึงสิบชุด เขาเป็คุณชายใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายมาั้แ่เล็ก แม้่นี้จะได้รับความไม่เป็ธรรมมากมายก็มิเคยพร่ำบ่น ทำให้นางรู้สึกเลื่อมใสศรัทธาเป็พิเศษ ที่จริงั้แ่ได้รับร่างนี้มาจนกระทั่งถึงบัดนี้ถังชิงหรูก็ยังปรับตัวไม่ค่อยได้ นางชอบกินดื่ม รักการเที่ยวเล่น ใช้ชีวิตสะดวกสบาย ทว่าตอนนี้ชีวิตในแต่ละวันล้วนต้องปากกัดตีนถีบเพื่อเอาตัวรอด ช่างลำบากตรากตรำยิ่งนัก
"ยุ่งอยู่หรือ" ยามถังชิงหรูกลับมาหาน่าหลันหลิงที่แผงลอย เขากำลังเขียนหนังสืออยู่ หลังเขียนเสร็จเรียบร้อยก็ส่งให้แม่เฒ่าที่รออยู่ด้านข้าง
แม่เฒ่าผู้นี้ไม่รู้หนังสือ นางประคองแผ่นกระดาษใบนั้นอย่างทะนุถนอม พลางกล่าวขอบคุณน่าหลันหลิงด้วยความซาบซึ้งใจ "ขอบใจนะพ่อหนุ่ม ขอให้พระโพธิสัตว์คุ้มครองเ้า"
น่าหลันหลิงยิ้มอ่อนโยนกล่าวว่า "ท่านป้า ตาของท่านมองไม่เห็น ให้ข้าส่งกลับบ้านเถอะ"
"ไม่ต้องหรอก บ้านข้าอยู่ห่างจากที่นี่ไม่ไกล หลับตาเดินยังกลับถึงได้สบายมาก" แม่เฒ่าค้อมเอวให้น่าหลันหลิง ถือไม้เท้าเตรียมจะจากไป
ถังชิงหรูเห็นหญิงชราผู้นั้น ก็โบกมือไปมาตรงหน้านาง ก่อนเข้าไปขวางแล้วกล่าวว่า "ท่านป้า ข้าเป็หมอ ช่วยรักษาให้ท่านได้นะ"
"ขอบใจนะแม่หนู ดวงตาของข้าเป็เช่นนี้มานานแล้ว แม้ไม่ถึงกับบอดสนิท แต่ก็เห็นแสงรำไรเท่านั้น" แม่เฒ่าหรี่ตาเล็กน้อยพลางเอ่ยวาจา
"เช่นนั้นก็ต้องตรวจดูหน่อย" ถังชิงหรูประคองหญิงชรามานั่งตรงตำแหน่งที่น่าหลันหลิงนั่งอยู่เมื่อครู่ ทำทีล้วงของออกมาจากกระบุงที่สะพายหลัง แต่แท้จริงแล้วนางหยิบเครื่องมือจากกระเป๋าสะพายในระบบของตนเอง
หลังตรวจร่างกายเสร็จเรียบร้อย ก็ฝังเข็มที่ศีรษะของอีกฝ่าย ผ่านไปครู่หนึ่งก็ถอนออกมา หลังจากนั้นก็แปะแผ่นโอสถที่เปลือกตาของหญิงชรา
"ท่านป้า วันนี้อย่าเพิ่งดึงออกเล่า ไว้พรุ่งนี้ก่อนค่อยเอาออก หากท่านรู้สึกว่าเห็นผลลัพธ์ พรุ่งนี้ก็มารอข้าที่นี่ ข้าจะฝังเข็มให้อีก" ถังชิงหรูกระซิบบอก
"เมื่อครู่ยามที่ฝังเข็ม ข้ารู้สึกอุ่นที่ดวงตา ถึงอย่างไรก็ขอบคุณท่านหมอมาก ส่วนเื่ค่ารักษา..." แม่เฒ่าเอ่ยปากอย่างกระอักกระอ่วน
"ไม่ต้องๆ ไม่ใช่เื่เหลือบ่ากว่าแรง ข้าไม่เก็บค่ารักษาหรอก ท่านป้ากลับไปเถิดเ้าค่ะ" ถังชิงหรูโบกไม้โบกมือปฏิเสธ "เดี๋ยวข้ากับญาติผู้พี่ก็ต้องกลับบ้านเหมือนกัน"
"พวกเ้าทั้งสองช่างเป็คนดีเหลือเกิน" แม่เฒ่ากล่าวจบ ก็เดินกลับบ้านด้วยไม้เท้าของตนเอง
ถังชิงหรูช่วยน่าหลันหลิงเก็บข้าวของ อักษรภาพของเขาได้รับความนิยมเป็อย่างมาก ่นี้มีคนมาอุดหนุนกิจการเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ยามออกจากบ้านเห็นอยู่ว่าเขาหยิบภาพเขียนพกมาด้วยไม่น้อย ทว่าตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่แผ่นเท่านั้น ดูท่าวันเวลาอันยากลำบากของพวกนางคงจะสิ้นสุดลงเสียที แต่เมื่อวานเห็นคนที่มาซื้อภาพอักษรส่วนใหญ่ล้วนเป็สตรี พวกนางมาซื้อรูปภาพ หรือว่ามาซื้อใจของชายหนุ่มรูปงามกันแน่?
"ญาติผู้พี่ อีกสองสามวันพวกเราก็จะมีร้านค้าเป็ของตนเองแล้วนะ" ถังชิงหรูเอ่ยพลางยิ้มแก้มปริ "ต่อไปพวกเราก็จะปักหลักอยู่เมืองนี้ระยะยาว ไม่ต้องระหกระเหเร่ร่อนอีกแล้ว"
"หืม?" น่าหลันหลิงเก็บของไปสนทนาไป "ทำไมล่ะ เ้ามีเงินซื้อร้านค้าแล้วหรือ"
"ข้าช่วยชีวิตคนไว้คนหนึ่ง เพื่อให้มาตามหาข้าสะดวกขึ้น คนผู้นั้นก็เลยมอบร้านค้าให้ข้าห้องหนึ่ง ต่อไปจะตรวจรักษาคนไข้ก็ง่ายขึ้น มิต้องมาตากแดดตากลมแบบนี้อีกแล้ว" ถังชิงหรูสบตาชายหนุ่มพลางยิ้มกระเซ้า "ดีใจหรือไม่"
น่าหลันหลิงเขกศีรษะนางทีหนึ่ง ก่อนเอ่ยวาจาอย่างไม่สบอารมณ์นัก "น่าดีใจตรงไหน ยายเด็กโง่เอ๊ย เ้าได้จากผู้อื่นมาเท่าไร ความรับผิดชอบที่แบกไว้บนบ่าก็ยิ่งมากและหนักขึ้นเท่านั้น"
ถังชิงหรูลูบศีรษะของตนเองเบาๆ ความคิดบางอย่างวาบผ่านแววตา "คุยกับคนฉลาดไม่สนุกสักนิด ท่านคิดให้มันเรียบง่ายกว่านี้หน่อยมิได้หรือ"
"หรูเอ๋อร์ ผู้ที่สามารถมอบร้านค้าให้เ้าผู้นั้นคงจะไม่ใช่คนธรรมดา เ้าต้องจัดการอย่างระมัดระวัง หากรับมือไม่ไหว พวกเราค่อยไปจากที่นี่" น่าหลันหลิงมองนางด้วยความห่วงใย "สาวใช้ของข้านับวันก็ยิ่งผอมลงๆ เห็นรูปร่างบอบบางของเ้าแล้ว ข้ารู้สึกปวดใจนัก"
ถังชิงหรูก้มลงมองรูปร่างของตนเอง เดิมทีร่างนี้ก็ผอมบางมาก นางลูบคลำตนเองอย่างรู้สึกไม่สบายใจ รูปร่างเดิมของตนเองเมื่อก่อนจัดว่าสวยสะเด็ดเยี่ยงปิศาจสาว ส่วนไหนควรมีก็มีล้นเหลือ รอผ่าน่เวลายุ่งยากนี้ไปให้ได้ก่อน หากเงื่อนไขทางการเงินเอื้ออำนวยเมื่อไร นางจะซื้อของมาบำรุงร่างกายให้เต็มที่ มิเช่นนั้นจะขายออกได้อย่างไร
ทั้งสองกลับไปยังหมู่บ้านสกุลฉิน ชาวบ้านแต่ละคนพอเห็นพวกเขากลับมา ต่างก็ทำสีหน้าประหลาด ทั้งสองรู้สึกได้ถึงความผิดปรกติ จึงรีบกลับไปที่บ้านของตนเอง ก็พบว่าทุกอย่างกลายเป็เถ้าถ่านไปหมด ยังมีควันดำลอยโขมงอยู่ เห็นชัดว่าเพิ่งเกิดเพลิงไหม้ขึ้นที่นี่ เดิมทีก็เป็แค่บ้านทรุดโทรมหลังหนึ่ง ยามนี้แม้แต่ตัวบ้านก็ไม่เหลืออีกแล้ว
น่าหลันหลิงหน้าเสีย วิ่งเข้าไปค้นหาของบางอย่างในกองเถ้าถ่าน
ถังชิงหรูเห็นเช่นนั้นก็รีบไปห้าม "ท่านทำอะไรน่ะ ที่นี่ถูกเผาจนเกลี้ยง ไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่อีกแล้ว"
นางคิดในใจว่า เคราะห์ดีที่ตนเองเคยชินกับการเก็บของดีๆ ไว้ที่กระเป๋าในระบบ มิเช่นนั้นความยากลำบากตลอดหลายวันที่ผ่านมาคงสลายกลายเป็หมอกควัน ตอนนี้นางไม่มีสิ่งใดเสียหาย แต่ดูเหมือนว่าน่าหลันหลิงจะเก็บของสำคัญบางอย่างไว้ที่นี่
"หยกประดับที่บิดามารดามอบให้ นั่นเป็ของสำคัญที่สุดสำหรับข้า" ดวงตาของน่าหลันหลิงเริ่มแดง
ถังชิงหรูย่นหัวคิ้ว มองไปยังซากปรักหักพังโดยรอบ นางเป็คนรักความสะอาด ไม่อยากแตะต้องของเ่าั้ แต่พอเห็นสีหน้าของน่าหลันหลิง ก็มิอาจนิ่งดูดาย นางย่อตัวลงช่วยน่าหลันหลิงค้นหาสิ่งของ
คนในหมู่บ้านที่อยู่ตรงนั้น พากันชี้นิ้วซุบซิบนินทา
ฉินลี่เดินมาจากข้างนอก เห็นพวกเขาสองคนกำลังรื้อค้นหาอะไรบางอย่าง จึงร้องถาม "หรูเอ๋อร์ เ้ากำลังหาสิ่งใดอยู่หรือ ที่นี่ล้วนถูกไฟไหม้จนหมดแล้ว"
"พวกเรากำลังหาของสำคัญมากชิ้นหนึ่ง" ถังชิงหรูกล่าวเรียบๆ "หากเ้าช่วยข้าหา ก็จะขอบคุณมาก แต่ถ้าไม่สะดวก ก็อย่ามาขัดขวางพวกเรา"
"ข้าย่อมช่วยอยู่แล้ว ว่าแต่พวกเ้ากำลังหาสิ่งใดกันล่ะ" ฉินลี่รับปากทันทีโดยไม่ต้องคิด
"ป้ายหยกชิ้นหนึ่ง บนนั้นมีลวดลายแกะสลักเป็รูปนกอินทรี เป็ของที่บิดามารดาข้าทิ้งไว้ให้" น่าหลันหลิงรีบกล่าว "รบกวนแม่นางแล้ว"
"หยกประดับ? ลายนกอินทรี?" ฉินลี่ทำท่าครุ่นคิด ก่อนกล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจ "ดูเหมือนจะเคยเห็นนะ แต่ว่า... เห็นที่ไหนกันหนอ..."
"เ้าจะเคยเห็นได้อย่างไร หยกประดับส่วนมากมักแกะสลักรูปดอกไม้กับต้นไผ่ มีเพียงป้ายคำสั่งประจำตระกูลถึงจะใช้รูปสัตว์ที่มีความหมายเป็พิเศษ" ถังชิงหรูกล่าวเสียงเรียบ "เ้าจำผิดรึเปล่า"
"ข้าจำไม่ผิดหรอก" ฉินลี่ทำท่านึกได้ "นึกออกแล้ว เมื่อครู่ตอนมาถึง เห็นในมือของฉินหวาถือหยกประดับชิ้นหนึ่งอยู่ เขากำหยกชิ้นนั้นไว้ตลอดเวลา แต่บังเอิญทำหล่นข้าก็เลยเห็นเข้าพอดี หยกประดับชิ้นนั้นมีรูปนกอินทรีอยู่้าด้วย"
"ฉินหวา..." ถังชิงหรูขมวดคิ้ว "คนของบ้านไหน"
"ลูกผู้พี่ของฉินเหยา เ้าเคยเจอมาก่อน แต่คงลืมไปแล้วกระมัง" ฉินลี่ลูบพวงแก้มของตนเองพลางเอ่ยวาจา "แต่มันอาจเป็แค่เหตุบังเอิญ บางทีหยกสองชิ้นอาจมีลักษณะคล้ายกันก็ได้"
"หยกที่เ้าเห็นชิ้นนั้นสีสันเป็อย่างไร" น่าหลันหลิงเลิกค้นหา ตอนนี้มือของเขาเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก ใบหน้าหล่อเหล่ามีคราบเขม่าเปรอะเปื้อนไม่น้อย ทว่าเขากลับไม่ห่วงสิ่งเหล่านี้ ท่าทางที่เคยอ่อนโยนอยู่เสมอ บัดนี้กลับไม่แสดงอารมณ์ทางสีหน้า แลดูเ็าเป็อย่างยิ่ง
ฉินลี่เคยเห็นน่าหลันหลิงมาก่อน ก็รู้ว่าเขาเป็คนนิสัยดีมากคนหนึ่ง แต่พอเห็นเขาเป็เช่นนี้ ก็อดตกตะลึงไม่ได้ รีบกล่าวอย่างลนลาน "เนื้อดีมาก ดูไม่เหมือนของธรรมดาทั่วไป ตอนนี้มานึกๆ ดู เป็ไปไม่ได้ที่ฉินหวาจะมีหยกประดับเนื้อดีขนาดนั้น ของสิ่งนี้มาตรว่ามิใช่ของคุณชาย ก็ต้องเป็ของที่เขาขโมยมาจากผู้อื่น"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้