เฉินชุ่ยอวิ๋นไล่ตามมา “แกบอกก่อนว่าเนื้อนี่มาได้ยังไง!”
เจิ้งหยวนหันหน้ากลับไปหา “ฉันบอกไปแล้วนี่ คูปองเนื้อสัตว์ เฝิงเจี้ยนเหวินให้…”
“งั้นเงินล่ะ?”
เจิ้งหยวนหลบสายตาอย่างลุกลี้ลุกลน แล้วตะเบ็งเสียงพูดเต็มปากเต็มคำ “เขาก็ให้มาด้วย”
เฉินชุ่ยอวิ๋นเงื้อมือตบหัวเธอเต็มเปา พร้อมเอ่ยเสียงดุ “แกคิดว่าฉันหลอกง่ายเหรอ? เขาส่งจดหมายถามความสมัครใจแต่งงานแก แกยังไม่ทันตอบตกลง เขาก็ส่งคูปองเนื้อสัตว์กับเงินมาให้แล้ว? ทั้งยังสอดไว้ในซองจดหมาย?หากหายไปจะทำยังไง? คิดว่าคนอย่างเขาจะทำเื่สะเพร่าแบบนี้เหรอ?”
เจิ้งหยวนมุ่ยปาก “ยังมีเลขทะเบียนจดหมายอยู่ไม่ใช่เหรอ ไม่หาย…”
เฉินชุ่ยอวิ๋นตีเธออีกที “แกอยากให้ฉันไปถามเสี่ยวเหอไหมว่าจดหมายนี้ลงทะเบียนหรือเปล่า?”
เจิ้งหยวนไม่กล้าพูดแล้วหัวเราะเจื่อนๆ หนิวหนิวยังเล็กไม่รู้ความ เห็นคุณยายตีคุณอา ก็ปรบมือตื่นเต้นพลางร้อง “ตีๆๆ” เสียงอ้อแอ้ เ้าตัวยุ่ง! เจิ้งหยวนถลึงตาใส่เขาพร้อมรอยยิ้มหยี ทว่าหนิวหนิวที่โดนเธอจ้องกลับก็ไม่กลัว ยังคงยิ้มซื่อๆ ตามประสาเด็กน้อยต่อไป
“แกพูดให้ชัดๆ เนื้อมาจากไหนกันแน่?” เฉินชุ่ยอวิ๋นยังคงถามย้ำ
เจิ้งหยวนโอดครวญในใจ การปรับปรุงสภาพชีวิตครอบครัวให้ดีขึ้นช่างเป็ภารกิจหนักหน่วงและต้องดิ้นรนอีกยาวไกลจริงๆ ทั้งที่ภายในมิติมีของกินเยอะแยะ ดันใช้อย่างเปิดเผยไม่ได้เสียอย่างนั้น เธออยากบอกพวกเขาตามตรงว่าเธอมีโรงแรมเป็มิติส่วนตัว แต่สัญชาตญาณลึกๆ กลับเตือนเธอ อย่าปล่อยความลับนี้รั่วไหลไปเด็ดขาด มิอย่างนั้นจะเกิดเื่ที่ทำให้เธอมานั่งเสียใจภายหลัง
ครั้นครุ่นคิดสักพัก เจิ้งหยวนก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วว่า “เป็หลินเสี่ยวหยางให้น่ะ” แล้วลอบขอโทษหลินเสี่ยวหยางในใจที่ต้องให้เขาแบกหม้อดำนี้ไว้
เฉินชุ่ยอวิ๋นตาโต “อะไรนะ?”
คุณแม่เธอใจนเสียงแหลมปรี๊ดเหมือนโดนคนบีบคอ เธอเลิกคิ้วขึ้น ไฟโทสะลุกพึ่บพั่บภายในดวงตา หากมิใช่เจิ้งหยวนหลบเก่ง เธอต้องถูกคุณแม่บิดหูเอาแน่
“แกกล้าเอาของเขามาได้ยังไง? ไม่ได้บอกว่าจะไปเลิกกับเขาเหรอ? วันนี้แกไปทำอะไรกันแน่ ตกลงเลิกกับเขาหรือยัง?”
“เลิกแล้วๆ เลิกแล้วจริงๆ!” เจิ้งหยวนรีบเอ่ยระรัวพร้อมรอยยิ้มสู้
เฉินชุ่ยอวิ๋นหยิกเอว “งั้นเนื้อนั่นมันยังไงกันแน่!”
เจิ้งหยวนแสร้งถอนหายใจอย่างปลงตก เธอหลุบดวงตาลง พยายามทำสีหน้าเหมือนจมอยู่ในความโศกเศร้า “ฉันบอกว่าเลิกกัน เขาก็ยอมแล้ว แต่เขารู้สึกปวดใจหลังเห็นแผลบนร่างฉัน เลยให้เนื้อฉันกลับบ้านมาบำรุง…”
เฉินชุ่ยอวิ๋นเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “แกจะเลิกกับเขาแล้ว เขายังดีต่อแกขนาดนี้เลยเหรอ?”
เจิ้งหยวนมองแม่ของเธอแล้วยิ้มขมขื่น “ฉันบอกแล้วว่าไม่เอา เป็เขายืนกรานจะให้เอง” อยู่ๆ เธอก็ค้นพบว่าตนเองมีพร์ทางการแสดงอยู่บ้าง หากฝึกอีกสักสองสามครั้ง คาดว่าคงไปเล่นหนังได้เลย และอาจจะคว้ารางวัลมนุษย์ทองคำหรือไก่ทองคำ [1] ได้ด้วยซ้ำ
ท่าทางหน้านิ่วคิ้วขมวดของเจิ้งหยวนเพิ่มความน่าเชื่อถือให้คำโกหกคำโตไม่น้อย ส่งผลให้เฉินชุ่ยอวิ๋นเชื่อสนิทใจ แววตาของเธอฉายชัดถึงความซับซ้อน ก่อนที่เธอจะถอนหายใจยาวเหยียด “ช่างเป็เด็กดีนัก!” แล้วจิ้มหัวลูกสาวอย่างเข้มงวดกวดขัน “แกเนี่ยนะ คนเขาดีขนาดนั้นแต่โดนแกล่อลวงไปแล้ว!”
เจิ้งหยวนลอบเบะปาก เธอไม่ยอมรับหรอกว่าตนเองทำร้ายหลินเสี่ยวหยาง ชาติก่อนพวกเขาสองคนอย่างมากก็ทำร้ายกันและกัน ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ทรยศเธอก่อน ชาตินี้เธอเป็ฝ่ายถอยออกมา หากหลินเสี่ยวหยางมีความทรงจำของอดีตชาติ บางทีเขาอาจจะขอบคุณเธอเสียด้วยซ้ำ
เชิงอรรถ
[1] มนุษย์ทองคำ หรือไก่ทองคำ หมายถึง สองในสี่รางวัลภาพยนตร์ใหญ่ของจีน ซึ่งมนุษย์ทองคำเป็ของฮ่องกง ส่วนไก่ทองคำเป็ของจีนแผ่นดินใหญ่
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้